“อยู่ๆดีพวกเขาก็ปรากฏตัวแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาอยู่ในคลังเก็บทอง มีกลพลางตัวได้ เพราะฉะนั้นถึงได้ปรากฏตัวได้ในทันที”
“ถ้าอย่างนั้นจากที่เห็นทางเข้าคลังเก็บทอง ก็อยู่ที่ข้างหลังของพวกเขา!”
ไป๋ยี่เฟยพยักหน้าเอ่ย “ที่เธอทายไม่ผิด แต่ฉันรู้สึกแปลกใจอยู่นะ ขนาดเวลาแบบนี้ยังคิดถึงเรื่องคลังเก็บทอง”
เหลียงเหว่ยชาวยิ้มออกมา
คนอื่นๆต่างมองมาที่เธอ
จากนั้นเหลียงเหว่ยชาวก็หัวเราะพลางพูด “แน่นอนสิ นายคิดว่าแค่พวกนายจะสามารถขวางฉันได้หรอ?”
“คนของพวกแกมีแค่ฉินหัวเท่านั้นที่ฉันเอาชนะไม่ได้ คนอื่นๆใครกันที่จะเทียบฉันได้ ยิ่งไปกว่านั้นมีบอสใหญ่อยู่ที่นี่ ก็ไม่ต้องกลัวไอ้ฉินหัวเลย” เต้าจ่างทำเสียงหึแววตาแสดงความลำพองใจ
“ไม่รู้เลยจริงๆว่าพวกแกไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน!”
เต้าจ่างพูดถูก ในหมู่พวกเขานั้นมีแค่ฉินหัวที่สามารถเอาชนะเต้าจ่างได้ คนอื่นๆอย่างซาเฟยหยางไป๋หยุนเผิง เฉินอ้าวเจียวอ่อนกว่านิดหน่อยคนพวกนี้จึงไม่มีอะไรน่ากลัว เพราะยังไงฝั่งพวกเขาก็มียอดฝีมือระดับที่สองอีกสิบกว่าคน
แต่ว่า มันก็ไม่มีอะไรแน่นอน
เต้าจ่างเพิ่งจะเอ่ยจบประโยค ฉินหัวก็ออกมายืนมองเหลียงเหว่ยชาวพลางพูด “พูดมาแบบนี้ ฉันก็อยากจะลองประชันกับบอสใหญ่ดูสักตั้ง”
สิ้นเสียงฉินหัวราวกับกระสุนปืนที่พุ่งยิงใส่เหลียงเหว่ยชาว
ฉินหัวเร็วมาก คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็ไม่มีใครเห็นชัด
วินาทีต่อมาเขาก็มาปรากฏตัวต่อหน้าของเหลียงเหว่ยชาว และปล่อยหมัดออกมาไปอย่างรุนแรง
ฉินหัวมีพละกำลังมหาศาลและไม่จำเป็นต้องใช้วิชาเสริมพลังอ้านจิ้งเลย
เหลียงเหว่ยชาวไม่มีท่าทีหวาดหวั่น เพียงแค่เอนตัวไปข้างหลัง ขณะเดียวกันก็ปล่อยหมัดไทเก็กเพื่อสลายพลังของฉินหัว
แต่ทันใดนั้นฉินหัวก็กางฝ่ามือของเขาเหยียดแขนไปข้างหน้า และใช้ท่าไทเก็กเช่นเดียวกัน
ไทเก็กสู้กับไทเก็ก ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าใครมีความเข้าใจในไทเก็กอย่างลึกซึ้งมากกว่ากันแล้ว
เดิมทีเหลียงเหว่ยชาวกำลังจะสลายพลังของฉินหัว แต่หลังจากการฉินหัวใช้กระบวนท่านั้น นอกจากพลังลูกนี้จะไม่หายไปแล้ว กลับหลั่งไหลออกมาราวกลับภูเขาถล่มลงในมหาสมุทร
เหลียงเหว่ยชาวรู้สึกได้ทันทีว่ามีพลังโจมตีที่แขนของ
“ตึงตึงตึง……”
เหลียงเหว่ยชาวเซถอยหลังไปหลายก้าว ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ฉากนี้ทำเอาเต้าจ่างและลูกน้องของเขาพากันตกตะลึง
พวกเขาไม่มีใครคิดเลยว่าเพียงแค่กระบวนท่าเดียว เหลียงเหว่ยชาวก็ตกหลุมพรางได้แล้ว
และตามที่เขาเคยรู้จักฉินหัวมาก่อน ก็คือตอนที่ยังเป็นฉินซานมัน เขาก็แค่ต่อยไปเรื่อยไม่เหมือนตอนนี้ที่มันมีกระบวนท่าของตัวเอง
ในตอนนี้เอง ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วท่าทางของฉินหัวก่อนหน้านี้ ก็เพียงเพื่อปิดปังความสามารถของตัวเองก็เท่านั้น
พอเต้าจ่างคิดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกเจ็บใจ
เพราะขนาดว่าฉินหัวออมแรง เพื่อเก็บซ่อนความสามารถที่แท้จริงของตัวเองแล้ว เขายังเอาชนะมันไม่ได้เลยจะไม่ให้โมโหได้อย่างไร?
