บทที่ 597
ไป๋ยี่เฟยได้ยิน ก็หมุนตัว ถึงสังเกตเห็นว่า มือปืนสี่คนนั้นที่คอยคุ้มกันหลี่เสว่ ได้ชักปืนออกมาแล้ว โดยเล็งไปที่อาอู่
จากนั้นไป๋ยี่เฟยก็มองไปที่หลี่เสว่ ลอบส่งซิกให้เธอ หลี่เสว่พยักหน้าอย่างเข้าใจ กล่าวเสียงเบากับคนทั้งสี่นั่น “เก็บปืน”
พูดเหมือนอย่างที่เต้าจ่างพูด ที่นี่เป็นท่าเรือ มีคนมากมายมองอยู่ และยังมีกล้องวงจรปิด
หากยิง จะต้องเกิดเสียงดังขึ้น
เวลานี้ไป๋ยี่เฟยกลุ้มใจเหลือคณา เขาไม่อาจให้ฉีฉีถูกอาอู่พาตัวไปได้จริงๆ!
เวลานี้เอง มีคนคนหนึ่งเดินออกมา ขวางอยู่ตรงหน้าอาอู่
“ด้านในไม่มีคนที่นายกำลังตามหา”
สิ้นคำ สายตาของทุกคนต่างมองไปที่เฉินอ้าวเจียว ใบหน้าขึงขัง ขวางอยู่ตรงหน้าอาอู่
หลังอาอู่เห็นเฉินอ้าวเจียวก็ชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็หยุดฝีเท้าลง
ไป๋ยี่เฟยประหลาดใจเล็กน้อย ดูท่าทางอาอู่ เหมือนกับรู้จักเฉินอ้าวเจียว อีกทั้งยังสนใจเฉินอ้าวเจียวมากอีกด้วย
ทางด้านเต้าจ่างเองก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเช่นกัน ราวกับเขาก็รู้จักด้วย
ในภาพจำของไป๋ยี่เฟย ฝีมือการต่อสู้ของเฉินอ้าวเจียวน่าจะต่างกับพวกไป๋หู่ไม่มาก แต่ทำไมตอนนี้ถึงทำให้อาอู่หยุดอยู่ตรงหน้าเขาเช่นนี้ได้?
ชั่วขณะนี้ สายตาของทุกคนต่างพร้อมกันจับจ้องไปที่บุคคลทั้งสอง บรรยากาศก็เงียบเชียบลงเช่นกัน
อาอู่เป็นคนเอ่ยปากขึ้นมาก่อน “ที่แท้ก็เป็นศิษย์พี่นี่เอง!”
เฉินอ้าวเจียงสีหน้าราบเรียบ กล่าวอีกครั้งว่า “ที่นี่ไม่มีคนที่นายตามหา”
อาอู่กลับไม่ได้ตอบโต้อะไร เพียงเอ่ยเสียงเรียบว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แล้วทำไมไม่ให้ผมเข้าไปค้นดูล่ะ?”
เฉินอ้าวเจียวไม่เอ่ยอะไร ยืนอยู่ตรงนั้น มองอาอู่ และไม่หลีกทางให้ด้วย
อาอู่เห็นเช่นนี้ก็เคร่งขรึมขึ้นมา แต่เขาไม่มีความคิดจะลงมือกับเฉินอ้าวเจียว เพียงแค่มองไปที่เต้าจ่าง กล่าวเสียงค่อยว่า “จริงอยู่ที่ผมสู้คุณไม่ได้ แต่คุณก็สู้ศิษย์พี่ใหญ่ไม่ได้เช่นกัน”
“เกือบจะบรรลุแล้วล่ะ!”
ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็ตกตะลึงไปทันที หรี่ตามองไปที่สวีลั่ง
เมื่อกี้อาอู่ใช้แค่กระบวนท่าเดียวก็โยนไป๋หู่กับสวีลั่งทิ้งไปได้ แต่เขาบอกว่า เขาสู้เฉินอ้าวเจียวไม่ได้
หมายความว่าเฉินอ้าวเจียวเก่งกว่าอาอู่ ไม่ใช่อย่างที่เขาคิดโดยสิ้นเชิง
เฉินอ้าวเจียวกำลังเก็บงำฝีมือตัวเองต่อหน้าเขา
นี่เป็นเพราะอะไร?
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วโดยสัญชาตญาณ เดิมเฉินอ้าวเจียวก็แตกต่างจากคนทั่วไป เขาจัดตั้งองค์กรขวางซาเพื่อไป๋ยี่เฟย หากเฉินอ้าวเจียวมีใจแปรพักตร์ อย่างนั้น……
เวลานี้ ลูกเรือที่อยู่บนเรือเดินออกมาแล้ว
พวกเขาเดินไปที่กระดานเงินเพื่อจะลงจากเรือ กลับเห็นสถานการณ์ในตอนนี้เข้า จึงทึ่มทื่อไปชั่วขณะ
เฉินอ้าวเจียวเห็นเช่นนี้ก็หันข้างเล็กน้อย เหมือนพยักหน้าให้ลูกเรือเหล่านั้น
พวกลูกเรือเห็นเช่นนี้ก็ได้แต่เดินลงไปอย่างระแวดระวัง
ทว่า พอเดินไปถึงหน้าอาอู่ กลับถูกขวางไว้อีกครั้ง
เฉินอ้าวเจียวกล่าวเสียงเรียบ “ลูกเรือของเรืออีกลำ ปล่อยพวกเขาไป”
อาอู่หันศีรษะไปมองเต้าจ่าง เต้าจ่างพยักหน้าเล็กน้อย
อาอู่เบี่ยงกายให้ พวกลูกเรือจึงเดินผ่านข้างกายอาอู่ไป
ทว่าพอหลังจากลูกเรือเหล่านี้ขึ้นไปบนกระดานหมดแล้ว จู่ๆ อาอู่ ก็ยกเท้าถีบ กระดานจึงสั่นขึ้นมาทันที
พวกลูกเรือก็โยกซ้ายขวาไปตามแรงสั่น
แต่หนึ่งในนั้นมีลูกเรือคนหนึ่งโยกตัวแรงและเด่นชัดมาก
อาอู่มองไปที่ลูกเรือคนนั้นทันที
จากนั้น ก็ร้องอย่างตกใจ
“โอ๊ย!”
ลูกเรือคนนั้นเท้าลื่นลงไป ทรงตัวไม่อยู่ พลัดตกลงจากกระดานทันที
“ตู้ม!”
ตกลงไปในทะเล
ตอนที่กำลังจะตกลงไป อาอู่เห็นใบหน้าของคนผู้นั้น เป็นผู้ชาย และเสียงก็เป็นเสียงของผู้ชายเช่นกัน หลังแน่ใจว่าไม่ใช่คนที่ตามหา ก็ส่ายหน้ากับเต้าจ่าง
บนฝั่ง ไป๋หู่กับสวีลั่งว่ายขึ้นมาแล้ว ถือโอกาสลากลูกเรือที่ตกลงไปขึ้นมาด้วย
เฉินอ้าวเจียวมองไปที่เต้าจ่าง จู่ๆ ก็ส่งเสียงถามเต้าจ่าง “หากให้อาจารย์คุณรู้ว่าคุณจะแตะต้องฉีฉี ไม่รู้ว่าอาจารย์คุณจะมีท่าทียังไง?”
สิ้นคำ อาอู่ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
เต้าจ่างยังคงแสดงสีหน้าแบบนั้นอย่างเดิม กล่าวเสียงเรียบว่า “ไม่ นายเข้าใจผิดแล้ว พวกเราไม่ได้ตามหาฉีฉี”
อาอู่ได้ยินคำนี้ ก็กล่าวกับเฉินอ้าวเจียวเสียงต่ำ “ฉีฉีอยู่ข้างในจริงๆ ด้วย!”
พูดจบ อาอู่กำลังจะเดินเข้าไปในห้องโดยสารเรือ
เฉินอ้าวเจียวรีบยื่นมือไปขวางอาอู่ไว้ อาอู่กลับกระโดดขึ้นมาทันที ใช้หมัดต่อยไปที่เฉินอ้าวเจียว
เห็นเช่นนี้ เฉินอ้าวเจียวก็ยกมือขึ้นมาเป็นหมัด
สองหมัดปะทะกัน อาอู่พลันถูกต่อยจนถอยไปด้านหลังหลายก้าว
ใครแกร่งใครอ่อนมองปราดเดียวก็เห็นชัดทันที
ไป๋ยี่เฟยอดมองเฉินอ้าวเจียวไม่ได้
อาอู่กลับยิ้มชั่วร้าย จะพุ่งเข้ามาอีกครั้ง
เวลานี้ จู่ๆ เต้าจ่างก็พูดว่า “อาอู่ พอแล้ว”
อาอู่ได้ยินพลันหยุดมือทันที มองเต้าจ่างอย่างกังขา
เต้าจ่างยังคงแสดงอารมณ์เหมือนเดิม ไป๋ยี่เฟยเห็นก็อดคิดในใจไม่ได้ว่า “เรื่องอะไรถึงจะทำให้เขาหน้าเปลี่ยนสีบ้าง?
เต้าจ่างกล่าวเสียงราบเรียบ “ไปเถอะ”
อาอู่เห็นเช่นนี้ก็ชะงักเล็กน้อย แต่เขาไม่กล้าขัดคำสั่งเต้าจ่าง ได้แต่ถลึงตาใส่เฉินอ้าวเจียว แล้วหมุนตัวเดินจากไป
ไป๋ยี่เฟยเห็นเต้าจ่างกับอาอู่ขึ้นรถเบนท์ลีย์คันหนึ่งแล้ว ก็รอให้เบนท์ลีย์ขับออกจากท่าเรือไป พวกเขาถึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
……
บนรถเบนท์ลีย์ อาอู่ไม่เข้าใจว่าทำไมเต้าจ่างถึงไม่หาต่อ “ศิษย์พี่ ต่อให้มีเฉินอ้าวเจียวคนนั้นอยู่ ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับพวกเราสองคนเช่นกัน ทำไมถึง……”
เต้าจ่างมองไปยังนอกหน้าต่าง กล่าวเสียงเรียบ “ในห้องโดยสารมีปัญหา คนไม่อยู่แล้ว”
“หา?” อาอู่มึนงงเล็กน้อย มีความประหลาดใจอยู่บ้าง
ตอนที่เรือกำลังเข้าใกล้ฝั่ง พวกเขาก็ยืนรออยู่ที่ชายฝั่งแล้ว หลังจากเรือมาถึง เขาก็ยืนปักหลักอยู่ตรงนั้นตลอด หากฉีฉีออกมา เขาไม่มีทางจำไม่ได้
หรือว่าเป็นลูกเรือเหล่านั้น?
แต่เขามองดูทุกคนแล้ว ล้วนไม่ใช่ฉีฉี
เต้าจ่างเห็นเช่นนี้ก็กล่าวเสียงเรียบ “คนที่ตกลงไปในทะเลกับคนที่ถูกดึงขึ้นมา เป็นคนละคนกัน”
“อะไรนะ?” อาอู่แปลกใจมาก
จู่ๆ อาอู่ก็นึกออก ตอนที่คนคนนั้นถูกดึงขึ้นมา เป็นตอนที่เฉินอ้าวเจียวซักถามเต้าจ่างพอดี ความสนใจของเขาถูกเฉินอ้าวเจียวดึงไป จึงไม่ได้ไปสนใจคนที่ถูกดึงขึ้นมาคนนั้นโดยสิ้นเชิง
อาอู่มองเต้าจ่าง แล้วกล่าวว่า “อย่างนั้นทำไมศิษย์พี่ถึง……ปล่อยเธอไป?”
เต้าจ่างมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเงียบๆ ไม่ได้เอ่ยอะไร
อาอู่เห็นเช่นนี้ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่บ้าง เพราะคำถามที่ตัวเองถามไปดูโง่เขลานิดหน่อย
หากอยู่ในห้องโดยสารเรือจัดการกำจัดฉีฉีอย่างลับๆ เช่นนั้นก็จะไม่มีใครรู้ แต่หากฉีฉีขึ้นฝั่งแล้ว ตรงท่าเรือต่างมีกล้องวงจรปิด ฆ่าฉีฉีตาย ซินชิวก็จะรู้อย่างรวดเร็ว
อันที่จริง หาก ฉีฉีเดินออกมาเอง เกรงว่าเต้าจ่างเองก็คงไม่กล้าลงมืออย่างโจ่งแจ้งเช่นกัน
แต่เพื่อความปลอดภัย พวกเขายังคงเลือกวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัย โดยหลีกเลี่ยงสายตาของเต้าจ่าง
ทว่าพวกเขาคิดได้ เต้าจ่างยังคงมองออก
เวลานี้ เต้าจ่างเอ่ยปากเสียงเรียบ “ศิษย์น้องเล็กพาตัวไป๋ยี่เฟยไปอย่างลับๆ จะต้องไม่มีทางทำดีกับไป๋ยี่เฟยแน่ และ โย่วขุยกับจั่วเถิงส่งข่าวมาบอกว่าเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส
“ไป๋ยี่เฟยมีเมียหน้าตาสวยอยู่คนหนึ่ง รักกันดีมาก ไม่มีทางมีใจคิดเป็นอื่นกับศิษย์น้องเล็ก”
“ดังนั้น เขาไม่น่าเป็นห่วงความเป็นความตายของศิษย์น้องเล็ก”
“แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากมอบตัวศิษย์น้องเล็กมาให้ผม”