SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 8: เอกลักษณ์การพูดคนเดียว (2)

 

โชค

 

เป็นความโชคดีที่ช่วยฉันหลบการโจมตีของชายชราได้

 

“ฮืม?!”

 

ดวงตาของเซียนดาบเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย บางทีในสายตาของเขา ฉันเป็นยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นหลังจากที่ฉันหลบการโจมตีของเขา เขาก็กระโดดหนีทันทีโดยคาดคิดว่าจะมีการโจมตีสวนกลับ สิ่งที่เขาอาจไม่คาดคิดคือฉันจะกลิ้งไปบนพื้นแทน

 

“คะ- คุณเซียนดาบ เดี๋ยวก่อน ได้โปรดฟังผมก่อน”

 

ไม่สำคัญว่าฉันจะตาย ยังไงซะฉันก็อยากตายอยู่แล้ว ไม่สิ สิ่งที่สำคัญคือถ้าฉันสามารถแก้ไขความเข้าใจผิดที่มีกับเซียนดาบได้จากนั้นก็ตาย ด้วยวิธีนี้ ฉันจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าที่ไร้ประโยชน์ในอนาคตได้

 

“ผมเป็นฮันเตอร์คลาส F…”

 

“แกหลบดาบของฉันได้ แกคงต้องเป็นนักฆ่าระดับสูงสินะ?”

 

“อา! ตาแก่นี่หูหนวกหรือยังไง!”

 

นี่มันแย่มาก แทนที่จะเคลียร์ความเข้าใจผิด ทุกอย่างกลับยิ่งแย่ลงไปอีก

 

อีกครั้ง การหลบดาบได้เป็นความโชคดี ฉันมองตามใบดาบไม่ทันด้วยซ้ำ ทักษะของชายชราคนนี้เกินความสามารถในการรับรู้ของฉันไปมาก

 

‘ถ้าเขาโจมตีอีกครั้ง ฉันจะไม่สามารถหลบได้’

 

หลังจากเรื่องทั้งหมดนี้ ดูเหมือนว่าฉันำทำได้เพียงต้องยอมแพ้กับการโน้มน้าวเขา  ฉันเฝ้าดูแนวการตายในรูปแบบของดาบ

 

“…”

 

เขาหยุด

 

ทันใดนั้นเซียนดาบก็หยุดลงเพียงไม่กี่ก้าวและตอนแรกฉันคิดว่านี่เป็นโอกาสของฉัน

 

‘โอ้? ตอนนี้พร้อมที่จะฟังฉันหรือยัง?’

 

แต่เซียนดาบไม่ได้มองมาที่ฉัน แต่ชายชรากลับขมวดคิ้วในอากาศ ด้วยความสงสัย ฉันก็หันไปมอง แต่ก็ไม่พบอะไรที่ตรงนั้น

 

“ …ฉันบอกนายว่าฉันจะจัดการกับมันเองไม่ใช่เหรอ?”

 

ชายชราพูดกับอากาศ

 

“…น่ารำคาญ จับและสอบปากคำ ดังนั้นฉันควรต้องรักษาชีวิตของปีศาจตัวนี้ไว้หรือ?”

 

เขากำลังพูดกับตัวเอง

 

‘อะไรวะ?’

 

ฉันขมวดคิ้วของฉัน

 

‘เขา…เขามีสกิลพูดกับตัวเองหรือเปล่า?

 

อาจจะ บางทีมันอาจจะเป็นเช่นนั้น

 

ที่บาร์ฉันคิดว่า “ชายชราคนนี้ป่วยทางจิต” แต่ตอนนี้ฉันได้เห็นมันใกล้ๆ ดูเหมือนว่ามันจะแตกต่างไปเล็กน้อย ฉันจะพูดอย่างละเอียดและซับซ้อนกว่านี้ได้ไหม? ชายคนนี้ดูเหมือนกำลังคุยกับใครบางคนอยู่จริงๆ

 

‘มันคือการพูดผ่านกระแสจิตหรือเปล่า?’

 

ทันใดนั้นความคิดก็เข้ามาหาฉัน การพูดผ่านกระแสจิตหรือการส่งเสียงทางไกล ความสามารถในการสื่อสารจากระยะไกลได้อย่างอิสระ สกิลดังกล่าวมีอยู่จริง

 

‘แล้ว…เขากำลังพูดถึงฉันกับคนอื่นหรือเปล่า?’

 

ฉันรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลังอีกครั้ง

 

‘เขาตั้งใจจะจับชายที่เข่นฆ่าผู้คน 4091 คน’

 

อาชญากรที่ต้องการตัว

 

สำนักงานฮันเตอร์แทบไม่ประกาศล่าค่าหัว และเมื่อทำเช่นนั้นเป้าหมายก็อยู่ได้ไม่นานนัก บุคคลที่ต้องการตัวจะถูกล่าโดยผู้เล่นระดับสูงและจำเป็นต้องซ่อนตัวไปตลอดชีวิต หากพวกเขาถูกจับได้ พวกเขาจะถูกประหารชีวิตต่อหน้าสาธารณชนในจัตุรัสบาบิโลนตรงใจกลางเมือง

 

‘นี่มันไม่ดีแล้ว’

 

ฉันกัดฟันแน่น

 

‘ฉันต้องตายตอนนี้’

 

เพื่อให้ทุกอย่างย้อนกลับไปได้ 24 ชั่วโมงและปล่อยให้ทุกอย่างถูกรีเซ็ต ฉันต้องตายทันที ฉันจ้องไปที่เซียนดาบ

 

“…สายไปแล้ว ฉันตัดสินใจแล้ว แม้ว่านายจะเป็นอาจารย์ก็ตาม…”

 

ชายชรายังคงพูดพึมพำกับตัวเอง ฉันไม่แน่ใจ 100% ว่าเขาเป็นโรคจิตหรือกำลังคุยกับใครอยู่จริงๆ แต่ถึงแม้ว่าฉันจะไม่แน่ใจ แต่ฉันก็ยังอ้าปากอยู่

 

“หลานของแกเป็นยังไงบ้าง?”

 

ชายชราหยุดพูดกับตัวเอง จากนั้นเขาก็ค่อยๆหันมามองฉัน

 

“ฉันได้ยินมาว่าทุกวันนี้โลกภายนอกนั้นเลวร้ายมาก ถ้าพวกเขาเป็นหลานของเซียนดาบผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขาจะต้องน่ารักทีเดียว แกคงต้องเป็นห่วงมากๆแน่ๆ”

 

“…”

 

ดวงตาสีน้ำเงินเข้มและรูม่านตาที่นิ่งราวกับความลึกของมหาสมุทรจ้องเข้ามาในดวงตาของฉัน

 

“ว่ากันว่าแกมีพื้นเพมาจากยุโรปเหนือ ฉันได้ยินมาว่ามีผู้ก่อการร้ายที่อาละวาดอยู่ ฉันไม่รู้หรอกนะ บางทีโดยที่แกไม่รู้ตัว หลานของแกก็คงได้รับความอยุติธรรมไปมากมายแล้วล่ะ”

 

ฉัวะ

 

‘หะ’

 

เสียงของแอปเปิ้ลที่ถูกผ่าครึ่งดังขึ้นในความว่างเปล่า

 

‘หา…’

 

ตอนแรกฉันไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเฝ้ามองชายชราคนนี้มาตลอดและฉันก็ไม่เห็นเขาขยับเลย ไม่มีแม้แต่ริมฝีปากของเขาที่ขยับ

 

แล้วเสียงนั้นมาจากไหน?

 

ความแปลกประหลาดยังไม่จบเพียงแค่นั้น แต่เดิม เซียนตรงยืนอยู่บนพื้นตรงหน้าฉัน แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกราวกับว่าพื้นดินกำลังพลิกกลับอย่างช้าๆ

 

ขอบฟ้าเอียงและดวงจันทร์บนท้องฟ้าพลิกกลับ บนท้องฟ้ายามค่ำคืนดวงจันทร์เสี้ยวในข้างขึ้น เอียงและกลายเป็นดวงจันทร์ช่วงข้ามแรม สิ่งเดียวที่อยู่ ณ ตรงเส้นขอบฟ้าคือชายชราที่ยืนกลับหัวกลับหาง

 

“…”

 

ดวงตาสีฟ้าของชายชราจ้องมาที่ฉันและฉันก็อดคิดไม่ได้ว่าพวกมันช่างคล้ายกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวจริงๆ ฉันเห็นแล้วว่าทำไมเขาถึงถูกเรียกว่าเซียนดาบ

 

แล้วฉันก็รู้ตัว

 

‘อ่า’

 

พื้นไม่ได้พลิกกลับด้าน

 

หัวของฉันถูกตัดและมันก็ค่อยๆตกลงมา

 

ทีเดียวน็อกเอ้าท์

 

‘สวยจัง’

 

สายตาของฉันไม่สามารถมองตามการโจมตีของชายชราได้ แต่หลังจากได้เห็นโลกหลังจากที่หัวของฉันถูกตัดออก ฉันก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่ามันสวยงาม

 

หลังจากนั้นไม่นานหัวของฉันก็ไปกระแทกอะไรบางอย่าง จิตใจของฉันว่างเปล่าและฉันไม่ได้ยินอะไรเลย แต่ในที่สุดฉันก็รู้ว่าหัวของฉันตกลงที่พื้นแล้ว

 

เมื่อถึงเวลาที่ฉันรู้ตัว มันก็ไม่มีชีวิตใดในสายตาของฉันอีกต่อไป

 

[คุณเสียชีวิต]

 

เขามีสกิลแบบไหน? เขาต้องฝึกฝนนานแค่ไหนก่อนที่จะได้รับสกิลในระดับนั้น?

 

[เงื่อนไขสกิลสำเร็จได้เนื่องจากความตาย]

 

ฉันเต็มไปด้วยอารมณ์ที่แตกต่างจากตอนที่ฉันถูกฆ่าโดยจักรพรรดิเพลิง ฉันรู้สึกว่าถูกทรยศโดยจักรพรรดิเพลิงและฉันต้องการแก้แค้นให้กับความตายที่ผิดพลาดของฉัน

 

อย่างไรก็ตามมันไม่เหมือนกันเมื่อตายโดยเซียนดาบ

 

‘ฉันอยากเป็นแบบนั้น’

 

‘ฉันต้องการโจมตีครั้งเดียวถึงตายเหมือนกัน’

 

สิ่งนี้คล้ายกับความรู้สึกที่ฉันมีต่อยู ซูฮาก่อนที่ฉันจะได้เรียนรู้ว่าเขาเป็นอย่างไร

 

ความอิจฉา ความโลภ ความเคารพ

 

เปลวไฟแห่งความปรารถนาแผดเผาภายในใจฉัน

 

และมีบางอย่างที่ตอบสนองต่อเปลวไฟเหล่านั้น

 

[สกิลของฮันเตอร์ มาร์คัส คาเลนเบอร์รี่จะถูกคัดลอกโดยการสุ่ม]

 

การ์ดเริ่มปรากฏขึ้นในความมืดรอบตัวฉัน

 

[สร้างสกิลการ์ด]

 

วิ้ง!

 

การ์ดหันหลังเข้าหาฉันดังนั้นฉันจึงมองไม่เห็นข้อมูล

 

‘ถึงอย่างนั้น สีสันมันก็เด่นชัดกว่าตอนที่ฉันถูกยู ซูฮาฆ่าเสียอีก’

 

บางทีอาจเป็นเพราะฉันปรับตัวเข้ากับความตายได้แล้ว

 

4090 ครั้ง เหมืนอย่างที่เซียนดาบได้ยืนยันด้วยสกิล [ตัวนับจำนวณการฆ่า] ของเขา ฉันเคยประสบกับความตายมาแล้วหลายพันครั้ง ไม่มีฮันเตอร์คนใดคุ้นเคยกับความตายมากไปกว่าฉัน

 

‘นั่นไม่ใช่เรื่องที่น่าภาคภูมิใจ’

 

ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น

 

‘โปรดเลือกสกิลการ์ด’

 

การ์ดที่ลอยอยู่ต่อหน้าฉันทั้งหมดเริ่มบินไปรอบๆอย่างรวดเร็ว

 

‘โว้ว!’

 

ตอนแรกมันก็แปลกใจ แต่ใช้เวลาไม่นานนักในการฟื้นสติและเริ่มจดจ่อกับการ์ด

 

‘ฉันจะต้องไม่หยิบใบอื่น สีเหลืองทอง! ฉันต้องหยิบการ์ดสีเหลืองทองเท่านั้น!’

 

แต่พวกมันเร็ว ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ตามพวกมัน

 

‘โอ้ พระเจ้า’

 

ฉันคว้าการ์ดสีทองจากการ์ดเคลื่อนที่เร็วเหล่านี้เมื่อฉันถูกฆ่าโดยจักรพรรดิเพลิงเหรอ? ฉัน? ฉันทำอย่างนั้นได้ยังไง? ฉันเป็นมือใหม่ แต่ตอนนั้นฉันโชคดีจริงๆ

 

‘ไม่มีอะไรจะพูดคราวนี้ ครั้งนี้ฉันโชคดีหรอก! สีเหลืองทอง การ์ดสีเหลืองทองอยู่ที่ไหน?

 

แต่ฉันก็รู้สึกถึงบางอย่างที่แปลกประหลาด

 

‘หะ?’

 

ไม่ว่าฉันจะมองดูมันมากแค่ไหน ฉันก็หาพวกมันไม่พบ

 

“ฉันไม่คิดว่ามันจะมีการ์ดสีทองเลย”

 

ในบรรดาการ์ดที่บินอยู่ตรงหน้าฉันมีการ์ดสีฟ้าและการ์ดสีเงิน อย่างไรก็ตามไม่มีใบไหนที่เป็นสีทอง ฉันคิดว่าฉันมองผิดไป ฉันจ้องและค้นหาหนักขึ้นเพื่อมองหาการ์ดใบใดก็ตามที่ฉันพลาด แต่ก็ไม่พบอะไรเลย

 

นั่นหมายความว่ามีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว

 

“จริงดิ?”

 

ฉันตกใจมาก

 

‘ไม่มีจริงๆเหรอ…?’

 

ตั้งแต่เริ่มต้น… เซียนดาบไม่มีสกิลแร้งก์ S เลย

 

‘นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย!’

 

ฉันอยากจะกรีดร้อง

 

‘เขาคือฮันเตอร์อันดับหนึ่ง! ตัวละครในตำนานก่อนที่จักรพรรดิเพลิงจะปรากฏตัวและเขาไม่มีสกิลแร้งก์ S เลยหรอ?!’

 

มันยากมากที่จะเชื่อ แต่มันเป็นความจริง สกิลของฉันพิสูจน์แล้ว

 

มาร์คัส คาเลนเบอร์รี่ เซียนดาบผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ปกครองทั้งโลกโดยไม่มีสกิลแร้งก์ S เลยแม้แต่สกิลเดียว

 

ฉันตกใจและกลัวนิดหน่อย

 

‘ไม่ ไม่! เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้!

 

ปฏิกิริยาของความตกใจและความกลัวของฉันเป็นของแท้อย่างสมบูรณ์

 

‘ฉันแน่ใจว่ามีสกิลที่แข็งแกร่งอย่างน้อยสองสามอย่างในการ์ดสีเงิน’

 

ฉันไม่รู้ว่าจะสาปแช่งสถานการณ์ของตัวเองหรือหัวเราะเยาะดี อย่างไรก็ตามฉันกระตือรือร้นที่จะลองเสี่ยงโชค

 

ด้วยใจที่มุ่งมั่นมาก ฉันจ้องไปที่การ์ด

 

“การ์ดสีฟ้าสามใบและการ์ดสีเงินสี่ใบ”

 

การ์ดเจ็ดใบบินวนไปมาชวนเวียนหัว

 

‘ฉันไม่ต้องสนใจพวกการ์ดห่วยๆได้เลย’

 

เป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลแน่นอน

 

ตอนนี้คำถามคือการ์ดสีเงินใบไหนที่ควรเลือก

 

สกิล [ตัวนับจำนวณการฆ่า] อาจรวมอยู่ในการ์ดสีเงิน และเขาอาจมีสกิลโกงๆที่ไม่ปรากฏชื่อเช่นกัน

 

แน่นอนว่าสกิลที่ฉันต้องการนั้นไม่ควรจะละเอียดอ่อนเท่ากับสกิลตัวนับจำนวณการฆ่าและมันจะดีกว่าถ้าเป็นสกิลโกงๆ อย่างสกิลฟื้นคืนชีพ

 

“ความน่าจะเป็นคือ 1 ใน 4”

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งฉันสามารถทำได้เพียงพึ่งพาโชคเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

‘ขอให้เป็นอะไรดีๆด้วยเถอะ’

 

ฉันเอื้อมมือออกไป

 

‘ได้โปรดเป็นสกิลที่ฉันต้องการ สกิลโกงของเซียนดาบ!’

 

จากนั้นฉันก็คว้าการ์ดสีเงินหนึ่งใบ

 

[การเลือกเสร็จสมบูรณ์ สกิลถูกคัดลอกแล้ว]

 

[ย้อนกลับไปเมื่อ 24 ชั่วโมงที่แล้ว]

 

 

“-เฮือก!”

 

ฉันตื่นขึ้นมา กลืนเสียงคร่ำครวญ

 

ห้องด้านข้าง

 

ห้องขนาด 2 พยองต้อนรับฉัน ภาพที่คุ้นเคยทำให้หัวใจของฉันดีขึ้นมาเล็กน้อย ฟูกให้กลิ่นเหม็นเนื่องจากไม่ได้ซักมาเป็นเวลานาน

 

น่าเสียดายที่อพาร์ทเมนต์ห้องนอนเดี่ยวนี้เป็นทั้งหมดที่ฉันสามารถจ่ายได้ในเวลานั้น

 

“ฉะ- ฉันได้อะไรมา?!”

 

ฉันเปิดหน้าต่างสถานะทันที โดยสงสัยว่าฉันจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในการพนัน 25% ของฉัน

 

[คิม กงจา]

 

→ฉันอยากเป็นเหมือนคุณ (S +): ติดตัว

 

→ นาฬิกาไขลานของผู้หวนคืน (EX): ติดตัว

 

→ กลุ่มดาวแห่งดาบ (A +): ติดตัว

 

ไม่มี

 

“อา…”

 

ฉันถอนหายใจ รู้สึกทั้งสุขและเศร้า

 

“ฉันดีใจที่มีสกิลแร้งก์ A+ …”

 

แรกๆฉันก็รู้สึกดีใจ แม้ว่ามันจะไม่ใช่สกิลระดับ S แต่ฉันก็ยังเชื่อว่านี่เป็นสกิลที่ดีที่สุดที่เขามี ฉันยังโชคดีที่ไม่ได้รับสกิลอย่าง [ตัวนับจำนวณการฆ่าคน]

 

“ …มันเป็นสกิลติดตัวอีกสกิลหนึ่ง”

 

จากนั้นก็เป็นความเศร้าของฉัน สิ่งที่ฉันตั้งเป้าไว้ตอนแรกคือสกิลต่อสู้ ศิลปะการต่อสู้ที่หายากบางประเภท ำอย่างพวกการฟันดาบ หรืออาจจะเป็นสกิลที่ปลุกออร่า ส่วนใหญ่เป็นความสามารถที่ใช้งานได้

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ฉันล้มเหลวในการได้รับสกิลต่อสู้ที่ดีที่สุด

 

“เฮ้อ”

 

ฉันถอนหายใจอีกครั้ง

 

“ไม่ ถ้าฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น.. ”

 

อันที่จริงถ้าฮันเตอร์คนอื่นได้ยินเสียงคร่ำครวญของฉัน ตอนนี้พวกเขาคงแทบคลั่ง

 

คุณจะหาสกิลแร้งก์ A + ได้ที่ไหนโดยไม่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อมัน

 

ฉันตัดสินใจมองด้านดีๆของมันแทน

 

ก่อนอื่น ฉันต้องโฟกัสไปที่การตรวจสอบสกิลก่อน

 

แน่นอนว่าการ์ดสกิลจะปรากฏให้ฮันเตอร์ที่เป็นเจ้าของเห็นเท่านั้น

 

→ฉันอยากเป็นเหมือนคุณ (S +): ติดตัว

 

→ นาฬิกาไขลานของผู้หวนคืน (EX): ติดตัว

 

→ กลุ่มดาวแห่งดาบ (A +): ติดตัว

 

กลุ่มดาวแห่งดาบ

 

เพียงแค่ดูชื่อก็ยากที่จะระบุว่าสกิลนี้ทำอะไรได้บ้าง

 

“แม้แต่ ‘ฉันอยากเป็นเหมือนคุณ’ ก็มีชื่อแปลก ๆ ”

 

เป็นการยากที่จะตัดสินว่าสกิลนั้นของหลอกเด็กหรือรางวัลใหญ่จากชื่อเพียงอย่างเดียว

 

บางทีมันอาจจะกลายเป็นสกิลที่น่าทึ่ง มันเป็นการปลอบตัวเองเล็กน้อยที่ฉันให้ตัวเองเนื่องจากฉันเป็นคนที่คว้าการ์ดสีเงิน

 

-อา เสียงดังอะไรกัน?

 

มีเสียงดังออกมาจากที่ไหนสักแห่ง

 

-ตาเฒ่า อาจารย์คนนี้บอกไปแล้วไม่ใช่หรือไง ถ้านายอยากจะซ้อมกลางดึกอย่างน้อยก็ช่วยเงียบๆหน่อย

 

“…”

 

– เมื่อนายจะไปไหนไม่จำเป็นต้องรบกวนฉัน ฉันจะได้ไม่ต้องตื่น ช่วยปฏิบัติต่อกันอย่างมีมารยาทหน่อย ได้มั้ย?

 

ช้าๆ

 

ฉันค่อยๆหันไปมองตามทิศทางต้นตอของเสียง

 

บนฟูกในห้องเดี่ยว ฉันถูกอัดแน่นในพื้นที่ที่ฉันแทบจะไม่สามารถนอนคนเดียวได้ แต่ฉันมองเห็นบางอย่างข้างหลังแม้ว่าจะพร่ามัว มีใครบางคนนอนอยู่ที่นั่นโดยหันหลังให้ฉัน

 

“ขอโทษนะ”

 

ฉันรู้สึกขนลุก

 

“นายคือใคร?”

 

-หา?

 

แล้วสายตาของฉันก็พบกับใครบางคนที่ฉันไม่รู้จัก

 

วิญญาณ ผี

 

สิ่งที่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่มนุษย์ที่มีชีวิต

 

-เอ๋ ?

 

ผีตัวนี้มีขนาดใหญ่ หากไม่ใช่เสื้อผ้าของเขา เขาอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นกอริลลา ร่างกายของเขาค่อนข้างกว้าง แม้แต่คิ้วของเขา และเขาจ้องมาที่ฉันด้วยสีหน้าตกใจ

 

-เฮ้ นี่นายเป็นใคร ?

 

“ …ฉันก็อยากจะถามแบบนั้นเหมือนกัน นายเป็นใคร?”

 

– นายเห็นฉัน?

 

ฉันพยักหน้า

 

“ใช่”

 

– นายได้ยินเสียงของฉัน?

 

“อืม ถ้าเรากำลังสื่อสารกันอยู่ตอนนี้…ก็อย่างที่เห็นเลย”

 

อะไรวะเนี่ย ตอนนี้ฉันกำลังคุยกับผีอยู่จริงๆเหรอ?

 

คุณคงคิดว่าผีธรรมดาก็เหมือนสัตว์ประหลาดที่ไล่ตามทุกคนเพราะความแค้นในชีวิต

 

แต่ผู้ชายคนนี้แตกต่างออกไป เขาพูดและทำตัวเหมือนมนุษย์ เพียงแต่มีร่างกายที่พร่ามัว

 

-หา ไม่ใช่ว่ามันแปลกเหรอ? ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง

 

ผีส่ายหัวของเขา ดูเหมือนว่าฉันไม่ใช่คนเดียวที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบัน

 

–พวกเราอยู่ที่ไหน ที่นี่มันเล็กเหมือนเพิงหมาแหงน มาร์คัส ตาเฒ่าคนนั้นหายไปไหนแล้ว ทำไมมีเด็กอย่างนายอยู่ตรงหน้าฉันล่ะ?

 

ในที่สุดฉันก็เข้าใจบางอย่างที่ผีพูด

 

“เอ่อ มาร์คัสที่ว่า…นายหมายถึงมาร์คัส คาเลนเบอร์รี่หรือเปล่า? เซียนดาบ?”

 

-ชิ ชิ แม้แต่พวกมือใหม่อย่างเขาก็สามารถถูกเรียกได้ว่าเป็นเซียนดาบเหรอ? มันช่างไม่ถูกต้องเอาเสียเลย

 

ผีเดาะลิ้นของเขาราวกับว่าเขาได้ยินสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ

 

– ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ชื่อที่นายพูดนั้นก็ถูกต้อง เขาอยู่ที่ไหน? เขาน่าจะอยู่แถวนี้

 

ฉันตกตะลึง

 

‘เซียนดาบเป็นมือใหม่เหรอ?’

 

ฮันเตอร์ที่ปัจจุบันติดอันดับหนึ่งของโลก และเนื่องจากฉันตั้งใจจะสังหารยู ซูฮาบางทีเขาอาจจะยังคงครองตำแหน่งสูงสุดในอนาคตอันไกลโพ้น

 

ผีตัวนี้ตรงหน้าฉันพูดถึงอะไรกันแน่ที่เรียกว่ามือใหม่? แล้วทำไมจู่ๆฉันถึงมองเห็นผีได้?

 

“…”

 

เพื่อตอบคำถามของฉัน ฉันนำสสกิลการ์ดขึ้นมาและอ่านข้อมูล

 

[กลุ่มดาวแห่งดาบ]

 

→แร้งก์: A+

 

→เอฟเฟค:

→ผีจากต่างโลก เขาเคลียร์ชั้น 99 แต่ล้มเหลวในชั้นที่ 100 และเสียชีวิตไป ความแค้นที่ยังคงอยู่ทำให้เขากลายเป็นผี เขาไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับโลกทางกายภาพได้ แต่เป็นไปได้ที่จะยุ่งเกี่ยวกับความคิดของผู้เป็นเจ้าของ จงขอคำแนะนำจากประสบการณ์อันยาวนานและทักษะอันน่าทึ่งของเขา!

 

→อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถมองเห็นผีได้ยกเว้นเจ้าของ

 

→สกิลนี้คัดลอกมาจากฮันเตอร์มาร์คัส คาเลนเบอร์รี่

 

ฉันหมดคำพูด

 

-เฮ้ ฉันบอกว่าตาเฒ่าอยู่ที่ไหน นายไม่สนใจฉันหรือ ชิ เฮ้ เฮ้! หลายปีที่ผ่านมาฉันทำตัวดีมาก หายากที่จะพบนักรบเช่นเขา แม้ว่าเขาจะแค่งั้นๆก็ตาม

 

พระเจ้าช่วย

 

ดูเหมือนว่าฉันไปคัดลอกผีของเซียนดาบเข้าเสียแล้ว

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 8: เอกลักษณ์การพูดคนเดียว (2)

SSS-Class Suicide Hunter – ตอนที่ 8: เอกลักษณ์การพูดคนเดียว (2)

 

โชค

 

เป็นความโชคดีที่ช่วยฉันหลบการโจมตีของชายชราได้

 

“ฮืม?!”

 

ดวงตาของเซียนดาบเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย บางทีในสายตาของเขา ฉันเป็นยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้นหลังจากที่ฉันหลบการโจมตีของเขา เขาก็กระโดดหนีทันทีโดยคาดคิดว่าจะมีการโจมตีสวนกลับ สิ่งที่เขาอาจไม่คาดคิดคือฉันจะกลิ้งไปบนพื้นแทน

 

“คะ- คุณเซียนดาบ เดี๋ยวก่อน ได้โปรดฟังผมก่อน”

 

ไม่สำคัญว่าฉันจะตาย ยังไงซะฉันก็อยากตายอยู่แล้ว ไม่สิ สิ่งที่สำคัญคือถ้าฉันสามารถแก้ไขความเข้าใจผิดที่มีกับเซียนดาบได้จากนั้นก็ตาย ด้วยวิธีนี้ ฉันจะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าที่ไร้ประโยชน์ในอนาคตได้

 

“ผมเป็นฮันเตอร์คลาส F…”

 

“แกหลบดาบของฉันได้ แกคงต้องเป็นนักฆ่าระดับสูงสินะ?”

 

“อา! ตาแก่นี่หูหนวกหรือยังไง!”

 

นี่มันแย่มาก แทนที่จะเคลียร์ความเข้าใจผิด ทุกอย่างกลับยิ่งแย่ลงไปอีก

 

อีกครั้ง การหลบดาบได้เป็นความโชคดี ฉันมองตามใบดาบไม่ทันด้วยซ้ำ ทักษะของชายชราคนนี้เกินความสามารถในการรับรู้ของฉันไปมาก

 

‘ถ้าเขาโจมตีอีกครั้ง ฉันจะไม่สามารถหลบได้’

 

หลังจากเรื่องทั้งหมดนี้ ดูเหมือนว่าฉันำทำได้เพียงต้องยอมแพ้กับการโน้มน้าวเขา  ฉันเฝ้าดูแนวการตายในรูปแบบของดาบ

 

“…”

 

เขาหยุด

 

ทันใดนั้นเซียนดาบก็หยุดลงเพียงไม่กี่ก้าวและตอนแรกฉันคิดว่านี่เป็นโอกาสของฉัน

 

‘โอ้? ตอนนี้พร้อมที่จะฟังฉันหรือยัง?’

 

แต่เซียนดาบไม่ได้มองมาที่ฉัน แต่ชายชรากลับขมวดคิ้วในอากาศ ด้วยความสงสัย ฉันก็หันไปมอง แต่ก็ไม่พบอะไรที่ตรงนั้น

 

“ …ฉันบอกนายว่าฉันจะจัดการกับมันเองไม่ใช่เหรอ?”

 

ชายชราพูดกับอากาศ

 

“…น่ารำคาญ จับและสอบปากคำ ดังนั้นฉันควรต้องรักษาชีวิตของปีศาจตัวนี้ไว้หรือ?”

 

เขากำลังพูดกับตัวเอง

 

‘อะไรวะ?’

 

ฉันขมวดคิ้วของฉัน

 

‘เขา…เขามีสกิลพูดกับตัวเองหรือเปล่า?

 

อาจจะ บางทีมันอาจจะเป็นเช่นนั้น

 

ที่บาร์ฉันคิดว่า “ชายชราคนนี้ป่วยทางจิต” แต่ตอนนี้ฉันได้เห็นมันใกล้ๆ ดูเหมือนว่ามันจะแตกต่างไปเล็กน้อย ฉันจะพูดอย่างละเอียดและซับซ้อนกว่านี้ได้ไหม? ชายคนนี้ดูเหมือนกำลังคุยกับใครบางคนอยู่จริงๆ

 

‘มันคือการพูดผ่านกระแสจิตหรือเปล่า?’

 

ทันใดนั้นความคิดก็เข้ามาหาฉัน การพูดผ่านกระแสจิตหรือการส่งเสียงทางไกล ความสามารถในการสื่อสารจากระยะไกลได้อย่างอิสระ สกิลดังกล่าวมีอยู่จริง

 

‘แล้ว…เขากำลังพูดถึงฉันกับคนอื่นหรือเปล่า?’

 

ฉันรู้สึกหนาวไปถึงกระดูกสันหลังอีกครั้ง

 

‘เขาตั้งใจจะจับชายที่เข่นฆ่าผู้คน 4091 คน’

 

อาชญากรที่ต้องการตัว

 

สำนักงานฮันเตอร์แทบไม่ประกาศล่าค่าหัว และเมื่อทำเช่นนั้นเป้าหมายก็อยู่ได้ไม่นานนัก บุคคลที่ต้องการตัวจะถูกล่าโดยผู้เล่นระดับสูงและจำเป็นต้องซ่อนตัวไปตลอดชีวิต หากพวกเขาถูกจับได้ พวกเขาจะถูกประหารชีวิตต่อหน้าสาธารณชนในจัตุรัสบาบิโลนตรงใจกลางเมือง

 

‘นี่มันไม่ดีแล้ว’

 

ฉันกัดฟันแน่น

 

‘ฉันต้องตายตอนนี้’

 

เพื่อให้ทุกอย่างย้อนกลับไปได้ 24 ชั่วโมงและปล่อยให้ทุกอย่างถูกรีเซ็ต ฉันต้องตายทันที ฉันจ้องไปที่เซียนดาบ

 

“…สายไปแล้ว ฉันตัดสินใจแล้ว แม้ว่านายจะเป็นอาจารย์ก็ตาม…”

 

ชายชรายังคงพูดพึมพำกับตัวเอง ฉันไม่แน่ใจ 100% ว่าเขาเป็นโรคจิตหรือกำลังคุยกับใครอยู่จริงๆ แต่ถึงแม้ว่าฉันจะไม่แน่ใจ แต่ฉันก็ยังอ้าปากอยู่

 

“หลานของแกเป็นยังไงบ้าง?”

 

ชายชราหยุดพูดกับตัวเอง จากนั้นเขาก็ค่อยๆหันมามองฉัน

 

“ฉันได้ยินมาว่าทุกวันนี้โลกภายนอกนั้นเลวร้ายมาก ถ้าพวกเขาเป็นหลานของเซียนดาบผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขาจะต้องน่ารักทีเดียว แกคงต้องเป็นห่วงมากๆแน่ๆ”

 

“…”

 

ดวงตาสีน้ำเงินเข้มและรูม่านตาที่นิ่งราวกับความลึกของมหาสมุทรจ้องเข้ามาในดวงตาของฉัน

 

“ว่ากันว่าแกมีพื้นเพมาจากยุโรปเหนือ ฉันได้ยินมาว่ามีผู้ก่อการร้ายที่อาละวาดอยู่ ฉันไม่รู้หรอกนะ บางทีโดยที่แกไม่รู้ตัว หลานของแกก็คงได้รับความอยุติธรรมไปมากมายแล้วล่ะ”

 

ฉัวะ

 

‘หะ’

 

เสียงของแอปเปิ้ลที่ถูกผ่าครึ่งดังขึ้นในความว่างเปล่า

 

‘หา…’

 

ตอนแรกฉันไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเฝ้ามองชายชราคนนี้มาตลอดและฉันก็ไม่เห็นเขาขยับเลย ไม่มีแม้แต่ริมฝีปากของเขาที่ขยับ

 

แล้วเสียงนั้นมาจากไหน?

 

ความแปลกประหลาดยังไม่จบเพียงแค่นั้น แต่เดิม เซียนตรงยืนอยู่บนพื้นตรงหน้าฉัน แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกราวกับว่าพื้นดินกำลังพลิกกลับอย่างช้าๆ

 

ขอบฟ้าเอียงและดวงจันทร์บนท้องฟ้าพลิกกลับ บนท้องฟ้ายามค่ำคืนดวงจันทร์เสี้ยวในข้างขึ้น เอียงและกลายเป็นดวงจันทร์ช่วงข้ามแรม สิ่งเดียวที่อยู่ ณ ตรงเส้นขอบฟ้าคือชายชราที่ยืนกลับหัวกลับหาง

 

“…”

 

ดวงตาสีฟ้าของชายชราจ้องมาที่ฉันและฉันก็อดคิดไม่ได้ว่าพวกมันช่างคล้ายกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวจริงๆ ฉันเห็นแล้วว่าทำไมเขาถึงถูกเรียกว่าเซียนดาบ

 

แล้วฉันก็รู้ตัว

 

‘อ่า’

 

พื้นไม่ได้พลิกกลับด้าน

 

หัวของฉันถูกตัดและมันก็ค่อยๆตกลงมา

 

ทีเดียวน็อกเอ้าท์

 

‘สวยจัง’

 

สายตาของฉันไม่สามารถมองตามการโจมตีของชายชราได้ แต่หลังจากได้เห็นโลกหลังจากที่หัวของฉันถูกตัดออก ฉันก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่ามันสวยงาม

 

หลังจากนั้นไม่นานหัวของฉันก็ไปกระแทกอะไรบางอย่าง จิตใจของฉันว่างเปล่าและฉันไม่ได้ยินอะไรเลย แต่ในที่สุดฉันก็รู้ว่าหัวของฉันตกลงที่พื้นแล้ว

 

เมื่อถึงเวลาที่ฉันรู้ตัว มันก็ไม่มีชีวิตใดในสายตาของฉันอีกต่อไป

 

[คุณเสียชีวิต]

 

เขามีสกิลแบบไหน? เขาต้องฝึกฝนนานแค่ไหนก่อนที่จะได้รับสกิลในระดับนั้น?

 

[เงื่อนไขสกิลสำเร็จได้เนื่องจากความตาย]

 

ฉันเต็มไปด้วยอารมณ์ที่แตกต่างจากตอนที่ฉันถูกฆ่าโดยจักรพรรดิเพลิง ฉันรู้สึกว่าถูกทรยศโดยจักรพรรดิเพลิงและฉันต้องการแก้แค้นให้กับความตายที่ผิดพลาดของฉัน

 

อย่างไรก็ตามมันไม่เหมือนกันเมื่อตายโดยเซียนดาบ

 

‘ฉันอยากเป็นแบบนั้น’

 

‘ฉันต้องการโจมตีครั้งเดียวถึงตายเหมือนกัน’

 

สิ่งนี้คล้ายกับความรู้สึกที่ฉันมีต่อยู ซูฮาก่อนที่ฉันจะได้เรียนรู้ว่าเขาเป็นอย่างไร

 

ความอิจฉา ความโลภ ความเคารพ

 

เปลวไฟแห่งความปรารถนาแผดเผาภายในใจฉัน

 

และมีบางอย่างที่ตอบสนองต่อเปลวไฟเหล่านั้น

 

[สกิลของฮันเตอร์ มาร์คัส คาเลนเบอร์รี่จะถูกคัดลอกโดยการสุ่ม]

 

การ์ดเริ่มปรากฏขึ้นในความมืดรอบตัวฉัน

 

[สร้างสกิลการ์ด]

 

วิ้ง!

 

การ์ดหันหลังเข้าหาฉันดังนั้นฉันจึงมองไม่เห็นข้อมูล

 

‘ถึงอย่างนั้น สีสันมันก็เด่นชัดกว่าตอนที่ฉันถูกยู ซูฮาฆ่าเสียอีก’

 

บางทีอาจเป็นเพราะฉันปรับตัวเข้ากับความตายได้แล้ว

 

4090 ครั้ง เหมืนอย่างที่เซียนดาบได้ยืนยันด้วยสกิล [ตัวนับจำนวณการฆ่า] ของเขา ฉันเคยประสบกับความตายมาแล้วหลายพันครั้ง ไม่มีฮันเตอร์คนใดคุ้นเคยกับความตายมากไปกว่าฉัน

 

‘นั่นไม่ใช่เรื่องที่น่าภาคภูมิใจ’

 

ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่น

 

‘โปรดเลือกสกิลการ์ด’

 

การ์ดที่ลอยอยู่ต่อหน้าฉันทั้งหมดเริ่มบินไปรอบๆอย่างรวดเร็ว

 

‘โว้ว!’

 

ตอนแรกมันก็แปลกใจ แต่ใช้เวลาไม่นานนักในการฟื้นสติและเริ่มจดจ่อกับการ์ด

 

‘ฉันจะต้องไม่หยิบใบอื่น สีเหลืองทอง! ฉันต้องหยิบการ์ดสีเหลืองทองเท่านั้น!’

 

แต่พวกมันเร็ว ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไล่ตามพวกมัน

 

‘โอ้ พระเจ้า’

 

ฉันคว้าการ์ดสีทองจากการ์ดเคลื่อนที่เร็วเหล่านี้เมื่อฉันถูกฆ่าโดยจักรพรรดิเพลิงเหรอ? ฉัน? ฉันทำอย่างนั้นได้ยังไง? ฉันเป็นมือใหม่ แต่ตอนนั้นฉันโชคดีจริงๆ

 

‘ไม่มีอะไรจะพูดคราวนี้ ครั้งนี้ฉันโชคดีหรอก! สีเหลืองทอง การ์ดสีเหลืองทองอยู่ที่ไหน?

 

แต่ฉันก็รู้สึกถึงบางอย่างที่แปลกประหลาด

 

‘หะ?’

 

ไม่ว่าฉันจะมองดูมันมากแค่ไหน ฉันก็หาพวกมันไม่พบ

 

“ฉันไม่คิดว่ามันจะมีการ์ดสีทองเลย”

 

ในบรรดาการ์ดที่บินอยู่ตรงหน้าฉันมีการ์ดสีฟ้าและการ์ดสีเงิน อย่างไรก็ตามไม่มีใบไหนที่เป็นสีทอง ฉันคิดว่าฉันมองผิดไป ฉันจ้องและค้นหาหนักขึ้นเพื่อมองหาการ์ดใบใดก็ตามที่ฉันพลาด แต่ก็ไม่พบอะไรเลย

 

นั่นหมายความว่ามีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว

 

“จริงดิ?”

 

ฉันตกใจมาก

 

‘ไม่มีจริงๆเหรอ…?’

 

ตั้งแต่เริ่มต้น… เซียนดาบไม่มีสกิลแร้งก์ S เลย

 

‘นี่มันไม่สมเหตุสมผลเลย!’

 

ฉันอยากจะกรีดร้อง

 

‘เขาคือฮันเตอร์อันดับหนึ่ง! ตัวละครในตำนานก่อนที่จักรพรรดิเพลิงจะปรากฏตัวและเขาไม่มีสกิลแร้งก์ S เลยหรอ?!’

 

มันยากมากที่จะเชื่อ แต่มันเป็นความจริง สกิลของฉันพิสูจน์แล้ว

 

มาร์คัส คาเลนเบอร์รี่ เซียนดาบผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ปกครองทั้งโลกโดยไม่มีสกิลแร้งก์ S เลยแม้แต่สกิลเดียว

 

ฉันตกใจและกลัวนิดหน่อย

 

‘ไม่ ไม่! เรื่องนี้ไม่มีทางเป็นไปได้!

 

ปฏิกิริยาของความตกใจและความกลัวของฉันเป็นของแท้อย่างสมบูรณ์

 

‘ฉันแน่ใจว่ามีสกิลที่แข็งแกร่งอย่างน้อยสองสามอย่างในการ์ดสีเงิน’

 

ฉันไม่รู้ว่าจะสาปแช่งสถานการณ์ของตัวเองหรือหัวเราะเยาะดี อย่างไรก็ตามฉันกระตือรือร้นที่จะลองเสี่ยงโชค

 

ด้วยใจที่มุ่งมั่นมาก ฉันจ้องไปที่การ์ด

 

“การ์ดสีฟ้าสามใบและการ์ดสีเงินสี่ใบ”

 

การ์ดเจ็ดใบบินวนไปมาชวนเวียนหัว

 

‘ฉันไม่ต้องสนใจพวกการ์ดห่วยๆได้เลย’

 

เป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลแน่นอน

 

ตอนนี้คำถามคือการ์ดสีเงินใบไหนที่ควรเลือก

 

สกิล [ตัวนับจำนวณการฆ่า] อาจรวมอยู่ในการ์ดสีเงิน และเขาอาจมีสกิลโกงๆที่ไม่ปรากฏชื่อเช่นกัน

 

แน่นอนว่าสกิลที่ฉันต้องการนั้นไม่ควรจะละเอียดอ่อนเท่ากับสกิลตัวนับจำนวณการฆ่าและมันจะดีกว่าถ้าเป็นสกิลโกงๆ อย่างสกิลฟื้นคืนชีพ

 

“ความน่าจะเป็นคือ 1 ใน 4”

 

กล่าวอีกนัยหนึ่งฉันสามารถทำได้เพียงพึ่งพาโชคเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

 

‘ขอให้เป็นอะไรดีๆด้วยเถอะ’

 

ฉันเอื้อมมือออกไป

 

‘ได้โปรดเป็นสกิลที่ฉันต้องการ สกิลโกงของเซียนดาบ!’

 

จากนั้นฉันก็คว้าการ์ดสีเงินหนึ่งใบ

 

[การเลือกเสร็จสมบูรณ์ สกิลถูกคัดลอกแล้ว]

 

[ย้อนกลับไปเมื่อ 24 ชั่วโมงที่แล้ว]

 

 

“-เฮือก!”

 

ฉันตื่นขึ้นมา กลืนเสียงคร่ำครวญ

 

ห้องด้านข้าง

 

ห้องขนาด 2 พยองต้อนรับฉัน ภาพที่คุ้นเคยทำให้หัวใจของฉันดีขึ้นมาเล็กน้อย ฟูกให้กลิ่นเหม็นเนื่องจากไม่ได้ซักมาเป็นเวลานาน

 

น่าเสียดายที่อพาร์ทเมนต์ห้องนอนเดี่ยวนี้เป็นทั้งหมดที่ฉันสามารถจ่ายได้ในเวลานั้น

 

“ฉะ- ฉันได้อะไรมา?!”

 

ฉันเปิดหน้าต่างสถานะทันที โดยสงสัยว่าฉันจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในการพนัน 25% ของฉัน

 

[คิม กงจา]

 

→ฉันอยากเป็นเหมือนคุณ (S +): ติดตัว

 

→ นาฬิกาไขลานของผู้หวนคืน (EX): ติดตัว

 

→ กลุ่มดาวแห่งดาบ (A +): ติดตัว

 

ไม่มี

 

“อา…”

 

ฉันถอนหายใจ รู้สึกทั้งสุขและเศร้า

 

“ฉันดีใจที่มีสกิลแร้งก์ A+ …”

 

แรกๆฉันก็รู้สึกดีใจ แม้ว่ามันจะไม่ใช่สกิลระดับ S แต่ฉันก็ยังเชื่อว่านี่เป็นสกิลที่ดีที่สุดที่เขามี ฉันยังโชคดีที่ไม่ได้รับสกิลอย่าง [ตัวนับจำนวณการฆ่าคน]

 

“ …มันเป็นสกิลติดตัวอีกสกิลหนึ่ง”

 

จากนั้นก็เป็นความเศร้าของฉัน สิ่งที่ฉันตั้งเป้าไว้ตอนแรกคือสกิลต่อสู้ ศิลปะการต่อสู้ที่หายากบางประเภท ำอย่างพวกการฟันดาบ หรืออาจจะเป็นสกิลที่ปลุกออร่า ส่วนใหญ่เป็นความสามารถที่ใช้งานได้

 

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ฉันล้มเหลวในการได้รับสกิลต่อสู้ที่ดีที่สุด

 

“เฮ้อ”

 

ฉันถอนหายใจอีกครั้ง

 

“ไม่ ถ้าฉันคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น.. ”

 

อันที่จริงถ้าฮันเตอร์คนอื่นได้ยินเสียงคร่ำครวญของฉัน ตอนนี้พวกเขาคงแทบคลั่ง

 

คุณจะหาสกิลแร้งก์ A + ได้ที่ไหนโดยไม่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อมัน

 

ฉันตัดสินใจมองด้านดีๆของมันแทน

 

ก่อนอื่น ฉันต้องโฟกัสไปที่การตรวจสอบสกิลก่อน

 

แน่นอนว่าการ์ดสกิลจะปรากฏให้ฮันเตอร์ที่เป็นเจ้าของเห็นเท่านั้น

 

→ฉันอยากเป็นเหมือนคุณ (S +): ติดตัว

 

→ นาฬิกาไขลานของผู้หวนคืน (EX): ติดตัว

 

→ กลุ่มดาวแห่งดาบ (A +): ติดตัว

 

กลุ่มดาวแห่งดาบ

 

เพียงแค่ดูชื่อก็ยากที่จะระบุว่าสกิลนี้ทำอะไรได้บ้าง

 

“แม้แต่ ‘ฉันอยากเป็นเหมือนคุณ’ ก็มีชื่อแปลก ๆ ”

 

เป็นการยากที่จะตัดสินว่าสกิลนั้นของหลอกเด็กหรือรางวัลใหญ่จากชื่อเพียงอย่างเดียว

 

บางทีมันอาจจะกลายเป็นสกิลที่น่าทึ่ง มันเป็นการปลอบตัวเองเล็กน้อยที่ฉันให้ตัวเองเนื่องจากฉันเป็นคนที่คว้าการ์ดสีเงิน

 

-อา เสียงดังอะไรกัน?

 

มีเสียงดังออกมาจากที่ไหนสักแห่ง

 

-ตาเฒ่า อาจารย์คนนี้บอกไปแล้วไม่ใช่หรือไง ถ้านายอยากจะซ้อมกลางดึกอย่างน้อยก็ช่วยเงียบๆหน่อย

 

“…”

 

– เมื่อนายจะไปไหนไม่จำเป็นต้องรบกวนฉัน ฉันจะได้ไม่ต้องตื่น ช่วยปฏิบัติต่อกันอย่างมีมารยาทหน่อย ได้มั้ย?

 

ช้าๆ

 

ฉันค่อยๆหันไปมองตามทิศทางต้นตอของเสียง

 

บนฟูกในห้องเดี่ยว ฉันถูกอัดแน่นในพื้นที่ที่ฉันแทบจะไม่สามารถนอนคนเดียวได้ แต่ฉันมองเห็นบางอย่างข้างหลังแม้ว่าจะพร่ามัว มีใครบางคนนอนอยู่ที่นั่นโดยหันหลังให้ฉัน

 

“ขอโทษนะ”

 

ฉันรู้สึกขนลุก

 

“นายคือใคร?”

 

-หา?

 

แล้วสายตาของฉันก็พบกับใครบางคนที่ฉันไม่รู้จัก

 

วิญญาณ ผี

 

สิ่งที่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่มนุษย์ที่มีชีวิต

 

-เอ๋ ?

 

ผีตัวนี้มีขนาดใหญ่ หากไม่ใช่เสื้อผ้าของเขา เขาอาจถูกเข้าใจผิดว่าเป็นกอริลลา ร่างกายของเขาค่อนข้างกว้าง แม้แต่คิ้วของเขา และเขาจ้องมาที่ฉันด้วยสีหน้าตกใจ

 

-เฮ้ นี่นายเป็นใคร ?

 

“ …ฉันก็อยากจะถามแบบนั้นเหมือนกัน นายเป็นใคร?”

 

– นายเห็นฉัน?

 

ฉันพยักหน้า

 

“ใช่”

 

– นายได้ยินเสียงของฉัน?

 

“อืม ถ้าเรากำลังสื่อสารกันอยู่ตอนนี้…ก็อย่างที่เห็นเลย”

 

อะไรวะเนี่ย ตอนนี้ฉันกำลังคุยกับผีอยู่จริงๆเหรอ?

 

คุณคงคิดว่าผีธรรมดาก็เหมือนสัตว์ประหลาดที่ไล่ตามทุกคนเพราะความแค้นในชีวิต

 

แต่ผู้ชายคนนี้แตกต่างออกไป เขาพูดและทำตัวเหมือนมนุษย์ เพียงแต่มีร่างกายที่พร่ามัว

 

-หา ไม่ใช่ว่ามันแปลกเหรอ? ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไง

 

ผีส่ายหัวของเขา ดูเหมือนว่าฉันไม่ใช่คนเดียวที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ในปัจจุบัน

 

–พวกเราอยู่ที่ไหน ที่นี่มันเล็กเหมือนเพิงหมาแหงน มาร์คัส ตาเฒ่าคนนั้นหายไปไหนแล้ว ทำไมมีเด็กอย่างนายอยู่ตรงหน้าฉันล่ะ?

 

ในที่สุดฉันก็เข้าใจบางอย่างที่ผีพูด

 

“เอ่อ มาร์คัสที่ว่า…นายหมายถึงมาร์คัส คาเลนเบอร์รี่หรือเปล่า? เซียนดาบ?”

 

-ชิ ชิ แม้แต่พวกมือใหม่อย่างเขาก็สามารถถูกเรียกได้ว่าเป็นเซียนดาบเหรอ? มันช่างไม่ถูกต้องเอาเสียเลย

 

ผีเดาะลิ้นของเขาราวกับว่าเขาได้ยินสิ่งที่ไม่น่าเชื่อ

 

– ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ชื่อที่นายพูดนั้นก็ถูกต้อง เขาอยู่ที่ไหน? เขาน่าจะอยู่แถวนี้

 

ฉันตกตะลึง

 

‘เซียนดาบเป็นมือใหม่เหรอ?’

 

ฮันเตอร์ที่ปัจจุบันติดอันดับหนึ่งของโลก และเนื่องจากฉันตั้งใจจะสังหารยู ซูฮาบางทีเขาอาจจะยังคงครองตำแหน่งสูงสุดในอนาคตอันไกลโพ้น

 

ผีตัวนี้ตรงหน้าฉันพูดถึงอะไรกันแน่ที่เรียกว่ามือใหม่? แล้วทำไมจู่ๆฉันถึงมองเห็นผีได้?

 

“…”

 

เพื่อตอบคำถามของฉัน ฉันนำสสกิลการ์ดขึ้นมาและอ่านข้อมูล

 

[กลุ่มดาวแห่งดาบ]

 

→แร้งก์: A+

 

→เอฟเฟค:

→ผีจากต่างโลก เขาเคลียร์ชั้น 99 แต่ล้มเหลวในชั้นที่ 100 และเสียชีวิตไป ความแค้นที่ยังคงอยู่ทำให้เขากลายเป็นผี เขาไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับโลกทางกายภาพได้ แต่เป็นไปได้ที่จะยุ่งเกี่ยวกับความคิดของผู้เป็นเจ้าของ จงขอคำแนะนำจากประสบการณ์อันยาวนานและทักษะอันน่าทึ่งของเขา!

 

→อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถมองเห็นผีได้ยกเว้นเจ้าของ

 

→สกิลนี้คัดลอกมาจากฮันเตอร์มาร์คัส คาเลนเบอร์รี่

 

ฉันหมดคำพูด

 

-เฮ้ ฉันบอกว่าตาเฒ่าอยู่ที่ไหน นายไม่สนใจฉันหรือ ชิ เฮ้ เฮ้! หลายปีที่ผ่านมาฉันทำตัวดีมาก หายากที่จะพบนักรบเช่นเขา แม้ว่าเขาจะแค่งั้นๆก็ตาม

 

พระเจ้าช่วย

 

ดูเหมือนว่าฉันไปคัดลอกผีของเซียนดาบเข้าเสียแล้ว

Comment

Options

not work with dark mode
Reset