บทที่ 499
ไป๋ยี่เฟยออกจากโรงพยาบาล คิดว่าหลี่เสว่น่าจะยังไม่เลิกงาน จึงขับรถตรงไปยังบริษัทจิวเวลรี่
อีกด้าน หลังจากที่หลี่เสว่ประชุมเสร็จแล้วก็กลับมายังห้องทำงาน พบว่าไป๋ยี่เฟยไม่อยู่
เธอนั่งลงที่โต๊ะทำงาน หลี่เสว่หยิบมือถือขึ้นมาอย่างทันที พอดู ก็พบว่าไป๋ยี่เฟยได้ส่งข้อความมาหาเธอแล้ว บอกว่ามีธุระต้องกลับไปที่โรงพยาบาล
พอถึงเวลาหกโมงเย็น หลี่เสว่เลิกงาน
แต่เธอเพิ่งจะเดินออกมาจากตึกบริษัท ก็เจอเข้ากับหวงเหว่ย
ในตอนนี้เป็นช่วงเวลาเลิกงานพอดี แต่ว่าหวงเหว่ยยืนอยู่เยื้องๆกับประตูทางเข้า คนตรงนั้นไม่เยอะ
หลี่เสว่หันไปมองเขาหนึ่งที แล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก ใครจะไปรู้ว่าพอหวงเหว่ยเห็นหลี่เสว่ก็พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
หลี่เสว่ขมวดคิ้วมองเขา“หวงเหว่ยคุณไม่ใช่พนักงานของบริษัทแล้ว ระหว่างพวกเราก็น่าจะไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องคุยกันอีกแล้วนะ”
พูดจบ หลี่เสว่ก็เดินตรงไปข้างหน้าทันที
หวงเหว่ยเห็นแบบนี้มีหรือจะปล่อยให้เธอไป เขายกมือขึ้นมา คว้าที่ไปข้อมือของหลี่เสว่ กระชากหลี่เสว่ไปที่บริเวณข้างๆ ข้างๆแทบจะไม่มีคน มีเพียงแค่กระถางต้นไม้หนึ่งกระถางเท่านั้น
หลี่เสว่ที่ถูกลากตัวเอาไว้ จึงร้องตะออกมาด้วยความตกใจ“นี่คุณทำอะไร?”
เสียงของพวกเขาทั้งสองคนค่อนข้างดัง ทุกคนตรงนั้นต่างพากันหันมองมา แต่พอหันมาเห็นแล้ว ก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไร เพราะพวกเขานึกว่า เป็นเรื่องปกติธรรมดาของผู้หญิงผู้ชายทั่วไป เผลอๆจะเข้าไปยุ่งให้มีปัญหาหนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ
หวงเหว่ยปล่อยหลี่เสว่ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราวกับให้ทาน ให้โอกาสคนอย่างไรอย่างนั้น“หลี่เสว่ ไม่สิ ประธานหลี่ บริษัทขาดพวกเราไปก็อยู่ต่อไปไม่ได้หรอก ดังนั้น ผมจะให้โอกาสคุณอีกหนึ่งครั้ง ผมสามารถกลับมาบริษัทได้ แล้วก็สามารถตามคนอื่นกลับมากับผมได้เช่นกัน อย่างน้อยก็สามารถช่วยให้บริษัทได้อยู่ต่อไป”
หลังจากหลี่เสว่ได้ฟังก็อึ้งไปสักพัก ก่อนจะตอบสนองกลับมาทันที“หวงเหว่ยคุณยังไม่รู้สถานการณ์ในตอนนี้ของบริษัทสินะ?”
“สถานการณ์อะไรเหรอ?”หวงเหว่ยพูดยิ้มๆ“ก็ขาดผู้บริหารระดับสูงไปตั้งหลายคนขนาดนั้น ก็เลยดำเนินการต่อไปไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? อย่านึกว่าผมไม่รู้ ตอนนี้โหวจวี๋ก็กำลังสอดมือเข้ามายุ่ง ไม่มีใครกล้าเข้ามาในบริษัทเราหรอก”
หลี่เสว่ได้ยินแบบนั้นจู่ๆก็รู้สึกว่า หวงเหว่ยน่าสมเพชเวทนามาก แน่นอนว่าคนที่น่าสมเพชจะต้องมีจุดน่ารังเกียจอยู่!
“หวงเหว่ยคุณลืมแล้วเหรอ? ว่าสามีของฉันหาคนมาช่วยเรียบร้อยแล้ว เขาเรียกทั้งผู้บริหาร แล้วก็ดีไซน์เนอร์มาหมดแล้ว แทบจะไม่มีตำแหน่งว่างเหลือแล้ว บริษัทก็สามารถดำเนินการไปได้ตามปกติ”
“อะไรกัน? เป็นไปได้ยังไง?”หวงเหว่ยถลึงสองตาโตด้วยความตกใจ สำหรับเขาแล้ว ไป๋ยี่เฟยไม่มีอะไรเลย สายที่โทรมาเมื่อตอนเช้าก็เป็นแค่การเสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น ไม่ใช่ของจริงแน่นอน
“แถมยังเป็นผู้บริหารดีเด่นที่มาจากเมืองหลวงทั้งนั้นด้วยนะ ดีไซน์เนอร์ก็คือLisaที่โด่งดังมากในแวดวงจิวเวลรี่ คุณทำงานในสายงานนี้มานานขนาดนั้น น่าจะรู้จักสินะ?”
“ดังนั้น บริษัทไม่ต้องการพวกคุณ พวกคุณไปเถอะ กลับจะยิ่งเป็นผลดีต่อบริษัทด้วยซ้ำ”
หลี่เส่วพูดจบ ก็หันตัวเดินจากไป
หวงเหว่ยยืนอึ้งอยู่ที่เดิม
แน่นอนว่าเขารู้ว่าLisaเป็นใคร นั่นเป็นดีไซน์เนอร์ที่มีชื่อเสียงมากในแวดวงจิวเวลรี่ ผลิตภัณฑ์ที่เธอทำแทบจะถูกนำไปประมูลทั้งสิ้น เรียกได้ว่าสินค้ามูลค่าสูงคนต้องการน้อยเลยก็ว่าได้
ไป๋ยี่เฟยทำได้ยังไง? ทำไมถึงสามารถเชิญบุคคลระดับนี้มาทำงานให้กับบริษัทเล็กๆของพวกได้?
ไม่สิ ควรจะบอกว่า เพื่อนคนนั้นของไป๋ยี่เฟยสุดยอดมากๆ ไม่คิดว่าไป๋ยี่เฟยจะรู้จักเพื่อนที่สุดยอดขนาดนี้!
ถ้ารู้แบบนี้ก่อน ตีให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีทางต่อล้อต่อเถียงหลี่เสว่ ไม่ต่อสู้แข่งขันกับไป๋ยี่เฟย แล้วก็ไม่มีทางเยาะเย้ยไป๋ยี่เฟยแน่นอน ตอนนี้นอกจากจะไม่ได้อะไรแล้ว ยังตกงานอีก
งาน……
หวงเหว่ยพอคิดว่าตัวเองไม่เหลืออะไรแล้ว ก็ตื่นตระหนกทันที มองเงาของหลี่เสว่ที่จากไปไกลแล้ว ราวกับเห็นความหวัง รีบไล่ตามไปทันที
“ประธานหลี่ ประธานหลี่รอผมก่อน”หวงเหว่ยรีบวิ่งไล่ตามหลี่เสว่
หลังจากที่หลี่เส่วเห็นเขาก็ขมวดคิ้วอีกรอบ“ฉันพูดชัดเจนแล้วนะ คุณยังจะอะไรอีก?”
หวงเหว่ยเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่ประจบสอพลอ ก้มหน้าโค้งตัวพูดขึ้น“ประธานหลี่ ก่อนหน้านี้ผมผิดเอง เป็นความสับสนของผมเอง ประธานหลี่คุณอย่าถือโทษโกรธเคืองเลยนะ ผมขอโทษ”
“ประธานหลี่ คุณให้ผมกลับไปที่บริษัทได้ไหม!จากนี้ไปผมจะไม่ปากมากกับคุณอีกแล้ว คุณให้ผมทำอะไรผมก็จะทำ”
“ประธานหลี่ ให้โอกาสผมอีกสักครั้งเถอะนะ……”
หลี่เสว่เห็นท่าทางที่ไม่สนภาพลักษณ์หน้าตาของหวงเหว่ยแล้ว ก็ยิ้มอย่างเย้ยหยัน“หวงเหว่ย ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของพวกคุณทั้งหมด โทษคนอื่นไม่ได้หรอกนะ”
“ยิ่งไปกว่านั้น สามีของฉันพูดถูก พวกคุณคือพวกปลวกพวกมอดของบริษัท ขืนปล่อยให้อยู่ในบริษัทต่อไปไม่เพียงแต่จะไม่เป็นผลดีต่อบริษัทแล้ว กลับจะยิ่งชอนไชกัดกันบริษัทอีกด้วย ทำให้บริษัทยิ่งพังทลายเร็วขึ้นกว่าเดิม”
“คุณไปเถอะ บริษัทตัดสินใจไปแล้วไม่คืนคำ”
ใจของหวงเหว่ยตกไปอยู่ตาตุ่ม ถ้าบริษัทฝูรุ่ยไม่เอาเขา แล้วเขาจะไปหางานอะไรได้อีก?
ถ้าอย่างนั้นก็ทำแบบนี้เลยแล้วกัน เขาไหล่ตก ใบหน้ามืดมน ทันใดนั้นก็หยิบมีดพกเล่มหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง“ได้!พวกคุณไม่ให้ผมได้ใช้ชีวิตอยู่ดีๆ พวกคุณก็อย่าคิดว่าจะได้อยู่กันดีๆเหมือนกัน”
หลังจากพูดตะคอกจบ หวงเหว่ยก็แทงมีดเข้ามาที่หลี่เสว่
หลี่เสว่คิดไม่ถึงเลยสักนิด ว่าจู่ๆหวงเหว่ยจะหยิบมีดออกมา ตอนนี้เธออยู่ห่างจากหวงเหว่ยใกล้มากๆ ห่างกันไม่ถึงหนึ่งเมตร
เธออึ้งตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้า ตกใจจนยืนอยู่กับที่ขยับไปไหนไม่ได้
หลี่เสว่จ้องมีดเล่มนั้นเข้าใกล้เธอเข้ามาเรื่อยๆ
ในเวลานี้ คนที่อยู่รอบๆข้างก็ทยอยกันหันมองมา ทั้งหมดต่างก็กรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ จากนั้นต่างก็พากันถอยหลังไป
ทุกคนต่างก็เห็นแก่ตัว พอมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้ การตอบสนองตามสัญชาตญาณของคนก็ต้องหนีห่างออกจากอันตราย เพื่อปกป้องตัวเอง
จึงไม่มีใครเข้าไปช่วยหลี่เสว่
ตาเห็นมีดในมือของหวงเหว่ยกำลังพุ่งเข้ามาใส่ตรงช่วงอกของหลี่เสว่ จู่ๆ ก็มีเงาดำๆพุ่งเข้ามากอดหลี่เสว่เอาไว้ ใช้หลังของตัวเองกันมีดเล่มนั้น
“อัก!”
หวงเหว่ยใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด แทงมีดเล่มนั้นเข้ามาตรงข้างหลังของคนที่พุ่งตัวเข้ามาอย่างแรง เข้าไปเต็มๆสองเซนติเมตร
“ว้าย!”
เสียงนี้ เป็นเสียงร้องของหลี่เสว่ ตัวเธอสั่นด้วยความหวาดกลัวอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่
“ไป๋ยี่เฟย!”หลี่เสว่ถลึงสองตาโต มองไป๋ยี่เฟยที่อยู่ตรงหน้า สองตาแดงทันที เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง? คนที่พุ่งเข้ามาเป็นไป๋ยี่เฟยได้ยังไง?
หลี่เสว่อึ้งตะลึง รู้สึกตื่นตกใจ
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วรับมีดเล่มนี้เอาไว้ หวงเหว่ยชักมีดพกกลับไปอย่างแรง ไป๋ยี่เฟยร้องโอดโอยอีกครั้ง จากนั้นก็สูดหายใจลึกๆอยู่สองสามที
เขาไม่มีเวลาพูดกับหลี่เสว่ หันกลับไปเตะหวงเหว่ยที่คิดจะแทงมีดมาอีกครั้ง
“ปัง!”
“ว้าย!”
เสียงตกลงบนพื้นของ หวงเหว่ยและเสียงกรีดร้องของคนบริเวณนั้นดังขึ้นมาพร้อมกัน
ด้วยเหตุนี้เอง ไม่รู้ว่าใครเป็นคนแจ้งตำรวจ แถมยังอยู่ในเขตตัวเมืองด้วย ตำรวจจึงมาอย่างรวดเร็ว เข้าล้อมที่นี่ไว้ทันที