บทที่ 17
หลี่เสว่ดึงหลิวจื่อหยุนนั่งลง “แม่ ฉันก็มีความรู้สึกแบบนี้ ตอนนี้หัวใจยังเต้นตึกๆอยู่ล่ะ!”
ทั้งสองคนพูดจบแล้วล้วนมองไปยังไป๋ยี่เฟย ไป๋ยี่เฟยยิ้มต่อทั้งสองคน
อยู่ดีๆหลี่เสว่รู้สึกว่าใบหน้าร้อนเล็กน้อย
หลิวจื่อหยุนกลับพูดว่า “ครั้งนี้คุณทำได้ดีมาก! ฉันมองหลี่ฝานขัดตามานานแล้ว แต่ละวันรู้จักแต่รังแกเสว่เอ๋อ คราวนี้ได้แก้แค้นแล้วไม่ต้องพูดถึงว่าในใจสบายถึงขนาดไหนเลย!”
ในเวลานี้ หลี่เฉียงตงพูดว่า “แม้ว่าเหมือนอย่างที่พูด แต่ก็เกินไปเล็กน้อย ไม้ใหญ่โดนลมโค่น…….”
“คุณหุบปากซะ!” หลิวจื่อหยุนฮึๆเหลือบตามองหลี่เฉียงตงทีหนึ่ง “คุณยังกล้าว่าไป๋ยี่เฟยหรือ คุณมองดูตัวเองซะก่อน? คนมาแล้ว ก็ไม่กล้าออกเสียงเลย ถ้าไม่ใช่ไป๋ยี่เฟยอยู่ พวกเราแม่ลูกทั้งสองไม่รู้ว่าจะได้รับความไม่เป็นธรรมมากเท่าไหร่!”
“โดยเฉพาะเป็นลูกสาวของคุณ สัญญาที่ได้มาอย่างยากลำบาก ยกให้พวกเขาแล้วไม่พูด ยังใช้วาจาดูถูก คุณเป็นพ่อนะ ใช้ไม่ได้แม้แต่นิด!”
หลี่เฉียงตง “…….”
เพิ่งพูดจบไม่นาน หลิวจื่อหยุนก็เริ่มกังวลขึ้นมาอีก “ปัดเป่าความโกรธก็ปัดเป่าความโกรธไปแล้ว สัญญาของหลันโปกั่งจะทำยังไงดีหรือ? นี่คือรับปากกับนายท่าน ถ้าหากว่าจัดการไม่สำเร็จ…….”
หลี่เสว่ก็มีความกังวลเล็กน้อย เธอไม่ค่อยมั่นใจ
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองหลี่เสว่ ยิ้มกล่าวว่า “ไปเถอะ ไม่มีปัญหา”
หลี่เสว่เห็นเช่นนี้อยู่ดีๆรู้สึกวางใจมาก ไม่มีเหตุผลใดๆที่จะไม่เชื่อคำพูดของไป๋ยี่เฟย
เช้าวันที่สอง หลี่เสว่ด้วยจิตใจที่ไม่สงบ มาถึงอาคารสำนักงานในหลันโปกั่ง
แต่ว่าไม่เหมือนกันกับที่หลี่เสว่คิดไว้ เธอคิดว่าจะเข้าไปยากมาก ผลสุดท้ายยังเหมือนเช่นดั่งเธอก่อนหน้านั้น ได้รับการต้อนรับตลอดทางจากเสี่ยวโจวผู้ช่วยของผู้จัดการใหญ่โดยตรง
ผู้จัดการใหญ่หัวเราะ ฮ่าๆหยิบสัญญาออกมา พูดว่า “เซนต์ชื่อเถอะ! เซนต์ชื่อแล้วโอนเงินเข้าบัญชีทันที ”
หลี่เสว่มึนงงพยักหน้า เซนต์ชื่อเลย
รอออกจากอาคารสำนักงานใหญ่ กลับไปที่บริษัท หลี่เสว่จึงคืนสติอย่างแท้จริง “เช่นนี้ก็เซนต์แล้วหรือ?”
ก้มหัวจ้องมองสัญญาที่เซนต์เรียบร้อยแล้ว ในที่สุดหลี่เสว่จึงเชื่อเรื่องจริงที่อยู่ต่อหน้า
แต่ในเวลาเดียวกัน เธอก็สงสัยมาก เพื่อนร่วมงานของไป๋ยี่เฟยตกลงว่ามีตำแหน่งเป็นอะไรกันแน่?
หลี่ฝานไม่ได้เข้าไป เรื่องนี้เธอก็รู้แล้ว เช่นนั้นตอนที่ไปกับเธอ ทั้งสองคนต่างกันชัดเจนเหลือเกิน!
แต่ว่าไป๋ยี่เฟยไม่ได้พูด เธอก็ถามมากไม่ได้ มีเพียงถือสัญญาไปหานายท่านหลี่
นายท่านหลี่จ้องมองสัญญา ดีใจพยักหน้า “เสว่เอ๋อทำได้ดีมาก! วันนี้เหนื่อยแล้วล่ะ? ถ้าอย่างนั้นก็กลับไปพักผ่อนเร็วๆหน่อยนะ?”
หลี่เสว่ตอบแล้ว ก็กลับบ้านเลย
นายท่านหลี่เห็นหลี่เสว่ไปแล้ว เรียกหลี่เอ้อซานเข้ามาทันที
หลี่เอ้อซานคือพ่อของหลี่ชิวหยิ่ง ก็เป็นผู้จัดการฝ่ายการเงิน เป็นคนวัยกลางคนที่ค่อนข้างสุภาพเรียบร้อยคนหนึ่ง
“พ่อ ผมกำลังจะไปหาท่านล่ะ” หลี่เอ้อซานพูดไปประโยคหนึ่ง
นายท่านหลี่ถามว่า “มีเรื่องอะไรหรือ?”
“หลันโปกั่งที่โน่นโอนเงินเข้ามาแล้ว” หลี่เอ้อซานตอบกลับ
นายท่านหลี่ตื่นตกใจในทันที จากนั้นพยักกล่าวว่า “สมดั่งเป็นวิสาหกิจขนาดใหญ่!”
หลี่เอ้อซานพยักหน้าตาม
“พ่อ ท่านหาผมมีเรื่องอะไรหรือ?”
นายท่านหลี่เก็บรอยยิ้ม แล้วเสียงต่ำกล่าวว่า “แจ้งเพื่อนในทางธุรกิจ มะรืนพวกเราจะจัดงานเลี้ยงงานหนึ่งอยู่ที่โรงแรมเทียนเป่ย”
“นี่ จะไม่ค่อยดีหรือไม่? หลันโปกั่งฝั่งโน้น…….” หลี่เอ้อซานลังเลพูด
นายท่านหลี่หัวเราะเสียงเบาหนึ่งเสียง “เบื้องหลังของหลันโปกั่งคือโหวจวี๋กรุ๊ป พวกเขาไม่ถือสา พอดีอาศัยโอกาสนี้ ให้คนอื่นล้วนรู้ว่า เบื้องหลังของพวกเราคือโหวจวี๋กรุ๊ป!”
“ใช่แล้ว ครอบครัวของเฉียงตงบ้านนั้น ก็ไม่ต้องแจ้งแล้ว ”
หลี่เอ้อซานชะงักไปสักหน่อย เข้าใจความหมายของนายท่านหลี่แล้ว “เข้าใจแล้วครับพ่อ”
เมื่อวานนายท่านหลี่คือยอมถอยก้าวหนึ่ง แต่ก็ขายหน้าของเขาเช่นกัน นายท่านหลี่แค่นี้ก็จะช่างแล้วได้อย่างไร?
รอหลี่เอ้อซานไปแล้ว อยู่ในห้องพักของออฟฟิศ หลี่ฝานกับหลี่ต้าไห่เดินออกมาสองคน
“คุณปู่ สัญญาเซนต์สำเร็จแล้ว หลี่เสว่นี้คาดว่าก็ใช้อะไรไม่ได้อีก!ฮึ!พวกเขาทั้งครอบครัวยังคิดว่าตัวเองเป็นอะไรแล้วจริงๆหรือ ถึงกล้ากับคุณปู่เช่นนี้!” หลี่ฝานทั้งใบหน้าบูดเบี้ยว
หลี่ต้าไห่พยักหน้า “พ่อทำเช่นนี้ ก็คือต้องการสั่งสอนพวกเขาสักหน่อย ถ้าไม่เช่นนั้นหางของพวกเขาล้วนจะต้องชี้ขึ้นฟ้าแล้ว!”
นายท่านหลี่สีหน้าเคร่งขรึมกล่าวว่า “เอาล่ะ ผ่านเรื่องในครั้งนี้ ผมหวังว่าแกจะได้เข้าใจ ทุกเรื่องอย่าวู่วามเกินไป!”
“เข้าใจแล้วครับ คุณปู่” หลี่ฝานก้มหัวอย่างเคารพ
……
ไป๋ยี่เฟยอยู่ในตอนที่หลี่เสว่ไปหลันโปกั่ง ก็ไปบริษัทแล้ว อย่างไรก็ตามเป็นประธานกรรมการของบริษัท ก็ล้วนไม่สามารถจะทำได้แต่ชี้นิ้วสั่ง โดยไม่เคยลงมือทำเอง
ไป๋ยี่เฟยนั่งอยู่ในออฟฟิศทั้งวัน ล้วนดูเอกสารของบริษัทอยู่ จนถึงเวลาเลิกงาน จึงเก็บของ เตรียมพร้อมที่จะเลิกงานกลับบ้าน
ก็อยู่ในเวลานี้ หลงหลิงหลิงผลักประตูเข้ามา
“มีธุระหรือ?” ไป๋ยี่เฟยเอ่ยปากถามก่อน
หลงหลิงหลิงส่งบัตรเชิญใบหนึ่งไป “กิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปมะรืนนี้จะจัดงานเต้นรำอยู่ที่โรงแรมเทียนเป่ย เรียนเชิญท่านไป”
ไป๋ยี่เฟยแปลกใจเล็กน้อย เปิดบัตรเชิญดูแล้วสักพัก “งานเต้นรำหรือ?”
“มะรืนหรือ? พอดีเป็นวันเกิดของเสว่เอ๋อ?”
นี่คือเริ่มมีสติปัญญาแล้วหรือ?
ไม่ถูก ถ้าหากว่าจัดงานวันเกิดให้เสว่เอ๋อ เรียนเชิญโหวจวี๋กรุ๊ปไปทำอะไรหรือ?
ไป๋ยี่เฟยอยู่ดีๆถามว่า“นอกจากพวกเรายังมีวิสาหกิจอื่นๆจะไปไหม?”
“ที่อื่นที่มีความสัมพันธ์ดีๆกับตระกูลหลี่ล้วนได้รับการเรียนเชิญทั้งหมด” หลงหลิงหลิงตอบกลับ
ไป๋ยี่เฟยขมวดคิ้ว ไม่ได้จัดเพื่อเสว่เอ๋อจริงๆ
หลงหลิงหลิงเมื่อได้เห็นดังนั้นอยากจะพูดแต่ก็ไม่พูด
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองเธอหนึ่งที “ยังไม่ไปหรือ? ยังมีเรื่องอะไรหรือ?”
หลงหลิงหลิงลองคิดดู กล่าวว่า “ท่านประธาน กิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ใช่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ลงทุนมากขนาดนี้ในครั้งเดียว จะไม่……”
ถ้าหากว่าขาดทุนแล้ว นั่นก็คือเงินร้อยล้านล่ะ!
ไป๋ยี่เฟยจ้องมองเธออย่างจืดชืดกล่าวว่า “ผมรู้”
หลงหลิงหลิง “…….”
รู้แล้วท่านยังลงทุนมากขนาดนั้น ร้อยล้านล่ะ!
เงินเยอะมากจนไม่มีที่จะใช้แล้วหรือ?
นี่ก็คือคนรวยรุ่นที่ 2 โดยทั่วไปคนหนึ่ง อะไรก็ไม่เป็น ก็รู้แต่ใช้เงิน โหวจวี๋กรุ๊ปอยู่ในมือของเขา ไม่ช้าก็เร็วสักวันหนึ่งก็จะจบลง!
“ยังมีธุระอีกไหม?” ไป๋ยี่เฟยถามอีก
หลงหลิงหลิงก้มหัวตอบกลับว่า “ไม่มีแล้ว นั่นฉันลงไปก่อนล่ะ”
พูดจบหลงหลิงหลิงก็สะบัดก้นอย่างงดงามออกไปเลย
ไป๋ยี่เฟยไม่สนใจจ้องมองหลงหลิงหลิงทีหนึ่ง เขารู้ความหมายของหลงหลิงหลิง แต่ว่าเขามีการพิจารณาของตนเอง
เก็บของเรียบร้อยแล้ว ไป๋ยี่เฟยก็กลับบ้านเลย
กลับถึงบ้าน มองเห็นอาหารที่อยู่บนโต๊ะ ในใจอบอุ่นขึ้นมาทันที
หลี่เสว่มองเห็นเขากลับมาแล้ว ยิ้มกล่าวว่า “คุณกลับมาแล้วเหรอ รีบมากินข้าว”
ไป๋ยี่เฟยซาบซึ้งเล็กน้อย เสียงอ่อนโยนพูดว่า “คุณไม่ต้องลำบากเช่นนี้ อาหารเย็นให้ผมสามารถมาทำได้ เรื่องของโครงการยังต้องให้คุณใส่ใจ วันหลังจะต้องยุ่งมากแน่นอน”
“เรื่องของโครงการ คุณปู่ดูเหมือนว่ายังไม่ได้ประกาศว่าจะให้ใครมารับผิดชอบ?” หลี่เสว่ตอบกลับ
ไป๋ยี่เฟยชะงักหนึ่งที “ยังไม่ได้ประกาศหรือ?”
จากนั้นหรือว่า “นั่นน่าจะประกาศอยู่ที่งานเต้นรำในวันมะรืนแล้ว”
“งานเต้นรำอะไรหรือ?”
“คุณไม่รู้หรือ?” ไป๋ยี่เฟยเห็นหลี่เสว่ตื่นตกใจขนาดนี้ ในทันทีนั้นก็ตื่นตกใจแล้วเช่นกัน
หลี่เสว่ส่ายหัว “ไม่ได้ยินเรื่องนี้”
ไป๋ยี่เฟยเห็นอย่างนี้เข้าใจแล้วทันที คือแท้ที่จริงแล้วพวกเขาก็ไม่ได้แจ้ง หลี่เสว่ทั้งครอบครัว ตั้งใจจะไม่ให้พวกเขาไป!
ฮึ! ดูแล้วนายท่านหลี่คนนี้ยังไม่รู้จักสำนึกแก้ไขจริงๆ เตะต้องถึงขีดต่ำสุดของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นั่นเขาก็ไม่ถือสาที่จะเล่นใหญ่กว่านี้!
ไป๋ยี่เฟยยิ้มกับหลี่เสว่กล่าวว่า “มะรืนคือวันเกิดของคุณ”
หลี่เสว่ตาเป็นประกายขึ้นมา “คุณจำวันเกิดของฉันได้หรือ?”
“ใช่แล้ว ผมอยากจัดงานวันเกิดให้กับคุณ อย่างยิ่งใหญ่มากแบบนั้น ถึงเวลานั้นเราทั้งครอบครัวล้วนไปหมด” ไป๋ยี่เฟยยิ้มกล่าว