บทที่ 689 มือใหม่
พละกำลังของหมิงฮุยอยู่สูงกว่าไป๋หู่ ถึงอันดับของเขาจะต่ำกว่าสวีลั่ง แต่พละกำลังกลับอยู่สูงกว่าสวีลั่ง ก็เรียกได้ว่า ทั้งไป๋หู่และสวีลั่งต่างก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาทั้งสิ้น
แต่เฉินอ้าวเจียวไม่เหมือนกัน ความต่างระหว่างพวกเขาทั้งสองคนมากเกินไป
หมิงฮุยที่ถูกเตะจนกระเด็นก็อึ้งตะลึง เขาคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะถูกเตะจนกระเด็นแบบนี้
ซุนหมิงเจี้ยนก็อึ้งไปเช่นกัน เขาไม่เข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้เลยแม้แต่น้อย
ฟางหยันตกใจจนส่งเสียงออกมา มองซุนหมิงเจี้ยนด้วยความประหลาดใจไม่น้อย คิดในใจ:ไหนบอกว่าลงรถแล้วจะฆ่าไป๋ยี่เฟยทันทีเลยไง
……
พวกไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจหมิงฮุยที่ถูกเตะกระเด็นไปเลยสักนิด ตรงเข้าไปในคอนโดอย่างไม่มีความลังเลแต่อย่างใด
หมิงฮุยโมโหสุดๆ เขายังไม่เคยถูกคนเมินเฉยขนาดนี้มาก่อน
เขาค่อยๆลุกขึ้นมา ใช้มือเช็ดเลือดที่มุมปาก สายตาจ้องเขม็งเฉินอ้าวเจียว จากนั้นก็กำหอกในมือไว้แน่น คิดที่จะลงมืออีกครั้ง
เขานึกว่าเขาแค่ประเมินศัตรูต่ำเกินไปเท่านั้น
แต่เฉินอ้าวเจียวกลับไม่แม้แต่จะมองหมิงฮุยเลยแม้แต่น้อย เดินตามประกบไป๋ยี่เฟยไปทันที
ในขณะนี้หมิงฮุยยิ่งหมดความอดทน จึงพุ่งเข้าไปแทงไป๋ยี่เฟยอย่างแรงอีกครั้ง
แต่ผลที่ได้คือ ท่ามกลางชายชุดดำที่อยู่ข้างหลังของเฉินอ้าวเจียว จู่ๆก็มีคนสามคนพุ่งออกมา ชักมีดกริชของตัวออกมาแล้วจู่โจมออกไป
หมิงฮุยเห็นแบบนี้ ในใจก็รู้สึกโมโหไม่น้อย
นี่พวกมันกำลังดูถูกกันอยู่อย่างนั้นเหรอ?
ถึงได้ให้พวกมือใหม่พวกนี้มาสู้กับตนเอง ให้ตายสิ!
มือของหมิงฮุยโค้งเล็กน้อย ใช้หอกในมือมากันมีดกริชของอีกฝั่งเอาไว้
แต่หนามแหลมดันแทงเข้ากับอากาศ
หมิงฮุยรู้สึกตกใจทันที
ชายชุดดำสามคนนั้นวิ่งไปวิ่งมารอบเขาอย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็เก็บมีดกริชของตัวเอง ก่อนจะเดินตามหลังของเฉินอ้าวเจียวเข้าไปในคอนโดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ถ้าไม่ได้มาเห็นกับตาตัวเอง ก็คงจะไม่มีใครคิดว่าเมื่อตะกี้พวกเขาได้มีการแยกตัวออกมาจากทีมแล้วแน่ๆ
หมิงฮุยถลึงสองตาโตด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ปึ้ง!”
เขาล้มลงบนพื้นด้วยความตกใจกลัว ตามเนื้อตามตัวมีแผลมากมายนับไม่ถ้วน ล้วนแต่เป็นแผลที่ถูกคนใช้มีดฟันทั้งนั้น
คนที่ฝีมือดีระดับที่สามแบบนี้ ก็ถูกกลุ่มคนที่เขานึกเป็นแค่มือใหม่ฆ่าไปซะแล้ว
แต่ว่าพวกเขาทุกคนถึงกับสามารถเข้าร่วมองค์กรขวางซาได้ แสดงว่าไม่มีใครเป็นมือใหม่เลยสักคน พวกเขาเป็นหัวกะทิจากที่ต่างๆทั่วโลก
อย่างเช่นคนที่พุ่งเข้ามาเป็นคนแรก เขาชื่อหูเฉียง เป็นคนตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากการทะเลาะชกต่อยกัน ทำให้ถูกจำคุกไปสามปี จากนั้นก็ถูกเฉินอ้าวเจียวพาเข้ามา
ในตอนนั้นเขาสู้กับคนสิบคนด้วยตัวคนเดียว แถมยังสู้จนหนึ่งคนในนั้นบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย
จริงๆแล้วคนพวกนี้มีฝีมืออยู่ไม่น้อย แต่เทียบกับหมิงฮุยไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
การที่พวกเขาสามารถฆ่าหมิงฮุยได้ เป็นเพราะว่าหมิงฮุยประเมินศัตรูต่ำเกินไป
เขานึกว่าคนพวกนี้ก็เป็นแค่มือใหม่กันทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องสนใจพวกเขาเลยด้วยซ้ำ แต่เขากลับมาตายด้วยเงื้อมมือของมือใหม่พวกนี้
ซุนหมิงเจี้ยนที่อยู่ในห้องห้องหนึ่งพอได้เห็นภาพภาพนี้ก็รู้สึกมึนงงทันที
หมิงฮุยที่เขาภูมิใจนักภูมิใจหนาถูกลูกน้องของคนอื่นฆ่าตายไปซะแล้ว นี่มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ในตอนนี้ฟางหยันก็เลือดสูบฉีดสุดๆ หมิงฮุยถูกฆ่าไปแล้ว แทบจะไม่เหมือนกับที่ซุนหมิงเจี้ยนบอกเอาไว้เลยสักนิด หรือว่าเมื่อตะกี้ซุนหมิงเจี้ยนแค่พูดโม้เท่านั้นเหรอ?
ซุนหมิงเจี้ยนในตอนนี้จู่ๆก็ดึงสติกลับมา พูดขึ้นอย่างโหดเหี้ยม“เหอะ ต่อให้พวกมันจะฆ่าหมิงฮุยได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะผ่านการซุ่มโจมตีของฉันไปได้”
ฟางหยันได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกกังวลขึ้นมาทันที ซุนหมิงเจี้ยนยังเตรียมคนอื่นๆไว้อีก ไม่รู้ว่าพวกไป๋ยี่เฟยจะผ่านไปได้อย่างปลอดภัยไหม?
จริงๆแล้วตอนที่ซุนหมิงเจี้ยนบอกว่าจะให้เธอแต่งงานกับเขา เธอรู้สึกสิ้นหวัง แถมยังให้เธอมาดูว่าเขาจะจัดการกับไป๋ยี่เฟยยังไงอีก ในใจของเธอก็หมดแล้วซึ่งความหวัง
แต่ใครจะไปคิดว่า อีกฝั่งแทบจะไม่ได้เป็นแบบที่ซุนหมิงเจี้ยนบอกเลยสักนิด แถมเพียงแค่อีกฝั่งลงมือเบาๆเท่านั้น ก็สามารถฆ่าบอดี้การ์ดที่แข็งแกร่งที่สุดของซุนหมิงเจี้ยนได้แล้ว มันทำให้ฟางหยันแอบมีความหวังขึ้นมาไม่น้อย
ในใจของเธอตอนนี้มีความหวังอย่างแรงกล้าว่าอยากให้ไป๋ยี่เฟยฆ่าสองพ่อลูกซุนหมิงเจี้ยนนี้ไปซะ
ก่อนหน้านี้ที่ซุนหมิงเจี้ยนบอกไว้ว่าเขาเป็นคนทำให้ตนเองมีชื่อเสียงโด่งดัง แน่นอนว่าเธอรู้อยู่แล้ว แถมเธอยังรู้อีกว่า การตายของพ่อของเธอ จริงๆแล้วก็เกี่ยวข้องกับซุนหมิงเจี้ยน
ที่ซุนหมิงเจี้ยนทำให้ฟางหยันโด่งดัง ก็แค่อยากที่จะฟอกเงินเท่านั้น
……
พวกไป๋ยี่เฟยเข้าไปในคอนโดอย่างรวดเร็ว
จากนั้นก็เข้ามาในห้องโถงของคอนโด ก่อนที่จะมีคนสวมชุดดำเหมือนกันโผล่ออกมาเยอะแยะมากมาย ในมือถือมีด
คนพวกนี้เป็นนักเลงมืออาชีพของซุนหมิงเจี้ยน แม้ว่าพละกำลังของพวกเขาจะไม่สูง แต่คนพวกนี้ก็เป็นคนที่จิตใจเหี้ยมโหด ไม่มีการออมมือแต่อย่างใดแน่นอน
ดูๆแล้วก็ประมาณสี่สิบห้าสิบคน มากกว่าคนของไป๋ยี่เฟยเยอะมากๆ
ซุนหมิงเจี้ยนมองภาพภาพนี้ผ่านหน้าจอ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน“ต่อให้แกจะสุดยอดกว่านี้ การที่ถูกคนมากมายขนาดนี้ของฉันรุมโจมตีในห้องเล็กๆแบบนี้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพวกแกจะหนีรอดไปได้!”
“เหอะ คิดมาจะสู้กับฉัน มีแต่ตายกับตาย!”
ฟางหยันมองภาพในจอด้วยความกังวล
ในตอนนี้จิตใจของซุนหมิงเจี้ยนดีขึ้นมาไม่น้อย หันมาพูดกับฟางหยัน“ก่อนหน้านี้มีคนฝีมือดีระดับที่สองคนหนึ่งคิดจะมาฆ่าผม แต่น่าเสียดาย หลังจากที่บุกเข้ามาในห้องแล้ว ก็ถูกมีดรุมสับจนเละเสียก่อน”
“พวกไป๋ยี่เฟยเทียบไม่ติดกับคนฝีมือดีระดับที่สองเลยด้วยซ้ำ คิดที่จะหนีออกไปจากการที่ถูกมีดรุมกระหน่ำแทงแบบนี้ เป็นไปไม่ได้แน่นอน!”
“คนจำนวนมากมายขนาดนี้ แค่ฟันคนละหนึ่งที ไม่ว่าจะช้าจะเร็วยังไงก็ต้องถูกสับละอยู่ดี!”
ซุนหมิงเจี้ยนรู้สึกสะใจสุดๆ
แต่คำพูดของเขาเพิ่งจะจบ เขาก็อึ้งตะลึงขึ้นมาทันที
……
ในห้องโถง จู่ๆคนชุดดำพวกนั้นก็หยิบมีดของตัวเองออกมา จากนั้นก็วิ่งกระจัดกระจายไปทั่วทุกสารทิศอย่างรวดเร็ว
“ฉึกๆ!”
เสียงมีดแทงดังขึ้น แต่คนที่ถือมีดพวกนั้น ถึงขนาดที่แม้แต่มีดก็ไม่ทันได้หยิบขึ้นมาด้วยซ้ำ ล้มกองลงไปอยู่ที่พื้นทันที
คนของขวางซา สู้หนึ่งต่อสิบ
ซุนหมิงเจี้ยนที่อยู่ในห้องเห็นภาพนี้ก็ส่ายหัวอย่างไม่อยากจะเชื่อ“ไม่ เป็นไปได้ยังไง? นี่มันเป็นไปไม่ได้……”
หลังจากที่เขาส่ายหัว จู่ๆก็ตระหนักอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าซีดขาวทันที จากนั้นรีบหยิบมือถือของตนเอง โทรออกไปหาสายสายหนึ่งอย่างรวดเร็ว
“ลูก รีบหนีเร็วเข้า!”ซุนหมิงเจี้ยนพูดขึ้นอย่างลนลาน“ไม่มีเวลาอธิบายแล้ว ตอนนี้รีบหนีออกจากห้องใต้ เดินไปตามทางเดินนิรภัยเร็วเข้า!”
ซุนเหาที่อยู่ในสายกลับไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย“พ่อทำไมเหรอ? พ่อพูดช้าๆสิ จะรีบร้อนทำไม?”
ซุนหมิงเจี้ยนพูดขึ้นอย่างลนลาน“ไม่มีเวลาอธิบายกับลูกแล้ว ถ้าไม่รีบหนีไป ต้องตายแน่ๆ รีบออกไปจากห้องใต้ดินตามที่พ่อบอกเร็วเข้า จากนั้นก็หนีออกไป ไปแอบที่บ้านลุงรองของลูก เร็วเข้า!”
ซุนเหายิ้มๆอย่าไม่สนใจอะไร“พ่อ พ่อทำอะไร? เมื่อตะกี้ยังดีๆอยู่เลย จู่ๆก็ให้ผมหนีเอาชีวิตรอดเฉย หรือมีใครจะกล้าเข้ามาฆ่าคนที่บ้านของพวกเราเหรอ? พ่อเป็นถึง……”
เขายังไม่ทันพูดจบ ซุนหมิงเจี้ยนก็พูดตะคอกออกมาก่อน“ฉันบอกให้แกรีบหนีไปเดี๋ยวนี้!พวกเราถูกเต้าจ่างหักหลังแล้ว ถ้าไม่รีบหนีไปต้องตายแน่ๆ!”
ซุนเหาอึ้งตะลึงไป จากนั้นก็วางสายลง
พวกเขาคอยตามติดเต้าจ่างมาโดยตลอด พอได้ฟังพ่อตนเองบอกว่าถูกเต้าจ่างหลอกใช้แล้ว แม้ว่าจะไม่เข้าใจความหมายอย่างชัดเจนมากนัก แต่ท้ายที่สุดก็พอจะรู้สึกได้ว่า สถานการณ์ในตอนนี้ท่าจะไม่ดีแล้วแน่ๆ
หลังจากวางสายลงก็รีบพูดกับลูกน้อง“รีบหนีเร็วเข้า!”
มีคนถามว่า“แล้วสองคนนี้จะทำยังไง?”
ซุนเหาคิดๆ ถึงยังไงพ่อของเขาก็ไม่ได้เชื่อฟังเต้าจ่างแล้ว เต้าจ่างไม่อยากให้สองคนนี้ตาย แต่เขากลับอยากให้สองคนนี้ตาย
“ฆ่าเลย!”
“ครับ!”
ซุนเหาไม่ได้สนใจลูกน้องของเขา ก่อนจะรีบออกจากห้องใต้ดินไปตามทางเดินนิรภัย
ลูกน้องของเขาหยิบกรรไกรขึ้นมา ซึ่งก็คือกรรไกรที่ตัดนิ้วของหนิวต้าย เขาเดินไปอยู่ข้างๆหนิววั่ง เอากรรไกรไปจ่อไว้ตรงคอของหนิววั่ง
ตอนที่เขากำลังจะลงมือนั้นเอง ก็มีเสียงดัง“ปึ้ง!”ขึ้นมา