ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ – ตอนที่ 283

บทที่ 283

แบบนี้มันจะทนได้เหรอ?

ไป๋ยี่เฟยเงยมองขึ้น สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาก“ทำไมผมไม่ยักจะรู้ว่าภรรยาของผมไปรู้จักกับคุณ?”

ซูต้าหลิวอึ้งตะลึงไป

เมื่อตะกี้ตอนที่สองคนนี้มาถึงก็เว้นระยะหน้าหลังห่างกันขนาดนั้น แถมไม่ได้พูดคุยกันเลยสักนิด เขาก็เลยนึกว่าพวกเขาไม่รู้จักกัน

แต่ผลที่ได้ พวกเขาเป็นสามีภรรยากัน!

หลังจากที่ซูต้าหลิวรู้อึดอัดอยู่สักพัก จู่ๆก็คิดๆ ไม่ใช่สิ ไอ้เด็กจนๆคนนี้จะแต่งงานกับหญิงที่สวยขนาดนี้ได้ยังไง พูดมั่วซั่วเอาเองมากกว่า?

ดูเหมือนจะเหมือนกับที่เขาคิดไว้ ก็เลยจงใจไม่แลกที่นั่งสินะ ถึงยังไงสาวสวยแบบหลี่เสว่นี้ ใครๆต่างก็อยากนั่งด้วยทั้งนั้น!

หลังจากที่ซูต้าหลิวคิดได้ถึงตรงนี้ ก็โชว์นาฬิกาทองที่ข้อมือของตัวเอง“เด็กหนุ่มที่ไม่มีเงินแบบแกพูดมั่วซั่วอะไร?”

“คนจนๆน่าสมเพชแบบแกเนี่ยนะ จะมาเป็นสามีภรรยากับสาวสวยแบบนี้ แกกำลังล้อเล่นอะไรอยู่? ถ้าบอกว่าฉันเป็นสามีภรรยากับเธอถึงจะถูก!”

ไป๋ยี่เฟยสีหน้าดำมืด

บ้านแกสิ!นั่นมันภรรยาของฉัน!

“ลุง ที่ผมพูดเมื่อกี้เป็นเรื่องจริงนะ”ไป๋ยี่เฟยเรียกลุงออกมาตรงๆ บอกเป็นนัยว่าอายุของพวกเขามันไม่เหมาะสมกันมากขนาดไหน

ซูต้าหลิวถูกสาวสวยเรียกว่าลุงเขายอม แต่ถูกไป๋ยี่เฟยเรียกลุง รู้สึกขัดใจอยู่ไม่น้อย

“แกเรียกฉันว่าอะไรนะ? แกไม่รู้จักการพูดการจา? มาจากบ้านนอกอย่างที่คิดไว้สินะ”สีหน้าดุดัน“ต้องเรียกว่าพี่ชายเข้าใจไหม?”

“ขอโทษนะครับ ผมไม่มีพี่ชาย”

ไป๋ยี่เฟยไม่อยากพูดอะไรมากมายกับเขา เลยนั่งหันตัวไป รถไฟเริ่มแล่นออกไปช้าๆ มุ่งไปยังเมืองเทียนเป่ย

ซูต้าหลิวในตอนนี้ก็ยิ่งรู้สึกโกรธมากขึ้น ไอ้เด็กเหลือขอที่ไม่มีเงินแท้ๆยังคิดที่จะครอบครองสาวสวย อย่าได้หวังไปเลย!เขาจะทำให้ไป๋ยี่เฟยได้รู้ ว่าคนที่มีเงินต่างหากล่ะถึงจะได้ครอบครองสาวสวย

ดังนั้นซูต้าหลิวก็เลยหยิบมือถือออกมา แสร้งทำเป็นโทรออกไป“ฮาโหล ตอนนี้ผมอยู่บนรถไฟแล้ว คุณแจ้งให้เลขาของท่านประธานโหวจวี๋ทราบ ว่าผมใกล้จะถึงแล้ว ให้เขามารับผม ถ้าช้าล่ะก็ โปรเจกต์นี้ ผมจะยุติลงทันที”

ซูต้าหลิวจงใจพูดขึ้น ดังนั้นเสียงจึงดังมาก ที่นั่งสองสามแถวตรงนั้นได้ยินกันหมด

ไป๋ยี่เฟยหันไปด้วยความแปลกใจ จ้องซูต้าหลิว

ซูต้าหลิวสังเกตเห็นสายตาของไป๋ยี่เฟย รู้สึกสะใจมาก จากนั้นก็เสแสร้งพูดขึ้นต่อ“อื้อ ให้ประธานโหวจวี๋อะไรนั้นรอก่อน น่าจะอีกประมาณสองชั่วโมงกว่าๆ!”

