หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – ตอนที่ 396 มือสังหารมีสองกลุ่ม

บทที่ 396 มือสังหารมีสองกลุ่ม

เขาก็เบิกตากว้างด้วยความหวาดกลัว เขามีความรู้สึกราวกับว่างูตัวนั้นได้หาเจอทางเข้าแล้ว และกำลังจะเข้าไปในร่างกายของเขา เขาจึงรีบตะโกนออกมาอย่างสุดชีวิต

“ข้าพูด ข้าจะพูดหมดเลย ขอร้องท่านได้โปรดปล่อยข้าเถอะ รีบปล่อยข้า ข้าจะพูดทุกอย่าง ……”

“เร็วเข้า ข้าขอร้องท่าน ข้าจะพูดทุกอย่างจริงๆ ข้าไม่อยากตายเช่นนี้ ได้โปรด ……”

มองดูมือสังหารตะโกนออกมาอย่างสุดชีวิต จื่อซีที่ยืนอยู่ด้านหลังของหลานเยาเยา ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังคุณหนูของตัวเองด้วยความสงสัย

เขาพูดด้วยความสงสัย:“คุณหนู ยานั่นเป็นยาผงที่สามารถดึงดูดแมลงได้จริงหรือ?”

ทั้งที่แท้จริงแล้วบนร่างกายของมือสังหารไม่ได้มีสิ่งใดเลย แต่เอากลับดิ้นรนอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดขีด ราวกับว่าเขาได้พบเห็นกับเรื่องที่น่าหวาดกลัวอย่างมาก ……

ได้ยินเช่นนั้น!

มุมปากของหลานเยาเยาก็กระตุกขึ้น

หันหน้าไปมองจื่อซีเล็กน้อย แล้วพูดออกมาอย่างสงบนิ่ง:“เจ้าคิดว่าอย่างไรหล่ะ?”

“ถ้าให้ข้าน้อยพูด นี่คงจะเป็นยาหลอนประสาท”

เขาอยู่ข้างกายหลานเยาเยามาได้หลายปี ทักษะวิชาการรักษาการก้าวหน้าไปไม่น้อย สำหรับยาหลอนประสาทเช่นนี้ มีหรือที่เขาจะมองไม่ออก

“เจ้าอยากจะลองหรือไม่?ข้าจะได้เห็นว่า ความกลัวที่อยู่ในจิตใจของเจ้าคือสิ่งใด?”หลานเยาเยาเลิกคิ้ว มองไปยังจื่อซีอย่างจริงจัง

จื่อซีที่ได้ยินเช่นนั้น

ก็รีบสะบัดมือ“ไม่เอาไม่เอา”

ถึงแม้เขาจะไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เขากลัวที่สุดคืออะไร แต่เขาที่ได้อยู่ข้างกายเทพธิดานั้นได้ใช้ชีวิตตามอำเภอใจอย่างสง่า นอกจากการใช้ชีวิตที่น่าตื่นเต้นเล็กน้อย ในเวลาอื่นๆนั้นค่อนข้างที่จะอิสระและเรียบง่าย

ถ้าหากรับยาหลอนประสาทมาแล้ว เขาเกิดทำตัวอัปลักษณ์ออกมา แล้วจากนี้จะพบปะผู้คนได้อย่างไร?

“กลัวขนาดนั้นเชียวหรือ?”

เดิมทีนางไม่ได้คิดจะใช้ยาหลอนประสาทกับจื่อซีอยู่แล้ว เพียงต้องการกลั่นแกล้งเขาเท่านั้น หลังจากได้เห็นการตอบสนองของเขาแล้ว หลานเยาเยาก็ไม่ต้องการที่จะล้อเล่นเขาอีก

ท้ายที่สุด ก็กลับมายังเรื่องสำคัญ

นางหยิบขวดยาสีม่วงอ่อนออกมายื่นให้กับจื่อซี “นี่เป็นยาถอนพิษยาหลอนประสาทนั่น เอาไปถอนฤทธิ์ยาให้เขาเถอะ ไม่เช่นนั้นเขาจะทนไม่ไหวจนตาย”

“รับทราบ!”

หลังจากที่จื่อซีถอนพิษให้กับมือสังหารแล้ว มือสังหารที่ยังคงหลวดกลัวก็ได้บอกความจริงเรื่องของผู้บงการเบื้องหลังพวกเขาออกมา

ที่แท้ เหล่ามือสังหารพวกนั้นได้รับการจ้างมาจากกงกงที่อยู่ในพระราชวัง ซึ่งกงกงผู้นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นใด แต่เป็นขันที่ใหญ่ที่อยู่ข้างกายของฮ่องเต้ และเขาจะรับคำสั่งจากฮ่องเต้เท่านั้น

เมื่อถามถึงเรื่องการฆ่าช่าจื่อ มือสังหารเองก็ยอมรับสารภาพเร่องนี้เช่นกัน แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ พวกเขาไม่ได้ฆ่าช่าจื่อจนตาย เพราะปล่อยให้นางหนีไปได้

“ดังนั้นช่าจื่อไม่ได้ตายด้วยฝีมือของพวกเจ้า?”หลานเยาเยาขมวดคิ้ว

“อืม นางได้รับบาดเจ็บแล้วหนีไป”

“ดูแล้วยังมีกลุ่มคนอื่นแน่นอน”

จากนั้นมือสังหารรยังบอกอีกว่าหากพวกเขาฆ่าช่าจื่อได้ ก็คงจะต้องมีการนำหลักฐานที่ได้เตรียมเอาไว้ล่วงหน้ามาวางไว้เพื่อใส่ร้ายอ๋องเย่ ดังเช่นที่ทำในวันนี้

จากนั้น หลังจากที่หลานเยาเยาและจื่อซีออกมาจากคุก

จื่อซีก็ถามด้วยสีหน้าสงสัย:“คุณหนู มือสังหารคนนั้นจะพูดเท็จหรือไม่?”

หลานเยาเยาที่ใช้มือเท้าคางเอาไว้ พร้อมกับเดินไปวิเคราะห์ไปด้วย เมื่อได้ยินความสงสัยของจื่อซี นางก็ส่ายหัว

มือสังหารไม่ได้พูดปด!

ก่อนที่ช่าจื่อจะตาย ได้บอกเอาไว้ว่าเย่แจ๋หยิ่งเป็นคนฆ่านาง แสดงว่าก่อนที่นางจะได้รับบาดเจ็บสาหัสเจียนตาย คงจะได้เห็นเย่แจ๋หยิ่งแน่นอน เพื่อที่จะให้ช่าจื่อกลับมาบอกข่าว ดังนั้นคนที่ฆ่าช่าจื่อตัวจริงถึงไม่ได้ฆ่าช่าจื่อให้ตายคาที่

ดังนั้นนางสามารถสรุปได้เลยว่า มือสังหารรับจ้างจากฮ่องเต้และมือสังหารที่ฆ่าช่าจื่อตัวจริง ไม่ใช่คนๆเดียวกัน แต่เป้าหมายของพวกเขานั้นเหมือนกัน

ก็คือฆ่าช่าจื่อให้ตาย แล้วโยนความผิดให้กับเย่แจ๋หยิ่ง

จะว่าไปเย่แจ๋หยิ่งนั้นเป็นถึงอ๋องเย่เทพเจ้าแห่งสงคราม ในมือมีทั้งกำลังทหาร และความเป็นมหาอำนาจ

หากมารวมตัวกับเทพธิดาผู้มีความลึกลับอย่างนาง ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะได้

สิ่งนี้คือสิ่งที่ศัตรูผู้ไม่ประสงค์ดี ไม่ต้องการเห็นมากที่สุด

ดังนั้นจึงได้มีอุบายการฆาตกรรมนี้ขึ้นมา

เพียงแต่ว่า······

หลายปีมานี้ศัตรูของนางมีมากมายขนาดนั้น ซึ่งต่างก็ซ่อนตัวอยู่ในที่มืดทั้งนั้น ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง แต่ต่างก็เฝ้ารอโอกาสที่จะลงมือทั้งนั้น มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นพวกเขา

ถึงแม้ความเป็นไปได้จะน้อย แต่ก็ไม่ได้หมายความจะเป็นไปไม่ได้เลย

แล้วผู้ที่ไม่ต้องการเห็นนางและเย่แจ๋หยิ่งอยู่ร่วมกัน ก็คือฮ่องเต้และราชครูเทียนเวิง

สามารถตัดฮ่องเต้ออกไปได้ เพราะมือสังหารที่เขาส่งมานั้นทำการสังหารไม่สำเร็จ เช่นนั้นก็มีเพียงราชครูเทียนเวิงแล้ว

ไม่สิ!

ราชครูเทียนเวิงไม่มีความจำเป็นอันใดที่จะต้องลงมือกับสาวใช้ของนาง ถ้าหากเขาอยากจะลงมือคงจะเลือกเพียงคนที่เก่งกาจ อย่างจื่อซีและจื่อเฟิง แล้วก็เหล่าตาเฒ่าพวกนั้น

คนที่ลงมือคนนั้น เลือกเพียงแต่ผู้ที่อ่อนแอข้างกายนาง แต่มีอิทธิพลสำหรับนาง

ราวกับว่า······

ต้องการที่จะแบ่งระยะห่างของนางกับเย่แจ๋หยิ่ง แต่ไม่ได้ต้องการกับผู้ช่วยที่เป็นดั่งแขนซ้ายขวาของนาง ซึ่งคนที่สามารถใช้วิธีการเหล่านี้ นางได้คิดถึงคนคนหนึ่ง

“คุณหนู ในเมื่อสิ่งที่มือสังหารเป็นเรื่องจริง ดูแล้ว ······”

จื่อซียังไม่ทันได้พูดจบ ก็เห็นองครักษ์นายหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยความรวดเร็ว

“รายงานคุณหนู มีมือสังหารเข้ามาในตำหนัก!”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น แววตาของหลานเยาเยาก็เย็นชาลงมาทันที ส่วนจื่อซีเองก็ทำท่าจริงจังขึ้นมา

