บทที่ 15
หลี่ฝานเห็นสภาวะนี้ก็หยิบมือถือออกมา : “ดี พวกคุณรอฉันก่อน!”
หลิวจื่อหยุนฉับพลันก็ร้อนรน : “ไป๋ยี่เฟย! คุณทำอะไร? ต้องการสร้างเรื่องวุ่นวายใหญ่โตหรอ? รอคนมาแล้ว เสว่เอ๋อจะทำอย่างไร?”
เป็นธรรมดาที่หลิวจื่อหยุนจะตวาดเสียงดัง อารมณ์ไม่ดี แต่ต่อหน้านายท่านหลี่ ยังคงมีความหวาดกลัวเล็กน้อย
ไป๋ยี่เฟยมองหลิวจื่อหยุน พูดปลอบใจว่า : “แม่ อย่ากังวลเลย จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
หลิวจื่อหยุนมองไป๋ยี่เฟย มุมปากกระตุกเล็กน้อย ไม่พูดอะไรอีก
เวลานี้ไป๋ยี่เฟย เพียงแค่พูดเบาๆ ทว่าทำให้คนรู้สึกเชื่อและศรัทธา เวลาทำให้ในใจของหลิวจื่อหยุนสงสัยขึ้นมา ความไม่แน่นอนก็มากขึ้น
ทางด้านนั้น หลี่ฝานกำลังต่อสาย กำลังฟ้องอยู่ : “คุณปู่ เดิมทีพวกเราก็ไม่ได้อยู่ในสายตาของหลี่เสว่กับสามีไร้ประโยชน์ของเขาเลย ให้เธอไปบริษัท ไม่เพียงแต่ปฏิเสธ ยังทำให้ฉันขายหน้า! ตระกูลหลี่จะเป็นจะตายก็เหมือนกัน!”
คำพูดของหลี่ฝานทำให้หลี่เสว่กับหลิวจื่อหยุนกังวลมากขึ้น กลับกันหลี่เฉียงตง ยังคงมีท่าทางนิ่งเฉยเหมือนเดิม
“หลี่เสว่ คุณปู่ให้คุณรับสาย” หลี่ฝานมองหลี่เสว่ มุมปากยกยิ้มเย้ยหยัน
หลี่เสว่ใจเต้นรัว มองไปทางไป๋ยี่เฟยด้วยจิตใต้สำนึก
ไป๋ยี่เฟยเห็นสถานการณ์ก็เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์ พูดกับนายท่านหลี่ว่า : “คุณปู่ ฉันคือไป๋ยี่เฟย”
หลี่ฝานไม่คิดว่าไป๋ยี่เฟยจะแย่งโทรศัพท์ไป เมื่อรอสติกลับมาไป๋ยี่เฟยก็พูดอยู่แล้ว : “ไป๋ยี่เฟย! คุณบ้าไปแล้ว!”
น้ำเสียงของนายท่านหลี่เยือกเย็นเล็กน้อย : “ให้เสว่เอ๋อรับสาย”
“คุณปู่ เสว่เอ๋อป่วยอยู่ ไม่สะดวกรับสาย เวลานี้นอนหลับอยู่บนเตียง”
!!!
นี่ไป๋ยี่เฟยใจกล้ามากไปแล้วหรือเปล่า? คาดไม่ถึงว่าจะกล้าโกหกนายท่านหลี่ หลี่ฝานยังอยู่นะ!
หลี่ฝานตกตะลึงมองไปที่ไป๋ยี่เฟย นี่แม่งกำลังปั้นน้ำเป็นตัว หลี่เสว่ยืนอยู่ที่นี่ ยังบอกว่านอนหลับอยู่บนเตียง!
หลังจากสติกลับมา หลี่ฝานก็ตะโกนทันทีว่า : “คุณปู่ คุณอย่าไปฟังที่เขาพูด หลี่เสว่ก็ยืนอยู่ตรงหน้าฉัน!”
สายด้านนั้นไม่ได้พูดอะไร แต่ไหนแต่ไรก็ได้ฟังแต่คำพูดของหลี่ฝาน
หลิวจื่อหยุนนั่งลงบนโซฟาอย่างท้อใจ สีหน้าท่าทางเหมือนฟ้าจะถล่มลงมา
ผ่านไปนาน นายท่านหลี่จึงพูดว่า : “มีอะไรก็พูดเถอะ!”
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกได้ถึงความโกรธของนายท่านหลี่ ไป๋ยี่เฟยก็ยังคงนิ่งอยู่เหมือนเดิม : “อย่าลำเอียงมากเกินไป ทั้งหมดเป็นหลานของท่าน ทำไมต้องปฏิบัติแตกต่างกัน? ความสามารถของเสว่เอ๋อไม่ดีงั้นหรอ? ก็ไม่ใช่!”
“คุณอยากให้ฉันทำอย่างไรล่ะ?” นายท่านหลี่ถามด้วยน้ำเสียงสงบ
ไป๋ยี่เฟยพูดนิ่งๆว่า : “ทำผิดก็ต้องแก้ไข ก็ต้องมีท่าทีต่อการทำผิดด้วย”
พูดจบ ไม่เปิดโอกาสให้นายท่านหลี่พูดต่อ ก็ตัดสายทิ้ง
ไป๋ยี่เฟยพูดชัดเจนมากแล้ว หากว่านายท่านหลี่ไม่เข้า หรือแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ อย่างนั้นเขาก็สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ว่า ผลลัพธ์ที่ตามมาของการทำแบบนี้!
วางสายไป ทุกคนในห้องมีสีหน้าตกตะลึง
ทันทีหลังจากนั้นเสียงหัวเราะเยาะเย้ยของหลี่ฝานก็ตามมา : “ไป๋ยี่เฟย คุณมันโง่! คาดไม่ถึงว่าคุณจะกล้าพูดแบบนี้กับคุณปู่? คุณก็รอเถอะ! ครอบครัวนี้ของพวกคุณ ก็จะถูกคุณปู่ไล่ออกจากตระกูลหลี่ทันที!”
ได้ยินคำนี้หลิวจื่อหยุนกลับสติด่าว่าไป๋ยี่เฟยคุณสุดท้ายแล้วยังมีคุณธรรมอยู่ไหม? คุณกินฟรีอยู่ฟรีที่บ้านของพวกเรา สิ่งไหนที่ไม่ยุติธรรมกับคุณ? คุณต้องมาทำร้ายพวกเราแบบนี้?”
หลี่เสว่เห็นเช่นนี้ รีบดึงหลิวจื่อหยุนเพื่อมาปลอบใจ อันที่จริงในใจตนเองก็กังวลไม่หยุด
เวลานี้ หลี่เฉียงตงที่เงียบมาตลอดก็เอ่ยขึ้นว่า : “ฉันรู้สึกว่าพวกเราจะได้จัดเก็บบ้านเล็กน้อย เพื่อที่นายท่านมาเห็นจะได้ไม่ประทับใจกับเรายิ่งไปกว่านี้”
“เก็บอะไรก็เก็บ เก็บของแล้วออกไปให้พ้นเลยก็ได้!” หลิวจื่อหยุนโกรธคอเป็นเอ็น
หลี่เสว่ตกใจเล็กน้อย : “คุณปู่จะมาที่บ้านหรอ?”
นี้จะเป็นไปได้อย่างไร?
ไป๋ยี่เฟยยิ้ม : “นี่ก็บอกไม่ถูก”
พูดจบ หลี่เฉียงตงก็มองไปที่ไป๋ยี่เฟย : “ใช่ เก็บกวาดสักหน่อยน่าจะดีกว่า!”
ไป๋ยี่เฟยก็มองไปที่หลี่เฉียงตง ชั่วพริบตาที่ทั้งสองคนสบตากัน ไป๋ยี่เฟยก็ตกใจเล็กน้อย
ในสายตานั้นดูเหมือนว่ามีความเยือกเย็นสุขุมต่อเรื่องราว ไม่ใส่ใจต่อเรื่องราว ยังใจเย็นไม่หวั่นไหวไม่มีเปลี่ยน
พ่อตาคนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่คนธรรมดาๆแบบนั้น
หลี่ฝานทว่าหัวเราะจนเอามือกุมท้อง : “ครอบครัวพวกคุณนี่น่าตลกจริงๆเลย พวกคุณคิดว่าคุณปู่เป็นใคร? จะมาบ้านของคุณด้วยตนเองหรอ? พวกคุณอย่าฝันไปเลย!”
แต่ทว่า ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ไม่เพียงแต่นายท่านหลี่ สมาชิกอาวุโสคนอื่นๆของตระกูลหลี่ก็มาทั้งหมด หลี่ต้าไห่พ่อของหลี่ฝานก็มา
หลี่ฝานยืนชะงักงันอยู่ที่นั่น อย่างตกตะลึงตาค้าง
หลิวจื่อหยุนเห็นว่านายท่านหลี่มาจริงๆ ตกใจที่ได้รับความเมตตาเล็กน้อย แล้วรีบไปเชิญเข้ามา เพราะเช่นนี้ห้องรับแขกจึงแออัดมาก
นายท่านหลี่นั่งลงบนโซฟา มองห้องที่แคบๆเล็กๆนี้ ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่เคยสนใจบ้านหลังนี้มาโดยตลอด ครั้งมาเยี่ยมถึงบ้าน จึงพบว่า พวกเขาไม่ได้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีนัก ในใจก็เกิดความละอายใจเล็กน้อย
ฉับพลัน นายท่านหลี่ทอกถอนหายใจแล้วพูดว่า : “นานแล้วที่ไม่ได้มา……”
หลี่เฉียงตงตอบนิ่งๆว่า : “ครับ”
เงียบไปนาน นายท่านหลี่จึงมองไปที่ไป๋ยี่เฟย : “เรื่องของเอกสารสัญญาไม่ใช่จักต้องให้เธอไปให้ได้ คนอื่นๆก็ไปได้เช่นกัน”
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่นายท่านหลี่ : “คุณปู่ ท่านพูดคำนี้ เชื่อด้วยตนเองหรือยัง?”
นายท่านหลี่สีหน้าเคร่งขรึม
หลี่ฝานพูดเสียงดังว่า : “ไป๋ยี่เฟย! คุณพูดกับคูณปู่ว่าอย่างไร?”
“หุบปาก!” นายท่านหลี่ถลึงตาใส่หลี่ฝาน อันนี้เป็นสิ่งที่น่าผิดหวัง!
หลี่ฝานหยุดไปชั่วขณะ ยังอยากจะพูดต่อ ก็ถูกหลี่ต้าไห่ดึงไว้ : “ฉันให้คุณหุบปาก!”
หลี่ฝานก็ไม่กล้าพูดอีก
นายท่านหลี่ถอนหายใจเบาๆ : “ในที่สุดฉันก็เห็นคนผิดแล้ว……”
ชั่วขณะหนึ่ง ก็ถามอีกว่า : “คุณคิดว่าพวกเราต้องการเพียงแค่เอกสารสัญญาอันนี้หรอ?”
“ไม่ใช่ แต่เป็น 100 ล้าน” ไป๋ยี่เฟยตอบกลับ
กิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปต้องการเงินทุนจำนวนนี้ มิเช่นนั้นกิจการผลไม้หลี่ซื่อกรุ๊ปก็เป็นอันต้องจบสิ้นลง
นายท่านหลี่ทอดถอนหายใจอย่างเย็นชา ไม่ได้บอกว่าใช่หรือไม่
ไป๋ยี่เฟยยังพูดต่อว่า : “คุณปู่ ฉันก็ไม่ได้จะต้องการอะไร ฉันก็แค่อยากให้คุณปู่มาดูหลานสาวของตนเอง ดูว่าพวกเขาใช้ชีวิตอย่างไร?”
“ชัดเจนว่าทั้งหมดเป็นลูกหลานของตน ทำไมบางคนขับรถหรูอยู่คฤหาสน์ แต่บางคนก็สามารถอาศัยอยู่ในที่แบบนี้เท่านั้นหรอ? และบางคนอยู่บริษัทก็เป็นผู้บริหารระดับสูง ทว่าบางคนเป็นเพียงแค่พนักงานตัวเล็กๆ? ต่างคนต่างเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข คุณปู่ใจดำขนาดนี้เลยหรอ?”
ทุกคนมองไป๋ยี่เฟยด้วยความตกใจ
นายท่านหลี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
หลี่ฝานสบโอกาสก็พูดแทรกขึ้นมา : “คุณคิดว่าทุกๆคนจะเป็นผู้บริหารระดับสูงได้ใช่ไหม? ตัวเธอเองไม่มีความสามารถ สมน้ำหน้าแล้วที่เป็นพนักงานบริษัทตัวเล็กๆ!”
ไป๋ยี่เฟยหัวเราะ : “ใช่ พวกคุณมีความสามารถ งั้นพวกคุณมาที่นี่ทำอะไรล่ะ? มีความสามารถก็ไปลงนามกับหลันโปกั่งเองสิ มาหาเสว่เอ๋อทำอะไร?”
“คุณเข้าใจอะไร?” หลี่ฝานถลึงตาใส่ : “หากว่าไม่ใช่หลี่เสว่กับผู้จัดการใหญ่อะไรนั่นมี……”
“หุบปาก!” หลี่ต้าไห่จ้องมองหลี่ฝานอย่างโมโห
ทุกคนไม่เข้าใจเรื่องราว คำพูดของหลี่ฝานทุกคนเข้าใจความหมายอย่างชัดเจน เพียงแต่พูดออกมากับรู้อยู่แก่ใจมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ยิ่งสถานการณ์เป็นเช่นนี้ หลี่ฝานเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ พูดออกมาแบบนี้ ไม่ใช่ว่าหาเรื่องใส่ตัวเองหรอ?
แต่ว่าตอนนี้หลี่เสว่ไปสะกิดต่อมโมโหของไป๋ยี่เฟย ดังคำเคยที่ว่ากระตุกหนวดเสือ ก็ต้องสัมผัสกับความตายอย่างแน่นอน!
ไป๋ยี่เฟยสีหน้าเคร่งขรึม ในเมื่อตัวหลี่ฝานเองไม่รู้จักวางตัว เขาก็จะให้เขารู้ว่าอะไรควรพูด อะไรไม่ควรพูด!
นายท่านหลี่มองหลี่ฝาน : “เรื่องเล็กน้อยขนาดนี้ก็ทำไม่ได้ ฉันเพิ่งจะเห็นว่าคุณมันไม่มีประโยชน์ไม่มีความสามารถ!”
หลี่ฝานไม่เอ่ยปากใดๆ
นายท่านหลี่มองไป๋ยี่เฟย เมื่อก่อนคิดว่าไป๋ยี่เฟยคือคนที่ไร้ประโยชน์ ตอนนี้พิจารณาแล้ว นี่ไม่มีประโยชน์ซะที่ไหนล่ะ? ก็คือคนอื่นๆเหล่านั้น เทียบไม่ได้กับไป๋ยี่เฟยที่ใจเย็นสุขุมขนาดนี้!
ไป๋ยี่เฟยมองไปที่นายท่านหลี่ พูดอย่างเรียบเฉยว่า : “คุณเห็นแล้ว เดิมทีเสว่เอ๋อไม่ได้ป่วย ฉันแค่อยากให้ท่านรู้ว่า อย่าเลือกที่รักมักที่ชัง”
“ฉันไป๋ยี่เฟยไม่ได้สนใจอะไร แต่กับเสว่เอ๋อไม่เหมือนกัน ครอบครัวของพวกเขาก็คือญาติของคุณ ฉันหวังว่าพวกเขาจะได้รับความสำคัญจากท่าน”
“อยู่ที่นี่ฉันก็พูดอย่างชัดเจนแล้ว ตลอดชีวิตพินัยกรรมของท่านฉันไป๋ยี่เฟยไม่ต้องการมีส่วนแบ่งทรัพย์สมบัติของตระกูลหลี่ แต่พวกเขาเป็นญาติโดยสายเลือดของท่าน หวังว่าท่านจะยุติธรรมสักนิหนึ่ง”
ทุกๆคนก็อึ้งไป
คาดไม่ถึงว่าไป๋ยี่เฟยจะพูดคำเหล่านี้ออกมาอย่างเปิดเผย พวกเขาคนไหนๆไม่ใช่ว่าหลีกเลี่ยงที่จะไม่พูดหรอ?
แต่ไป๋ยี่เฟยไม่เพียงแต่พูด ยังแสดงความปรารถนาต่อนายท่านหลี่อีก คนคนนี้บ้าจริงๆเลย!
ไม่กลัวว่านายท่านหลี่จะโกรธแล้วไล่ครอบครัวของพวกเขาออกไปหรอ?