บทที่ 402 ยาเม็ดแกล้งตาย
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลานเยาเยา เพิ่งโดนไปไม่กี่เพลงดาบ เขาก็โซเซล้มลงไปอยู่ที่พื้น กระอักเลือดออกมาแล้ว
แต่เขาก็ยังยืนขึ้นมา คิดจะใช้พลังทั้งหมดมาโจมตีครั้งสุดท้าย จะแพ้ชนะก็มาดูกันที่ครั้งนี้
ที่จริงนายอำเภอตงเฉานั้นเก่งกาจมาก ทั้งยังเป็นคนที่ฮ่องเต้และเฉิงเสี้ยงให้ความสำคัญ แน่นอนว่าเขามีความสามารถเหนือผู้อื่น
นอกจากโหดเหี้ยมอำมหิตและไม่ไว้หน้าใครแล้ว ศิลปะการต่อสู้ของเขาแน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดานั้นเทียบได้
เพียงแต่ว่าเขามาเจอหลานเยาเยา เขาจึงทำได้เพียงยอมรับความโชคร้าย
นางมองความตั้งใจของนายอำเภอตงเฉาออก
หลานเยาเยาพ่นลมหายใจเย็นชา
ในเมื่ออยากจะสู้กับนาง งั้นก็จะให้เขาได้สมหวัง
ทั้งสองคนใส่สุดกำลัง ปะทะกันอย่างดุเดือด ในตอนที่กำลังสู้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร นายอำเภอตงเฉาก็ยิ้มขึ้นมาอย่างดุร้าย
มืออีกข้างที่ถือมีดใหญ่ของเขา ยกขึ้นมาหมายจะลอบฆ่า
มุมปากของหลานเยาเยายกขึ้น รีบเพิ่มพลังขึ้นมาอีกสองสามขั้น ซึ่งทำให้นายอำเภอตงเฉาสั่นสะเทือนเป็นอย่างมาก
“ปั้ง……”
ของหนักกระแทกพื้นอย่างรุนแรง ทำเอาฝุ่นดินตลบฟุ้ง
มีเสียง “พู่ว”นายอำเภอตงเฉากระอักเลือดออกมา เขากุมหน้าอกตัวเองไว้ อยากจะเงยหน้าขึ้นมา แต่ก็ไม่มีแรง
หลานเยาเยาเดินไปข้างหน้าเขาทีละก้าว และกดสายตาลงไปมองเขา
เมื่อเห็นท่าทางโกรธแค้นของเขา นางก็ไม่ได้พูดอะไร
แต่นายอำเภอตงเฉาคำรามอย่างไม่พอใจ: “เจ้าเป็นใครกันแน่?”
นี่เป็นครั้งที่สามแล้วที่เขาถามคำถามนี้
หลานเยาเยาส่งเสียงเย็นชา ปราดตามองเขา และพูดอย่างเย็นชา:
“ข้าชอบภาวนาให้ประชาชนที่สุด”
นางพูดเช่นนี้แล้ว ถ้าหากนายอำเภอตงเฉายังไม่รู้ ก็พูดได้แค่ว่าเขานั้นเป็นผู้โง่เขลา
แน่นอน!
ทันทีที่ได้ยินคำว่าภาวนาให้ประชาชนเพียงไม่กี่คำนี้ ยังมีอะไรที่นายอำเภอตงเฉาไม่รู้อีกหล่ะ?
เขามองหลานเยาเยาด้วยสีหน้าทั้งตกตะลึงทั้งเหลือเชื่อ และพูดอย่างขมขื่นว่า:
“เจ้า……เจ้าคือเทพธิดา? เจ้าก็รู้ว่าข้านั้นเป็นคนของฮ่องเต้ แล้วทำไมถึงยังต้องลงมือสังหารด้วย?”
เทพธิดาไม่ได้อยู่ฝั่งเดียวกับฮ่องเต้หรือ?
“มีบางเรื่องที่เจ้ายังไม่เข้าใจ ไม่ได้หมายความว่าฮ่องเต้จะไม่เข้าใจ และก็ไม่ได้หมายความว่าข้าไม่เข้าใจ
อย่าดูว่าข้าเป็นคนโง่ ในตอนที่ข้าคิดหาอุบายอยู่นั้น พวกเจ้าอาจจะกำลังเป็นเด็กน้อยที่ไม่รู้เรื่องอะไรอยู่!
คนที่ไล่ฆ่าช่าจื่อ ฮ่องเต้ก็ส่งเจ้าออกมาจัดการหนิ!”
น้ำเสียงของนางไม่ใช่การสอบถาม แต่เป็นการยืนยัน
นี่ทำให้นายอำเภอตงเฉาตกใจ
“คิด คิดไม่ถึงเลยว่าแม้แต่เจ้าก็รู้ ข้า……”
ลมหายใจสุดท้ายของนายอำเภอตงเฉายังไม่ได้สูดขึ้น ก็ต้องตายเสียแล้ว
หลานเยาเยายืนอยู่ข้างกายเขาสักครู่ หลังจากขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็นั่งยองๆลงมาตรวจลมหายใจเขา
ไม่มีลมหายใจแล้ว……
แม้แต่หัวใจก็หยุดเต้น
เขาตายแล้วจริงๆ
หลังจากรอจนกระทั่งหลานเยาเยาจากไป มือที่เต็มไปด้วยคราบเลือดของนายอำเภอตงเฉาก็ขยับเล็กน้อย เมื่อผ่านไปนาน เขาก็กลับมาหายใจอีกครั้ง
“แค่กๆๆ……”
เขาไออย่างรุนแรง จนสุดท้ายก็อ้วกออกมาเป็นเลือด ในเลือดนั้นมีเม็ดยาที่ยังไม่ละลายผสมอยู่
ยาเม็ดนี้คือยาเม็ดแกล้งตาย หลังจากที่อมเอาไว้ในปากแล้ว ก็สามารถทำให้คนอยู่ในสภาวะแกล้งตาย
โชคดีที่ถังเฉิงเสี้ยงให้ยาเม็ดนี้เขาไว้ และเขาก็พกติดตัวมาตลอด
ถ้าไม่เช่นนั้น……
วันนี้เขาคงยากที่จะหนีความตาย!
“เทพธิดา เจ้าฝันก็คงคิดไม่ถึงใช่ไหม? ว่าคนที่ตายอยู่หน้าเจ้านั้นไม่ได้ตายจริงๆ”
เขาจะต้องรีบกลับไปเมืองหลวง และรีบบอกกับฮ่องเต้ว่า เทพธิดานั้นรู้เรื่องที่ฮ่องเต้ลอบสังหารสาวใช้ข้างกายนางแล้ว และวันนี้เทพธิดาก็ได้ปรากฏตัวที่นี่ ต้องไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ จะต้องมีความลับที่บอกใครไม่ได้แน่ๆ
หรือจะบอกว่า จุดประสงค์ของเทพธิดาก็คือ มุ่งมายังหมู่บ้านที่เขาดูแล
พอคิดถึงความน่าจะเป็นนี้ได้ นายอำเภอตงเฉาก็รู้สึกเครียดขึ้นมา
แต่ทว่า……
โดนฝ่ามือของเทพธิดาตีเข้าไป อวัยวะภายในของเขาก็ขยับไปหมด ต้องฝืนอยู่นานถึงจะสามารถบังคับให้ลุกขึ้นมาได้
จากนั้นก็หมุนตัว มุ่งหน้าไปทางเมืองหลวง
แต่ในตอนที่เขาหมุนตัว เขาก็ต้องหยุดฝีเท้าไว้ด้วยความตื่นตระหนก ร่างกายเริ่มสั่น สีหน้าที่ซีดอยู่แล้วก็ยิ่งซีดเข้าไปอีก
“จะ……เจ้า……ทำไมเจ้ายังอยู่ที่นี่อยู่อีก?”
นัยน์ตาของเขาสะท้อนร่างงดงามสีแดงท่าทางห้าวหาญองอาจออกมา ราวกับเป็นคาถาที่เร่งเอาชีวิตเขา
นายอำเภอตงเฉากุมหน้าอก สายตาเผยความหวาดกลัว ก้าวถอยหลังไปทีละก้าวอย่างยากลำบาก
ตอนนี้เขากลัวจริงๆ
หลานเยาเยาเดินใกล้เขาเข้ามาทุกฝีก้าว ราวกับยมทูตในนรกที่จะมาเอาวิญญาณเขา
“พวกเจ้าที่อวดฉลาดเกินไปนั้นได้ลืมสิ้นแล้ว ว่าข้านอกจากจะมีศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ใบหน้าที่งดงาม และชอบภาวนาให้ประชาชนแล้วนั้น สิ่งที่ข้าเก่งที่สุดก็คือวิชาการรักษา
แต่ละคนอยากหาเหาใส่หัวเอง คิดว่าใช้ยาแกล้งตายแล้วข้าจะไม่สังเกตเห็นงั้นหรือ?”
“เจ้า……เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?”
ก่อนหน้านี้นายอำเภอตงเฉายังไม่พบว่ารอยยิ้มของเทพธิดานั้นน่ากลัวขนาดนี้
ดูท่า จุดประสงค์ของเทพธิดา ก็คือพลังที่แอบบ่มอยู่ของฮ่องเต้
“ไม่ใช่ว่าเจ้าคิดออกแล้วหรือ? ยังจะถามอีกทำไม?” หลานเยาเยาเลิกคิ้ว
“เป็นไปไม่ได้ เจ้าทำไม่สำเร็จหรอก……”
“จะสำเร็จหรือไม่ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า”
ทันทีที่สิ้นเสียง
ม่านตาของนายอำเภอตงเฉาก็เบิกตากว้างทันใด เพราะในตอนนี้ หลานเยาเยาได้กลายเป็นภาพเบื้องหลัง และแฉลบตัวมาตรงหน้าเขาเสียแล้ว
มือเรียวขาวข้างนึงบีบคอเขาไว้ทันที มีหวาดกลัวในนัยน์ตาของเขา ลำคอก็ถูกหักดังกร๊อบ
“ปัก……”
หลานเยาเยาโยนร่างศพของนายอำเภอตงเฉาลงพื้น จากนั้นก็ปัดมือ โบกแขนเสื้อหมุนตัวจากไป
จนกระทั่งหลานเยาเยากลับไปบนเขาอีกครั้ง หน่วยข่าวกรองของสำนักหงอีก็รีบมาบอกนาง
ยู่หลิวซูและถิงเมี่ยนได้เข้าไปปะปนในหมู่บ้านได้สำเร็จแล้ว อีกทั้งพวกเขายังแต่งตัวเป็นชาวบ้านปะปนเข้าไป
มุมปากของหลานเยาเยายกขึ้น
“หลังจากพลบค่ำ ในหมู่บ้านจะต้องมีการเคลื่อนไหว ถ้าหากมีการเคลื่อนไหวที่ใหญ่ พวกเราก็จะลงมือ
“ขอรับ!”
หน่วยข่าวกรองรับคำและออกไป ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็มีคนนึงวิ่งพุ่งมาทางนางด้วยความไว
ทันทีที่มาถึงตรงหน้านาง ก็รีบคุกเข่าข้างนึงคำนับ:
“เจ้าสำนัก ศพของจ้าวซื่อและนายอำเภอตงเฉาจัดการเรียบร้อยแล้ว”
หลานเยาเยาส่งเสียงอืมตอบรับเบาๆ และเอ่ยขึ้นว่า: “แล้วคนที่กลิ้งลงมาจากหน้าผาบนศาลาชีลีหล่ะ?”
“กำลังหาอยู่ ตอนนี้พบศพเพียงจำนวนหนึ่ง ยังขาดอีกสองสามคน” หน่วยข่าวกรองตอบตามความจริง
“ไม่ต้องหาแล้ว พวกเขาไม่รู้ตัวตนของข้า แม้พวกเขาจะโชคดีที่ไม่ตาย ด้านฮ่องเต้ก็คงไม่ไว้ชีวิตพวกเขา”
“ขอรับ!”
หลานเยาเยาพาดมือไว้ด้านหลัง มองหมู่บ้านที่อยู่ล่างเขาไกลออกไปอย่างไม่แยแส เงียบไปสักพักและพูดขึ้นมาว่า:
“หลังจากโจมตีหมู่บ้านแล้ว ก็เอาศพของจ้าวซื่อและคนอื่นๆไปไว้ที่หมู่บ้านนั่นด้วยกัน”
“ขอรับ เจ้าสำนัก”
เริ่มตกกลางคืน ถึงเวลาอาหารเย็น ทุกครัวเรือนในหมู่บ้านก็เริ่มทำกับข้าว
ควันลอยขึ้นจากปล่อง รวมทั้งหมอกสลัวๆ ทำให้หมู่บ้านนี้เหมือนกับตั้งอยู่บนสวรรค์ท่ามกลางหมอก
ถิงเมี่ยนและยู่หลิวซูที่แสร้งทำเป็นชาวบ้าน ก็ค่อยๆหาที่อำพรางเพื่อติดต่อกัน
“เป็นยังไงบ้าง? เจ้าสืบเจออะไร?”