“เดินไปพูดไปแล้วกัน”

หลานเยาเยาพาจื่อซีเดินไปยังลานด้านหลัง ซึ่งระหว่างนั้นองครักษ์ก็ได้กล่าวถึงสิ่งที่ได้เกิดขึ้น

หลังจากที่นางพาจื่อซีเข้าไปยังคุกมืด มือสังหารก็เข้ามา ทั้งยังไม่ได้มือสังหารเพียงคนเดียวอีกด้วย

พวกเขาแบ่งกันออกไปยังห้องนอนของเย็นหงและไปยังห้องของเหล่าผู้เฒ่า ที่ห้องผู้เฒ่านั้นพวกเขาทำการวางเพลิง ส่วนที่ห้องเย็นหงนั้นพวกเขาลงมือฆ่าโดยตรง

เป็นอย่างที่คิดไว้!

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนนั้นไม่ได้ต้องการทำร้ายผู้ช่วยของนาง ส่วนเหล่าผู้เฒ่าเองก็มีวรยุทธ์ ซึ่งวรยุทธ์ของแต่ละคนนั้นก็ถือว่าไม่เลว หากแค่วางเพลิง พวกเขาสามารถที่จะหนีออกมาจากเปลวเพลิงได้อย่างง่ายดายอยู่แล้ว

แต่ว่าเย็นหงนั้นต่างไป

คนผู้นั้นต้องการฆ่าเย็นหง จากนั้นก็ทำการโยนความผิด เพียงแค่จื่อเฟิงมาเห็นได้ทันเวลา มือสังหารจึงทำการไม่สำเร็จ

เมื่อมาถึงยังห้องของเย็นหง ก็พบว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เพียงแค่ตกใจเท่านั้น

เมื่อเห็นนางเดินเข้ามา เย็นหงก็ร้องไห้รั้งนางเอาไว้ :“เทพธิดา คนที่ฆ่าข้านั้น เขาสวมชุดสีดำ รูปร่างหน้าตาราวกับอ๋องเย่ แต่ข้าน้อยกล้ารับรองเลยว่าคนผู้นี้ไม่ใช่อ๋องเย่แน่นอน มีคนสวมรอยเป็นเขา”

เย็นหงเคยเจอกับอ๋องเย่มาก่อน ลมปราณของอ๋องเย่นั้นมีความแข็งแกร่งอย่างมาก จนทำให้นางไม่กล้าที่จะสบตาด้วย

เมื่อสักครู่นี้ นางคิดว่าตัวเองจะต้องตายอย่างแน่นอน จึงอยากจะเห็นว่าผู้ที่อยากจะข้านางแท้จริงแล้วเป็นผู้ใดกันแน่

หลังจากที่ได้เห็นอ๋องเย่ นางก็ถึงกับตะลึงงัน

คนที่ฆ่าช่าจื่อเป็นอ๋องเย่จริงงั้นหรือ?

แต่เทพธิดาเชื่อมั่นในตัวเขาถึงเพียงนี้ ดังนั้นนางจึงจ้องมองอย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง ถึงได้รู้ว่าบุคลิกและแรงกดดันจากตัวเขาคนนั้นแตกต่างจากอ๋องเย่ไปโดยสิ้นเชิง แถมนางยังได้พบอีกว่าคนผู้นั้นไม่ได้เร่งรีบที่จะฆ่านาง แต่ให้นางได้เห็นเขาอย่างละเอียดเสียก่อนจากนั้นค่อยฆ่านาง ดังนั้นนางถึงได้มั่นใจอย่างมากว่าคนที่ต้องการจะฆ่านางไม่ใช่อ๋องเย่แน่นอน

“เช่นนั้นหากได้เจอกับเหตุการณ์เช่นนี้อีก สิ่งแรกที่เจ้าจะต้องทำคือช่วยเหลือตัวเอง ไม่ใช่การมองดูรูปร่างลักษณะของมือสังหาร นั่นมันไม่คุ้มค่า เจ้าเข้าใจหรือไม่?”

สาวใช้สองคนที่นางคัดเลือกมาอย่างดี อีกคนไม่ชอบอยู่นิ่งอีกคนเงียบสงบ อีกคนมีวรยุทธ์การต่อสู้ ส่วนอีกคนก็มีความรู้ฉลาดหลักแหลม

ช่าจื่อที่มีวรยุทธ์การต่อสู้ก็ได้ตายไปแล้ว ส่วนเย็นหงที่ค่อนข้างมีสมองก็เกือบจะถูกฆ่า แต่คิดไม่ถึงเลยว่าก่อนที่เย็นหงจะตายนางกลับทำเรื่องการชี้ตัวมือสังหารอย่างละเอียด ไม่ใช่การเอาตัวรอด

นางช่างเป็นคนที่ใจรักภักดีจริงๆ!

“เจ้าค่ะ เทพธิดา ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”

หลานเยาเยาปลอบนางอยู่หลายประโยค ก่อนที่จะออกมา แล้วได้เห็นเหล่าผู้เฒ่าที่ออกมาจากเปรียวเพลิงอย่างพอดี

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset