ทว่า เขายังไม่ยอมอ่อนข้อ “แม่งเอ๊ย แน่จริงก็ฆ่าฉันเลยสิ!”
คนชุดดำเอามีดขึ้นมาจ่อที่คอของเขา ขอแค่ออกแรงเพียงเล็กน้อยก็สามารถกรีดจนเป็นแผลแล้ว
คนชุดดำนั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำเอาชายรอยสักแข็งข้อไม่ขึ้นอีกเลย
เขารู้แล้วว่าคนพวกนี้ไม่ได้แค่ขู่ แต่พวกเขาจะฆ่าเขาจริงๆ ดังนั้นตอนนี้เขาจึงรู้สึกกลัวแล้ว
“บอกแล้ว บอกแล้ว……” ชายรอยสักรีบพูดขึ้นมา “ฉันเคยเจอ เจอที่ซอยเล็กๆ แห่งหนึ่งในฝั่งเหนือ ตอนนั้นฉันเห็นว่าเธอสวยมาก จึงเข้าไปจีบ แต่……ฉันกลับถูกตีจนสลบไป นอกจากนั้นก็ไม่รู้อะไรอีกเลย”
หลังจากที่ได้ยินอย่างนั้น พวกเขาก็หันมาสบตากัน ปล่อยมือจากชายรอยสัก จากนั้นก็จากไป
แต่พอเดินไปได้นิดเดียว คนชุดดำคนหนึ่งก็หันมาบอกกับชายรอยสักว่า “แกเป็นคนของท่านหูใช่มั้ย?”
ชายรอยสักตกใจจนสะดุ้ง จากนั้นก็พยักหน้า
ณ เวลานั้น เขาคิดว่าที่คนชุดดำพวกนี้ปล่อยเขาไป เป็นเพราะท่านหู ดูท่าคนพวกนี้น่าจะให้ความสำคัญกับท่านหูอยู่เหมือนกัน
แต่แล้ว เขาก็คิดผิดไป
คนชุดดำขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ไปบอกท่านหูนะว่า ถ้าอยากแก้แค้นก็ไม่หาตระกูลเย่ได้เลย”
ตระกูลเย่เหรอ?
ตระกูลเย่ที่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่นะเหรอ?
เชี่ย!
ชายรอยสักอึ้งไปเลย เขานึกไม่ถึงจริงๆ ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคนจากสี่ตระกูลใหญ่
ต่อให้เป็นท่านหู ก็ไม่กล้าไปหาเรื่องคนของสี่ตระกูลใหญ่อยู่แล้ว
และเรื่องที่คล้ายๆ กันนี้ ก็ได้เกิดขึ้นทั่วทุกมุมของเมืองหลวง
ความจริงแล้ว คนชุดดำพวกนี้เป็นคนของตระกูลหลิน พวกเขาแค่อ้างชื่อของตระกูลเย่ออกทำงานเท่านั้น
ส่วนคนของตระกูลเย่นั้น ก็ได้อ้างชื่อของตระกูลหลินในการทำงานเหมือนกัน และลงมือได้โหดเหี้ยมกว่านั้นอีก
แต่ไม่มีใครนึกถึงหรอกว่า นอกจากตระกูลไป๋ตระกูลหลินตระกูลเย่และไป๋ยี่เฟย ยังมีคนอีกสองกลุ่มที่กำลังตามหาหลี่เสว่เหมือนกัน
……
ณ วิลล่าที่เลิศหรูแห่งหนึ่งตรงชานเมืองของหลวง
ในห้องรับแขกตรงชั้นหนึ่งมีคนกลุ่มหนึ่งนั่งล้อมวงกันอยู่ ด้านหลังของทุกคนมีบอดี้การ์ดหนึ่งหรือสองคนยื่นอยู่
คนกลุ่มนั้นมีอยู่ด้วยกันประมาณเจ็ดแปดคน พวกเขาต่างก็เป็นเจ้าบ้านของ สิบอันดับยักษ์ใหญ่ทั้งสิ้น
แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขากำลังโต้เถียงกันอยู่
มีสองคนที่ค่อนข้างชัดเจน
“เป็นเพราะไป๋ยี่เฟย ลูกชายของผมถึงต้องตาย!” เจ้าบ้านตระกูลหู หูเฟยหงตะคอกออกมา
เจ้าบ้านตระกูลจู จูฉวนอู่ก็ตะคอกออกมา แถมยังเอามือตบโต๊ะด้วย “แล้วชีวิตของหลานชายผมไม่นับว่าเป็นชีวิตรึไง?”
