ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ – ตอนที่ 690 ยิ่งเคารพนับถือเขามากขึ้น

บทที่ 690 ยิ่งเคารพนับถือเขามากขึ้น

ประตูของห้องใต้ดินถูกไป๋หู่ชนจนเปิดออก จากนั้น ก็ปามีดในมือของจงเหลียนลอยออกไป ตัดแขนของลูกน้องคนนั้นจนขาด

“อ๊าก!”

เสียงร้องอย่างอนาถดังขึ้นมา ลั่นไปทั่วห้องใต้ดิน ทำให้ซุนเหาที่เพิ่งจะเดินเข้าไปในทางเดินนิรภัยก็ได้ยินเช่นเดียวกัน ซุนเหาตกใจจนสะดุ้งสั่น รีบเร่งฝีเท้า วิ่งออกไปจากห้องใต้ดินอย่างรวดเร็ว

ซุนหมิงเจี้ยนเห็นแบบนี้ก็รีบเก็บข้าวของอย่างรีบร้อน เขาเก็บของที่มีค่ายัดเข้าไปในกระเป๋า สีหน้าดูตื่นตกใจสุดๆ

ฟางหยันเห็นภาพตรงหน้านี้ ก็อึ้งไปก่อนเล็กน้อย จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง จู่ๆในใจก็คลายความกังวลออกมา

ฟางหยันที่เคารพนับถือไป๋ยี่เฟยตั้งแต่ตอนแรก ตอนนี้ก็ยิ่งเคารพนับถือเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก

แต่ทุกคนที่อยู่ในกล้องวงจรปิดล้วนแต่ใส่ชุดสีดำ แถมยังใส่หน้ากากใส่หมวกอีก เธอแทบจะไม่รู้เลยว่าใครคือไป๋ยี่เฟย

ถ้าเธอเห็นว่าใครคือไป๋ยี่เฟยล่ะก็ ก็จะต้องตกใจแน่ๆ ถึงยังไงก่อนหน้านี้ไม่นานเธอเพิ่งจะขอติดรถเขากลับไปเมืองหลวงเอง เธออาจจะคิดไม่ถึงว่าคนคนนั้นเป็นไป๋ยี่เฟยก็ได้

ตอนที่ซุนหมิงเจี้ยนเก็บข้าวของ ยังไม่ลืมที่จะหันมาพูดกับฟางหยัน“คุณไปกับผมด้วย พวกเราหนีไปซ่อนตัวด้วยกัน ให้ตายสิ!โดนเต้าจ่างทรยศจนได้”

“ฆ่าคนที่เขตคฤหาสน์สหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวง แถมคนที่ฆ่าก็เป็นรองประธานของสหพันธ์ธุรกิจอีก ต่อให้ไป๋ยี่เฟยที่เป็นคนของสี่ตระกูลยักษ์ใหญ่ มันก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขาต้องการจะมาฆ่าผม”

“ให้ตายสิ!เต้าจ่างจงใจให้ผมประเมินศัตรูต่ำเกินไปสินะ คิดที่จะให้ไป๋ยี่เฟยมาฆ่าผม!”

“แม่งเอ้ย!อุส่าทุ่มเทแรงกายแรงใจช่วยเขาอย่างถึงที่สุด แต่เขาดันกล้ามาทำกันขนาดนี้!”

“คุณหนูฟาง คุณจะมัวอึ้งอะไรอยู่? รีบไปสิ!”ตอนนี้ซุนหมิงเจี้ยนเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในมือของเขาถือกล่องหนึ่งกล่อง หันมาเห็นฟางหยันที่กำลังยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น จึงตะโกนออกมาอย่างช่วยไม่ได้

ฟางหยันได้ยินแบบนั้นก็ลังเลอยู่ไม่น้อย เธอไม่ได้มีความคิดที่อยากจะหนีไปเลย เธอจึงถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ“ท่านซุนก็รู้แผนการของเต้าจ่างเรียบร้อยแล้วนี่ค่ะ แล้วทำไมถึงไม่อยู่พูดอธิบายเรื่องนี้กับไป๋ยี่เฟยให้ชัดเจนไปเลยล่ะคะ?”

“ถ้าอธิบายให้ชัดเจนล่ะก็ เขาจะต้องไม่ฆ่าท่านอย่างแน่นอน”

ซุนหมิงเจี้ยนสบถหึออกมา“คุณคิดง่ายเกินไป คนของมันน่าจะถูกลูกชายของผมฆ่าทิ้งไปแล้ว ไม่ใช่สิ ตอนนี้ไม่มีเวลามาพูดเรื่องนี้กับคุณแล้ว ถึงยังไงคุณก็ไม่เข้าใจอยู่ดี คุณก็รู้สักหน่อยว่า ไป๋ยี่เฟยก็คือหมาบ้าตัวหนึ่ง ขอแค่มันเล็งใครไว้แล้วก็จะไม่มีทางปล่อยไปแน่นอน”

“ผมจะบอกอะไรคุณให้ คุณอย่านึกว่าคุณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แล้วมันจะปล่อยคุณไปนะ ถ้ามันพบว่าคุณอยู่ที่คอนโดของผม จะต้องจบไม่ดีอย่างแน่นอน รีบไปกับผมซะ นี่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว!”

ความหมายของซุนหมิงเจี้ยนคือซุนเหาฆ่าลูกน้องของเขาไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นเขาจะต้องตามฆ่าทุกคนในคอนโดจนเกลี้ยงอย่างบ้าคลั่งแน่นอน ต่อให้ฟางหยันจะเป็นใครก็ตาม

ฟางหยันกลับส่ายหัว“ไม่ ไม่ไปค่ะ!”

ซุนหมิงเจี้ยนเข้าใจเจตนาของเธอ ดังนั้นจึงคว้าข้อมือของเธอ เปิดประตูออก พูดกับบอดี้การ์ดสาวสวยของตัวเอง“พาเธอไป!”

บอดี้การ์ดสาวสวยมาหยุดอยู่ตรงหน้าของฟางหยัน ฟางหยันมองเธอด้วยความหวาดกลัวและระวังตัว“คุณคิดจะทำอะไร?”

เพิ่งจะพูดจบ บอดี้การ์ดสาวสวยก็ลงมือทันที ใช้มีดมาจ่อที่คอของฟางหยัน ฟางหยันก็สลบไปทันที

จากนั้นบอดี้การ์ดสาวสวยก็แบกฟางหยัน เดินตามซุนหมิงเจี้ยนไปยังทางเดินนิรภัย

ส่วนในเวลานี้เอง พวกไป๋ยี่เฟยก็มาถึงห้องใต้ดินเรียบร้อยแล้ว ช่วยชีวิตของหนิววั่งและลูกชายของเขาได้สำเร็จ

ตอนที่ไป๋ยี่เฟยเห็นหนิววั่งที่ตามเนื้อตามตัวเต็มไปด้วยบาดแผลและรอยเลือด เส้นเลือดในตาของเขาก็ผุดขึ้นมา

เขานึกย้อนไปถึงตอนที่เพิ่งจะรู้จักกับหนิววั่ง ภาพที่พวกเขาอยู่ด้วยกันในช่วงสองปีมานี้ เขายังจำได้ที่หนิววั่งพูดว่า พวกเราคือเพื่อนกัน

เพื่อน

ไป๋ยี่เฟยไม่เคยมองว่าหนิววั่งเป็นลูกน้องของตัวเอง

ในเวลานี้ จู่ๆก็มีเสียงร้องตกใจดังขึ้นมา คือไป๋หู่“นี่มัน……นิ้วมือ!”

ตอนนี้พวกเขาจึงสังเกตเห็น ว่ามีนิ้วมือสี่นิ้วที่เพิ่งจะถูกตัดตกอยู่บนพื้น ส่วนด้านบนที่นิ้วตกนั้น ก็มีผู้ชายหนุ่มวัยรุ่นที่หน้าตาคล้ายกับหนิววั่งถูกมัดไว้อยู่

ชายหนุ่มหมดสติไปเรียบร้อยแล้ว หันไปดูสองมือของเขา ก็เหลือนิ้วมืออยู่แค่สี่นิ้วแล้ว

พอเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้านี้ ไป๋ยี่เฟยแทบจะโกรธจนลุกเป็นไฟ

ไป๋ยี่เฟยกำหมัดแน่น กัดฟันกรอดๆ ส่งเสียงคำรามออกมา“รีบช่วยเร็วเข้า!”

