บทที่441
โรงพยาบาลโว่หลงสร้างอยู่ในที่ที่ห่างไกล พื้นที่รอบๆ ไม่ค่อยเจริญนัก เพราะงั้นไป๋ยี่เฟยใช้เวลาขับรถอยู่นานกว่าจะพาหลิวเสี่ยวอิงหาร้านอาหารเจอ
มาถึงร้านอาหารร้านหนึ่ง สั่งอาหาร
อาหารเสิร์ฟครบ ข้างๆ ไป๋ยี่เฟยก็ได้มีผู้หญิงคนหญิงเดินผ่าน อายุประมาณสิบเจ็ดสิบแปด หญิงสาวคนนั้นหยุดอยู่หน้าไป๋ยี่เฟยไปไม่กี่วิ สุดท้ายก็ได้หึออกมา แล้วจากไป
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกประหลาดใจ ก็ได้เงยหน้าไปดู เวลานี้ก็ได้ตกใจทันที นั่นเป็นหญิงสาวที่จะฆ่าเขาในวันนั้นไม่ใช่เหรอ?
หลิวเสี่ยวอิงเห็นก็ได้โบกมือ “ทำไม? จะเปลี่ยนใจเร็วขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่จริงรวมตัวกันน่า? นายจะเปลี่ยนใจ ก็น่าจะถึงฉันก่อนดิ?”
“เธอคิดมากไปแล้ว ก็แค่เจอกับคนที่ถือว่ารู้จักคนหนึ่งเท่านั้น” ไป๋ยี่เฟยพูดไปเรียบๆ
หลิวเสี่ยวอิงเงยหน้าไปมองหญิงสาวคนนั้น หน้าตาก็ถือว่าไม่เลว ก็แค่เด็กไปหน่อย น่าจะอายุเด็กกว่าไป๋ยี่เฟยสิบปีได้
“นายรู้จักกันยังไง?” หลิวเสี่ยวอิงถามด้วยความสงสัย
ไป๋ยี่เฟยเงยหน้ามองเธอ “วันที่โดนวางยาพิษ เธอเป็นคนที่บงการเบื้องหลัง”
“อะไรนะ?” หลิวเสี่ยวอิงร้องออกมาอย่างตกใจ ก็ได้หันไปมอง พอดีกับ ที่หญิงสาวคนนั้นได้มองมา แต่ว่าสายตานั้นเย็นชา ไม่มีความรู้สึกอื่นๆ มาปน
หลิวเสี่ยวอิงก็ได้หันกลับ ถามเสียงเบา “นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย? นายไม่ไปตรวจสอบหน่อยเหรอ?”
“ไม่มีอะไรน่าตรวจสอบ”
ไป๋ยี่เฟยคิดว่า ก็แค่หญิงสาวที่หลงใหลในฉุงโยวเวยเท่านั้น
หลิวเสี่ยวอิงก็ได้พูดออกไปอย่างไม่สบอารมณ์ “ตอนนี้นายอยู่ในจุดที่ตกเป็นเป้าได้ง่าย ไม่ว่าคนแบบไหนก็ควรที่จะไปตรวจสอบถึงจะถูก ถ้าเกิดเป็นคนที่ไม่ธรรมดาล่ะ?”
“ก็แค่หญิงสาวอายุสิบเจ็ดสิบแปด จะไปเป็นคนที่ไม่ธรรมดาแบบไหน?” ไป๋ยี่เฟยก็ได้พูดอย่างไม่ใส่ใจ
หลิวเสี่ยวอิงหงุดหงิดมากๆ จากนั้นก็ได้นึกถึงอีกคำถามหนึ่ง “จริงด้วย เธอทำไมถึงหาคนมาฆ่านาย? นายไปมีเรื่องกับเธอตอนไหน?”
“ฉุงโยวเวย” ไป๋ยี่เฟยก็แค่พูดออกมาสามคำ จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไร
หลิวเสี่ยวอิงก็เพราะสามคำนี้ก็ได้เข้าใจเลยทันที
“เป็นสาวน้อยที่ดีแท้ๆ ทำไมถึงได้กลายเป็นแบบนี้ล่ะเนี่ย?” หลิวเสี่ยวอิงก็อดบ่นออกมาไม่ได้
ไป๋ยี่เฟยก็ได้ขำออกมาแต่ไม่มีเสียง เขาก็อยากรู้
แล้วก็ได้เงียบอีกครั้ง ไป๋ยี่เฟยอยู่ๆ ก็ได้พูดออกมา “ เฝิงจั๋ว นายให้คนไปตามสืบหน่อย”
“รู้แล้ว” หลิวเสี่ยวอิงพยักหน้า อำนาจของเฝิงจั๋วเยอะเกินไป จะให้คนไม่สงสัยประวัติเขาก็ไม่ได้
……
ทานข้าวเสร็จ ไป๋ยี่เฟยก็ได้ไปเอารถที่ลานจอดรถ ก็ได้เห็นผู้หญิงคนนั้นพอดี หรือก็คือฉุงลี่หย่า
เพราะงั้นในเวลาเดียวกัน ข้างๆ ฉุงลี่หย่าก็ได้มีผู้ชายร่างโตอีกไม่กี่คน มองแล้วเหมือนเป็นบอดี้การ์ด
เห็นถึงตรงนี้ ไป๋ยี่เฟยก็อดคิดไม่ได้ วันนั้นเธออยู่ที่โรงน้ำชาคนเดียวแท้ๆ ข้างๆ ไม่มีบอดี้การ์ดสักคน ตอนนี้กลับมีบอดี้การ์ด ทำไม?
ตามหลักแล้ว ถึงแม้ว่าช่วงปกติ ข้างๆ เธอก็ต้องมีบอดี้การ์ดอยู่ถึงจะถูก แต่ว่าเหตุการณ์อย่างวันนั้น กลับอยู่คนเดียว หรือว่าไม่กลัวที่จะตกอยู่ในอันตราย?
ถ้าเกิดเวลานั้นเขาอย่างจะฆ่าจริงๆ งั้นเธอก็คงตายไปแล้ว?
ไม่รอให้ไป๋ยี่เฟยคิดนาน ฉุงลี่หย่าก็ได้ให้คำตอบกับเขา
ทางฉุงลี่หย่าเหมือนว่ากำลังสั่งสอนบอดี้การ์ดของตน บอดี้การ์ดพวกนั้นเหมือนว่าดื่มเยอะไป ยืนไม่อยู่
ไป๋ยี่เฟยคิด: บอดี้การ์ดแบบนี้ยังจะเอาอีกทำไม?
เห็นฉุงลี่หย่ายกมือ แล้วก็ได้ตบลงไป ชายร่างใหญ่คนหนึ่งก็ได้ล้มไปนั่งกับพื้น
ไป๋ยี่เฟยเห็นภาพเหตุการณ์แบบนั้นก็ได้อึ้ง
หญิงสาวอายุสิบเจ็ดสิบแปดแรงตบจะมีเยอะขนาดไหนเชียว ยังไงซะไม่สามารถที่จะตบทำเอาชายร่างยักษ์ล้มไปนั่งกับพื้นได้ นี่ก็ได้อธิบายได้แล้วว่า ตัวเธอนั้นมีความสามารถ
แล้วก็ได้อธิบายแล้วว่าทำไมวันนั้นฉุงลี่หย่าถึงอยู่คนเดียว
ไป๋ยี่เฟยรู้สึกโชคดีที่ตัวเองไม่ได้คิดฆ่าเธอ ไม่อย่างนั้น วันนั้นเป็นไปได้ว่าได้ตายไปแล้ว
เห็นภาพแบบนั้น ไป๋ยี่เฟยก็ไม่ได้ดูต่อ ก็แค่จำทะเบียนรถที่เธอพิง ที่หลิวเสี่ยวอิงพูดก็ถูก เขาควรไปสืบประวัติหญิงสาวคนนั้นแล้ว
……
สองวันให้หลัง ไป๋ยี่เฟยก็ได้เจอกับฉางเชี่ยวที่หน้าประตูบริษัทโหวจวี๋กรุ๊ป
“ไป๋ยี่เฟย” ฉางเชี่ยวก็ได้ขวางไป๋ยี่เฟยไว้ตรงทางเดิน
ไป๋ยี่เฟยได้หยุดเท้าลง มองอีกฝ่ายด้วยความสงสัย “นายรู้จักฉัน?”
“ฉันชื่อฉางเชี่ยว” ฉางเชี่ยวก็ได้แนะนำตัวเอง
ไป๋ยี่เฟยได้ยินก็ได้ระวังตัวขึ้นมา “นายมาทำไม?”
“นัดนาย” ฉางเชี่ยวตอบไปเรียบๆ
ไป๋ยี่เฟยก็ได้มีสีหน้าตกใจ “ไม่นัด ฉันชอบผู้หญิง อีกเป็นมีภรรยาแล้ว”
สีหน้าของฉางเชี่ยวก็ได้เสียทันที “ไอ้เวรนี่……”
ไป๋ยี่เฟยก็แค่พูดตลกออกไปเท่านั้น จากนั้นก็ได้พูดอย่างจริงจัง “ฉันไม่อยากที่จะเสียเวลากับนาย ไม่ต้องมาหาฉันแล้ว”
ฉางเชี่ยวมองไป๋ยี่เฟยก็ได้เดินออกไปก็ได้รีบพูดออกไปว่า “นายอยากให้ฉันไปที่ฝูรุ่ยจิวเวลรี่เหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยก็ได้หยุดทันที หันตัว จ้องฉางเชี่ยวด้วยความเยือกเย็น “นายลองดู!”