ตอนนี้ฉินหัวไม่ต้องเล่นละครตบตาอีกต่อไปแล้ว ฉะนั้นเขาจึงแสดงความสามารถของเขาทั้งหมดออกมา ฉินหัวไม่เพียงแต่สามารถใช้วิชาเสริมพลังอ้านจิ้ง แต่เขาเป็นเซียนในเรื่องวิชาเสริมพลังอ้านจิ้ง
หมัดไทเก็กของฉินหัวบวกกับการใช้วิชาเสริมพลังอ้านจิ้งของเขา สองพลังนี้ของมารวมกันแล้วเหมือนกับภูเขาลูกใหญ่
ความสามารถของเหลียงเหว่ยชาวก็มองข้ามไม่ได้ เพราะขนาดพละกำลังมหาศาล ขนาดนี้เหลียงเหว่ยชาวยังแค่เซถอยหลังไม่กี่ก้าวเท่านั้น ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็เกรงว่า แม้แต่กระบวนท่าเดียวก็คงเอาไม่อยู่
ดังนั้นสีหน้าของเหลียงเหว่ยชาวจึงเคร่งขรึมขึ้นมาทันที ไม่กล้าดูถูกฉินหัวอีก
เหลียงเหว่ยชาวกางขาออก พลางนั่งยองเพื่อยืดเส้นยืดสายบิดแขนซ้ายขวา หลังจากทำท่าทางยืดเส้นยืดสายผ่อนคลายแล้วก็รีบปล่อยหมัดพุ่งออกไปตรงหน้าทันที
ฉินหัวเห็นดังนั้นก็กำหมัดแน่นและเหวี่ยงหมัดออกไปทันที
แต่คราวนี้เขาพบว่าหมัดของเขาถูกดักด้วยมือของเหลียงเหว่ยชาว ฉินหัวผลักไปข้างหน้าและเหลียงเหว่ยชาวก็พุ่งไปข้างหน้าเช่นกัน และทั้งสองคนก็ผลักดันกันไปกันมา
“ตูม!”
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว
จากนั้นฉินหัวก็เซถอยหลังอย่างต่อเนื่อง
คนอื่นๆตกตะลึงจนอ้าปากค้าง
ไป๋หยุนเผิงเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ที่จะพูดอย่างเป็นกังวล
“เหลียงเหว่ยชาวแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
ซาเฟยหยางถอนหายใจออกมาเบาๆพลางพูด “ผู้เฝ้าคลังเก็บทองที่สอง ก็ต้องแข็งแกร่งอยู่แล้ว”
ไป๋หยุนเผิงตกใจจนหันกลับมาเอ่ยถาม “นายซารู้จักผู้เฝ้าคลังเก็บทองที่สองได้ด้วยหรือครับ?”
ซาเฟยหยางเงียบไปพักนึงก่อนจะเอ่ยปาก “เรื่องมันก็หลายปีมาแล้ว จำได้เลือนรางคนที่รู้ว่าเธอคือผู้เฝ้าคลังเก็บทองที่สองมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นแหละ”
ไป๋หยุนเผิงตกใจมาก “ถ้าอย่างนั้น นายซาทราบเรื่องนี้ได้อย่างไรครับ?”
สีหน้าของซาเฟยหยางตึงเครียดขึ้นมาทันที จากนั้นก็จ้องไปที่เหลียงเหว่ยชาวตาเขม็ง “เพราะศิษย์น้องของฉันถูกเธอฆ่า”
“อะไรนะครับ?” ไป๋หยุนเผิงตกใจยิ่งกว่าเดิม”เทียนหัวซานถูกเธอฆ่าอย่างนั้นหรอ?”
ซาเฟยหยางพยักหน้าเบาๆ “เพราะว่าฉันกับศิษย์น้องถูกข่มขู่เรื่องที่ซ่อนคลังเก็บทอง ดังนั้นเหลียงเหว่ยชาวจึงฆ่าศิษย์น้องของฉัน ส่วนเหลียงหมิงเยว่ก็ขังฉันไว้”
ไป๋หยุนเผิงรู้สึกสงสัยขึ้นมาทันที “ทำไมถึงเป็นเหลียงหมิงเยว่ล่ะครับ? เหลียงหมิงเยว่ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน?”
เหลียงเหว่ยชาวทำแบบนี้ยังพอมีเหตุผล เพราะซาเฟยหยางและเทียนหัวซานสามารถสำรวจคลังเก็บทองเจอได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าเหลียงหมิงเยว่ล่ะ?
เหลียงหมิงเยว่มีเหตุผลอะไรกัน?
เหลียงเหว่ยชาวเป็นผู้เฝ้าคลังเก็บทองที่สอง เหลียงหมิงเยว่คงจะไม่ได้เป็นด้วยหรอกมั้ง?
วินาทีต่อมาซาเฟยหยางก็อธิบาย “เหลียงเหว่ยชาวโกหกมาโดยตลอด เขาบอกว่าผู้เฝ้าคลังเก็บทองที่สามนั้นไร้ผู้สืบทอด แต่จริงๆแล้วเป็นเพราะผู้เฝ้าคลังเก็บทองที่สามคือเหลียงหมิงเยว่”
“ส่วนผู้เฝ้าคลังเก็บทองที่สี่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน”
ไป๋หยุนเผิงอ้าปากค้างไม่รู้จะเอ่ยอะไร สุดท้ายก็เงียบไป ที่แท้เหลียงหมิงเยว่ก็เป็นผู้เฝ้าคลังเก็บทองจริงๆ
แต่ว่าทำไมความสามารถของเหลียงหมิงเยว่ถึงมีไม่มากล่ะ? เห็นกันอยู่ชัดๆว่าพวกเขาทั้งหมดเป็นถึงผู้เฝ้าคลังเก็บทอง นี่มันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเอาเสียเลย?
แต่ไป๋หยุนเผิงก็ไม่ได้ถามอะไรอีก เพราะตอนนี้การต่อสู้ระหว่างเหลียงเหว่ยชาว และฉินซานได้บทสรุปแล้ว
เหลียงเหว่ยชาวใช้กระบวนท่าไทเก็กบีบบังคับฉินหัวจนไม่สามารถเอาคืนได้
ตามที่เห็นฉินหัวไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่แท้จริงของเหลียงเหว่ยชาว
แต่ว่าเหลียงเหว่ยชาวก็ยังแปลกประหลาดใจกับความสามารถของฉินหัว “เพิ่งจะสามสิบกว่าแต่สามารถฝึกฝนได้ขนาดนี้ ช่างเป็นพรสวรรค์เสียจริง”
เนื่องจากฉินหัวถูกเหลียงเหว่ยชาวปล่อยหมัดใส่ ในขณะที่เซถอยหลังก็กระอักเลือดออกมาด้วย
โจวฉวี่เอ๋อเห็นเช่นนั้นก็รีบวิ่งไปประคองฉินหัวเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล “ยังไหวมั้ย?”
ฉินหัวส่ายหน้าเบาๆ”ไม่เป็นไร”
ฝั่งคนของเหลียงเหว่ยชาวก็พากันถอนหายใจอย่างโล่งอก นับถือในความเก่งกาจของเหลียงเหว่ยชาว ในขณะเดียวกันก็ดีใจที่ฉินหัวเอาชนะเหลียงเหว่ยชาวไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้อย่างไรพวกเขาก็ชนะ
หลินยู่ชังยิ้มออกมาหน้าบาน “พี่ไป๋ พี่เห็นแบบนี้แล้วยังจะเอายังไง? ตอนนี้รู้เรื่องนี้แล้ว วันนี้ไม่มีทางมีชีวิตรอดออกไปจากที่นี่แน่นอน!”
“อย่ามัวแต่พูดจาไร้สาระ ลุยฆ่าพวกมันซะ!” เต้าจ่างเอ่ยด้วยเสียงเย็นชาก่อนจะเคลื่อนไหวมือ
คนที่อยู่ด้านหลังเขาก็ต่างอยู่ในท่าทางเตรียมโจมตี
ตอนนั้นนั่นเอง
ก็มีลมพัดโหมอย่างรุนแรง
สีหน้าที่เรียบนิ่งและท่าทางกำชัยชนะของเหลียงเหว่ยชาวในตอนแรกเปลี่ยนไป แววตาของเธอสั่นไหวขึ้นมาทันทีก่อนจะถอยหลังอย่างรวดเร็ว
การเคลื่อนไหวของเธอนั่นเร็วมาก แต่ต่อให้เธอเร็วแค่ไหนก็เร็วไม่สู้ลมแรงนั่น
“โครมม”เกิดเสียงดังขึ้น
ขณะที่ลูกน้องของเต้าจ่างกำลังบุกเข้าไป ทันใดนั้นก็ลอยกระเด็นออกมา
คนพวกนี้เป็นถึงยอดฝีมือระดับสองแถมยังเป็นกลุ่ม แต่พวกเขากลับลอยกระเด็นออกมาในทันทีราวกับว่าเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีวิชากังฟู
ในเวลาเดียวกัน ผู้หญิงคนหนึ่งในเสื้อโค้ทสีม่วงก็ลงมายืนต่อหน้าเหลียงเหว่ยชาว
และฟาดฝ่ามือออกไป
เมื่อเห็นเช่นนี้เหลียงเหว่ยชาวก็ยื่นมือออกทำท่าไทเก็กทันที เพื่อต้องการที่จะสลายพลังของฝ่ามือนี้
แต่ในขณะที่มือของเธอยื่นออกไป มันก็สั่นสะท้านด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่กว่า และในเวลาเดียวกันฝ่ามือของบุคคลนั้นก็ตบลงบนไหล่ของเธอโดยตรง
“ตูม!”
เหลียงเหว่ยชาวลอยกระเด็นออกไปชนกำแพงหินด้านหนึ่ง และล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
“ฉึก……”