คนที่ไม่รู้เรื่องด้วยต่างก็พากันตกใจ คนคนนี้มีสถานะเป็นถึงอะไรกัน? ถึงได้ให้ประธานโหวจวี๋รอได้?

ทุกคนล้วนแต่กำลังไปยังเมืองเทียนเป่ย แน่นอนว่าต้องรู้จักโหวจวี๋กรุ๊ปผู้ประกอบการแถวหน้าของเมืองเทียนเป่ยเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย แววตาเต็มไปด้วยความสนใจ

หลี่เสว่ก็มองซูต้าหลิวด้วยความอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน ในใจคิดว่า โหวจวี๋ก็เป็นของไป๋ยี่เฟยไม่ใช่เหรอ?

โจวฉวี่เอ๋อและหลิวเสี่ยวอิงเมื่อก่อน ทั้งสองคนก็เคยพูดถึงเรื่องของไป๋ยี่เฟย แน่นอนต้องบอกหลี่เสว่ว่าโหวจวี๋เป็นของไป๋ยี่เฟยอยู่แล้ว

แต่หลี่เสว่สูญเสียความทรงจำไปแล้ว เข้าใจแค่นี้เท่านั้น แต่ไม่รู้ว่าโหวจวี๋หมายถึงอะไรเลยแม้แต่น้อย

ซูต้าหลิวคุยโทรศัพท์เสร็จ ก็มองไป๋ยี่เฟยอย่างเยาะเย้ย ก่อนจะพูดกับหลี่เสว่“สาวน้อย ที่ฉันไปเมืองเทียนเป่ยในครั้งนี้ ก็เพื่อไปร่วมงานกับโหวจวี๋ หลังจากนี้ถ้าหนูมีปัญหาอะไร มาหาฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ”

หลี่เสว่สีหน้าสับสนมึนงง จากนั้นก็มองไป๋ยี่เฟย

หลังจากที่ไป๋ยี่เฟยฟังจบแล้ว“อุ๊บ”หลุดขำออกมา

ซูต้าหลิวเห็นแบบนี้สีหน้าก็ดำมืดขึ้นมาทันที“แกขำอะไร? มีอะไรน่าขำงั้นเหรอ!กะอิแค่คนจนๆ กล้าขำฉัน? เชื่อไหมว่าฉันสามารถบอกประธานโหวจวี๋ ทำให้แกใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเทียนเป่ยไม่ได้อีก!”

ไป๋ยี่เฟยหันหัวไป พูดขึ้นอย่างนิ่งๆ“ผมไม่เชื่อ ก่อนจะพูดพล่ามไปทั่ว หัดดูให้ดีๆก่อน คุณกำลังโทรศัพท์คุยกับประธานของโหวจวี๋เรื่องร่วมงานกันต่อหน้าเขาเนี่ยนะ ตั้งใจมาเล่นตลกหรือไง?”

ซูต้าหลิวไม่เข้าใจ“หมายความว่าไง?”

ไป๋ยี่เฟยส่ายหัว ก่อนจะชี้ตัวเองพร้อมกับพูดขึ้น“ผมก็คือประธานของโหวจวี๋ยังไงล่ะ”

ซูต้าหลิวระเบิดหัวเราะออกมาทันที“ฮ่าๆ……ให้ตายสิ แกเนี่ยนะเป็นประธานของโหวจวี๋? ฮ่าๆ……ถ้าแกเป็นประธานของโหวจวี๋ ฉันก็เป็นพ่อของท่านประธานแล้วล่ะ!”

ในตอนนี้ คนที่นั่งแถวหน้าแถวหลังสองแถวต่างพากันชูหัวขึ้น มองซูต้าหลิวกับไป๋ยี่เฟยด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ซูต้าหลิวเห็นแบบนี้ก็ยิ้มอย่างสะใจ“เด็กน้อย พูดไม่ออกแล้วสินะ? ถ้าจะพูดอวดเกินจริงก็ต้องพูดให้มันน่าเชื่อถือกว่านี้หน่อยนะ!แกรู้ไหมว่า ฉันรู้จักประธานของโหวจวี๋จริงๆ?”

