ลูกตุ้มเหล็กหนักมาก แม้แต่ลูเซียนที่แข็งแรงกว่าคนธรรมดายังลำบากเมื่อต้องยกหลายๆ รอบ ด้วยพลังทำลายล้างรุนแรง ไม่นานลูกตุ้มเหล็กก็ฉีกศพออกเป็นชิ้นๆ เปลวไฟและพิษจากหัวลูกตุ้มทำลายชิ้นส่วนศพไม่เหลือซาก
ลูเซียนเพิ่งมารู้สึกกังวล เนื่องจากระหว่างสู้ เขาไม่รู้เลยว่าอาวุธชิ้นนี้จะมีอานุภาพทำลายล้างขนาดไหน หากเขาโดนฟาดด้วยลูกตุ้มเหล็กเข้าสักทีโดยไม่มีเกราะแสงจันทร์ เขาคงบาดเจ็บสาหัส
ภายในเวลาเพียงสามสิบวินาที ศพทั้งหมดกลายเป็นแอ่งของเหลวสีเขียวปริศนา ส่วนเศษขี้เถ้าก็ลอยหายไปในอากาศ
ลูเซียนคว้าถังน้ำตรงมุมห้องและรีบทำความสะอาดพื้น ส่วนขี้เถ้าที่ลอยออกไป เขาเรียกลมด้วยการเร่งอุณหภูมิอากาศภายในห้อง และลดอุณหภูมิอากาศภายนอก เพื่อให้เกิดลมพัดขี้เถ้าออกไปสู่ทางเดินข้างนอก
ด้วยความรอบคอบ ลูเซียนแบกโจเอลกับอะลิซ่ากลับเข้าไปในห้องขังที่ขังไอเวินซึ่งหมดสติไปตั้งแต่ ‘เวทกวัดแกว่ง’ แม้ว่าลูเซียนตื่นเต้นมากที่ได้เห็นโจเอล อะลิซ่า และไอเวินอีกครั้ง แต่เขาจะพาทั้งหมดออกไปตอนนี้เลยไม่ได้ มิฉะนั้นอาจถูก ‘ศาสนจักร’ เพ่งเล็ง เพราะในสายตาคนทั่วไป เขาเป็นเพียงนักดนตรีร่างกายอ่อนปวกเปียกธรรมดาคนหนึ่ง
หลังจัดฉากทั้งหมดเรียบร้อย เขาหยิบหลอดน้ำยา ‘นกฮูกน้ำตาล’ ขึ้นมาดื่ม เนื่องจากการฟื้นฟูพลังตามธรรมชาติในชั้นใต้ดินจะช้ากว่าปกติ เพราะ ‘แสงจันทร์’ เข้ามาไม่ถึง
ต่อมาไม่นาน ลูเซียนรีบมุ่งหน้าไปตามช่องทางไกลสุดลูกหูลูกตา หาทางออกจากวิหารใต้ดินพร้อมแบกลูกตุ้มเหล็กไปด้วย ช่องทางเดินไกลออกมาจากวิหารและอาคารหลักอื่นๆ ในเขตโบราณสถานร้าง ดังนั้น น่าจะปลอดภัยพอแล้ว อย่างไรเสียที่แปลกก็คือลูเซียนไม่เห็นพวกนอกรีตเลยสักคนเลยระหว่างทาง
…
คุกเข่าลงกับพื้น กลุ่มสาวกนอกรีตชั้นล่างหลายคนในห้องหินมีน้ำเสียงตื่นตระหนก “ลอร์ดเจอโรม เราควรทำอย่างไรขอรับ! เรา…!”
ก่อนที่พวกสาวกจะพูดจบประโยค หน้าของพวกเขาบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด มีควันสีดำลอยออกมาจากร่างและหลุดลอยไปพร้อมกับวิญญาณของเหล่าสาวก
กลุ่มควันสีดำถูกดูดเข้าสู่ร่างกายเจอโรม เขายักไหล่ “เอาละ… ที่พวกเจ้าควรทำก็คือตายไงละ”
เป็นไปไม่ได้ที่สาวกนอกรีตชั้นล่างจะหนีจาก ‘ศาสนจักร’ พวกเขาจึงต้องตาย มิฉะนั้นข้อมูลของ ‘อาร์เจนต์ ฮอร์น’ อาจถูกเปิดเผยมากขึ้น
…
ลูเซียนเข้าใกล้ปลายทางที่ตั้งเป้าไว้ เขาเห็นแสงจันทร์สลัวทอดจากด้านนอกเข้ามาในถ้ำ ทันใดนั้น เขาหยุดวิ่ง รีบซ่อนตัวในเงามืด เพราะได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอย่างรุนแรง
ศพจำนวนมากนอนกองกลาดเกลื่อนอยู่เต็มพื้นทางออกจากโบราณสถานร้าง ด้วยชุดพิเศษที่พวกเขาสวม ลูเซียนบอกได้ว่าคนพวกนี้เป็นสาวกนอกรีตของอาร์เจนต์ ฮอร์น
เมื่อเห็นว่าสาวกลัทธินอกรีตสังหารสาวกชั้นล่างพวกตัวเอง ลูเซียนตัดสินใจซุ่มรอต่อไปอีกสักพัก เผื่อมีอะไรโผล่มาอีก
เสียงคนกรีดร้องด้วยความกลัวสุดขั้วหัวใจดังมาจากในความมืด เมื่อเสียงกรีดร้องเสียงแหลมใกล้เข้ามา ลูเซียนกำหมัดแน่น
ทันใดนั้นเสียงกรีดร้องก็หยุดลง เจ้าของเสียงถูกสังหารแล้ว
“น่าจะเป็นคนสุดท้ายแล้ว” เสียงพูดฟังดูเยือกเย็น “อีเลียบอกให้เรารีบหนี หลังจัดการศพพวกมันเรียบร้อย”
“ข้าไม่เห็นแจนสันเลย…” อีกเสียงที่ฟังดูแหบพร่าแต่หนุ่มกว่าตอบ
“เราไม่ต้องรอไอ้เถื่อนนั่นหรอก เรารอไม่ได้” เสียงพูดที่เยือกเย็นเร้า
“ถ้าอย่างนั้น… เราไปกันได้แล้ว” อีกเสียงตอบกลับ
แล้วลูเซียนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินออกจากถ้ำไป
สูดหายใจเข้าลึกๆ ลูเซียนใช้พลังทำให้ร่างกายบางส่วนโปร่งแสงเข้ากับแสงจันทร์และรีบวิ่งไปยังทางออก ภายใต้การพรางตัวจากดวงจันทร์สีเงิน เขาวิ่งหลบเข้าไปในป่าได้สำเร็จ
สูดอากาศที่มีกลิ่นดินลอยมา ลูเซียนถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ
บรรยากาศรอบตัวเขาเงียบสงัด ช่วงเวลานั้นเอง เขารู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในวิหารใต้ดินเป็นเหมือนกับความฝัน อย่างไรก็ตาม ศพพวกนอกรีตที่นอนกลาดเกลื่อนทั่วป่าเป็นหลักฐานให้เขารู้ว่าค่ำคืนนี้โหดร้ายขนาดไหน
มองดวงจันทร์และดาวที่มีไม่กี่ดวงบนท้องฟ้า ลูเซียนคำนวณตำแหน่งของเขาคร่าวๆ และรีบวิ่งไปยังแม่น้ำมัสซอลเพื่อหาทางกลับไปยังคฤหาสน์ตระกูลเฮย์น
…
ลูกตุ้มเหล็กค่อนข้างหนักและเทอะทะมาก แต่โชคดีที่คืนนี้มีดวงจันทร์สีเงิน ความเร็วและความแข็งแกร่งของลูเซียนเพิ่มพลังขึ้นเมื่อได้อาบแสงจันทร์
ไม่กี่นาทีต่อมา เขามาถึงบ้านไม้กลางป่าด้วยความระมัดระวังตัวสูงสุด แทบทุกอย่างทั่วพื้นที่ถูกทำลายด้วยพลังทั้งจาก ‘ฝ่ายเทพ’ และ ‘ฝ่ายมาร’
ศพคนตายเต็มไปหมด หลายศพถูกเผาจนจำหน้าไม่ได้
ท่ามกลางกองซากศพ ลูเซียนเห็นศพหนึ่งอยู่ในชุดนักเวท สะดุดตาเขาที่สุด
ลูเซียนพลิกศพมาดู เห็นหน้าของชายคนหนึ่ง ความกลัวจับขั้วหัวใจที่ชายหนุ่มผู้นี้เผชิญก่อนตายยังคงค้างอยู่บนใบหน้า
“หมาป่าไฟ…” ลูเซียนพึมพำชื่อออกมา
ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของลูเซียน
ด้วย ‘เวทหัตถ์ผู้วิเศษ’ ลูเซียนทิ้งข้อความไว้บนศพของหมาป่าไฟด้วยเลือดที่เกือบแห้งกรังของเขา
“จุดจบผู้ทรยศ ศาสตราจารย์”
……………………………………….