ก่อนที่พวกหานเซิ่นจะเดินทางมาถึงเมืองหลวงของอาณาจักรฉิน มันก็ผ่านมาว่าครึ่งเดือนแล้ว ดินแดนของอาณาจักรฉินนั้นกว้างใหญ่ ถึงแม้ยานอวกาศที่พวกเขาโดยสารจะใช้การวาร์ปหลายครั้ง แต่มันก็ใช้เวลากว่าครึ่งเดือน และพวกเขายังต้องเปลี่ยนยานอวกาศถึงสองครั้ง
“นี่คือเมืองหลวงของอาณาจักรฉินอย่างนั้นหรอ?”
มิสเตอร์หยางและคนอื่นๆดูตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า เมืองหลวงของอาณาจักรฉินนั้นไม่ได้ถูกสร้างอยู่บนดาวดวงใดดวงหนึ่ง แต่มันเป็นสถานีอวกาศขนาดยักษ์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยมือคน
สถานีอวกาศนั้นมีนาดใหญ่ยิ่งกว่าดาวตูรินซะอีก ในตอนที่มองดูจากระยะไกล มันดูเหมือนกับก้อนหยกขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่ในอวกาศ
หลี่ปิงหยูรู้สึกตื่นเต้น เธอคาดเดาว่าหานเซิ่นนั่นคงจะมาที่เมืองหลวงเพื่อพบกับฉินไป๋ ในตอนที่พวกเขาพบกัน โอกาสที่เธอจะได้ลอบสังหารรัชทายาทฉินไป๋ก็จะมาถึง
หลี่ปิงหยูพูดอธิบายด้วยรอยยิ้ม “ในทั้งเจ็ดอาณาจักร มีเพียงแค่เมืองหลวงของอาณาจักรฉินเท่านั้นที่ไม่ได้ถูกสร้างบนพื้นผิวของดวงดาว เมืองกำแพงหยกนี้คือสิ่งที่ผู้คนของอาณาจักรฉินนั้นภาคภูมิใจมากที่สุด มันถูกสร้างขึ้นโดยราชาฉินองค์แรก ถึงแม้มันจะผ่านมาเป็นพันล้านปีและต้องประสบกับสงครามและภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมาย มันก็ยังคงปกป้องชีวิตนับหมื่นล้านชีวิตของอาณาจักรฉินเอาไว้ได้ การก่อสร้างของมันเป็นเหมือนกับปาฏิหาริย์ และมันคงจะเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่เยี่ยมยอดที่สุดในประวัติของจักรวาล”
“นี่เป็นฝีมือของฉินซิวอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่เมืองกำแพงหยกที่เป็นเหมือนกับปาฏิหาริย์
เจียงปู้กู่ยิ้มและพูด “ที่อาณาจักรฉินสร้างสิ่งที่เหมือนกับปาฏิหาริย์นี้ขึ้นมาได้สำเร็จ นั่นเป็นเพราะความแข็งแกร่งของราชาฉินองค์แรก เขาเกือบจะครอบครองทั้งจักรวาล มันไม่ใช่ว่าอาณาจักรทั้งหกจะถูกทำลาย แต่พวกเขาต้องจ่ายภาษีให้กับอาณาจักรฉินทุกๆปีเพื่อรักษาความสัมพันธ์ เมื่อเทียบกับตอนนี้ข้าไม่คิดว่าอาณาจักรของพวกเราจะสร้างเมืองกำแพงหยกแบบนี้ขึ้นมาได้ น่าเสียดายในตอนที่อาณาจักรฉินรุ่งเรืองที่สุด ราชาฉินองค์แรกนั้นได้หายตัวไป ราชาฉินองค์ต่อๆมานั้นไม่มีอำนาจพอจะปกครองทั้งจักรวาลเหมือนอย่างเขา”
หานเซิ่นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกนับถือฉินซิว “ฉินซิวเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยม มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะฝึกวิชาการต่อสู้จนถึงจุดสูงสุด แต่ฉินซิวไปถึงจุดสูงสุดทั้งความสามารถในด้านการต่อสู้และความสามารถในด้านการปกครอง เขาสร้างอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ เราคงจะทำแบบเขาไม่ได้”
หลังจากที่เข้ามาในเมืองกำแพงหยก หานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าเขาไร้เดียงสาเกินไปหน่อย เขาไม่สามารถเปิดร้านเป็นของตัวเองได้ ด้วยเงินอันน้อยนิดที่พวกเขามีอยู่ แม้แต่ที่อยู่อาศัยพวกเขาก็ยังหาไม่ได้เลย
พื้นที่ภายในเมืองหลวงของอาณาจักรฉินนั้นแพงมากๆ แม้แต่การจะเช่าพื้นที่ที่เล็กพอๆกับห้องน้ำห้องหนึ่งก็มีราคาสูงถึงหนึ่งหมื่นฉินต่อเดือน
หานเซิ่นหันไปมองที่เจียงปู้กู่และถาม “เจียงปู้กู่ เจ้ารู้ไหมว่าในเมืองกำแพงหยกนี้ พวกขุนนางจะไปล่ายีนเรซกันที่ไหน?”
เจียงปู้กู่ตอบ “เมืองกำแพงหยกนั้นมีเครื่องเทเลพอร์ตอยู่เป็นจำนวนมาก นายน้อยเทเลพอร์ตไปยังดวงดาวที่อยู่ใกล้กับเมืองกำแพงหยกได้ บนดาวเหล่านั้นจะมีชีพจรพระเจ้าและยีนเรซอยู่เป็นจำนวนมาก”
หานเซิ่นพยักหน้าและคิดกับตัวเอง ‘ในเมื่อเราเปิดร้านขายของที่นี่ไม่ได้ เราก็ควรไปทำร้านขายของออนไลน์แทน’
หลังจากหาที่พักได้แล้ว หานเซิ่นก็ให้มิสเตอร์หยางรับผิดชอบเรื่องการเปิดร้านขายของออนไลน์ ส่วนเขาเตรียมตัวที่จะเดินทางไปยังดวงดาวอื่นเพื่อหาไข่ยีนมาขาย
หลี่ปิงหยูพูดว่าเธอต้องการจะติดตามไปด้วย แต่คำขอของเธอถูกหานเซิ่นปฏิเสธ
‘เขามาที่นี่เพื่อเปิดร้านขายของออนไลน์อย่างนั้นหรอ? เขาช่างไม่รู้อะไรเอาซะเลย สุดท้ายเขาต้องเป็นไปพึ่งพาฉินไป๋เป็นแน่’ หลี่ปิงหยูคิดอย่างเย้ยหยัน
หลี่ปิงหยูรู้ว่าหานเซิ่นไม่มีเงิน ดังนั้นถ้าเขาไม่ไปหาไข่ยีนมาขาย พวกเขาก็คงต้องอดตายเป็นแน่
แต่เมืองหลวงไม่เหมือนกับที่อื่นๆ มันเป็นสถานที่ที่ฝ่ายอำนาจต่างๆมาอยู่รวมกัน การขายไข่ยีนเป็นสิ่งที่มีแค่ตระกูลขุนนางที่ใหญ่โตเท่านั้นที่จะทำได้ การจะเปิดร้านขายไข่ยีนด้วยตัวคนเดียวเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
แถมหานเซิ่นแค่จะเปิดร้านขายของออนไลน์ เขาไม่มีเงินจะทำการโฆษณา และเขาก็ไม่มีช่องทางในการหาทรัพยากรเช่นกัน ธุรกิจที่เขาคิดจะทำนั้นจึงเป็นเรื่องที่ยากจะสำเร็จ มันจะถือว่าเขาโชคดีมากๆถ้าเขาไม่สูญเสียทรัพย์สินจนหมดเนื้อหมดตัว
หลี่ปิงหยูเชื่อว่าร้านขายของออนไลน์ของหานเซิ่นจะปิดตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงตอนนั้นถ้าหานเซิ่นมาขอเงินจากเธอ เธอก็จะบอกเขาว่าเงินของเธอหมดแล้วเช่นกัน นั่นจะผลักดันให้หานเซิ่นไปพบกับฉินไป๋
หานเซิ่นค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเมืองกำแพงหยกภายทางอินเตอร์เน็ต และเช็คร้านขายของออนไลน์ที่ขายไข่ยีน เขาต้องการดูว่าไข่ยีนแบบไหนที่ขายได้ราคาดี
ในตอนที่หานเซิ่นไปถึงสถานีเทเลพอร์ต เขารู้สึกแปลกใจจนอ้าปากค้าง เครื่องเทเลพอร์ตของที่นี่นั้นดูเหมือนกับเครื่องเทเลพอร์ตในก็อตแซงชัวรี่ไม่มีผิด
“นี่หมายความว่าเครื่องเทเลพอร์ตในก็อตแซงชัวรี่จริงๆแล้วมาจากจักรวาลนี้อย่างนั้นหรอ?” ใบหน้าของหานเซิ่นดูแปลกๆ
หานเซิ่นรู้ว่าความสามารถในการสร้างเครื่องเทเลพอร์ตของสหพันธ์ได้มาจากอารยธรรมอื่น ในอดีตเขาคิดว่ามันเป็นเทคโนโลยีของคริสตัลไลเซอร์ แต่เมื่อเห็นเครื่องเทเลพอร์ตของที่นี่ เขาก็สังเกตเห็นว่าพวกเขาคล้ายคลึงกันมากๆ มันยากที่จะเชื่อได้ว่ามันไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
หลังจากที่จ่ายค่าเทเลพอร์ต หานเซิ่นก็ประสบกับความรู้สึกที่เขาคุ้นเคยมากๆ หลังจากนั้นเขาก็ไปปรากฏตัวอยู่บนดาวที่ถูกเรียกว่ากู่หย่าง
หานเซิ่นได้ทำการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับดาวดวงนี้มาก่อนล่วงหน้า มันเป็นดาวที่มียีนเรซที่หายากอยู่หลายชนิด นอกจากนั้นยีนเรซของที่นี่ไม่ถือว่าหาได้ยากอะไร ขณะที่ไข่ยีนนั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากๆ แต่นั่นไม่เป็นปัญหาสำหรับหานเซิ่น
มันมียีนเรซระดับไวเคานต์ที่เรียกว่าสปิริตอีวิลอายอยู่ ถึงระดับของมันจะไม่ได้สูงมากนัก แต่วิชาประสานยีนของมันสามารถทำให้มนุษย์มีสายตาเหมือนรังสีเอ็กซ์ ด้วยเหตุนั้นไข่ยีนของสปิริตอีวิลอายจึงมีราคาสูงกว่าไข่ยีนระดับเอิร์ลทั่วๆไปเสียอีก แต่ด้วยความที่ไข่ยีนของมันเป็นสิ่งหายาก มันจึงไม่มีร้านค้าไหนที่ขาย
แน่นอนว่าหานเซิ่นไม่ได้มีแผนที่จะหาไข่ยีนของสปิริตอีวิลอาย อย่างแรกเขากลัวว่าคนจะเอามันไปใช้ในทางที่ผิด อย่างที่สองการจะหาสปิริตอีวิลอายนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
“ถ้าเป็นไปได้เราจะหาให้ตัวเองสักตัวหนึ่ง” หานเซิ่นคิดขณะที่เดินไปเรื่อยๆ
โฮลี่เหวินไวท์เดียร์นั้นสะดุดตาเกินไป มันมีผู้คนอยู่รอบๆมากมาย ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่เรียกมันออกมาขี่ เขาแค่เดินไปอย่างช้าๆและสำรวจดาวกู่หย่างไปเรื่อยๆ
ด้วยข้อมูลที่เขารวบรวมจากอินเตอร์เน็ต ในทิศตะวันตกนั้นจะมีสถานที่ที่เรียกว่าหุบเขาไนท์ครายอยู่ มันเป็นที่อยู่อาศัยของยีนเรซระดับไวเคานต์ที่ถูกเรียกว่าแมลงแปดเสียง มันคือเป้าหมายของหานเซิ่นในการออกล่าครั้งนี้ ไข่ยีนของแมลงแปดเสียงนั้นเป็นสิ่งที่หายากเช่นเดียวกัน พวกมันสามารถขายได้ในราคาที่สูง
พลังต่อสู้ของแมลงแปดเสียงนั้นค่อนข้างต่ำ และวิชาประสานยีนของมันก็ทำอะไรไม่ได้มากเช่นกัน แต่มันสามารถทำให้เสียงเพลงและเสียงของมนุษย์ไพเราะขึ้นกว่าเดิม
ในจักรวาลนี้การต่อสู้ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง พวกเขามีวัฒนธรรมและความบันเทิงอยู่ ด้วยเหตุนั้นในยุคสมัยนี้จึงมีนักดนตรีอยู่มากมาย
คนหนุ่มหลายคนนั้นปรารถนาที่จะกลายเป็นนักร้องหรือไอดอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าขุนนางที่ชื่นชอบรูปแบบความบันเทิงพวกนั้น
ซึ่งแมลงแปดเสียงเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับนักร้อง มันมียีนเรซประเภทนี้อยู่ไม่มากนัก ถึงแม้มันจะมียีนเรซที่ระดับสูงกว่าอยู่ แต่คนทั่วๆไปนั้นไม่สามารถหาซื้อพวกมันได้
ไข่ยีนของแมลงแปดเสียงนั้นหายากมาก ซึ่งทำให้ความต้องการค่อนข้างสูง แมลงแปดเสียงของหุบเขาไนท์ครายนั้นเป็นร่างเต็มวัย ด้วยเหตุนั้นมันจึงไม่มีใครมาจับแมลงแปดเสียงในหุบเขาแห่งนี้