บทที่ 459
คนรอบข้างเห็นแล้วต่างก็มองหน้าสบตากัน คำพูดของไป๋ยี่เฟยเมื่อกี้พวกเขาก็ได้ยินแล้ว หน้าหลังติดต่อกัน พบว่าพวกเขาถูกหลอกใช้แล้ว
ความจริงแล้วไม่ใช่ไป๋ยี่เฟยรังแกคน แต่ไป๋ยี่เฟยเพราะเรื่องของหลี่ฝานถึงรังแกคน และไป๋ยี่เฟยยังพูดถึงปู่ หมายความว่าหลี่ฝานไม่ใช่คนกตัญญู
คิดแล้ว หลี่ฝานที่พูดโกหก ก็เพราะอยากให้พวกเขาต่อว่าไป๋ยี่เฟย
ทันใดนั้น สายตาทุกคนที่มองหลี่ฝานก็เริ่มไม่เป็นมิตร ดูถูกยิ่งกว่าสายตาที่มองไป๋ยี่เฟยเมื่อครู่อีก
หลี่ฝานทนสายตาแบบนี้ไม่ได้ ต้องบอดี้การ์ดที่กำลังลุกขึ้นแล้วตะโกน “พวกแกยังไม่ไปอีก……”
บอดี้การ์ดพยายามฟังคำพูดของหลี่ฝานและพอเข้าใจ จึงรีบเข้าไปเข็นหลี่ฝาน ออกจากกลุ่มผู้คน
……
ค่ำคืนมาถึง ไฟสองข้างทางเริ่มสว่าง ไฟกะพริบของร้านค้าก็พากันเปิด สว่างไสว
ข้างถนนสายเก่าแห่งหนึ่ง มีคนยืนอยู่มากมาย ในมือถือไม้
คนเดินผ่านมองเห็น ก็รีบก้มหน้าเดินจากไป
ละแวกนี้เดินผ่านเห็นคนชกต่อยเป็นเรื่องธรรมดา เคยชินกันแล้ว ดังนั้นพอเห็นสิ่งแรกก็คือรีบออกห่าง
ไม่นาน ละแวกใกล้เคียงก็ไม่มีคนแล้ว
เวลานี้ คนที่เป็นหัวหน้า ใส่ชุดกีฬา มือข้างหนึ่งถือไม้ ข้างหนึ่งถือบุหรี่ มองไปที่ร้านเหล้าตรงข้าม “ทำไมคนยังไม่มา?”
“พี่ใหญ่ หรือว่าข่าวผิดพลาด?” ลูกน้องคนหนึ่งพูดอย่างสงสัย
ชายที่เป็นหัวหน้ามองลูกน้อง “ไม่ผิดแน่ ข่าวต้องจริงอยู่แล้ว ฝั่งตรงข้ามไม่ให้ข่าวปลอมแน่”
“งั้น……” ลูกน้องไม่รู้ควรทำยังไง
หัวหน้าทำเสียงรำคาญ “ไป พวกเราบุก ไม่ว่าเร็วหรือช้า ยังไงก็ต้องทุบ”
พูดจบ คนทั้งกลุ่มก็เดินเข้าร้านเหล้า
ในร้านเหล้า แสงไฟสว่างไสว ผู้คนเข้าๆออกๆ ทั้งตรงบาร์ ที่นั่ง ถูกนั่งจนเต็ม และดนตรีเสียงดัง ทำให้คนต้องเคลิ้มตาม
เมื่อมีชายยี่สิบคนบุกเข้ามา บางคนก็ไม่เห็นพวกเขา ยังทำในสิ่งที่ตัวเองทำอยู่ พูดได้ว่าไม่ใส่ใจพวกเขา
ผู้ชายรู้สึกไม่พอใจ โบกมือ “ทุบ”
พูดจบ ลูกน้องข้างหลังก็บุกกันเข้าไป เห็นอะไรก็ทุบ
“อ๊าก”
“ปัง”
“แพร๊ง”
ทันใดนั้น ในร้านเหล้าที่ครึกครื้น ก็มีแต่เสียงคนกรีดร้อง เสียงขวดแก้วแตก และเสียงข้าวของแตกกระจาย
ผู้คนในร้านเหล้าต่างก็ตกใจ เห็นสถานการณ์ไม่ดี ต่างก็พากันหนี ไม่นาน ภายในร้านเหล้าก็เหลือเพียงพนักงาน แล้วก็กลุ่มคนที่มาทุบร้าน
พนักงานในร้านพอเห็นก็พากันหลบ หนึ่งในนั้นเป็นคนดูแลร้าน รีบวิ่งไปชั้นสองไปหาลูกพี่ของพวกเขา หัวล้านหลิว
เวลานี้หัวล้านหลิวกำลังคุยธุระกับชายคนหนึ่งในห้องรับรอง มีคนเข้ามาทำให้เขาตกใจ หน้าดำไปทันที “ทำอะไร? รีบร้อนแบบนี้”
“ลูกพี่ มีคนมาทุบร้าน แขกหนีไปหมดแล้ว โต๊ะเก้าอี้เหล้าโดนทุบทิ้งหมดแล้ว”
หัวล้านหลิวได้ยินก็ตะลึง แล้วพยักหน้า พูดเสียงเรียบ “ให้พวกเขาทุบ เดี๋ยวก็มีคนมาจัดการพวกเขา”
พูดจบ หัวล้านหลิวโบกมือ ให้เขาออกไป
คนที่ดูแลร้านรู้สึกงง ออกไปแล้วยังยืนงงอยู่พักใหญ่
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ลูกพี่รู้ว่าร้านถูกทุบ คงพาลูกน้องเข้าไปจัดการแล้ว แต่วันนี้เป็นอะไร? ทำไมถึงได้นิ่งเฉยขนาดนี้? ก็เพราะว่าเดี๋ยวจะมีคนมาจัดการพวกเขา?
แล้วใครกันที่จะมา? หรือว่าลูกพี่รู้เรื่องนี้ก่อนแล้ว จึงได้แจ้งลูกน้องที่อื่นไว้ล่วงหน้า?
ในห้องรับรอง หัวล้านหลิวมองชายที่หน้าตรงข้าม สายตาครุ่นคิด จากนั้นก็พูดเสียงเรียบ “ผมเป็นคนหยาบ ไม่อยากเข้าร่วมกับพวกคุณ อีกอย่างผมกับไป๋ยี่เฟยก็มีความสัมพันธ์แค่เรื่องเงิน ไม่ได้รู้จักกัน”
ชายตรงข้างหัวเราะ “ผมรู้ ผมมาหาคุณไม่ใช่เพราะเรื่องนี้”
“ถ้าอย่างนั้นคุณต้องการอะไร?” หัวล้านหลิวมองเขาอย่างระมัดระวัง
ชายตอบ “ผมมาเพื่ออยากให้คุณช่วยเขาต่อ อย่ามองว่าเขาตกอับตอนนี้ ก็หันไปหาคนอื่น”
“หมายความว่ายังไง?” หัวล้านหลิวไม่เข้าใจ “ให้ผมช่วยไป๋ยี่เฟยต่อ? แต่ผมไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเขามากกว่านี้”
“อีกอย่าง คุณเป็นคนดึงเขาลงไปเอง ตอนนี้มาให้ผมช่วยเขา?”
ผู้ชายพยักหน้า “สองเรื่องนี้ก็ไม่ได้ขัดกัน”
หัวล้านหลิวไม่เข้าใจ “พวกคุณเป็นเพื่อนเรียนด้วยกัน ทำไมต้องทำแบบนี้?”
ขณะนี้ผู้ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามหัวล้านหลิวก็คือเพื่อนเรียนเพื่อนรักของไป๋ยี่เฟย หวังโหลว
หวังโหลวสีหน้าไร้อารมณ์ “เพื่อนกัน ดังนั้นถึงไม่อยากให้เขาล้มเหลวจนรันทดเกินไป”
หัวล้านหลิวสีหน้าแปลกใจ ไม่พูดอะไร
หวังโหลวพูดต่อ “เรื่องนี้ไม่มีผลร้ายต่อคุณ เพราะว่า เขาก็ไม่ใช่คนธรรมดา”
“ถ้าคุณพูดแบบนี้แล้ว เขาก็ต้องลุกขึ้นมาใหม่ได้ ถ้าถึงเวลากลับมาแก้แค้นคุณ แล้วคุณ……” หัวล้านหลิวไม่ได้พูดต่อ
หวังโหลวตะลึง กำมือตัวเองแน่น “ลุกขึ้นมาใหม่ก็ดี แต่ว่า ถึงเวลาค่อยว่ากัน”
หัวล้านหลิวพูด “ไม่เข้าใจคนอย่างพวกคุณจริงๆ”
“คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจ เข้าใจมากไป ยิ่งตายเร็ว” หวังโหลวพูดเสียงเรียบ
หัวล้านหลิวตกใจ จากนั้นก็ไม่ถามอะไรอีก
ความจริงหวังโหลวไม่ต้องมาบอกเขาโดยเฉพาะ เขาก็เลือกที่จะช่วยเหลือไป๋ยี่เฟยในยามที่เขาต้องการ ไม่เพียงแค่ไป๋ยี่เฟยคนนี้ร่วมงานแล้วดี แต่เป็นเพราะไป๋ยี่เฟยช่วยเหลือน้องสาวเขาหลิวเสีย
……
ชั้นหนึ่งร้านเหล้า คนยี่สิบกว่าคนยังทุบร้านต่อโดยไม่เว้นสักชิ้น ข้างกายคนที่เป็นหัวหน้ามีลูกน้องยืนด้วยเพียงคนเดียว ลูกน้องตะโกนกับพนักงานจากคำสั่งลูกพี่ “เรียกหัวหน้าพวกแกหัวล้านหลิวออกมา”
พนักงานมองหน้ากันไปมา ไม่มีคนขยับ
ลูกน้องเห็น ก็ตะโกนอีกรอบ “ไม่ได้ยินหรือไง? ยังไม่รีบไปอีก ลูกพี่พวกเรารีบ อย่ามาเสียเวลา ไม่อย่างนั้น พวกแกจะโดนทุบด้วย”
“ใครหน้าไหนมันกล้ามาก่อเรื่องในถิ่นกู?” หัวล้านหลิวส่งหวังโหลวแล้ว ก็เดินลงมาจากชั้นสอง มีลูกน้องตามหลังมาด้วยคนหนึ่ง
ลูกน้องคนที่ตะโกนพอเห็นคนลงมา ก็พูดอย่างอวดดี “แกคือหัวล้านหลิว? รีบมาให้กูกระทืบ”
พนักงานได้ยินแล้ว ก็หันไปมองหัวล้านหลิว ติดตามลูกพี่มานาน ยังไม่เคยเห็นคนพูดกับลูกพี่แบบนี้
หัวล้านหลิวเดินมาถึงหน้าบาร์ มองสองคนที่ยืนอยู่ข้างหน้า หัวเราะ “ไม่ทราบว่าผมไปทำอะไรสองท่าน ถึงมาทุบร้านของผม ยังจะกระทืบผม?”
“แกไปสร้างปัญหากับใครไว้ จะไม่รู้หรือไง?” ลูกพี่ฝั่งโน้นทำเสียง
หัวล้านหลิวยักไหล่ “ฉันไปสร้างปัญหาไว้กับคนมากมาย จะไปรู้ได้ยังไงว่าเป็นใคร?”
“แก”
ทั้งสองคนพูดไม่ออก จากนั้นคนที่เป็นลูกพี่ก็พูด “มารวมตัวกันตรงนี้ กระทืบมัน”
พูดจบ คนที่มาทุบร้านก็มารวมตัวกัน ล้อมหัวล้านหลิวกับพนักงานไว้
หัวล้านหลิวกับพนักงานรวมกันก็แค่สิบกว่าคน ในมือก็ไม่มีอาวุธ แต่คนตรงข้าม เตรียมตัวมาอย่างดี ยี่สิบกว่าคน มือถือไม้ทุกคน
ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังจะปะทะกัน ประตูร้านเหล้าก็มีคนเดินเข้ามา นั่นก็คือไป๋ยี่เฟย
“ขอโทษด้วย ที่มาช้า”
หัวล้านหลิวเห็นไป๋ยี่เฟย ก็รีบต้อนรับ “เถ้าแก่ ไม่เจอกันนาน วันนี้ทำไมถึงมีเวลามา?”
“พอแล้ว อย่าบอกว่านายไม่รู้เรื่องนี้” ไป๋ยี่เฟยโบกมือ เดินไปข้างหน้าของคนยี่สิบคนนั้น
หัวล้านหลิวอึ้ง เขารู้ว่ามันเรื่องอะไร หวังโหลวเล่าให้เขาฟังแล้ว เพราะว่าก่อนหน้านี้เขาช่วยไป๋ยี่เฟยไปทุบโรงงานเครื่องประดับของเฝิงหย่งก้าง ดังนั้นเฝิงหย่งก้างจัดการไป๋ยี่เฟยไม่ได้ จึงมาจัดการเขา
“ทางนี้ผมจัดการเองได้” หัวล้านหลิวหัวเราะพูดไป
ไป๋ยี่เฟยโบกมือ “เรื่องนี้พูดไปแล้วก็เป็นเพราะผม ฉะนั้นผมเลยมา”
หัวล้านหลิวไม่ได้พูด ในใจยิ่งมีความเชื่อถือในตัวไป๋ยี่เฟย ถ้าเป็นพวกเถ้าแก่เมื่อก่อน เกิดเรื่องแบบนี้ ก็ตัดความสัมพันธ์ไปตั้งนานแล้ว ใครจะมาช่วยเขา?