คนที่อยู่ข้างหลังรีบเข้าไปทันที

จากนั้นไป๋ยี่เฟยก็ตะโกนออกมาอีกครั้ง“ซุนหมิงเจี้ยน ไอ้ชาติชั่ว!”

“มา ไปลากตัวพวกมันออกมาให้ได้ ฉันจะฆ่ามัน!”

……

ทางเดินนิรภัยห้องใต้ดินของซุนหมิงเจี้ยนเชื่อมกับทางออกประตูหลัง ทางออกนี้ลับอย่างมาก

พอซุนเหาออกมาจากทางออก ก็ได้ยินเสียงร้องอย่างครวญคราง ตกใจจนไม่กล้าไปที่โรงรถ เปิดประตูหลังแล้ววิ่งออกไปทันที

ซุนหมิงเจี้ยนไม่ได้บอกเรื่องที่เต้าจ่างวางแผนให้ไป๋ยี่เฟยตายอย่างไม่มีข้อสงสัยกับซุนเหา เพราะเขาคิดว่าเป็นเรื่องที่ง่ายๆ คิดไม่ถึงว่ากลับถูกเต้าจ่างคิดจะจัดการไปด้วยเหมือนกัน แต่ถึงจะบอกซุนเหาไปตอนนี้ ก็ไม่มีเวลาแล้ว

ซุนเหาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แค่ว่าเป็นเรื่องใหญ่ ถึงยังไงพ่อของเขาก็ไม่เคยพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแบบนั้นมาก่อน

เขาจึงวิ่งออกมาข้างนอกด้วยความโกรธรัดฟัดเหวี่ยงสุดๆ แต่วิ่งไปได้ไม่ทันไร จู่ๆก็มีรถบรรทุกของที่สภาพเน่าสกปรกพุ่งเข้ามาชน

“ปึ้ง!”

ซุนเหาถูกชนจนกระเด็นออกไป กลิ้งบนพื้นไปหลายตลบ

การชนที่กะทันหันนี้ทำให้สมองของซุนเหาว่างเปล่าไปหมด

ในเวลานี้เอง ก็มีคนแปลกหน้าปรากฏตัวขึ้นมาอยู่ตรงหน้าของเขา

คนคนนี้คือจางหัวปิน เขาหยิบมือถือขึ้นมา ยกขึ้นมาดูเปรียบเทียบกับรูปของซุนเหา จากนั้นจึงพูดยิ้มๆอย่างไม่จริงใจเลยแม้แต่น้อย“ขอโทษจริงๆ อุบัติเหตุน่ะ”

จากนั้นก็นั่งยองลงแบกซุนเหาที่ไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา ก่อนจะโยนเข้าไปในรถบรรทุกสินค้า

……

ทางออกของพวกซุนหมิงเจี้ยนอยู่ที่โรงรถของคอนโด

ประตูของโรงรถเป็นแบบสองทาง ด้านหนึ่งอยู่ที่เขตคฤหาสน์ อีกด้านอยู่ที่ถนนข้างนอก

ซุนหมิงเจี้ยนกับสาวสวย พวกเขาออกมาจากโรงรถ ไปเปิดประตูฝั่งที่อยู่ตรงถนนข้างนอก

ซุนหมิงเจี้ยนสีหน้าเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย“ไม่รู้ว่าลูกหนีออกมาแล้วยัง?”

บอดี้การ์ดสาวสวยตอบกลับ“ท่านซุน ท่านวางใจเถอะค่ะ แจ้งให้คุณชายทราบไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว คุณชายจะต้องไม่มีทางเป็นอะไรแน่นอนค่ะ”

ซุนหมิงเจี้ยนก็ยังรู้สึกไม่ไว้วางใจอยู่ดี แล้วนึกถึงหมิงฮุยอีกครั้ง“หนานหนาน ลูกน้องของไป๋ยี่เฟยมีฝีมือดีอยู่หนึ่งคน แค่เตะครั้งเดียวก็ทำให้หมิงฮุยกระเด็นได้เลย”

หนานหนานกลับไม่สนเลยสักนิด กลับยิ่งพูดขึ้นอย่างมั่นใจ“วางใจได้ แต่ตัวคนเดียวสู้กับคนมากมายขนาดนั้นมันพูดอะไรได้ไม่มากหรอกนะคะ แต่ถ้าสู้กันแบบตัวต่อตัวล่ะก็ ลูกน้องเหล่านั้นของมัน พละกำลังยังมีไม่พอ”

“ที่สามารถเตะหมิงฮุยกระเด็นไปได้ ก็แค่อาศัยจังหวะที่หมิงฮุยไม่ทันได้ตั้งตัวเท่านั้นแหละค่ะ”

พอได้ฟังหนานหนานพูดขนาดนี้ ซุนหมิงเจี้ยนก็ถอนหายใจออกมา แบบนี้ล่ะก็ โอกาสที่พวกเขาจะสามารถหนีไปได้ก็มีสูงมาก ดูๆแล้ว แม้ว่าเต้าจ่างจะวางแผนมาได้แยบยลมาก แต่ก็ละเลยหนานหนานไว้อยู่หนึ่งคน

ซุนหมิงเจี้ยนยิ้มเย้ยหยันอย่างช่วยไม่ได้“รอฉันหนีออกไปให้ได้ก่อน ตั้งตัวสักพัก พลิกฟื้นกลับขึ้นมาได้เมื่อไร จะเอาคืนเรื่องที่เต้าจ่างและไป๋ยี่เฟยทำในวันนี้อย่างสาสมแน่นอน!”

เต้าจ่างดำรงตำแหน่งประธานของสหพันธ์ธุรกิจเมืองหลวงได้ไม่นาน ซุนหมิงเจี้ยนอยู่ในสหพันธ์ธุรกิจนานกว่าเขา คนในสหพันธ์ธุรกิจส่วนใหญ่ก็เชื่อฟังเขา คิดจะก่อการสร้างเรื่องอะไรมันไม่ได้ยากเลย

ประตูโรงรถค่อยๆเปิดออก

จากนั้นซุนหมิงเจี้ยนกับหนานหนานก็เห็นชายชุดดำหนึ่งคน เขายืนอยู่ตรงประตูทางเข้าโรงรถ มองพวกเขาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดูทรงแล้วน่าจะมายืนรออยู่ตรงนี้ก่อนเรียบร้อยแล้ว

ผู้ชายคนนี้ก็คือซาเฟยหยาง

ซาเฟยหยางยิ้มเล็กน้อยให้กับพวกเขา“ยินดีที่ได้รู้จัก”

หลังจากที่ซุนหมิงเจี้ยนกับหนานหนานเห็นคนคนนี้แล้ว ก็ตกใจทันที

“แกเป็นใคร? คนของไป๋ยี่เฟย?”ซุนหมิงเจี้ยนขมวดคิ้วถามขึ้น

ซาเฟยหยางพูดยิ้มๆ“ก็ไม่เชิง ผมก็แค่ทำเรื่องที่ผมคิดว่าถูกต้องก็เท่านั้น”

หนานหนานยังคงแบกฟางหยันเอาไว้ ถ้าคิดที่จะต่อสู้แน่นอนว่าไม่สะดวกอยู่แล้ว ดังนั้นจึงวางฟางหยันลงที่พื้น จากนั้นก็เดินตรงไปหาซาเฟยหยางด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน“ท่านซุนคะ ขอหนึ่งนาทีค่ะ”

หนานหนานสีหน้ามั่นใจ ทำให้ซุนหมิงเจี้ยนวางใจลงได้เยอะ จึงพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน“รีบสู้รีบจบ หนีออกไปก่อน!”

“ค่ะ ท่านซุน”

หลังจากประโยคนี้จบ หนานหนานก็พุ่งออกไปอย่างเร็วดุจดั่งสายฟ้า

แต่

“ปึ้ง!”

หนานหนานลอยกระเด็นออกไปทันที กระแทกเข้ากับรถสปอร์ตคันหนึ่งในโรงรถ แรงไม่ใช่น้อยๆ เนื่องจากร่างของหนานหนานยังไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น แต่ชนจนกระจกแตกละเอียด ทะลุเข้าไปข้างในตัวรถ

ซุนหมิงเจี้ยนเห็นภาพตรงหน้าก็อึ้งตะลึงขึ้นมาทันที

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset