“ข้าอยากเห็นจริงๆว่ามันคือตัวอะไรกันแน่” โอหยางชิวซานพูดขึ้นมาก่อนที่จะกระพือปีกบนหลังเพื่อบินออกไป
แต่พีชฟูลหยุดเขาเอาไว้และพูด “ก่อนอื่นพวกเราต้องหาให้ได้ก่อนว่ามันคืออะไร ในภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อตนั้นมียีนเรซที่น่ากลัวและโหดร้ายอยู่มากมาย บางทีตอนนี้พวกเราอาจจะไปเจอกับยีนเรซที่น่ากลัวมากๆเข้า พวกเราไม่ควรประมาทศัตรูแบบนั้น”
หนึ่งในคนของจ้าวจื่อเย่พูดขึ้นมาอย่างหวาดกลัว “บลัดโกสต์สปิริต… พวกเราต้องกำลังเจอกับบลัดโกสต์สปิริตแน่ๆ!”
นี่ถือเป็นงานใหญ่ ดังนั้นมันจึงไม่ได้มีมิสเตอร์แค่คนเดียวที่ร่วมเดินทางมาด้วย นอกจากมิสเตอร์หยางแล้ว จ้าวจื่อเย่ได้พามิสเตอร์มาด้วยอีกสองคน มิสเตอร์ที่ดูหวาดกลัวนั้นคือมิสเตอร์หลี่สามตา ชื่อสกุลของเขาคือหลี่ แต่เหตุผลที่เขาได้สมญานามว่าสามตานั้นเป็นเพราะรอยแผลเป็นบนหน้าผากของเขา
นอกจากที่มิสเตอร์หลี่จะมองหาชีพจรพระเจ้าได้แล้ว เขายังมีความสามารถในการระบุชนิดของไข่ยีนและยีนเรซ เขาแค่จำเป็นต้องเห็นรูปร่างของไข่เพื่อจะระบุชนิดของยีนเรซที่อยู่ภายใน นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เขาถูกเรียกว่าหลี่สามตา
ในตอนที่จ้าวจื่อเย่ได้ยินคำว่าบลัดโกสต์สปิริต ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“สามตา เจ้าแน่ใจหรือว่ายีนเรซที่พวกเขากำลังเผชิญหน้านั้นคือบลัดโกสต์สปิริตน่ะ?”
หลี่สามตาตัวสั่นขณะที่พูดยืนยัน “ข้าไม่มีทางดูผิด มันต้องเป็นบลัดโกสต์สปิริตไม่ผิดแน่ ข้าเคยได้ยินว่าในภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อตนั้นมีบลัดโกสต์สปิริตอยู่ และตอนนี้หนังของลุงเก้าก็ถูกแขวนอยู่กับต้นไม้ นอกจากบลัดโกสต์สปิริตที่กินเนื้อและกระดูกเป็นอาหารแล้ว มันยังจะเป็นฝีมือของยีนเรซไหนได้อีก?”
พีชฟูลและคนอื่นๆเหมือนกับหานเซิ่น พวกเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับบลัดโกสต์สปิริต พีชฟูลจึงถามขึ้นว่า
“มิสเตอร์หลี่ เจ้าพออธิบายได้ไหมว่าบลัดโกสต์สปิริตนั้นมีธาตุอะไรและอยู่ระดับไหน?”
มิสเตอร์หลี่สามตามีสีหน้าที่ซับซ้อน “ท่านหญิงพีชฟูล ในอาณาจักรฉินนั้นมีนักฆ่าที่ชื่อว่าโมหลี่อยู่ ท่านคงจะเคยได้ยินชื่อของเขามาก่อน”
พีชฟูลพยักหน้าและพูด “โมหลี่นั้นเป็นฮีโร่ของอาณาจักรฉิน เมื่อก่อนในตอนที่อาณาจักรชู เว่ยและหานต้องการจะโจมตีอาณาจักรฉิน โมหลี่นั้นปลอมตัวเป็นนักฆ่าจากอาณาจักรชูเพื่อลอบสังหารราชาของอาณาจักรเว่ย ถึงเขาจะช่วยให้อาณาจักรฉินพ้นภัย แต่เขาก็ต้องถูกคนประณามเป็นเวลาหลายสิบปี ทั้งๆที่จริงๆแล้วเขาคือฮีโร่ของอาณาจักรฉิน”
มิสเตอร์หลี่สามตาพยักหน้าและพูด “ตำนานบอกว่าโมหลี่นั้นมียีนเรซอยู่สามตัว ตัวที่มีชื่อเสียงที่สุดคือโลนสกายดราก้อน มันมีชื่อเสียงจากการสังหารราชาของอาณาจักรเว่ย ทุกคนรู้ในเรื่องนั้น แต่มีน้อยคนที่จะรู้ว่าจริงๆแล้วโมหลี่ใช้ยีนเรซสามตัวในการลอบสังหารราชาของราชาเว่ย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือบลัดโกสต์สปิริต”
“จริงหรอเนี่ย? ระดับของยีนเรซบลัดโกสต์สปิริตคือระดับอะไรกัน? และมันมีพลังแบบไหน?” โอหยางชิวซานถามด้วยความแปลกใจ
มิสเตอร์หลี่สามตาส่ายหัว เขาดูหวาดกลัวขณะที่พูดขึ้นว่า
“ไม่มีใคนรู้ว่าพลังของบลัดโกสต์สปิริตคืออะไร นั่นก็เพราะว่านอกจากโมหลี่แล้ว ไม่มีใครในโลกนี้ที่มีบลัดโกสต์สปิริตอีก ตำนานกล่าวว่าชีพจรพระเจ้าที่ให้กำเนิดบลัดโกสต์สปิริตนั้นอยู่ใต้เมืองหนึ่ง เมืองๆนั้นเคยมีประชากรมากถึงสิบล้านคน แต่ทุกคนถูกฆ่าตายภายในวันเดียว ทั้งเมืองเต็มไปด้วยหนังของมนุษย์และเลือดนองท่วมเมืองโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ในภายหลังชีพจรพระเจ้าถูกค้นพบใต้เมืองแห่งนั้น มันเป็นชีพจรของไข่ยีนที่ให้กำเนิดบลัดโกสต์สปิริต”
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้นสีหน้าของพีชฟูลก็เปลี่ยนไป “เมืองที่มิสเตอร์หลี่กำลังพูดถึงคือเมืองฮาล์ฟเดย์ใช่ไหม?”
“ใช่ มันคือเมืองฮาล์ฟเดย์” มิสเตอร์หลี่สามตาพูดพร้อมกับพยักหน้า
พีชฟูลมองลึกเข้าไปในป่าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ข้าแค่เคยได้ยินเกี่ยวกับเมืองฮาล์ฟเดย์และการมีอยู่ของยีนเรซที่โหดร้ายมากๆ ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามันคือบลัดโกสต์สปิริต”
เสียงร้องไห้ดังขึ้นมาอีกครั้งราวกับว่ามันกำลังตอบรับคำพูดของพีชฟูล ภายในภูเขานั้นดังก้องไปด้วยเสียงร้องประหลาดที่เหมือนกับเสียงร้องไห้ของทารก มันทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวและเหงื่อตก
“ถ้านั่นคือบลัดโกสต์สปิริตจริงๆ ข้ากลัวว่าพวกเราทุกคนคงจะต้องตายอยู่ที่นี่” มิสเตอร์หลี่สามตาพูด
“บลัดโกสต์สปิริตเป็นยีนเรซที่โหดเหี้ยม ถ้าพวกเราไปทำให้มันโกรธ ถึงแม้พวกเราจะหนีออกไปจากภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อตได้สำเร็จ แต่มันก็จะไล่ตามไปฆ่าพวกเราทุกคน”
หลังจากที่พูดจบ มิสเตอร์หลี่ก็เหลียวมองไปที่โอหยางชิวซาน
ถึงมิสเตอร์หลี่สามตาจะไม่มองไปที่โอหยางชิวซาน ทุกคนก็รู้ดีว่าโอหยางชิวซานเป็นคนที่โจมตีใส่บลัดโกสต์สปิริต ถ้าพวกเขายอมมอบตัวโอหยางชิวซานไปให้กับบลัดโกสต์สปิริต มันก็มีโอกาสที่พวกเขาจะรอด
นอกจากโอหยางชิวซานที่ยังไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น คนอื่นๆนั้นรู้ดี พีชฟูลรีบพูดขึ้นมา
“พวกเรายังไม่รู้ว่ามันใช่บลัดโกสต์สปิริตจริงๆหรือไม่ ถึงแม้มันจะใช่บลัดโกสต์สปิริตจริงๆ พวกเราจะยอมกลับไปมือเปล่าเพียงเพราะบลัดโกสต์สปิริตอย่างนั้นหรอ?”
หลังจากที่พีชฟูลพูดแบบนั้น จ้าวจื่อเย่ก็ขมวดคิ้ว ที่พีชฟูลพูดออกมาแบบนั้นก็เพราะเธอต้องการจะปกป้องโอหยางชิวซาน ทุกคนรู้ในเรื่องนั้น แต่สิ่งที่เธอพูดก็สมเหตุสมผล พวกเขาทุกคนในที่นี้ล้วนแต่มีประสบการณ์ในการต่อสู้เพื่อความอยู่รอด พวกเขาจะกลับไปมือเปล่าเพียงเพราะว่ามันอาจจะมีบลัดโกสต์สปิริตอยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้ยังไง?
ถ้าพวกเขาไปต่อ การมีโอหยางชิวซานที่มียีนเรซวินด์วิงด์สเนคนั้นจะเป็นประโยชน์กับพวกเขาอย่างมาก
จ้าวจื่อเย่ยิ้มขึ้นมา ขณะที่มองไปที่โอหยางชิวซาน “มิสเตอร์ชิวซานเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพวกเราทั้งหมด พวกเราจะฟังคำสั่งของมิสเตอร์ชิวซาน คิดว่าพวกเราควรจะไปต่อหรือไม่”
โอหยางชิวซานยังเด็กเกินไป เขาเป็นคนหนุ่มที่หลงตัวเอง เขาขาดประสบการณ์และไม่รู้ถึงเจตนาที่แอบแฝงอยู่ในคำพูดของคนอื่น เขาคิดว่าทุกคนกำลังหวังพึ่งเขา เขาไม่รู้ว่าจริงๆแล้วจ้าวจื่อเย่ต้องการจะใช้เขาเป็นเหยื่อล่อ การที่เขาเห็นจ้าวจื่อเย่พูดกับเขาอย่างมีมารยาทนั้นทำให้เขารู้สึกว่าทุกคนกำลังพึ่งพาเขาอยู่ เขาจึงพูดขึ้นว่า
“พวกเรามาที่นี่เพื่อล่ายีนเรซ พวกเราจะปล่อยให้ตัวเองถูกยีนเรซแค่ตัวเดียวขู่จนต้องหนีไปไม่ได้ ข้าจะไปดูลาดเลาข้างหน้าและรับประกันความปลอดภัยของทุกคนเอง”
ทุกคนเอยชมโอหยางชิวซาน พวกเขาทำให้เด็กหนุ่มที่ไร้เดียงสาคนหนึ่งดูเหมือนกับเทพ หานเซิ่นได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมาเมื่อเห็นว่าโอหยางชิวซานนั้นดีใจกับคำชมที่ได้รับ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามันกำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่
พีชฟูลต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายเธอก็เปลี่ยนใจและไม่พูดออกมา เรื่องนี้เป็นเรื่องของโอหยางชิวซาน ถ้าเธอพยายามจะปกป้องเขา เธอก็กลัวว่าจะไปยั่วให้คนอื่นเกิดโมโหขึ้นมา ถ้าพวกเขาเริ่มจะแตกคอกันเอง การเดินทางเพื่อตามหาชีพจรพระเจ้าในครั้งนี้ก็จะกลายเป็นหายนะ
ขณะที่พีชฟูลกำลังคิดหาวิธีที่จะแก้ไขสถานการณ์ เธอก็ได้ยินเสียงร้องประหลาดดังขึ้นมา มันฟังดูใกล้มากๆ มันทำให้ทุกคนรู้สึกหนาว
โอหยางชิวซานนั้นไม่ได้พูดอะไร เขากระพือปีกด้านหลังและเคลื่อนไหวราวกับสายลม เขาบินหายเข้าไปในป่า ดูเหมือนว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปหาที่มาของเสียงร้องนั่น
พีชฟูลกัดฟันและวิ่งตามเข้าไปในป่า เธอกำลังรู้สึกแย่
‘ถ้ารู้ว่าโอหยางชิวซานไร้เดียงสาขนาดนี้ เราก็คงจะไม่ตอบตกลงหัวหน้าตระกูลโอหยางและพาเขามาด้วย’
“อ้า!”
ก่อนที่พีชฟูลจะวิ่งลึกเข้าไปในป่า มันก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งเสียงร้องนั้นเป็นเสียงของโอหยางชิวซาน