ในตอนนี้เอง หญิงสาวที่มีเอกลักษณ์คนนั้นก็โผล่หัวขึ้นมา พูดออกมาด้วยความตกใจ“คุณรู้จักประธานของโหวจวี๋จริงเหรอ?”

ซูต้าหลิวเชิดหน้าขึ้น พูดขึ้นด้วยความภาคภูมิใจ“ก็ใช่น่ะสิ ที่ฉันไปเมืองเทียนเป่ยในครั้งนี้ ก็เพื่อไปร่วมงานกับเขา งานมูลค่าถึงหมื่นล้านน่ะนะ”

ผู้คนรอบข้างต่างตกใจกันไปตามๆกัน

นี่มันคนระดับสูงจริงๆนี่นา

ไป๋ยี่เฟยไม่ได้พูดอะไร ทำไมฉันไม่รู้เลยว่าต้องไปร่วมงานกับแก?

แถมยังเป็นงานร่วมมือกันที่มูลค่าถึงหลายหมื่นล้านอีก

ซูต้าหลิวเห็นไป๋ยี่เฟยไม่พูดอะไร ก็พูดขึ้น“เกรงว่าแกจะไม่เคยได้ยินเงินที่มีมูลค่ามากมายขนาดนี้สินะ ฮ่าๆ……”

“ฉันให้แกหนึ่งแสน แลกที่กับฉัน ว่าไง?”

“ดูจากสภาพของแกแล้ว น่าจะพอให้แกใช้ชีวิตไปได้อีกหลายปีเลยนะ”

คนรอบข้างได้ยินแบบนั้นต่างก็พากันอิจฉา

แค่แลกที่นั่งกัน ก็ได้เงินตั้งหนึ่งแสน คุ้มเกินไปแล้ว!

แต่ไป๋ยี่เฟยปฏิเสธ

“ผมไม่แลก”

สีหน้าที่สะใจของซูต้าหลิวหยุดชะงักลง“แกว่าไงนะ?”

“แกโง่เหรอ?”

“หนึ่งแสน แค่ให้แลกที่นั่ง แกไม่แลกเนี่ยนะ?”

ไป๋ยี่เฟยพูดขึ้นอย่างนิ่งๆ“หนึ่งล้านผมก็ไม่แลก!”

ผู้คนต่างพากันตกใจ เจ้าเด็กนี้ ช่างมีจริยธรรมจริงๆ!

ซูต้าหลิวยังไม่เคยเห็นคนโง่ที่เห็นเงินแล้วไม่เอามาก่อน จึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปอยู่สักพัก

ดังนั้น ซูต้าหลิวจึงหันไปพูดกับหลี่เสว่“สาวน้อย อยากเปลี่ยนที่กับคนที่นั่งอยู่ข้างๆฉันไหม?”

คนที่นั่งอยู่ข้างๆซูต้าหลิวเป็นหญิงอ้วนคนหนึ่ง เอาแต่หลับตลอดทาง พอมาตอนนี้ถูกเอ่ยถึงแล้ว ก็ยังไงไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา ยังคงดื่มด่ำอยู่ในความฝันของตัวเองต่อ

หลี่เสว่ส่ายหัว“ไม่ต้องหรอก”

ซูต้าหลิวรู้สึกอึดอัดไม่น้อย แต่ก็ยังพูดอย่างยิ้มๆ“สาวน้อย คนที่นั่งอยู่ข้างๆหนูคนนี้ ไม่ใช่คนดี มันจะรังแกหนูได้นะ หนูมานั่งที่ฉันนี่ ฉันจะได้ปกป้องหนูได้นะ!”

ไป๋ยี่เฟยเริ่มทนฟังต่อไปไม่ได้แล้ว“ลุง อายุปูนนี้แล้ว ยังมีหน้ามาทำกิริยาแบบนี้อีกเหรอ? กลัวคนไม่รู้หรือไงว่ากำลังเต๊าะผู้หญิงที่มีสามีอยู่แล้ว?”

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset