บทที่ 381 นางตั้งครรภ์แล้ว
เมื่อมาถึงลานด้านหน้า หลานเยาเยาได้เรียกตาแก่เข้ามา ให้เขาส่งองครักษ์ของตำหนักบางส่วนออกไปตามหา
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง
ท่ามกลางการรอคอยอันยาวนาน องครักษ์คนหนึ่งได้อุ้มช่าจื่อที่กำลังใกล้ตายกลับมาแล้ว
ทั่วทั้งร่างของนางเต็มไปด้วยคราบเลือด แต่กลับมีบาดแผลแค่บาดแผลเดียว
อีกทั้งบาดแผลอยู่ตรงตำแหน่งที่อันตรายถึงชีวิต มองไปยังเลือดที่ไหลออกมาจากหัวใจของนาง ทำให้เสื้อผ้าบนหน้าอกของนางถูกย้อมกลายเป็นสีแดง
สีหน้าของหลานเยาเยาจู่ๆ ก็เยือกเย็นลง
“วางตัวนางลง!”
องครักษ์ได้วางตัวช่าจื่อลงบนพื้นอย่างช้าๆ หลานเยาเยาได้คุกเข่าลงจับชีพจรของนางอย่างรวดเร็ว
ขณะที่จับชีพจรของนาง เพียงครู่เดียวหัวใจของนางก็เบาลง
หัวใจที่ถูกแทงทะลุผ่าน การที่มีชีวิตอยู่ได้จนถึงตอนนี้เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์มาก
แต่!
หลานเยาเยายังได้สอดมือเข้าไปในแขนเสื้อ หยิบยาที่ดีที่สุดออกมาเพื่อใช้หยุดเลือดให้กับช่าจื่อ
แต่ ช่าจื่อกลับอ่อนแอจนทำได้เพียงส่ายหน้าเล็กน้อย แต่ดูเหมือนจะมีเรื่องราวที่ร้อนรนบางอย่างอยู่สายใจและต้องการที่จะพูดออกมา
นางปฏิเสธที่จะพันแผล
เมื่อเห็นว่านางต้องการที่จะพูด หลานเยาเยาก็ก้มหน้าลง เข้าไปใกล้ปากของนาง
นางค่อยๆ พูดออกออกมาได้สองสามคำ “อ๋อง……เย่……ฆ่าข้า……”
ดูเหมือนว่าพยายามจะพูดออกมาไม่กี่คำ พูดจบก็หมดลมหายใจ
เมื่อได้ยินคำพูดไม่กี่คำเหล่านั้น หลานเยาเยาได้ตกตะลึง ราวกับถูกฟ้าผ่าลง แต่บนใบหน้าของนางกลับแสดงออกถึงความสงบเป็นอย่างมาก
จากนั้น นางก็ปล่อยช่าจื่อออกอย่างนิ่งๆ และค่อยๆ ลุกขึ้นยืน หลับตาลงอย่างเงียบๆ
เย็นหงที่อยู่ด้านข้างได้คุกเข่าลงทันทีเข้าไปโอบกอดช่าจื่อและร้องไห้
ตาแก่ก็ถอนหายใจลึกๆ เช่นกัน
จากนั้นได้สั่งองครักษ์ให้เขาไปอุ้มศพของช่าจื่อขึ้นมา และเดินไปยังลานด้านหลัง
หลานเยาเยาที่ยืนอยู่ตรงนั้น ได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกเขาที่ค่อยๆ ห่างออกไป นางจึงแอบถอนหายใจ และค่อยๆ ลืมตาขึ้น
อ๋องเย่ฆ่าข้า……
เย่แจ๋หยิ่งนะหรือ
แน่นอนว่าทางแห่งความสุขนั้นเต็มไปด้วยอุปสรรค ในวันนี้ก็คงจะมาถึงแล้ว เพียงแต่มันเร็วกว่าที่คิดเอาไว้มาก
หลังจากวันนี้
ตำหนักเทพธิดาแห่งนี้ของนางก็คงจะไม่สงบสุขอีกต่อไป
แสงดาบเงากระบี่ และแผนชั่วร้ายอย่างลับๆ ล้วนถูกผลัดกันขึ้นแสดง……
หลังจากยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง
หลานเยาเยาไปที่ห้องของฮัวหยู่อัน
ไม่กี่วันมานี้ ฮัวหยู่อันได้ฟื้นขึ้นแล้ว นางให้ความร่วมมือในการรักษาด้วยความกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก ไม่มีการต่อต้านเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม นางเป็นคนไม่ชอบพูด
นอกจากพูดกับอาฝูและโม่ซางเพียงไม่กี่ประโยค คนอื่นที่เหลือนางก็ไม่เคยพูดจากับใครเลย แม้แต่โม่เหลียงเฉินก็เช่นกัน
แต่สำหรับนางแล้ว
นอกจากพยักหน้า ส่ายหน้า หรือพูดคำง่ายๆ อย่าง “อืม ใช่ ไม่ใช่” เพื่อตอบกลับแล้ว ที่เหลือฮัวหยู่อันก็ได้แต่แกล้งหลับ
เมื่อมาถึงด้านหน้าประตูห้องของฮัวหยู่อัน หลานเยาเยาทำสีหน้าเรียบนิ่ง จากนั้นยกมือขึ้นเคาะประตู
“ตึง ตึง ตึง ……”
ไม่มีเสียงดังออกมาจากในห้อง ดูเหมือนว่าคนข้างในได้หลับไปแล้ว
แต่!
หลานเยาเยารออยู่เพียงครู่เดียว ไม่ได้เคาะประตูอีก ก็ได้ผลักประตูเข้าไปเบาๆ
เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน ภายในห้องมืดสลัวมาก จึงมองสภาพการณ์ภายในได้ไม่ชัดเจน
นางเดินไปที่ด้านหน้าของเชิงเทียน และหยิบห่อจื๋อจื่อขึ้นมาจุดเทียนให้สว่าง
เมื่อแสงเทียนสว่างไสวเต็มไปทั่วห้องในทันที ฉากที่น่าประหลาดใจฉากหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้น เบื้องหน้าของหลานเยาเยาก็คือด้านหลังของเชิงเทียน เป็นใบหน้าซีดเผือดใบหน้าหนึ่ง
ผู้หญิงคนหนึ่งถือมีดสั้นยกขึ้นเหนือศีรษะ มีท่าทางที่กำลังจะฆ่าคน นางเม้มริมฝีปากเน้น มองมายังนางด้วยสายตาที่อาฆาตแค้น……
นางคือฮัวหยู่อัน!
ได้มองเห็นฉากนี้ในกลางคืน
ท่าทางของฮัวหยู่อันในขณะนี้ ทำให้คนตกใจ
แต่ทว่า หลานเยาเยากลับหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็หันกลับมา และนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยตนเอง
เมื่อเห็นว่าเป็นนาง ฮัวหยู่อันก็เก็บมีดสั้นไว้ เดินเข้ามาทางนางทีละก้าว แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามนาง
ฮัวหยู่อันไม่ได้พูดอะไร
ดูเหมือนจะรอให้นางพูด
เดิมทีหลานเยาเยามาที่นี่ก็เพราะมีเรื่องจะพูด ดังนั้น ทันทีที่ฮัวหยู่อันนั่งลง นางก็พูดว่า
“ช่าจื่อสาวใช้คนสนิทของข้าเพิ่งจะตายไป นางถูกคนฆ่าตาย แล้วยังตายต่อหน้าฆ่า”
น้ำเสียงของหลานเยาเยาเรียบนิ่งและเชื่องช้า ราวกับว่าผู้ตายไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับนางเลย
ได้ยินดังนั้น!
แววตาของฮัวหยู่อันได้เปล่งประกายออกมาด้วยความประหลาดใจ แต่เป็นเพียงประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น
สาวใช้คนนั้นนางเคยเห็นมาก่อน ดูจากลักษณะแล้ว เหมือนจะเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์และภักดีมาก
“เป็นเพราะข้าอย่างนั้นหรือ” ฮัวหยู่อันไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป
“ไม่ใช่ เป็นเพราะข้า”
หลานเยาเยารินชาสองถ้วย เดิมทีแล้วต้องการจะยื่นให้ฮัวหยู่อันหนึ่งถ้วย จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่านางเพิ่งจะกินยาไปไม่นาน ไม่สามารถดื่มชาได้ จึงได้ยกเลิกไป
พูดขึ้นอีกครั้ง “ตำหนักเทพธิดาไม่ปลอดภัยอีกแล้ว”
“พรุ่งนี้ข้าต้องไปแล้ว คงจะไม่ต้องรบกวนอีก”
“เมืองหลวงก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน!” นางกล่าวต่อไป
นางรู้ ว่าฮัวหยู่อันไม่สามารถออกจากเมืองหลวงได้ เพราะนางรู้อยู่แล้วว่าราชครูใหญ่ของราชวงศ์เก่าก็คือราชครูใหญ่คนปัจจุบัน นางต้องการจะแก้แค้น แล้วจะออกไปได้อย่างไร
เป็นไปอย่างที่คิด!
“ความแค้นยังไม่ได้ชำระ ข้าไม่มีทางจะออกจากเมืองหลวงเด็ดขาด” สีหน้าที่แน่วแน่ปรากฏอยู่ในดวงตาของนาง
“นางตั้งครรภ์แล้ว”
“อะไรนะ” ฮัวหยู่อันไม่เข้าใจเล็กน้อย
“อาฝูตั้งครรภ์แล้ว ตอนนี้ก็ใกล้สามเดือนแล้ว แต่ทารกในครรภ์ไม่ค่อยคงที่” นางก็รู้โดยบังเอิญเช่นกัน
ตอนที่รักษาอาการป่วยให้ฮัวหยู่อัน จริงๆ แล้วนางต้องการที่จะรับผ้าขนหนูร้อนที่อาฝูยื่นมาให้ แต่กลับไปคว้าโดนข้อมือของนางโดยไม่ทันระวัง
นางแอบประหลาดใจ!
ทำไมมีครรภ์แล้วยังวิ่งไปมาโดยรอบอีก หรือนางยังไม่รู้ตัว
แต่!
เมื่อเห็นท่าทางที่หลบหลีกของอาฝู นางก็รู้ ว่าอาฝูรู้อยู่แล้ว
ข่าวดีก็คือ โชคดีที่การบาดเจ็บครั้งก่อน ไม่ได้ทำให้นางต้องสูญเสียลูกในท้องไป
เดิมทีเรื่องนี้เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ ฮัวหยู่อันกลับหัวเราะและหลั่งน้ำตาออกมาไม่หยุด สีหน้ามีความเศร้าโศกและตำหนิตนเอง
“ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า ไม่ควรให้พวกเขาต้องมาตกอยู่ในอันตรายกับข้า”
นางเคยทำให้พวกเขาไปมีชีวิตที่ดี ไม่ต้องสนใจนาง แต่เป็นตายอย่างไรพวกเขาก็ไม่เต็มใจ ต้องการที่จะแบ่งปันความทุกข์ยากกับนาง
หากเด็กที่อยู่ในท้องของอาฝูเกิดเป็นอะไรไป อย่างนั้นนาง……ก็จะเป็นคนบาป
“ออกไปจากที่นี่เถอะ! ไปหลบอยู่ที่สำนักหงอี”
“ข้า……”
ฮัวหยู่อันรู้ดี ว่าเทพธิดาดีต่อพวกเขา แต่นางไม่อยากที่จะไป นางยังมีเรื่องสำคัญมากที่ต้องทำ
ยังไม่ทันจะพูดจบ หลานเยาเยาก็ได้ขัดจังหวะคำพูดของนาง
“เจ้าไม่ไป พวกเขาก็ไม่ไป พวกเขามีความชอบธรรม เจ้าไม่สามารถที่จะไร้ความปรานีได้ อย่างน้อยเจ้าก็ควรจะนึกถึงลูกของพวกเขา”
ฮัวหยู่อันหลับตาลง ใช้เวลาอยู่นานในการตัดสินใจ ขณะที่ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง น้ำตาก็ไหลออกมาหยดหนึ่ง
“……ข้า ข้ารู้แล้ว”
“พรุ่งนี้เช้ามืดจะออกเดินทาง ประตูหลังของตำหนักเทพธิดาจะมีรถมาสีน้ำตาลหนึ่งคันจอดอยู่ คนขับรถม้าเป็นคนของข้า เขาจะไปส่งพวกเจ้าที่สำนักหงอี ที่นั่นเป็นที่ปลอดภัย”
“ขอบคุณมาก” ฮัวหยู่อันกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้ง
“ไม่เป็นไร”
มีอะไรจะต้องขอบคุณ
ไม่ว่าฮัวหยู่อันจะช่วยแก้แค้นให้กับคนในเผ่า หรือเพื่อแก้แค้นให้นาง ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่า ฮัวหยู่อันเป็นสหายคุ้มค่าที่จะคบหา
นางต้องการที่จะให้นางมาอยู่ข้างกาย
แต่จะทำอย่างไรได้……
อยู่ข้างกายนางเป็นการไม่ปลอดภัย และอาจจะตายได้ทุกที่ทุกเวลา……