บทที่ 58
“คุณชอบไป๋ยี่เฟยขนาดนั้นเลยหรือ?เขามีดีอะไร?”ซุนเฉิงถามเขาไม่พอใจ “ตำแหน่งที่บริษัทก็ไม่เท่าผม ฐานะพื้นฐานก็ไม่ดีเท่าผม เขาให้อะไรคุณไม่ได้เลย !”
พานหุ้ยหุ้ยจ้องซุนเฉิงอย่างหวาดกลัว ไม่ได้ตอบคำถามเขา
ในใจของเธอ มีปัญหาหนึ่งที่ค้างคาใจมาตลอด “พวกลูกน้องของนาย ถูกไป๋ยี่เฟยทำร้ายมาเหรอ ?”
ตอนกลางวันที่โรงอาหาร ไป๋ยี่เฟยทำให้เธอผิดหวังมาก แต่ก็ยังตัดสินไม่ได้ เพราะฉะนั้นเธออยากจะรู้จริง ๆ ว่าคนเมื่อคืนนั้นเป็นไป๋ยี่เฟยหรือเปล่า?
แต่คำถามของพานหุ้ยหุ้ยที่ถามกลับทำให้ซุนเฉิงคิดว่าเธอกำลังเยาะเย้ยเขา จึงโมโห
ซุนเฉิงยื่นมือไปจับคางของพานหุ้ยหุ้ยและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ไอ้สวะไป๋ยี่เฟยนั่น เดี๋ยวก็จะได้เห็นดี คุณคอยดูเถอะว่าผมจะสั่งสอนไป๋ยี่เฟยยังไง!”
พูดจบ ซุนเฉิงก็สะบัดออกจากพานหุ้ยหุ้ย แล้วก็เดินไปข้าง ๆ ต้าหลาง
ต้าหลางมองซุนเฉิง แล้วก็ใช้สายตาไม่หวังดีมองมาที่ร่างของพานหุ้ยหุ้ย พูดว่า “สาวน้อยคนนี้หน้าตาดีไม่เบาเลย”
ในใจของซุนเฉิงดัง “ตึกตัก” แล้วก็ยิ้มแหย ๆ ว่า “พี่ต้าหลางชอบพูดเล่นจัง เธอก็หน้าตาธรรมดา ไหนเลยจะพูดว่าสวยได้ ?”
ต้าหลางยิ้มเย็นชา “ออ?ถ้าพูดอย่างนี้แสดงว่านายหวังสูงมากเลยสิ แต่ฉันกลับรู้สึกว่าฉันชอบแบบนี้ ”
ซุนเฉิงสีหน้าเปลี่ยน ยิ้มแห้ง ๆ ว่า “พี่ต้าหลาง ถ้าพี่ชอบแบบนี้ ผมสามารถให้คนไปหามาให้พี่ได้ ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนผม ขอพี่ต้าหลางปล่อยไปด้วย ”
“แฟน?”ต้าหลางไม่สบอารมณ์ “ดูไม่ออกเลย ”
ซุนเฉิงทำหน้าจ๋อย ไม่กล้าแสดงออกอะไรมาก ได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ
ต้าหลางเองก็ไม่ได้พูด ในใจคิดว่า รอให้สู้จบแล้วได้เงินสองแสน ถึงตอนนั้นอยากจะทำก็ทำ เต่าหัวหดอย่างซุนเฉิงจะกล้าว่าอะไร?
ต้าหลางพูดขึ้นมา “ทำไมคนยังไม่มา ?ยังจะสู้อยู่ไหม?”
ซุนเฉิงได้ยินแล้ว คิ้วขมวดมองไปที่ทางขึ้นดาดฟ้า เขาโทรหาไป๋ยี่เฟยเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ยังไม่มา หรือว่าจะไม่กล้ามาจริง ๆ ?
ในตอนนี้เอง ก็มีเสียงของไป๋ยี่เฟยลอยมา
“มาแล้ว มาแล้ว ไม่ต้องรีบ!”
คนที่ได้ยินก็หันไป ในนั้นมีชายคนหนึ่งที่แต่งตัวธรรมดาเดินเข้ามา ด้านหลังเขายังมีชายร่างใหญ่สูง 190 เดินมาด้วย
ทั้งสองเดินมาอย่างมั่นใจ เหมือนเดินอยู่ในสวนดอกไม้ ไม่มีทีท่าว่าจะกังวลหรือหวาดกลัว แต่กลับมาท่าทีที่น่าเกรงขาม
พานหุ้ยหุ้ยมองท่าทีของไป๋ยี่เฟย ในใจก็เต้นระรัว จนลืมว่าตัวเองถูกมัดไว้ และก็ลืมที่จะตะโกนเรียก
หลังได้สติ ซุนเฉิงเป็นคนสุดท้ายที่ตั้งสติได้ รีบไปจับตัวพานหุ้ยหุ้ยไว้ แล้วจับเธอมาไว้ตรงหน้า
ซุนเฉิงตะโกนเสียงดัง “ไป๋ยี่เฟย จะแสดงเพื่ออะไร?ต่อหน้าพี่ต้าหลาง แกมันก็แค่ขี้ก้อนหนึ่ง!กูจะคอยดูว่าอีกเดี๋ยวมึงจะแสดงอะไรอีก ?”
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองไปที่ซุนเฉิง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นชา “ปล่อยเธอไป ”
ซุนเฉิงตอบกลับอย่างโอหัง “ปล่อยแม่แกสิ!” “มึงเตรียมตัวโดนอัดได้เลย รอกูพอใจแล้วกูจะปล่อยเอง !”
ต้าหลางมองไปที่ซุนเฉิง หัวเราะ หึหึ แล้วก็มองไปทาง ไป๋ยี่เฟย “แกคือไป๋ยี่เฟยเหรอ?”
พูดจบ ไป๋ยี่เฟยมองไปที่ต้าหลาง รูปร่างพอพอกับไป๋หู่ แต่ก็ยังต่างอยู่เล็กน้อย ดังนั้นจึงไม่ได้ใส่ใจอะไร แล้วก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “แกเป็นเจ้าโง่เหรอ ?”
เขาและไป๋หู่ขึ้นมาพร้อมกัน มองแวบแรกไป๋หู่ก็ไม่เหมือนพนักงานของบริษัท นอกจากเขาที่จะเป็นไป๋ยี่เฟย จะมีใครสามารถเป็นไป๋ยี่เฟยได้อีก?
สีหน้าต้าหลางเปลี่ยนไป แล้วก็จับคอเสื้อของไป๋ยี่เฟย “มึงด่ากูเหรอ?มึงกล้าดียังไงมาด่ากู ?มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร?”
สีหน้าไป๋ยี่เฟยไม่ได้เปลี่ยนอะไร หนำซ้ำท่าทียังดูดีกว่าต้าหลางอีก “ปล่อยมือ!”
ต้าหลางเป็นใครเหรอ?แชมป์เทควันโดระดับจังหวัด ไหนเลยจะมองไป๋ยี่เฟยอยู่ในสายตา ?ตรงกันข้าม สีหน้าต้าหลางเคร่งขรึม พูดว่า “มึงกล้าดียังไงมาพูดกับกูแบบนี้ ?แน่มากใช่ไหม!”
ตอนนี้เอง ซุนเฉิงกะโกนพูดเสียงดัง “ไป๋ยี่เฟย!แกคอยดูเถอะ!พี่ต้าหลางนั้นเป็นแชมป์เทควันโดระดับจังหวัด แกกล้าดูถูก พี่ต้าหลาง แกตายแน่ ๆ !”
ซุนเฉิงนั้นอยากให้ไป๋ยี่เฟยกับต้าหลางนั้นยิ่งขัดแย้งกัน ให้ต้าหลางสั่งสอนไป๋ยี่เฟยให้สาสม เพื่อแก้แค้นที่โดนอัดเมื่อตอนกลางวัน !
ต้าหลางพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “ซุนเฉิงพูดถูกต้อง ฉันคือแชมป์เทควันโดระดับจังหวัด แกกล้ามามีเรื่องฉัน ฉันจะทำให้แกไม่ต้องเห็นดวงอาทิตย์พรุ่งนี้ !”
ไป๋ยี่เฟยนั้นยังคงนิ่งเฉย แต่พูดซ้ำอีกครั้งว่า “ปล่อยมือ!”
ต้าหลางพูดท้าทายอย่างไม่สนใจ “ไม่ปล่อย แกจะทำอะไรฉันได้ ?”
ไป๋ยี่เฟยยิ่มและพูดกับไป๋หู่ว่า “ให้มันปล่อยมือ ”
ไป๋หู่ไม่ได้พูดอะไร แต่การกระทำนั้นได้ตอบกลับแล้ว
ต้าหลางได้ยินแล้วก็อยากจะรู้จักคนที่ชื่อว่าไป๋หู่ แต่แค่เพิ่งจะหันหน้ามาก็มีเสียงดัง “อ๊า”
หลายคนเห็นไป๋หู่แค่ก้าวขึ้นไปแค่ก้าวเดียว แล้วก็คว้าไปจับมือที่จับคอเสื้อของไป๋ยี่เฟย ต้าหลางนั้นร้องด้วยเสียงเจ็บปวด แล้วก็ปล่อยคอเสื้อของไป๋ยี่เฟย
ต้าหลางรู้สึกว่าข้อมือของตัวเองนั้นถูกจับจนจะแหลกแล้ว เพราะเขาได้ยินเสียงกระดูกร้าวชัดเจน ต้าหลางโมโหมาก “แม่งเอ้ย!กู……”
ต้าหลางพลางพูดพลางเตะ อยากจะเตะไป๋หู่
ไป๋หู่เห็นแบบนี้แล้ว ได้แต่ยิ้ม และท่าทีว่องไว ขณะที่ต้าหลางเพิ่งจะยกขาได้ครึ่งหนึ่ง ไป๋หู่ก็เตะให้ต้าหลางกระเด็นไปเลย
ภาพที่ทุกคนเห็นก็คือต้าหลางดูเหมือนเป็นก้อนหินก้อนหนึ่ง ลอยไปดัง“ปัง” กระเด็นไปที่สุดขอบดาดฟ้า อีกนิดเดียวก็เกือบจะตกจากดาดฟ้าแล้ว !
ส่วนต้าหลาง ตอนที่หล่นลงมาบนพื้น ดวงตาเลิกลัก สลบไปเลย
ทุกคนอึ้งไปเลย
นี่ก็จะน่ากลัวเกินไปแล้วมั๊ง?
เตะทีเดียวก็ทำให้แชมป์เทควันโดระดับเขตเป็นลมไปเลย แถมยังเตะจนกระเด็นไปไกลขนาดนั้น !
ซุนเฉิงเห็นแล้วก็รู้ชะตากรรมจนกลืนน้ำลาย ไม่ได้โอหังแบบเมื่อสักครู่แล้ว
เขาไม่คิดว่าเขาเสียเงินจ้างมาสองแสน เชิญแชมป์เทควันโดระดับจังหวัดมา แต่กลับทานแรงเตะแค่ครั้งเดียวนี้ก็ไม่ได้ แค่เตะครั้งเดียวยังสลบไปเลย!ชายคนนี้นั้นน่ากลัวขนาดไหนกัน?
ซุนเฉิงตอนนี้นั้นหวาดกลัวมาก แต่ก็ใจเต้นรัว แต่ตอนที่เขากำลังใจเต้นและกลัวอยู่นั้น จึงได้ไปหาสิ่งที่ปลอดภัย ดังนั้นซุนเฉิงจึงรีบเอามีดพับได้ออกมา เอามาจี้ที่คอของพานหุ้ยหุ้ย “ไป๋ยี่เฟย!ถ้าแกยังกล้าขยับอีกครั้ง ฉันจะฆ่าเธอเดี๋ยวนี้!”
ไป๋ยี่เฟยมองจ้องไปที่ซุนเฉิง “ผมบอกให้คุณปล่อยเธอ”
“กูไม่ปล่อย แกคอยดูเถอะ !”ซุนเฉิงสั่งให้ลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ “เฝ้าหล่อนไว้ !”
ลูกน้องก็เพิ่งได้สติการตกใจ รีบจับพานหุ้ยหุ้ยไว้ เอามีดวางไว้ที่คอของพานหุ้ยหุ้ย พูดขู่ว่า “อยู่ดีดีนะ!”
พานหุ้ยหุ้ยตกใจจนไม่กล้าขยับ กลัวว่ามีดจะบาดโดนตัวเอง สายตาก็ไม่หยุดมองไปที่ ไป๋ยี่เฟย
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้ทำอะไรผลีผลาม กลัวหมาบ้าอย่างซุนเฉิงจะทำอะไรโง่ ๆ จนพานหุ้ยหุ้ยได้รับบาดเจ็บ หรือหากลงมือฆ่าจริง นั่นคงบาปมาก เพราะอย่างไรเสียพานหุ้ยหุ้ยก็เป็นผู้บริสุทธิ์
ไป๋หู่ยืนอยู่ข้างหลังของไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟยไม่ได้สั่งการ เขาเองก็จะไม่ทำอะไร
ซุนเฉิงปล่อยพานหุ้ยหุ้ยแล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมา รู้ว่าไป๋ยี่เฟยถูกข่มขู่แล้ว จึงโทรออก “พี่เตา ผมเอง ผมเสี่ยวเฉิง……”
หลังต่อสายติด ซุนเฉิงก็เล่าเรื่องราวโดยใส่สีตีไข่ สุดท้ายยังพูดอีกว่า “ผมให้สองแสน ”
พูดจบเร็วมากก็วางสายไป ซุนเฉิงก็กร่างขึ้นมาอีกครั้ง “มึงรอก่อน รอพี่เตามาถึง กูจะดูว่ามึงจะกล้าอยู่ไหม !”
สองหมัดหรือจะสู้สี่มือ ไป๋ยี่เฟยและเจ้าคนบ้าก็มีกันแค่สองคน ต่อให้เจ้าบ้านั้นจะเก่งแค่ไหน แต่เขาก็ไม่เชื่อว่า คนมาเป็นสิบจะสู้เขาคนเดียวไม่ได้ !
ไป๋ยี่เฟยเห็นแบบนี้แล้วก็ขมวดคิ้ว
พี่เตา?เป็นพี่เตาที่เขารู้จักหรือเปล่านะ?
ไป๋ยี่เฟยไม่ได้พูดอะไร จะใช่หรือไม่ เมื่อคนมาแล้ว ก็รู้เองแหละ
เมื่อเป็นแบบนี้ ไป๋ยี่เฟยก็มองหาที่นั่ง แล้วก็นั่งลงอย่างสบายใจ
ไป๋หู่ก็ยังคงยืนอยู่ด้านหลังเขา เหมือนรูปปั้น
เมื่อเวลาผ่านไป ท่าทีตื่นกลัวของพานหุ้ยหุ้ยก็ค่อย ๆ คลายลง แล้วก็เต็มไปด้วยความรู้สึกแบบพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
เผชิญหน้ากับคำขู่ของซุนเฉิง และก็พี่เตาที่ไม่รู้จัก ไป๋ยี่เฟยกลับมีทีท่านิ่งเฉยแบบนั้น ดูไม่มีทีท่าจะเกรงกลัวอะไรเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้ ในสายตาของพานหุ้ยหุ้ยมีแต่ไป๋ยี่เฟย คนที่เป็นเหมือนเจ้าชาย ในตอนที่เธอพบเจอกับอันตรายแล้วก็มาปรากฏกายตรงหน้าเธอ แล้วก็ช่วยเธออย่างกล้าหาญ
ผ่านไปยี่สิบนาที มีคนขึ้นไปที่ดาดฟ้า
ไม่นานจากนั้น คนก็ค่อย ๆ ขึ้นมาเยอะขึ้น ทำให้ดาดฟ้าบนนี้อยู่แน่นไปด้วยผู้ด้วย
คนพวกนี้แต่ละคนก็ดุร้าย บางคนยังสักลวดลายเต็มแขนดูแล้วไม่น่าจะมีเรื่องด้วยเลย
คนที่เป็นหัวหน้านั้นใส่เสื้อสีดำ ใส่แว่นดำ เพื่อปิดบังรอยแผลเป็นจากมีดบนใบหน้า