บทที่ 73
“ได้ ไม่มีปัญหา!”หวังโหลวเต็มไปด้วยความแค้น“หมาตัวนี้กล้าลบหลู่พี่สะใภ้ ไม่จัดการมันฉันก็ไม่ใช่สกุลหวัง!”
อีกด้านหนึ่ง หลังจากหลิ่วจาวเฟิงหนีไปเขาก็ไปหาหลิ่วเซียวเหยาพี่รองของเขา
ห้องทำงานหลิ่วซื่อกรุ๊ป
“พี่รอง ครั้งนี้พี่ต้องช่วยผม!พี่ไม่เห็นเหรอว่าไป๋ยี่เฟยนั่นอวดดีเกินไปแล้ว แล้วก็เจ้าบึ้กนั่นของมันอีก นี่มันบ้าชัดๆ คนคนเดียวทำร้ายคน20-30คนได้ในพริบตา!”หลิ่วจาวเฟิงฟ้องหลิ่วเซียวเหยา
หลิ่วเซียวเหยาได้ยินแล้วขมวดคิ้ว “คนคนเดียวทำร้ายคน20-30คน?”
หลิ่วจาวเฟิงพยักหน้า“ผมเห็นกับตา!”
หลิ่วเซียวเหยาครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้น:“ทำไมไป๋ยี่เฟยพาคนมาบุกถึงบริษัท?”
หลิ่วจาวเฟิงกลอกตาไปมา“เพราะมันบ้าไง ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองเป็นแค่เศษขยะ ไม่มีประโยชน์อะไร ยังคิดว่าตัวเองเป็นสามีหลี่เสว่จริงๆ”
“อีกอย่าง ผมกับหลี่เสว่เป็นเพื่อนกัน วันนั้นเห็นเธออารมณ์ไม่ดีจึงปลอบใจ ไป๋ยี่เฟยเห็นเข้าก็เข้าใจผิดพวกเรา หลังจากนั้นก็คือวันนี้ หลี่เสว่มาพบผมเพื่อคุยธุระ แต่ใครจะไปคิดว่าไป๋ยี่เฟยจะพาคนบุกมาอย่างกับคนบ้า ไม่เกรงใจหลิ่วซื่อของเราแม้แต่น้อย!”
“พี่รอง พี่รู้จักพี่เตาไม่ใช่เหรอ?พี่เรียกพี่เตามาดีไหม?เจ้าบึ้กนั่นสู้ไม่ได้แน่นอน!”
หลิ่วเซียวเหยามองหลิ่วจาวเฟิง พูดอย่างยิ้มเยอะ:“หลี่เสว่มาคุยธุระกับแกจริงๆงั้นเหรอ?”
หลิ่วจาวเฟิงชะงัก“พี่รอง แน่นอนว่ามาคุยธุระหน่ะสิ ไม่งั้นจะมาทำไม?”
“คุยธุระ?แกคงไม่คุยไปคุยมาแล้วทำอะไรใช่ไหม?”หลิ่วเซียวเหยาไม่เชื่อคนอย่างหลิ่วจาวเฟิง
หลิ่วจาวเฟิงได้ยินแล้วทำตัวไม่ถูก แต่ก็ไม่ยอมรับ“พี่รอง ดูพูดเข้า คุยธุระก็คุยธุระสิ จะทำอย่างอื่นทำไมกัน?”
หลิ่วเซียวเหยาตอบรับ แล้วไม่พูดอะไรมาก“ช่างเถอะ ฉันไม่อยากรู้ว่าแกทำหรือไม่ทำ แต่ในเมื่อเขากล้าลองดีกับตระกูลหลิ่วของเรา ไม่เห็นตระกูลหลิ่วอยู่ในสายตา ฉันจะช่วยแกสั่งสอนเขาเอง!”
“ขอบคุณพี่รองมาก!”หลิ่วจาวเฟิงยิ้ม พอใจมาก ไป๋ยี่เฟย!แกตายแน่!
พลบค่ำ เลิกงานไป๋ยี่เฟยก็ขับรถกลับบ้าน แต่ขณะขับรถกลับบ้านโดนรถคาเยนน์คันหนึ่งมาขวางทาง
จากนั้นมีผู้ชายใส่แว่นดำ สวมชุดสูทสีดำลงมาจากรถ มาเคาะกระจกรถไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยลดกระจกลง มองชายชุดสูทคนนั้น
“เจ้านายของเราอยากพบคุณ”
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว มองไปยังรถคาเยนน์คันนั้น ด้านในมีผู้ชายอายุราว30กว่าๆนั่งอยู่ คล้ายหลิ่วจาวเฟิงมาก ไม่ต้องคิดเลย คงเป็นคุณชายคนรองของหลิ่วซื่อกรุ๊ปแน่ๆ หลิ่วเซียวเหยา
“แล้วไงต่อ?”ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างไม่แยแส
ชายชุดสูทชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นทำหน้าเคร่งขรึมพูด:“ไม่ยังไงต่อ เจ้านายของเราอยากเจอคุณ”
“อ่อ ฝากบอกเจ้านายพวกแกว่าฉันยุ่งมาก ไม่ว่าง”ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเย็นชา
ชายชุดสูทได้ยินเช่นนั้นก็โมโห“คำเชิญของเจ้านายเรา ไม่เคยมีใครกล้าปฏิเสธ!”
ไป๋ยี่เฟยสตาร์ทรถ แล้วขับออกไป
กลับมาในรถ หลิ่วเซียวเหยาถามอย่างงุนงง:“เขาพูดอะไร?”
ชายชุดสูทพูด:“เขาบอกว่าไม่ว่าง”
“หึ!”หลิ่วเซียวเหยายิ้มดูถูก“ตามไป”
10นาทีต่อมา รถคาเยนน์ตามรถไป๋ยี่เฟยไป ทำให้ไป๋ยี่เฟยต้องหยุดรถอีกครั้ง
รถทั้งสองคันจอดข้างทาง
ไป๋ยี่เฟยลงจากรถ หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ
หลิ่วเซียวเหยาในรถคาเยนน์ก็ลงจากรถเช่นกัน เดินไปหาไป๋ยี่เฟยมองตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นมองไป๋ยี่เฟยอย่างกับขยะ“แกคือไป๋ยี่เฟย?”
ไป๋ยี่เฟยโดนบังคับให้หยุดรถโมโหเล็กน้อย น้ำเสียงไม่ดีนัก“ใช่ มีอะไรก็รีบๆพูดมา!”
หลิ่วเซียวเหยายิ้ม ยื่นมือออกไปอย่างสุภาพพลางพูด:“ฉันคือคุณชายรองของหลิ่วซื่อกรุ๊ป หลิ่วเซียวเหยา”
ไป๋ยี่เฟยเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก ความสุภาพของหลิ่วเซียวเหยาทำให้เห็นว่าไป๋ยี่เฟยไม่มีมารยาทเอามากๆ แต่คิดไปคิดมาไป๋ยี่เฟยก็ยื่นมือออกไป
แต่ในขณะนั้นเอง หลิ่วเซียวเหยาดึงมือกลับ สอดไว้ในกระเป๋ากางเกงของตน
ไป๋ยี่เฟยมือแข็งอยู่กลางอากาศ อึดอัดมาก
“หลิ่วเซียวเหยาใช่ไหม?”ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเย็นชา“ผมรู้ว่าคุณเป็นใคร?และรู้จุดประสงค์ที่คุณมาในวันนี้ คือมาขอโทษแทนหลิ่วจาวเฟิง แต่ไม่ต้องหรอก ผมไม่รับคำขอโทษ”
หลิ่วเซียวเหยาได้ยินเช่นนั้นยิ้มอย่างไม่สบอารมณ์“ขอโทษ?แกคิดว่าฉันมาขอโทษเพื่อน้องชายงั้นเหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยกำลังจะพยักหน้า แต่หลิ่วเซียวเหยาพูดอย่างรังเกียจซะก่อน:“หน้าไม่อายจริงๆ!”
“ถ้าจะขอโทษ เป็นแกที่ต้องขอโทษน้องชายฉัน!”หลิ่วเซียวเหยาพูดอย่างดุดัน“และต้องขอโทษต่อหน้าพนักงานทุกคนในบริษัทเขา !”
“มีสิทธิ์อะไรให้ฉันไปขอโทษน้องชายแก?”
“ก็สิทธิ์ที่ฉันจัดการแกได้ทุกเมื่อยังไงล่ะ!”หลิ่วเซียวเหยามองไป๋ยี่เฟยอย่างเดือดดาล
ไป๋ยี่เฟยยิ้มเยาะ“งั้นฉันไม่พูดไม่ได้ว่า แกมันหน้าไม่อาย!”
หลิ่วเซียวเหยาสายตาเคร่งขรึม“ไป๋ยี่เฟย แกอย่าไม่รู้อะไรผิดถูกหน่อยเลย ฉันให้โอกาสในการขอโทษเพราะให้เกียรติแก ถ้าแกไม่รู้จักให้เกียรติ ฉันไม่รังเกียจที่จะใช้วิธีอื่น!”
“เช่น?”ไป๋ยี่เฟยยักคิ้วถาม
หลิ่วเซียวเหยาพูด“ภรรยาแกเป็นคนของหลี่ซื่อใช่ไหม?ถ้าแกไม่ยอมไปขอโทษ ฉันจะทำให้หลี่ซื่อในเมืองเทียนเป่ยหายไปทันที”
“จากนั้นล่ะ?”ไป๋ยี่เฟยถามอย่างเย็นชา ไม่แยแสแม้แต่น้อย
“จากนั้น?ฉันจะบอกคนตระกูลหลี่ ว่านี่เป็นเพราะแก ทำให้คนตระกูลหลี่เกลียดแกเข้ากระดูก!”
หลิ่วเซียวเหยาพูดต่อ:“ได้ข่าวว่าแกทำงานที่โหวจวี๋?หึ!พอดีเลย ฉันรู้จักประธานของโหวจวี๋สองสามคน อีกทั้งหลิ่วซื่อกรุ๊ปของเรากับโหวจวี๋ก็ไปมาหาสู่กันด้านธุรกิจ แค่ฉันพูดก็สามารถทำให้แกไสหัวออกจากโหวจวี๋ได้ทันที!”
ไป๋ยี่เฟยก้มหน้า ทำให้ไม่อาจเห็นสีหน้าของเขา“ทำโหดหนิ?”
“หึ!กลัวแล้วก็ไปขอโทษน้องชายฉันซะ!”หลิ่วเซียวเหยาเห็นท่าทางไป๋ยี่เฟยจึงพอใจมาก แล้วพูดอย่างอวดดี“ขอโทษเขาต่อหน้าพนักงานบริษัททุกคน!”
พูดจบไป๋ยี่เฟยเงยหน้าพลางยิ้ม
“แกยิ้มอะไร?”หลิ่วเซียวเหยาขมวดคิ้วถาม
ไป๋ยี่เฟยยิ้มพลางหยิบโทรศัพท์ออกมาจากชุด“ขอโทษจริงๆนะ บทสนทนาที่คุยกับแกเมื่อครู่ ฉันบันทึกไว้หมดแล้ว”
“แล้วจะทำไม?”หลิ่วเซียวเหยาไม่สนใจ“ก็แค่คลิปเสียง แกคิดว่าตำรวจจะสนงั้นเหรอ?”
ไป๋ยี่เฟยส่ายหน้า“คลิปเสียงนี้ไม่ได้ให้ตำรวจ”
หลิ่วเซียวเหยาขมวดคิ้งมองไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยพูดอย่างเย็นชา:“คลิปเสียงนี้ไว้พิสูจน์ว่าฉันไม่ได้ทำลายหลิ่วซื่อโดยไร้เหตุผล”
พูดจบไป๋ยี่เฟยเก็บโทรศัพท์ ขึ้นรถ แล้วขับออกไป
หลิ่วเซียวเหยานิ่งไป เมื่อได้สติกลับมาก็พูดอย่างน่าขัน:“ทำลายหลิ่วซื่อ?ฮ่าๆ……ไร้สาระจริงๆ!มันคิดว่ามันเป็นใคร?ถึงกล้าทำลายหลิ่วซื่อ?ต่อให้เป็นประธานโหวจวี๋กรุ๊ปก็ต้องคิดแล้วคิดอีก!”
ไป๋ยี่เฟยกลับถึงคฤหาสน์ไม่เห็นหลี่เสว่ รู้สึกเป็นห่วงจึงโทรหาหลี่เสว่
โจวฉวี่เอ๋อเป็นคนรับสาย บอกว่าหลี่เสว่จะอยู่ที่นั่นสักระยะ