เมื่อพูดสิ่งนี้จบแล้วดูเหมือนมันจะยังไม่พอจึงโบกมือแล้วพูด “ช่างเถอะ ฉันไปเอง”
จากนั้นหัวหน้าแผนกก็รีบเดินออกไปด้านนอก หลิวเสี่ยวอิงและสาวสวยคนนั้นก็ตามออกไป
อย่างไรก็ตามในตอนที่หัวหน้าแผนกเห็นไป๋ยี่เฟย ก็แทบจะไม่สามารถรักษารอยยิ้มบนใบหน้าไว้ได้
เมื่อคิดดูแล้วในตอนนี้ นี่อาจจะไม่ใช่ความผิดของพนักงานต้อนรับสาวสวยคนนั้นจริงๆ แต่งตัวแบบนี้ แม้แต่คนเดินถนนยังรู้สึกว่าเขามาจากบ้านนอกเลย แล้วที่นี่คือคลับระดับ Hi-End ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เธอรู้สึกสงสัยเล็กน้อยในทีแรกว่าคนนี้เป็นเจ้านายจริง ๆ เหรอ?
หัวหน้าแผนกไม่แน่ใจเล็กน้อย และในระหว่างที่เธอกำลังลังเลอยู่นั้นกลุ่มของโจวหลินก็เข้ามา
“เถ้าแก่ของพวกคุณล่ะ?”
หัวหน้าแผนกมองไปที่กลุ่มคนเจ็ดแปดคนตรงนั้นด้วยแววตาเป็นประกาย คนเหล่านี้แต่งตัวเป็นเถ้าแก่อย่างชัดเจน
จากนั้นหัวหน้าแผนกก็แสดงรอยยิ้มมาตรฐานอีกครั้ง “คุณลูกค้ามีอะไรให้รับใช้ ฉันเป็นหัวหน้าแผนกของที่นี่ค่ะ”
คนกลุ่มนั้นมองหน้ากัน จากนั้นคนแซ่เกาก็พูดออกมา “ผมเป็นสมาชิกของที่นี่ ผมพาเพื่อนมาก็เพื่อมาสมัครสมาชิก”
เมื่อหัวหน้าแผนกได้ยินว่าจะมีคนมาสมัครสมาชิกจำนวนมากขนาดนี้ก็ดีใจขึ้นมาทันที
เพราะพวกเขาทำงานที่นี่ได้เงินเดือนขั้นต่ำบวกค่าคอมมิชชัน หากสามารถให้คนมาสมัครสมาชิกได้ก็จะได้ค่าคอมมิชชันแล้ว ยิ่งกว่านั้นสมาชิกมีระดับที่ต่างกัน เปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชันก็ต่างกัน แน่นอนว่ายิ่งระดับสูงยิ่งได้ค่าคอมฯ มาก
กลุ่มคนเจ็ดแปดคนนี้เป็นพวกที่มีเงินไม่ขาด ไม่มีทางจะสมัครสมาชิกขั้นต่ำแน่ และต่อให้สมัครแค่ระดับโกลด์ ค่าคอมมิชชันของเธอก็ประมาณสี่ห้าพันแล้ว แล้วสมัครตั้งเจ็ดแปดคนรวมกันก็หลายหมื่นแล้ว
หัวหน้าแผนกพูดอย่างมีความสุข “รบกวนสอบถามต้องการทำสมาชิกทุกท่านเลยไหมคะ?”
“แน่นอน”
หัวหน้าแผนกแนะนำระดับสมาชิกทันทีและถามด้วยรอยยิ้ม “ไม่ทราบว่ากลุ่มเถ้าแก่จะสมัครสมาชิกระดับไหนดีคะ?”
กลุ่มคนทางนี้กำลังพูดคุยกันอย่างมีความสุข ไป๋ยี่เฟยเดินไปข้างๆ หลิวเสี่ยวอิงและกระซิบถาม “ทำเสร็จรึยัง?”
หลิวเสี่ยวอิงส่ายหน้าแล้วพูด: “ยัง เขามีสมาชิกหลายระดับ ฉันไม่รู้ว่าจะทำระดับไหน”
ส่วนพนักงานต้อนรับสาวสวยที่ยืนอยู่ไม่ไกลพวกเขาในตอนนี้จ้องไปที่ไป๋ยี่เฟยอย่างดุเดือด ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ
พนักงานต้อนรับสาวสวยคิดว่าไป๋ยี่เฟยที่เป็นแบบนี้ต่อให้มีเงินจริง จะให้มีเงินยังไงอย่างมากก็คงเป็นพวกเศรษฐีใหม่ เดิมทีเธอวางแผนจะเข้าไปเอาใจ อย่างไรเสียเขาก็เป็นเถ้าแก่
แต่ตอนนี้มีกลุ่มเถ้าแก่เข้ามาเพิ่มแล้ว คาดว่าหัวหน้าแผนกคงไม่สนใจคนคนนี้แล้ว
ไป๋ยี่เฟยเห็นหัวหน้าแผนกเข้าไปต้อนรับคนกลุ่มนั้นก่อนจึงอดขมวดคิ้วและพูดไม่ได้ “หัวหน้าแผนกใช่ไหม พวกเรามาก่อนนะ”
หัวหน้าแผนกที่กำลังอธิบายความแตกต่างของสิทธิพิเศษของสมาชิกแตะละระดับว่าต่างกันอย่างไรบ้าง ทันใดนั้นก็ถูกไป๋ยี่เฟยขัดจังหวะและอารมณ์เสียเล็กน้อย
แต่เธอก็ยังทำหน้าที่ของหัวหน้าแผนกได้ดี แน่นอนว่าด้วยแววตาบางอย่าง ยิ่งกว่านั้นเธอไม่ยอมปล่อยลูกค้ารายใหญ่ไปหารายเล็ก ดังนั้นจึงได้หันไปและยิ้มให้ไป๋ยี่เฟย “รบกวนคุณผู้ชายกรุณารอสักครู่ ฉันขอรับรองลูกค้าพิเศษกลุ่มนี้ก่อนนะคะ”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินเธอเรียกแบบนั้นแล้วไม่เข้าใจเลย “พวกเรามาก่อนชัดๆ ทำไมถึงต้องต้อนรับพวกเขาก่อน ยิ่งกว่านั้นทำไมผมถึงเป็นคุณผู้ชาย ส่วนพวกเขาคือลูกค้าพิเศษ?”
พอไป๋ยี่เฟยพูดออกมาก็ดึงดูดความสนใจของกลุ่มเถ้าแก่หลายคน
เถ้าแก่แซ่เฉียนคนนั้นมองแล้วอดที่จะพูดดูถูกไป๋ยี่เฟยไม่ได้: “อะไรกันวะแม่ง ต้องมาเจอพวกสวะอะไรเนี่ย ยังมีหน้ากล้าพูดเรื่องมาก่อนมาหลังด้วย ไม่ดูฐานะตัวเองเสียบ้างเลย?”
“นั่นสิ ในเมืองหลวงใครกล้าแย่งกับเถ้าแก่เฉียนเรื่องมาก่อนหลังคงมีอยู่ไม่กี่คน แกมันเทียบไม่ติดหรอก!”
“เศรษฐีใหม่มาจากไหน? รีบไสหัวไปเลย!”
เจ็ดแปดคนนั้นกำลังดูถูกไป๋ยี่เฟยและยังไม่พอใจคลับแห่งนี้เป็นอย่างมากด้วย
“หัวหน้าแผนกครับ เกรดของเทียนถังเก๋อของพวกคุณก็งั้นๆ แหละ ใครที่ไหนก็สมัครสมาชิกได้!”
“ถ้าหากจนๆ แบบนี้ยังสมัครสมาชิกได้ งั้นพวกเราก็ไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกที่นี่หรอก”
“ใช่ ไม่ทำแล้ว ไปกันเถอะ”
พวกเขาพูดแล้วกำลังจะไปแต่อันที่จริงแล้วก็ทำไปอย่างนั้นเอง พวกเขาอยากจะรู้ว่าคลับนี้จะจัดการเรื่องแบบนี้ยังไง
ในเวลาเดียวกันก็แสดงสถานะลูกค้าพิเศษของพวกเขาชัดเจนเพื่อเติมเต็มความพึงพอใจในความทะนงตัวของพวกเขา
ในตอนนี้เองที่โจวหลินเกิดจำขึ้นได้ว่าไป๋ยี่เฟยคือใคร และเขาก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตาโพลง
“นาย…”
โจวหลินชี้หน้าไป๋ยี่เฟยด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและตัวสั่นงันงก
คืนนั้นโจวหลินเห็นด้วยตาเขาเองว่าไป๋ยี่เฟยที่สู้กับเต้าจ่างอย่างเอาเป็นเอาตาย แถมยังสู้ชนะด้วยสิแม่ง!
ปกติแล้วพวกเขาอวดดีจะตายไปคิดว่าตนเองนั้นสูงส่ง แต่ความจริงแล้วนั้นก็แค่ญาติห่างๆ และเพื่อนบ้านของครอบครัวที่ร่ำรวยบางครอบครัวเท่านั้น
และที่อยู่ต่อหน้าไป๋ยี่เฟยเป็นใครก็ไม่รู้ ต่อให้เป็นหัวหน้าครอบครัวสิบครอบครัวผู้ทรงอิทธิพลก็ยังไม่กล้าปฏิบัติตัวแบบนี้ต่อไป๋ยี่เฟยเลย
แล้วคนพวกนี้ที่ล้อเลียนไป๋ยี่เฟย นี่มันกำลังหาที่ตายไม่ใช่เหรอ?
โจวหลินเกือบจะพูดออกไปถึงฐานะของไป๋ยี่เฟยออกไปอยู่แล้ว ไป๋ยี่เฟยได้สติและจ้องเขาเขม็ง
โจวหลินตัวสั่นด้วยความตกใจและเข้าใจ
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้พูดถึงสถานะของตนเองอย่างชัดเจน ก็เพราะไม่อยากจะให้คนอื่นรู้
หากโจวหลินพูดออกไปตอนนี้คงจะต้องโดนไป๋ยี่เฟนเล่นงานตายแน่
โจวหลินคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็รีบปิดปากตัวเองและไม่กล้าพูดอะไรอีก
“เป็นอะไรครับ? พี่โจว” ชายแซ่เกาเห็นอาการของโจวหลินแล้วรู้สึกผิดปกติเล็กน้อย จากนั้นจึงแกล้งตั้งท่าจะไป “คลับชั้นต่ำแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมาหรออก พวกเราไปกันเถอะ”
โจวหลินได้ยินแบบนี้แล้วก็มองไปที่ชายแซ่เกา นี่เขาพูดบ้าอะไรเนี่ย
หากไปจริงๆ ก็เท่ากับว่าไป๋ยี่เฟยก็เป็นคนชั้นต่ำงั้นสิ แล้วถ้าไม่ไป เขาก็ไม่สามารถบอกเหตุผลที่แท้จริงกับคนพวกนี้ได้
โจวหลินเกิดลำบากใจขึ้นทันที
หัวหน้าแผนกเป็นคนที่มองสถานการณ์ออกและรีบลุกขึ้น “ท่านลูกค้าผู้มีเกียรติคะ กรุณารอสักครู่”
ถึงแม้เธอจรรยาบรรณวิชาชีพแต่ก็ชัดเจนว่าฝั่งไหนมีผลประโยชน์มากกว่า ดังนั้นเธอฉลาดพอที่จะเลือกกลุ่มลูกค้าพิเศษ
“ทางนี้จะรีบจัดการเรื่องให้คุณทันทีค่ะ รบกวนทุกท่านกรุณารอก่อนนะคะ”
คนเหล่านี้เกิดมาพร้อมกับความรู้สึกว่าเหนือกว่า เมื่อโดนไป๋ยี่เฟยที่ดูเหมือนพวกคนจนพูดเรื่องมาก่อนมาหลัง ก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นโดนปลุกปั่น ดังนั้นจึงอยากจะใช้เงินแก้ปัญหาเพื่อเป็นวิธีในการบอกเขาว่าจะมาหาเรื่องคนมีเงินตามอำเภอใจไม่ได้
หลังจากหัวหน้าแผนกพูดแบบนี้ออกไปก็หันไปมองหน้าไป๋ยี่เฟยพร้อมกับรอยยิ้มที่จืดจางเล็กน้อย “คุณผู้ชายคะ กรุณาออกจากคลับนี้ด้วยค่ะ”
“มีสิทธิ์อะไร?” ไป๋ยี่เฟยถาม “พวกคุณไม่เปิดแล้วรึไง?”
หัวหน้าแผนกสีหน้าไม่สู้ดีจากนั้นก็พูดกับเขาอยากมีหลักการ “คุณผู้ชายคะ เมื่อครู่คุณก็เห็นแล้วว่าค่าใช้จ่ายทางเรานั้นสูงมาก ไม่ใช่บุคคลธรรมดาก็สามารถใช้จ่ายได้ ดังนั้นคุณไปเถอะค่ะ”
หัวหน้าแผนกยังคิดแทนไป๋ยี่เฟย “รู้ว่าคุณเองก็เป็นเถ้าแก่ แต่หาเงินมันก็ไม่ง่าย เงินที่ได้มาก็เก็บไว้ดีกว่าอย่าฟุ่มเฟือย เก็บเงินแล้วก็เอาเงินไปซื้อบ้านและแต่งงาน ดีมาก”
ถึงแม้คำพูดเหล่านี้จะฟังดูแล้วจะเป็นการคิดถึงไป๋ยี่เฟย แต่ความนัยในคำพูดนั้น ก็ยังเป็นการดูถูกและเหยียดหยามไป๋ยี่เฟยอยู่ดี
พวกเขาที่นี่คือคลับระดับสูง ไม่ใช่สำหรับนักธุรกิจที่มีธุรกิจเล็กๆ จะมาเที่ยวเล่นได้ ท้ายที่สุดแล้วที่นี่มีแต่นักธุรกิจใหญ่ ทายาทเศรษฐีที่เป็นคนที่ร่ำรวยมั่งคั่งอย่างแท้จริง
ไป๋ยี่เฟยได้ยินคำพูดนี้แล้วก็พูดไม่ออก
หากพูดเรื่องเงินเขามีไม่ขาดมือจริงๆ ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องซื้อบ้านแต่งงานอะไร ขอโทษนะ เขามีทุกอย่างแล้ว
แต่จะให้ออกไปจากคลับ นั่นเป็นไปไม่ได้
เขาเพิ่งจะมาเมืองหลวงต้องมีฐานที่มั่น ไม่เพียงแค่นั้นยังมีคนอีกเยอะที่อยู่กับเขา คงจะไม่สามารถให้พวกเขาไปพักบ้านเพื่อนหรอกนะ
การเข้าพักโรงแรมในระยะยาวก็ไม่ดี ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงินแต่เป็นปัญหาว่าจะทำให้คนอื่นสงสัย
ดังนั้นเขามาที่เทียนถังเก๋อก็เพื่ออยากจะพัฒนาให้ที่นี่เป็นจุดพักของตนเอง
ไป๋ยี่เฟยพูดพร้อมสีหน้าว่างเปล่า: “เถ้าแก่ของพวกคุณอยู่รึเปล่า? ผมอยากจะเจอเขาหน่อย”
หัวหน้าแผนกเห็นแล้วก็ไม่ปลื้ม “ฉันพูดกับคุณทำไมถึงไม่ฟังนะ?”
และในตอนนี้ก็มีคนเข้ามาเยอะแล้ว
ทันใดนั้นเสียงของผู้หญิงที่อ่อนช้อยก็ดังขึ้น “คนเยอะจัง มาทำสมาชิกกันหมดเลยเหรอ?”
เมื่อได้ยินเสียงทุกคนก็หันไปมอง
เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ถึงกับอึ้ง
“นี่ดาราเหรอ?”
ใช่แล้ว คนที่มาคือดารา ยิ่งกว่านั้นยังเป็นดาราที่ไป๋ยี่เฟยคุ้นเคย เธอก็คือฟางหยัน
ฟางหยันสวมชุดเดรสเข้ารูปและสวมแว่นกันแดดเดินมาพร้อมกับชายสวมชุดสูท
อันที่จริงดาราก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับบรรดาเถ้าแก่เหล่านี้ แต่ดาราคนนี้เป็นดั่งนางฟ้า เธอหน้าตาสวยขนาดนี้ แน่นอนว่ามันต่างออกไป
เถ้าแก่หลายคนต่างเข้าไปรายล้อมยกเว้นโจวหลิน