เมื่อพิธีกรประมูลได้ยินคำพูดของไป๋ยี่เฟย เขาก็ครุ่นคิดทันที
ในขณะที่พิธีกรประมูลคิดอยู่และยังไม่ได้คำตอบ ท่านฉวี่ก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า:“ใครจะรู้ว่าสิ่งที่คุณพูดมันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ถ้าคนของตระกูลหงตามคุณไปแล้ว เอาเงินกลับมาไม่ได้ ตระกูลหงก็จะสูญเสียหนักมาก
เมื่อพิธีกรได้ยินคำพูดนี้ เขาก็รีบเงยหน้าขึ้นและจ้องมองไป๋ยี่เฟยด้วยสายตาเย็นชา:“ไอ้สารเลว คุณนึกว่าคนของตระกูลหงหลอกง่ายใช่ไหม?”
ไป๋ยี่เฟยกังวลขึ้นมาทันที“ถ้าไปแล้วไม่ได้รับเงิน จะลงโทษฉันยังไงก็แล้วแต่ตระกูลหง”
“คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร?”พิธีกรประมูลพูดอย่างเย็นชา“ต่อให้คุณตายไป ตระกูลหงของเราก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากคุณ?”
“เมื่อสักครู่คุณประมูลผู้หญิงไปหนึ่งคนใช่ไหม?เอาอย่างนี้แล้วกัน งานประมูลจะจัดขึ้นทุกๆสามวัน ถ้าคุณต้องการ ก็มาประมูลใหม่ได้ในอีกสามวันข้างหน้า ถึงตอนนั้นก็มีผู้หญิงสวยๆแบบนี้เหมือนกัน
“ถึงตอนนั้น คุณเตรียมเงินมาเยอะๆ มีผู้หญิงให้คุณได้ประมูลแน่นอน”
“ดังนั้น ตอนนี้ผู้หญิงคนนี้เป็นของท่านฉวี่”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ไป๋ยี่เฟยยิ่งกังวลมากๆ ตะโกนเสียงดังออกมา“ไม่ได้!ฉันต้องการเธอ ฉันต้องได้เธอ!”
ท่านฉวี่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา:“ถ้าคุณต้องการ คุณก็เอาเงินออกมา ถ้าตอนนี้คุณสามารถเอาทองคำออกมาได้เยอะขนาดนั้น ฉันจะยกเธอให้คุณทันที”
ไป๋ยี่เฟยพูดอะไรไม่ออก
พิธีกรมองหน้าเขาด้วยสายตาเย็นชาและไม่สนใจเขาอีก เขาประกาศสิ้นสุดการประมูลทันที
บรรดาผู้คนที่ประมูลสินค้าได้ก็ใช้หมายเลขตัวเองในงานประมูลเพื่อไปจ่ายเงินและรับสินค้า
บอดี้การ์ดของท่านฉวี่เข็นเขาไปที่ด้านหน้าของหลิวเสี่ยวอิง
หลังจากที่หลิวเสี่ยวอิงเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเธอก็เขย่ากรงเหล็กอย่างแรง ตะโกนเสียงดัง:“ช่วยฉัน ช่วยฉันด้วย!”
พิธีกรประมูลนึกว่าเธอตื่นตัว รีบใช้แส้เฆี่ยนเธอทันที
“เพี๊ยะๆๆ……”
เสียงตะโกนของหลิวเสี่ยวอิงและเสียง‘เพี๊ยะๆๆ’ของแส้ทำให้ไป๋ยี่เฟยได้สติกลับมา
เขามองไปที่เวที มองเห็นหลิวเสี่ยวอิงถูกเฆี่ยน เมื่อเห็นหลิวเสี่ยวอิงกรีดร้องอย่างคนสิ้นหวัง และมองเห็นท่านฉวี่ใช้มืออันเหี่ยวแห้งของเขากำลังจะไปจับหลิวเสี่ยวอิง
ไป๋ยี่เฟยตะโกนด้วยความโกรธ:“หยุดเดียวนี้!”
ไป๋ยี่เฟยอยากจะวิ่งขึ้นไปบนเวที แต่โดนลู่หยางจับไว้
ลู่หยางไม่เคยคาดคิดว่าไป๋ยี่เฟยจะเคยล่วงเกินผิดใจกับท่านฉวี่ ตอนนี้ยังจะล่วงเกินผิดใจกับตระกูลหงอีก เขาตกใจและรีบหยุดไป๋ยี่เฟยไว้:“เถ้าแก่ไป๋ อย่าใจร้อน!”
ลู่หยางอายุแค่สิบห้าปี ไม่มีพละกำลังมากนัก แต่ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยหมดเรี่ยวแรง ทำให้ลู่หยางหยุดไป๋ยี่เฟยอย่างง่ายดาย
ในขณะนี้
“ตูม!”
ไป๋ยี่เฟยโดนคนเตะจนปลิวออกไป
เป็นเพราะลู่หยางหยุดเขาไว้ ทำให้สองคนปลิวออกไปพร้อมกัน
เป็นเพราะก่อนหน้านี้ไป๋ยี่เฟยตะโกนให้เขาหยุด ท่านฉวี่และคนอื่นๆก็ได้ยิน เมื่อเห็นไป๋ยี่เฟยพยายามจะขึ้นมา ทำให้บอดี้การ์ดของท่านฉวี่เดินขึ้นไปข้างหน้า วิ่งลงเวทีไป เขาเตะไปที่หน้าท้องของไป๋ยี่เฟย
ทำให้เขาทั้งสองคนโดนเตะจนปลิวออกไปพร้อมกัน
บอดี้การ์ดพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยามและเย็นชา:“แม่งเอ๊ย แกไม่มีทั้งเงิน ไม่มีทั้งความสามารถ ยังกล้ามาแย่งของกับท่านฉวี่อีกเหรอ?แกมันก็เป็นแค่เศษสวะ!”
ผ่านไปชั่วครู่ เสียง“โครม”ดังขึ้น
ไป๋ยี่เฟยลุกขึ้นมาจากกองเก้าอี้
ไม่เพียงแค่นั้น ดวงตาของไป๋ยี่เฟยเปลี่ยนเป็นสีแดง เส้นผมของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีขาว
บอดี้การ์ดเห็นไป๋ยี่เฟยในลักษณะนี้ อึ้งไปชั่วครู่
ผ่านไปชั่วครู่ บอดี้การ์ดก็หัวเราะเย้ยหยันและพูดอย่างดูถูก:“แม่งเอ๊ย แกกล้าขู่ฉันเหรอ?แกคิดว่าแค่ใส่คอนแทคเลนส์แล้วฉันจะจำแกไม่ได้เหรอ?”
จากนั้น บอดี้การ์ดก็วิ่งไปอยู่ด้านหน้าของไป๋ยี่เฟย ยกมือขึ้นมาแล้วชกไปที่ไป๋ยี่เฟย
“ตุ๊บ!”
หมัดนี้โดนใบหน้าของไป๋ยี่เฟยอย่างจัง แต่ไป๋ยี่เฟยไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว
ไม่เพียงแค่นั้น บอดี้การ์ดยังรู้สึกว่าคนที่เจ็บปวดไม่ใช่ไป๋ยี่เฟย แต่กลับเป็นมือของตัวเอง
เมื่อเห็นไป๋ยี่เฟยในลักษณะนี้ จู่ๆบอดี้การ์ดก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที
ผ่านไปชั่วครู่ บอดี้การ์ดก็ตัวงอขึ้นมาทันที และเขารู้สึกเจ็บปวดมากๆบริเวณหน้าท้อง
จากนั้น บอดี้การ์ดไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เขาก้มหัวและเห็นแขนของไป๋ยี่เฟย
บอดี้การ์ดมองเห็นเพียงแค่ข้อมือของไป๋ยี่เฟย เพราะมือของเขา ต่อยทะลุเข้าไปในท้องของตัวเอง
สายตาของบอดี้การ์ดเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เลือดสดไหลลงมาตามแขนของไป๋ยี่เฟย
บอดี้การ์ดโดนหมัดของไป๋ยี่เฟยต่อยจนทะลุเข้าไปในท้อง
“ตูม!”
หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยดึงมือออกมา บอดี้การ์ดก็ล้มลงไปกับพื้น ในเวลาเดียวกัน เขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ก็พูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ เขาเบิกตากว้าง นอนตายตาไม่หลับ
พิธีกรประมูลและท่านฉวี่ที่อยู่บนเวที ยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขายังคิดอยู่ว่าบอดี้การ์ดขณะทำร้ายไป๋ยี่เฟย ไม่ระวังและสะดุดขาตัวเองล้มลงกับพื้น
เมื่อท่านฉวี่เห็นแบบนี้ก็ไม่พอใจมากๆและพูด:“แกมันไร้ประโยชน์จริงๆ เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ก็จัดการไม่ได้ รีบลากตัวมันออกไปทุบตีทำร้าย อย่าให้หลันจูของตระกูลหงได้รับความเสียหาย
พิธีกรประมูลรีบพูดกับท่านฉวี่ด้วยรอยยิ้ม:“ของคุณท่านฉวี่มากๆ ที่ยังคิดถึงเรื่องนี้”
ผ่านไปชั่วครู่ พวกเขาตกตะลึงไปพร้อมกัน
เป็นเพราะไป๋ยี่เฟยยกเท้าขึ้นมาแล้วเตะ บอดี้การ์ดก็เหมือนลูกบอลโดนเตะจนปลิวออกไป ยังกลิ้งมาอยู่ด้านหน้าของพิธีกรประมูลและท่านฉวี่
ตอนนี้พวกเขาถึงได้เห็นชัดเจน หน้าท้องของบอดี้การ์ดมีรูเท่ากับกำปั้น และมีเลือดสดไหลออกมาอยู่ และสามารถมองเห็นลำไส้บางส่วนได้อย่างชัดเจน
ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจ และพบว่าหมัดขวาของไป๋ยี่เฟย เต็มไปด้วยเลือด
“พวกเจ้า!”
“ต้องตายทั้งหมด!”
ไป๋ยี่เฟยเข้าสู่ภาวะแปรสภาพอีกครั้ง
ตอนนี้เขาไม่มีสติสัมปชัญญะ มีเพียงความรู้สึกอยากฆ่าอย่างเดียว
ในสายตาของเขา ทุกคนเหมือนกันหมด และคนเหล่านี้ที่อยู่ด้านหน้าเขาล้วนมีแต่เขี้ยวเหมือนกับสัตว์ประหลาด ทำให้เขาโกรธมาก และอยากฉีกพวกมันเป็นชิ้นๆ
เขาค่อยๆเดินทีละก้าวไปยังเวทีการประมูล
เมื่อพิธีกรประมูลเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป จู่ๆเขาก็ตะโกนเสียงดังออกมา:“มาเร็ว !พวกเจ้าออกมาเร็วๆ!ฆ่ามันให้ตายเดียวนี้!”
ท่านฉวี่พึ่งได้สติ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกกระสับกระส่าย
จากนั้นไม่นาน มีผู้ชายใส่ชุดที่มีโลโก้ของตระกูลหงสิบกว่าคนวิ่งเข้ามา แล้วพุ่งไปที่ไป๋ยี่เฟย
คนเหล่านี้เป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป ต่อให้มีพลังก็อยู่แค่ระดับที่สี่ชั้นต่ำ
แต่สภาพตอนนี้ของไป๋ยี่เฟย แม้แต่ซาเฟยหยางที่เป็นยอดฝีมือระดับที่สองยังสู้เขาไม่ได้เลย แค่คิดก็รู้ เขาในตอนนี้น่ากลัวขนาดไหน
ดังนั้นเมื่อคนแรกที่พุ่งเข้ามาแล้วใช้มีดฟันไปที่ไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟยใช้หมัดต่อยออกไปและได้ยินเสียงของหักดังขึ้นมาทันที
จากนั้นไม่นาน ศีรษะของชายคนนั้นก็แตกเป็นเสี่ยงๆ เขาทรุดตัวลง จากนั้นก็ปลิวออกไปทันที แล้วชนเข้ากับผู้ชายอีกคนที่กำลังวิ่งเข้ามา ทำให้ทั้งสองคนปลิวออกไปพร้อมกัน
จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็เสียชีวิตไปพร้อมกัน
คนที่อยู่ด้านหลังก็วิ่งเข้ามา เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ พวกเขาทั้งหมดเสียชีวิต
เมื่อพิธีกรประมูลเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ตกใจมากจนหน้าซีด ขาทั้งสองข้างสั่นไหว
ท่านฉวี่ก็กลัวเหมือนกัน เขารีบหมุนล้อรถเข็น พยายามหนีไปจากที่นี่
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองไปที่พวกเขา:“พวกเจ้าเคยพูด ไม่ว่าใครที่ไหนกล้ามาก่อเรื่องที่ตระกูลหง เขาจะต้องตายอย่างอนาถ ใช่ไหม?”
โดยทั่วไปแล้ว ไป๋ยี่เฟยจะสูญเสียสติสัมปชัญญะ แต่สิ่งที่ทำให้เขาโกรธมากๆ เขาจะจำได้อย่างแน่นอน
ตัวอย่างเช่นเขาจำได้ว่าพิธีกรประมูลใช้แส้เฆี่ยนผู้หญิง
อีกตัวอย่างเช่น คำพูดของพิธีกรประมูลที่ข่มขู่คนที่มาก่อเรื่อง
อีกตัวอย่างเช่น พิธีกรประมูลเฆี่ยนผู้หญิงที่ไป๋ยี่เฟยเป็นห่วงมากๆ
ถึงแม้ตอนนี้ไป๋ยี่เฟยจะจำหน้าผู้หญิงคนนี้ได้ไม่ชัด แต่เขาก็จำเรื่องพวกนี้ได้
ใบหน้าของพิธีกรประมูลขาวซีด ขาทั้งสองข้างสั่นไหวและพูดกับไป๋ยี่เฟย:“คุณ……คุณคิดให้รอบคอบ ที่นี่……ที่นี่คือเขตที่สี่ คือ……คือที่เขตควบคุมของตระกูลหง คุณ……คุณกล้ามาก่อเรื่องที่ตระกูลหง ตระกูลหงไม่ปล่อยคุณไว้แน่!”