“องค์รัชทายาท ขออภัยที่พวกเรามาช้า พวกเราสมควรตาย”
มีเสียงที่แหลมดังขึ้นมา หลังจากนั้นก็มีเงานับสิบปรากฏตัวขึ้น พวกเขาคุกเข่าลงตรงหน้าเด็กชายชุดขาว ผู้นำของพวกเขาก้มหัวขออภัยอย่างต่อเนื่อง
“พวกไร้ประโยชน์!” เด็กชายชุดขาวขึ้นเสียงอย่างเกรี้ยวโกรธ
“ถ้าหานเซิ่นไม่ช่วยข้าเอาไว้ ข้าก็คงจะกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว พวกเจ้ามันไร้ประโยชน์จริงๆ”
“พวกเราสมควรตาย” คนสิบกว่าคนไม่กล้าจะโต้เถียงอะไร พวกเขาแค่ก้มหัวขออภัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“นี่มันอะไรกัน? นี่พวกเขากำลังถ่ายภาพยนตร์อยู่อย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นอึ้งไปขณะที่เขามองดูสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงแม้จักรวาลนี้จะยังอยู่ในยุคของจักรวรรดิ มันก็ไม่ควรจะดูเวอร์ถึงขนาดนี้
เด็กชายชุดขาวเมินเฉยต่อพวกเขาและหันมาพูดกับหานเซิ่น
“หานเซิ่น เจ้าช่วยข้าเอาไว้ ทำไมเจ้าไม่มาที่วังของข้า? ข้าจะได้ตอบแทนเจ้า”
“ข้าขอถามได้ไหมว่าเจ้ามาจากอาณาจักรไหน?” หานเซิ่นมองไปที่เด็กชายชุดขาวด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
“ที่นี่เป็นดินแดนของอาณาจักรฉิน และข้าก็เป็นรัชทายาทของอาณาจักรฉิน”
เด็กชายชุดขาวพูดอย่างโอ้อวด “ชื่อสกุลของข้าคือฉิน แต่ชื่อของข้าคือไป๋ เจ้าจะเรียกชื่อของข้าตรงๆก็ได้”
ใบหน้าของหานเซิ่นดูซับซ้อน เขาคิดกับตัวเอง ‘ฉินซิวเป็นยอดคน ทำไมเขาถึงได้มีลูกหลานที่บ้าบอแบบนี้ได้? ดูเหมือนว่ากรรมพันธุ์จะเป็นสิ่งที่พึ่งพาไม่ได้’
“องค์รัชทายาท ข้าจะไม่ไปที่วัง ถ้าองค์รัชทายาทต้องการจะตอบแทนข้า แค่มอบไข่ยีนระดับสูงให้ข้าก็พอ” หานเซิ่นพูด
เมื่อได้ยินหานเซิ่นพูดแบบนั้น ฉินไป๋ก็ครุ่นคิดอยู่สักพัก หลังจากนั้นเขาก็ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาและถามด้วยความดีใจ
“เจ้าต้องการไข่ยีนระดับสูงอย่างนั้นหรอ? นั่นไม่ใช่เรื่องยากอะไร ในวังมีบ่อน้ำที่มีไข่ยีนระดับสูงอยู่ ข้าเชื่อว่าระดับของมันต้องสูงมากๆ เจ้ามากับข้าและข้าจะมอบไข่ยีนให้กับเจ้า”
ก่อนที่หานเซิ่นจะได้พูดตอบ ใบหน้าของพวกคนที่คุกเข่าอยู่บนพื้นก็เปลี่ยนไป
“องค์รัชทายาท องค์รัชทายาทจะทำแบบนั้นไม่ได้ สิ่งนั้นเป็นสิ่งสะกดชะตากรรมของอาณาจักรฉิน องค์รัชทายาทจะเคลื่อนย้ายมันไม่ได้ ถ้าองค์ราชารู้เข้า ท่านต้องโกรธแน่ๆ”
หลังจากที่ฉินไป๋ได้ยินคนรับใช้ของเขาพูดถึงองค์ราชาขึ้นมา เขาก็ดูหวาดกลัว เขาเปลี่ยนโทนเสียงและพูดขึ้นว่า
“จะยังไงก็ตาม ตราบใดที่เจ้ามากับข้า ข้าจะมอบไข่ยีนระดับสูงให้กับเจ้า”
“ขอบคุณในความเมตตาขององค์รัชทายาท แต่ข้ายังมีเรื่องที่ต้องไปจัดการ”
หานเซิ่นยังคงไม่คุ้นเคยกับโลกใบนี้ เขาจึงยังไม่คิดจะไปที่พระราชวังของอาณาจักรฉินในตอนนี้
ถ้าร่างกายของหานเซิ่นไม่ได้ถูกปฏิเสธโดยโลกใบนี้ เขาก็จะไม่ต้องอะไรกลัว แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องพยายามทำตัวไม่ให้เห็นจุดเด่น
ถึงฉินไป๋อยากจะให้หานเซิ่นไปด้วย แต่ในเมื่อหานเซิ่นยืนกรานว่าจะไม่ไป เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ในตอนที่เขาจะจากไป เขาก็หันกลับมามองหานเซิ่นซ้ำๆและบอกกับหานเซิ่นว่าถ้าหานเซิ่นได้มีโอกาสไปที่พระราชวัง ก็ให้หานเซิ่นไปหาเขา และเขาจะเตรียมไข่ยีนที่ดีที่สุดให้กับหานเซิ่น
ฉินไป๋กลับไปพร้อมกับคนอื่นๆ แต่พีชฟูลยังไม่ได้ไป
พีชฟูลมองมาที่หานเซิ่นและถาม “หานเซิ่น เจ้าสนใจจะทำการแลกเปลี่ยนกับข้าไหม?”
หานเซิ่นหยิบร่างของโอเวอร์แบริ่งบั๊กขึ้นมาและถาม
“แลกเปลี่ยนอะไร?”
“เจ้าต้องการยีนเรซและไข่ยีนไม่ใช่หรอ?” พีชฟูลถาม
“ข้ารู้จักสถานที่ที่มีไข่ยีนและยีนเรซอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าเจ้าและมิสเตอร์หยางไปกับข้า เจ้าต้องพึงพอใจต่อรางวัลที่ได้กลับไปอย่างแน่นอน”
หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไร เขาแค่หันไปมองที่มิสเตอร์หยาง
มิสเตอร์หยางไอและพูด “ท่านหญิงพีชฟูลคงจะไม่ได้หมายถึงสมบัติของราชาฉินหรอกใช่ไหม? บอกตามตรงก่อนหน้านี้มิสเตอร์เหมิงได้มาจ้างข้าให้ช่วยตามหาสมบัติของราชาฉิน แต่ไม่เพียงแค่พวกเราจะหาสมบัติไม่เจอ มิสเตอร์เหมิงยังหายตัวไปและตอนนี้ก็ยังไม่กลับมา ข้าไม่รู้ว่าเขายังอยู่หรือตาย”
พีชฟูลส่ายหัว “มิสเตอร์หยางเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้กำลังตามหาสมบัติของราชาฉิน ข้ากำลังตามหาชีพจรพระเจ้าลี้ลับ พวกเราได้คำนวณตำแหน่งคร่าวๆของชีพจรพระเจ้านั่น แต่พวกเรายังระบุตำแหน่งที่แน่นอนของมันไม่ได้ ด้วยเหตุนั้นพวกเราจึงต้องการความช่วยเหลือของมิสเตอร์หยาง พวกเราจะตอบแทนอย่างงามหลังจากที่งานสำเร็จ”
“ท่านหญิงพีชฟูลหมายถึงชีพจรพระเจ้าลี้ลับที่อยู่ในภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อตอย่างนั้นหรอ?”
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น มิสเตอร์หยางก็ดูแปลกใจ เขามองไปที่พีชฟูลอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ใช่แล้ว มันอยู่ในภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อต” พีชฟูลพูดพร้อมกับพยักหน้า
“ข้าแน่ใจว่ามิสเตอร์หยางคงจะรู้สึกตัวว่าไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มีชีพจรพระเจ้าปรากฎขึ้นมามากกว่าปกติ และในชีพจรพระเจ้าพวกนั้นก็มักจะมีไข่ยีนอยู่เป็นจำนวนมาก ชีพจรพระเจ้าที่ข้าพูดถึงนี้เพิ่งจะปรากฎขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้ พวกเราสัมผัสถึงชีพจรของมันได้ แต่พวกเรายังระบุตำแหน่งของมันไม่ได้ ถ้ามิสเตอร์หยางหามันเจอ พวกเราก็จะตอนแทนอย่างงาม”
มิสเตอร์หยางดูจะสนใจข้อเสนอนี้อย่างมาก แต่เขาไม่ได้ตอบตกลงในทันที เขาหันมามองที่หานเซิ่นที่เป็นเจ้านาย
“ชีพจรพระเจ้าลี้ลับคืออะไร?” หานเซิ่นถาม
มิสเตอร์หยางพยายามอธิบายให้หานเซิ่นฟัง ชีพจรพระเจ้าธรรมดาทั่วไปนั้นสามารถผลิตไข่ยีนได้สองถึงสามใบเท่านั้น แต่ชีพจรพระเจ้าลี้ลับนั้นสามารถมีไข่ยีนมากถึงร้อยใบหรือบางทีอาจจะมากยิ่งกว่านั้น
เมื่อดูจากคำอธิบายของมิสเตอร์หยาง ชีพจรพระเจ้าลี้ลับก็เป็นเหมือนกับเหมืองที่มีแร่อยู่เป็นจำนวนมาก
เมื่อได้ยินแบบนั้น หานเซิ่นก็รู้สึกสนใจขึ้นมาทันที หลังจากที่เขาได้รู้ว่าตัวเองสามารถรวมร่างกับยีนเรซได้ เขาก็อยากจะเรียนรู้เกี่ยวกับพวกมันมากยิ่งขึ้น
แต่หลังจากที่ได้ต่อสู้กับผู้หญิงคนนั้น หานเซิ่นก็สังเกตได้ว่าร่างกายของเขาถูกจำกัดโดยกฎของโลกใบนี้มากเกินไป ถ้าเขามียีนเรซที่ทรงพลังช่วยเหลือ อะไรหลายๆอย่างก็จะง่ายขึ้นอย่างมาก
ความแข็งแกร่งของผู้หญิงคนนั้นทำให้หานเซิ่นระวังตัวยิ่งกว่าเดิม เขาไม่รู้ว่ามันยังมียอดฝีมือที่น่ากลัวอีกมากมายเท่าไหร่ที่ซ่อนตัวอยู่ในอาณาจักรทั้งเจ็ด ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ หานเซิ่นคิดว่าตัวเองยังไม่สามารถเอาชนะยอดฝีมือระดับท็อปของอาณาจักรทั้งเจ็ดได้
“ฉินซิวเข้าไปในจักรวาลของเราได้ยังไงกัน?”
พลังของหานเซิ่นนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าฉินซิว แต่ภายใต้ข้อกำจัดของโลกใบนี้ การจะผ่ามิติอวกาศเพื่อกลับไปนั้นดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้
พีชฟูลเอ่ยข้อเสนอของเธอ “ถ้าพวกเจ้าทั้งคู่ยีนดีที่จะช่วยข้าหาชีพจรพระเจ้าลี้ลับ พวกเจ้าจะได้รับส่วนแบ่งกันคนละสิบเปอร์เซ็นต์เป็นยังไง?”
“ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ นั่นจะไม่น้อยเกินไปหน่อยหรอ?” หานเซิ่นถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
พีชฟูลส่ายหัว “เจ้ายังไม่รู้อะไร ชีพจรพระเจ้าลี้ลับนั้นเป็นสถานที่ที่อันตรายมากๆ มันไม่ใช่สถานที่ที่คนแค่สองคนจะเข้าไปได้ ข้าต้องร่วมมือกับคนอื่นๆอีก ในที่สุดแล้วข้าจะได้รับส่วนแบ่งแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น ส่วนพวกเจ้าได้ส่วนแบ่งยี่สิบเปอร์เซ็นต์ และคนอื่นๆจะได้รับส่วนแบ่งห้าสิบเปอร์เซ็นต์”
หานเซิ่นไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงหันไปมองที่มิสเตอร์หยาง
มิสเตอร์หยางพยักหน้าและพูด “ชีพจรพระเจ้าลี้ลับนั้นเต็มไปด้วยอันตราย มันมักจะมียีนเรซที่ฝักตัวเรียบร้อยแล้วอาศัยอยู่ ถ้าชีพจรพระเจ้านั้นปรากฏขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว พวกยีนเรซที่ฝักออกมาก่อนก็จะไปกินไข่ยีนที่ยังไม่ฝักตัวเข้าไปและเติบโตขึ้น มันจะเป็นปัญหาอย่างมากถ้าเป็นแบบนั้น”
“ก็ได้ ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ก็ยี่สิบเปอร์เซ็นต์” หานเซิ่นสัมผัสได้ว่ามิสเตอร์หยางนั้นอยากจะไป ดังนั้นเขาจึงตกลงกับข้อเสนอของพีชฟูล
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามข้ากลับไปที่เมือง” พีชฟูลพูดด้วยรอยยิ้ม
“ข้าจะแนะนำตัวพวกเจ้ากับคนอื่นๆ”