บทที่461
ไป๋ยี่เฟยยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ตอนแรกเขาแค่แสดงท่าทีกึ่งรองดูเท่านั้น แต่ได้รับความช่วยเหลือจากฉางเชี่ยวมันก็ทำให้เขาทำอะไรง่ายขึ้นมาก ไม่นึกเลยว่าเขาจะตอบตกลงมาอย่างง่ายดายแบบนั้น
หลังทั้งคู่คุยกันเสร็จ และกำลังจะเดินออกไป จู่ๆ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างดังออกมาจากในซอย มันเหมือนเสียงของอะไรสักอย่างล้มกระแทกพื้น
“ใคร?”
สวีลั่งหันไปมองทันที เหมือนเห็นใครบางคนที่กำลังซ่อนอยู่ในเงามืด ว่าแล้วเขาก็เดินรุกเข้าไปจับตัวคนที่หลบอยู่ในนั้นเอาไว้
พอเห็นแบบนั้น คนๆ นั้นก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้พร้อมกับความหวาดกลัวอย่างสุดขีด “อย่า อย่าฆ่าผมนะครับ ผมแค่บังเอิญผ่านทางมาเท่านั้น ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะมาเห็นอะไรแบบนี้เลย อย่าฆ่าผมนะครับ……”
เมื่อพาคนๆ นั้นมาอยู่ในที่ๆ ไฟส่องถึง พวกไป๋ยี่เฟยก็พากันมองไปทางนั้น หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยเห็นว่าเป็นเซียวหรงเทาเขาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะเย้ยออกมา
“เซียวหรงเทา ผมไม่ไปหาคุณ แต่คุณมาหาผมเองเนี่ยนะ?”
เซียวหรงเทากำลังจะร้องไห้ออกมาจริงๆ เดิมทีเขาแค่อยากจะมาดูว่าไอ้หัวล้านหลิวถูกจับไปแล้วหรือยังเท่านั้น ใครจะไปคิดว่ายังไม่ทันได้เข้าไปคนพวกนั้นก็วิ่งหางจุกตูดออกมาแล้ว
พอเขาคิดจะเข้าไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เห็นไป๋ยี่เฟยออกมาก่อน ด้วยความแค้นที่เขามีต่อไป๋ยี่เฟยเขาจึงอยากรู้ว่าไป๋ยี่เฟยกำลังคิดทำอะไรอยู่ ว่าแล้วเขาก็แอบตามไปดู ไม่นึกเลยว่าพวกไป๋ยี่เฟยจะทำการฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมแบบนี้
เขายังคงสงสัย ยังรู้สึกไม่พอใจ กับคนที่ยังไม่เคยฆ่าใครมาก่อน พอมาเห็นภาพแบบนี้เข้าไม่ตกใจจนฉี่ราดก็ถือว่าดีแค่ไหนแล้ว
“ไป๋ยี่เฟย แก……ฆ่าคน แก……ฆ่าคนไปแล้ว……” เซียวหรงเทาพูดจากระตุกกระอัก
ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ “ผมฆ่าคนไปแล้ว คุณเห็นกับตาตัวเองแล้วใช่มั้ย? คุณน่าจะรู้นี่ว่าก่อนหน้านี้ผมก็เคยฆ่าคนมาแล้ว”
เซียวหรงเทามองเห็นความน่าสะพรึงกลัวในดวงตาของไป๋ยี่เฟยที่ไม่เคยมีมาก่อน เขารู้อยู่แล้วว่าไป๋ยี่เฟยเคยฆ่าคนมาก่อน และยังรู้อีกว่าคนที่เขาฆ่าก็คือฉุงโยวเวย
แต่เขาก็ยังไม่เคยได้เห็นกับตาตัวเอง แค่รู้มาอีกทีเท่านั้น
ตอนนี้เขาได้เห็นมันกับตาตัวเองแล้ว แถมยังเป็นภาพของคนแค่สี่คนจัดการฆ่าคนสิบกว่าคนอีก มันช่างน่ากลัวจริง
ทำไมไป๋ยี่เฟยถึงกลายเป็นคนที่น่ากลัวขนาดนี้ไปได้เนี่ย?
ฉางเชี่ยวมองมาที่เซียวหรงเทา “คนๆ นี้ดูโง่ๆ นะ”
ไป๋ยี่เฟยทนไม่ไหวจนต้องขำออกมา “ใช่ โง่จริงๆ”
เซียวหรงเทาสีหน้าบูดเบี้ยว ด้วยความหวาดกลัวที่มีต่อพวกไป๋ยี่เฟยบวกกับความโกรธที่ถูกล้อเรียนเมื่อกี้ แต่เขาก็กลัวว่าพวกไป๋ยี่เฟยจะฆ่าเขาไปอีกคนจึงจำเป็นต้องอดทนเอาไว้
สวีลั่งกดเซียวหรงเทาไว้กับกำแพง มือข้างหนึ่งบีบคอเขาเอาไว้ แล้วหันมาถามไป๋ยี่เฟยว่า “จะให้จัดการยังไงดีครับ?”
ความหวาดกลัวได้เข้ามาครอบงำเซียวหรงเทาอีกครั้ง เขาพูดด้วยเสียงที่สะอื้นว่า “ไป๋ยี่เฟย พวกเราเป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันนะ ช่วยเห็นแก่ความสัมพันธ์ของเรา ได้โปรดอย่าฆ่าฉันเลยนะ……”
“ฮึ เพื่อนสมัยเรียนเหรอ?” ไป๋ยี่เฟยทำเสียงฮึดฮัด “แล้วทำไมคุณถึงไม่เห็นแกที่เราเป็นเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันแล้วละเว้นภรรยาของผมบ้างล่ะ?”
ครั้งแรก เซียวหรงเทาตั้งใจจะจับคู่หลี่เสว่กับหลิ่วจาวเฟิง
ครั้งที่สอง ตอนอยู่ที่โรงพยาบาล เซียวหรงเทาก็พูดจาทำร้ายจิตใจหลี่เสว่จนเธอเป็นลมไป ทำให้พิษกำเริบหนักกว่าเดิม
ครั้งที่สาม เซียวหรงเทาก็ฉวยโอกาสตอนที่เขาไม่อยู่ ร่วมมือกับเฝิงหย่งก้างหลอกให้หลี่เสว่ออกมาจากโรงแรม แล้วคิดจะให้เฝิงหย่งก้างย่ำยีหลี่เสว่
มีครั้งไหนบ้างที่เขาเห็นแก่ความเป็นเพื่อนร่วมรุ่นของไป๋ยี่เฟยแล้วยอมปล่อยหลี่เสว่ไปบ้าง
พอเซียวหรงเทาได้ยินอย่างนั้นก็พูดอะไรไม่ออกเลย เขากำลังรู้สึกกลัวมาก
“ฆ่าไปเลย!” ฉางเชี่ยวพูดออกมาอย่างเรียบเฉย น้ำเสียงที่พูดออกมาฟังดูสบายๆ ราวกับเป็นเรื่องที่ทำอยู่ทุกวัน
รูม่านตาของเซียวหรงเทาหดเล็กลง เพื่อเอาชีวิตรอด เขาจึงรีบพูดออกมาว่า “ไป๋ยี่เฟย ถ้าแกอยากรู้อะไรฉันยินดีตอบให้หมดเลยนะ ขอแค่ไม่ฆ่าฉัน ฉันยอมบอกทุกอย่างเลย”
“เรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นช่วงนี้เป็นฝีมือของหลิ่วจาวเฟิงหมดเลย เขาเป็นคนสั่งให้ฉันทำ ฉันก็แค่เอาตัวรอดเท่านั้น จริงๆ นะ!”
“อีกอย่าง หลิ่วจาวเฟิงยังติดต่อกับหวังโหลวตลอดเลยด้วย พวกเขาน่าจะเป็นพันธมิตรกันอยู่”
พอไป๋ยี่เฟยได้ยินเรื่องพวกนี้เขาก็ต้องขมวดคิ้ว “สิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมดนี้ผมรู้มาก่อนแล้ว”
ทันทีที่หลิ่วจาวเฟิงขึ้นมาบริหารโหวจวี๋กรุ๊ปเขาก็รู้แล้วว่านี่มันต้องเป็นฝีมือของหลิ่วจาวเฟิงแน่นอน แถมช่วงนี้ยังมีเบาะแสของหวังโหลวออกมาอีก พอเอาเรื่องทั้งหมดมารวมเข้าด้วยกัน มันก็สามารถสรุปได้ว่าหลิ่วจาวเฟิงกับหวังโหลวต้องร่วมมือกันแน่นอน
เขาแค่ไม่รู้ว่าหลิ่วจาวเฟิงกับหวังโหลวเริ่มร่วมมือกันเมื่อไหร่ก็เท่านั้น แต่เรื่องพวกนี้มันก็ไม่สำคัญ เพราะยังไงมันก็แค่เท่านั้น ไม่ว่ามันจะเริ่มต้นเมื่อไหร่มันก็ไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น
พอเซียวหรงเทาได้ยินไป๋ยี่เฟยพูดมาแบบนั้น มันก็ยิ่งทำให้เขาร้อนรนมากขึ้นไปอีก เขารีบคิดหาข้อมูลที่พอจะเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้บ้าง จากนั้นแววตาของเขาก็เป็นประกาย แล้วพูดออกมาอย่างร้อนรนว่า “ฉันยังรู้อีกด้วยนะว่าภรรยาของแกตอนนี้อยู่ที่ไหน”
“ตอนนี้เธออยู่ที่ คอนโดชิงย่วนเลขที่28”
แววตาของไป๋ยี่เฟยมืดลงทันที “แล้วผมจะมั่นใจได้ยังไงล่ะว่าสิ่งที่คุณพูดมามันจริงรึเปล่า?”
“ฉันพูดจริงๆ นะ! ฉันรับประกัน! ฉันได้ยินมากับหูเลย ฉันได้ยินตอนที่หลิ่วจาวเฟิงคุยโทรศัพท์กับหวังโหลว!” เซียวหรงเทาพยักหน้าถี่ๆ กลัวว่าจะพูดช้าไปจนทำให้สวีลั่งฆ่าเขาไปซะก่อน
แววตาที่เย็นชาของไป๋ยี่เฟยกวาดมองไป จากนั้นเขาก็ถอยหลังสองก้าว
เซียวหรงเทาไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง เขารู้สึกงง “ไป๋ยี่เฟยฉันบอกทุกอย่างที่รู้ไปแล้ว แกปล่อยฉันไปเถอะนะ! ต่อไปฉันจะไม่ต่อต้านแกอีกแล้ว……”
“ได้ผมจะไม่ฆ่าคุณ” ไป๋ยี่เฟยตอบมาแบบเรียบเฉย
เมื่อเซียวหรงเทาได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกดีใจอย่างถึงที่สุด แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ยิ้มออกมา ก็ได้ยินไป๋ยี่เฟยพูดขึ้นว่า
“หักขาเขาซะ”
สิ้นเสียง สวีลั่งก็หยิบท่อไม้ขึ้นมาท่อนหนึ่ง แล้วหวดลงไปอย่างแรง จากนั้นเสียงกระดูกที่แตกหักกับเสียงกรีดร้องของเซียวหรงเทาก็ดังขึ้น
ไป๋ยี่เฟยพูดออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ผมบอกแล้วไง ว่าจะไม่ฆ่าคุณ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่คิดบัญชีกับคุณสักหน่อย!”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยก็เดินจากไป
ไป๋หู่กับฉางเชี่ยวก็เดินตามหลังไป
สวีลั่งมองมาที่เซียวหรงเทาทีหนึ่งก่อนจะขำออกมา แล้วหวดลงไปที่ขาอีกข้าง จากนั้นก็โยนท่อนไม้ทิ้งแล้วเดินตามพวกไป๋ยี่เฟยไป
เซียวหรงเทาล้มลงกับพื้น อวดครวญด้วยความเจ็บปวด ภายในซอกซอยเล็กๆ กับค่ำคืนที่มืดมิดแบบนี้ไม่มีใครผ่านมาเห็นแน่นอน ต่อให้มีคนมาช่วย แต่ขาทั้งสองข้างของเขาก็คงพิการไปแล้ว
“ไป๋ยี่เฟย! ฉันเกลียดแก!” เซียวหรงเทาเอามือกุมขาทั้งสองข้างของตัวเอง แล้วแสดงความอาฆาตที่ไม่เคยมีมาก่อนออกมา
……
หลังจากที่พวกไป๋ยี่เฟยออกจากซอยมา พวกเขาก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
ไป๋ยี่เฟยกลับไปที่วิลล่า แล้วเขาก็ต้องทนกับความรู้สึกที่อ้างว้างของวิลล่าแห่งนี้อีกครั้ง เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่าถ้าเรื่องในครั้งนี้สามารถผ่านไปได้อย่างราบรื่นละก็ เขาจะไปซื้อบ้านหลังใหม่ บ้านที่มีแค่สามห้องนอนกับหนึ่งห้องรับแขกก็พอแล้ว
พออาบน้ำเสร็จ ไป๋ยี่เฟยก็มานอนอยู่บนเตียง พร้อมกับความวุ่นวายที่มีอยู่เต็มอก
พอได้รับรู้ข้อมูลที่เซียวหรงเทาให้มา เขาก็อยากจะไปหาหลี่เสว่ในทันที แต่พอเอาเข้าจริงเขากลับรู้สึกไม่กล้าขึ้นมา
ในเมื่อหลี่เฉียงตงบอกแล้วว่าหลี่เสว่นั้นปลอดภัยดี ถ้าเกิดเขาไปหาเธอมันก็อาจจะเปิดเผยตำแหน่งของเธอได้ แล้วมันก็จะทำให้เธอเป็นอันตรายได้ไม่ใช่เหรอ?
……
หลังจากทำใจอยู่นาน สุดท้ายไป๋ยี่เฟยก็ตัดสินใจได้สักที เขาจะไปหาเธอสักหน่อยดีกว่า
ตอนนี้ก็ตีสองแล้ว คนส่วนใหญ่คงนอนไปแล้ว คงไม่มีใครมาตามเขาแล้วล่ะ ว่าแล้วเขาก็ลุกขึ้นมาแต่งตัว ใส่ชุดดำทั้งตัวแล้วออกจากห้องไป
ทันทีที่ออกมา เขาก็เจอกับสวีลั่งเข้า
“เชี่ย! ตกใจหมดเลย!” ไป๋ยี่เฟยเอามาตบหน้าอกด้วยความตกใจ
สวีลั่งดูไม่ได้ตกใจอะไร “คุณจะออกไปหาเธอเหรอครับ?”
“ใช่ แค่ได้เห็นก็พอ แค่ได้เห็นเธอผมก็สบายใจแล้ว” ไป๋ยี่เฟยตอบ
สวีลั่งร้องอ๋อ “เดี๋ยวผมไปเป็นเพื่อน”
ไป๋ยี่เฟ้ยถลึงตาใส่เขา “ผมจะไปหายภรรยาของผม คุณจะตามไปทำไม?”
สวีลั่งมองบน “ตอนนี้คุณออกไปข้างนอกมันไม่ปลอดภัย”
“ผมรู้ ผมเลยเลือกที่จะออกไปตอนนี้ไง ไม่ต้องเป็นห่วง ไม่มีอะไรหรอก” ไป๋ยี่เฟยตบไหล่ของสวีลั่ง “การที่ผมไปคนเดียวมันดูจะเข้าท่ากว่านะ จะได้ไม่เป็นที่สังเกตมากนักไงล่ะ”