“ไม่ได้ ภรรยาของไป๋ยี่เฟยจะต้องให้คนของตระกูลหูเฝ้าอยู่แล้ว”
“ได้ไงกัน? พวกคุณก็ได้หนิวต้ายไปแล้วนี่ ดังนั้นภรรยาของเขาก็ควรเป็นของเราสิ ไม่อย่างนั้น พวกคุณเอาผู้หญิงอีกคนไปด้วยก็ได้”
“ผมไม่สน……”
เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังเถียงกันอยู่ว่าใครจะเป็นคนเฝ้าหลี่เสว่
เพราะพวกเขาต่างก็รู้ดี หลี่เสว่นั้นสำคัญกับไป๋ยี่เฟยที่สุด ถ้าได้เธอมาก็ต้องปลอดภัยที่สุดอยู่แล้ว
แต่พวกเขากลับไม่รู้เลยว่า ตอนนี้ในเมืองหลวงนั้นกำลังวุ่นวายกันยกใหญ่
ถ้าพวกเขารู้ว่าตอนนี้สามในสี่ตระกูลใหญ่กำลังตามหาหลี่เสว่อยู่ พวกเขาจะรู้สึกเสียใจรึเปล่าที่ลักพาตัวหลี่เสว่มา
เจ้าบ้านตระกูลโจว โจวหงเห็นว่าทั้งสองตกลงกันไม่ได้สักที เขาจึงยกมือขึ้นมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อเอาไปไว้ที่ใครก็ไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นเอาแบบนี้ดีมั้ย?”
“เราเอาหลี่เสว่ขังไว้ตรงนี้แหละ แล้วตระกูลหูกับตระกูลจูของพวกคุณอยู่เฝ้าด้วยกันเป็นไง?”
พอได้ยินโจวหงพูดมาแบบนั้น ในที่สุดสีหน้าของหูเฟยหงกับจูฉวนอู่ก็ดูดีขึ้นมา
คนอื่นๆ เห็นเข้าก็รู้สึกว่าเป็นความคิดที่ดีเหมือนกัน
แต่ก็ยังมีคนที่ไม่เห็นด้วยอยู่ดี
“ผมคิดว่านะ ถ้าคนเยอะกว่านี้มันจะดีกว่านะ ดังนั้น ตระกูลซุนของเราสามารถส่งคนส่วนหนึ่งมาได้ ถ้าเวลานั้นมาถึงเกิดคนของตระกูลจูกับตระกูลหูไม่พอขึ้นมาจะทำยังไง?”
ในสิบอันดับยักษ์ใหญ่นั้นตระกูลหูกับตระกูลจูนั้นเป็นอันดับหนึ่งและสอง ดังนั้นหูเฟยหงกับจูฉวนอู่จึงมีสิทธิ์มีเสียงที่สุด
“ความคิดนี้ไม่เลว ตระกูลเกาของเราก็จะส่งคนมาเหมือนกัน”
“ตระกูลฟางเราก็เอาด้วย”
“ยังมี……”
ทุกคนต่างก็พูดออกมา มีเพียงโจวหงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้พูด
หูเฟยหงหันมามองเขา แล้วถามขึ้นว่า “นี่พี่โจวคิดจะตีตัวออกหากรึไง?”
“ฮ่าฮ่า……” โจวหงหัวเราะออกมาสองคำ “เอาอะไรมาพูด ถ้าพี่หูคิดว่าต้องการ ตระกูลโจวของเราก็สามารถส่งคนมาช่วยได้เหมือนกัน”
จูฉวนอู่ทำเสียงฮึดฮัด “ผมว่าคงไม่จำเป็นหรอก”
ตอนที่หนิววั่งบาดเจ็บสาหัสไป๋ยี่เฟยได้พูดเอาไว้ว่า ถ้าหวิววังเกิดตายขึ้นมา พวกเขาก็ต้องตายตามหนิววั่งไปเหมือนกัน
ถึงไป๋ยี่เฟยเผชิญหน้ากับเต้าจ่างจริงๆ แต่พวกเขาก็ยังคิดว่า เป็นเพราะมีคนมากมายที่ไม่ถูกกับเต้าจ่างอยู่ด้วย ศัตรูของศัตรูก็คือมิตร ด้วยเหตุนี้ พวกเขาถึงได้หันมาช่วยไป๋ยี่เฟย
ดังนั้น พวกเขาจึงคิดว่าไป๋ยี่เฟยไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น
แต่ก็ต้องเตรียมตัวให้รอบคอบ ดังนั้น พวกเขาจึงได้จับตัวหลี่เสว่กับหนิวต้ายมา อย่างน้อยก็พอที่จะควบคุมไป๋ยี่เฟยได้
เพียงเท่านี้พวกเขาก็ไม่มีทางแพ้แล้ว
ด้วยเหตุนี้ เรื่องการเฝ้าหลี่เสว่ก็เป็นอันตกลงตามนั้น
จากนั้น โจวหงก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อคนของตระกูลโจวเราไม่จำเป็นแล้ว ไม่รู้ว่าโจวหงคนนี้จะขออะไรเล็กน้อยได้มั้ย ไม่รู้ว่าควรพูดรึเปล่า?”
“ไม่ต้องมากความ จะพูดอะไรก็รีบพูด!” จูฉวนอู่มองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ
โจวหงจึงรีบพูดขึ้นว่า “ในเมื่อในมือของทุกท่านถือว่ามีบัตรที่ไว้ใช้ประกันชีวิตแล้ว แต่ตระกูลโจวของเรายังไม่มีเลย ที่สำคัญ คืนนั้นตระกูลโจวก็ส่งยอดฝีมือไปด้วยเหมือนกัน ดังนั้น ไม่ทราบว่าจะยกผู้หญิงที่อยู่กับหลี่เสว่ให้เราดูแลได้มั้ย?”
ทุกคนต่างหันมาสบตากัน และไม่มใครขัดข้อง
ความจริงผู้หญิงที่อยู่กับหลี่เสว่ก็คือโจวฉวี่เอ๋อนั่นเอง เธอถูกพวกเขาพาตัวออกมาจากห้องใต้ดิน แล้วโยนเข้าไปในรถของโจวหง
แต่หูเฟยหงก็ยังอดไม่ได้ที่จะเตือนเขาไปว่า “นี่เหล่าโจว ห้ามปล่อยให้นังนั่นหลุดไปได้เด็ดขาดเลยนะ ต่อให้ตายไปแล้วก็ตาม” โจวหงพยักหน้าเป็นอันเข้าใจ
ว่าแล้วการประชุมลับของสิบอันดับยักษ์ใหญ่ก็ได้สิ้นสุดลง
พอทุกคนจากไปแล้ว หูเฟยหงก็ได้หันมาพูดกับจูฉวนอู่ว่า “นี่พี่จู สนใจผู้หญิงคนนั้นรึเปล่า?”
จูฉวนอู่มองหูเฟยหงด้วยสายตาที่เคร่งขรึม จากนั้นก็ขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “หูเฟยหง ผมรู้ว่าคุณคิดอะไรอยู่ แต่เรามีไพ่ตายแค่ใบเดียวนะ ถ้าคุณเกิดไปทำลายเข้า ผมจะไม่ปล่อยคุณไว้แน่นอน!”
“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พี่จู” หูเฟยหงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
จากนั้น หูเฟยหงก็เดินเข้าไปในห้องใต้ดินด้วยรอยยิ้มที่หื่นกาม
จูฉวนอู่ยิ้มออกมาอย่างดูถูก : ไอ้บ้ากามแบบนี้ยังขึ้นเป็นเจ้าบ้านได้ ตระกูลหูนี่ช่างตกต่ำจริงๆ!
……
ในห้องใต้ดิน หลี่เสว่ถูกมัดไส้ทั้งตัว ถึงหลี่เสว่ถูกมัดไว้กับเก้าอี้
แต่ภายในห้อง นอกจากหลี่เสว่กับเก้าอี้อีกตัวที่ว่างเปล่า ก็ไม่มีสิ่งของอย่างอื่นอีกเลย
ส่วนเก้าอี้ข้างๆ ที่ว่างเปล่า น่าจะเป็นเก้าอี้ที่โจวฉวี่เอ๋อถูกมัดเอาไว้
เดิมทีหลี่เสว่กับโจวฉวีเอ๋อนั้นตั้งใจออกไปหาเฉินลี่ เพื่อต้องหาไปเอาเอกสารที่เกี่ยวกับ สิบอันดับยักษ์ใหญ่ฉบับนั้น
แต่ตอนที่พวกเธอมาถึงที่พักของเฉินลี่ คนที่เปิดประตูกลับเป็นชายกลุ่มหนึ่งที่ไม่ใช่เฉินลี่
พวกเขาไม่พูดไม่จา พุ่งเข้ามาจับตัวพวกเธอไว้ทันที
หูเฟยหงเดินเข้ามาในห้อง
พอหลี่เสว่ได้ยินการเคลื่อนไหว เธอก็เงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อเห็นว่าเขาลงมาแค่คนเดียว เธอก็รู้สึกตกใจทันที
ส่วนหูเฟยหงนั้นแค่ได้ยินลูกน้องบอกว่าหลี่เสว่นั้นสวยมาก เต็มไปด้วยออร่า งดงามราวกับนางฟ้า
ตอนแรกหูเฟยหงยังรู้สึกไม่เชื่อด้วยซ้ำ แค่คนบ้านนอกคอกนา จะสวยได้สักเท่าไหร่เชียว คิดว่าจะสวยสู้ฟางหยันได้รึไง?
แต่ตอนนี้หลังจากที่ได้เห็นหน้าหลี่เสว่ เขาก็ตาค้างไปเลย
แม่งสวยกว่าฟางหยันจริงๆ!
“เชี่ย! ไอ้บ้านนอกอย่างไป๋ยี่เฟย กลับมีวาสนาขนาดนี้ ได้แต่งงานกับคนที่สวยขนาดนี้เลยเหรอ!” หูเฟยหงทั้งเห็นใจทั้งอิจฉา
เขาเดินเข้ามาหาหลี่เสว่ แล้วใช้มือบีบคางของหลี่เสว่ไว้