ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ – ตอนที่ 268

บทที่268

เรื่องทำร้ายร่างกายหลี่ฝาน หลี่ฝานนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากมาย แค่ให้เงินเขาไปก้อนหนึ่งก็เรียบร้อย ถึงหลี่ฝานจะไม่ค่อยเต็มใจก็เถอะ แต่เพื่อไม่ให้ถูกไป๋ยี่เฟยมาทำร้ายตัวเองอีก เขาจึงไม่มีทางเลือก

ส่วนร้านที่พังไป ชิงหยูเป็นพวกเห็นแก่เงินแค่ใช้เงินจัดการทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว

ซุนฮุยในตอนนี้แทบจะทรงตัวไม่อยู่แล้ว

ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้?

มันไม่เห็นเหมือนที่เขาคิดไว้เลยสักนิด

ทั้งๆ ที่มันเหลืออีกเพียงแค่ก้าวเดียวก็สามารถยึดโหวจวี๋ให้มาอยู่ในกำมือแล้วแท้ๆ มันผิดพลาดตรงไหนกันนะ?

หลังจากที่พวกผู้บริหารได้ฟังและเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว พวกเขาก็รู้สึกยิ่งหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นไปอีก

ในเมื่อไป๋ยี่เฟยไม่มีความผิด แล้วสิ่งที่พวกเขาทำไปเมื่อกี้มันจะไม่ทำให้ไป๋ยี่เฟยโกรธมากเลยเหรอ?

ฉินหัวเดินไปใส่กุญแจมือให้กับ ซุนฮุย “เชิญครับ!”

ซุนฮุยยังคงอึ้งอยู่ พอรู้ตัวว่ามีกุญแจถูกล็อกไว้ที่มือเขาก็อยากที่จะขัดขืนแต่ก็ถูกฉินหัวกดเอาไว้ได้

“ซุนฮุย ผมแนะนำให้คุณอย่าคิดทำอะไรโง่ๆ หลักฐานที่มีก็เชื่อถือได้ ถ้าคุณกล้าขัดขืนโทษของคุณจะยิ่งหนักนะครับ”

ซุนฮุยชะงักลง จากนั้นก็มองไปที่ไป๋ยี่เฟย “ไป๋ยี่เฟย แกตั้งใจแกล้งฉัน! แกอยากทำลายฉัน! แกมีสิทธิ์อะไร! ฉันไม่ยอมรับเด็ดขาด!”

ไป๋ยี่เฟยยิ้มออกมา “ห้าวจื่อ เอาให้เขาดู แล้วดูซิว่าเขาจะรับไปรึเปล่า?”

พูดจบ เฉินห้าวก็ได้ยื่นเอกสารชุดหนึ่งให้ฉินหัว

เอกสารชุดนี้เป็นข้อมูลที่เฉินห้าวได้มาจากการตรวจสอบจู้ติ่ง ในนั้นมีเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการหนีภาษีและบัญชีปลอมของจู้ติ่งอยู่ด้วย

หลังจากที่ฉินหัวดูเสร็จ เขาก็ยื่นมันให้ซุนฮุยดู

ซุนฮุยดูจบเขาก็แทบทรุด

“ตอนนี้พอใจรึยัง?” ไป๋ยี่เฟยถาม

ซุนฮุยพูดอะไรไม่ออกแล้ว

ไป๋ยี่เฟยไปสืบเรื่องของเขาอย่างนั้นเหรอ!

การที่จะอยู่รอดในตลาดและมีบริษัทที่ใหญ่ขนาดนี้ได้ ไม่มีใครที่ขาวสะอาดไปหมดหรอก ขอแค่ลองสืบค้นดูก็ต้องเจอของพวกนี้อยู่แล้ว

ฉินหัวพาตัวซุนฮุย โดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดอะไรอีก

หลังจากที่ซุนฮุยไปกับตำรวจแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่เย่อ้ายกับพวกทนายของเธอเท่านั้น

เย่อ้ายมองมาที่ไป๋ยี่เฟยด้วยแววตาที่สับสนวุ่นวาย

หลังจากเหตุการณ์ของหลี่ฝานคราวก่อน เธอก็รู้แล้วว่าไป๋ยี่เฟยนั่นไม่ธรรมดา แต่ไม่นึกเลยว่าครั้งนี้ ไป๋ยี่เฟยจะจัดฉากได้ใหญ่ขนาดนี้จนไม่อาจคาดเดาได้เลย

ตอนนี้ซุนฮุยก็ถูกจับไปแล้ว เย่อ้ายเองก็ไม่ควรอยู่ต่อแล้วเหมือนกัน ว่าแล้วเธอก็ยิ้มแล้วพูดไปด้วยท่าทางที่เป็นกันเองว่า “ดูท่าประธานไป๋คงจะกำลังยุ่งอยู่ ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”

ไป๋ยี่เฟยพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มลึกโดยที่ไม่ได้มองหน้าเย่อ้ายเลยด้วยซ้ำ “ประธานเย่ ผมหวังว่าต่อไปจะไม่เห็นคนมาปรากฏตัวอยู่ในตึกของโหวจวี๋อีกนะครับ ยิ่งไม่อยากให้คุณไปเสนอหน้าให้เสว่เอ๋อเห็นอีก!”

เย่อ้ายถึงกับอึ้ง สีหน้าดูไม่ดีนัก “ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะเป็นห่วงโหวจวี๋ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่เสนอเรื่องเทคโอเวอร์โหวจวี๋หรอกค่ะ”

ไป๋ยี่เฟยทำเสียงฮึดฮัด “เจตนาของคุณคืออะไร ผมเองก็รู้ดี ผมแค่ไม่อยากพูดมันออกมาเท่านั้น”

เย่อ้ายเม้มปาก แล้วพูดขึ้นว่า “ช่างไม่รู้อะไรเลย!”

พูดจบ เธอก็เดินออกไปพร้อมกับพวกทนายที่ตัวเองพามา

ในตอนนี้ ภายในห้องประชุมเหลือเพียงบรรดาผู้บริหารของโหวจวี๋กับคนของพวกเขาเท่านั้น

ไป๋ยี่เฟยมองไปรอบๆ

บรรดาผู้บริหารต่างอยู่ในภาวะหวาดกลัว ไม่กล้าหายใจเสียงดังเลยด้วยซ้ำ

“การที่โหวจวี๋เลี้ยงดูพวกคุณมา ในเวลาที่โหวจวี๋กำลังลำบากแบบนี้ ไม่ได้ให้พวกคุณคิดหาวิธีเพื่อดึงโหวจวี๋ลงเหวไปมากกว่าเดิม ผู้บริหารแบบนี้โหวจวี๋ของเราเลี้ยงดูไม่ไหวหรอกครับ”

“ท่านประธาน คะ……ความหมายของคุณคือ?” ผู้บริหารคนหนึ่งถามขึ้นมาด้วยความสงสัย

ไป๋ยี่เฟยขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ “ในเมื่อพวกคุณอยากที่จะเปลี่ยนเจ้านายขนาดนั้น เอาเป็นว่าพรุ่งนี้พวกคุณก็ไม่ต้องมาแล้ว เชิญไปหาเจ้านายใหม่ได้เลย!”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ท่านประธาน เรื่องแค่คำนึงถึงความเป็นไปได้แบบอื่นเท่านั้น เราไม่ได้จะ……” พวกผู้บริหารรีบอธิบายกันใหญ่

“ไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น พวกคุณคิดว่าตัวเองเป็นคนเก่าคนแก่ของโหวจวี๋ใช่ไหม? ผมจะบอกอะไรให้นะ สำหรับผมแล้ว เรื่องพวกนี้มันไม่มีความหมายอะไรเลย”

“โหวจวี๋จะเก็บแค่คนที่มีประโยชน์เท่านั้น ไม่ใช่หนอนแมลงที่คอยคิดแต่จะกัดกินโหวจวี๋แบบพวกคุณ”

“เลิกประชุม!”

พวกผู้บริหารที่ออกความเห็นเมื่อกี้ต่างก็เอ๋อไปเลย

นี่พวกเขาถูกไล่ออกแล้วจริงๆ เหรอ?

ในขณะที่พวกเขายังตั้งสติไม่ได้ ก็ถูกไป๋หู่กับสวีลั่งไล่ออกไปแล้ว

จางหรงออกไปท้ายสุด เขามองมาที่ไป๋ยี่เฟยด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม โชคดีจริงๆ ที่เมื่อกี้ตัวเองไม่ได้รีบตัดสินใจออกไปอย่างที่คิดไว้ ทุกครั้งที่ทุกคนต่างคิดว่าไป๋ยี่เฟยกำลังจะจบสิ้น เขาก็มักจะทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง

“ท่านประธานครับ ยังมีอะไรให้รับใช้อีกไหมครับ?” จางหรงเดินเข้าไปประจบ

“คุณไปทำงานเถอะครับ” ไป๋ยี่เฟยตอบไปอย่างเรียบเฉย

จางหรงยิ้มพร้อมกับพยักหน้า ทันทีที่เขาออกไป ไป๋ยี่เฟยก็หน้ามืดและหมดสติไปในทันที

ไป๋หู่และคนอื่นๆ ต่างตกใจและรีบกรูกันเข้ามา

เฉินห้าวที่ร้อนใจมาก “เราเอายาถอนพิษให้พี่กินเลยดีไหม?”

“ไม่ได้” ไป๋หู่กับสวีลั่งพูดออกมาพร้อมกัน

“แล้ว……จะทำยังไงกันดี?” เฉินห้าวกลัวจนตาเริ่มแดงแล้ว

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่

ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่ถูกคนอื่นหัวเราะเยาะ ตัวตนที่แท้จริงของเขาคือ……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset