Super God Gene – ตอนที่ 3042 น้ำพุอีวิลสปิริต

หานเซิ่นเดินไปอยู่ต่อหน้าเนินเขาและยกหมัดขึ้นเพื่อเตรียมจะชกใส่มัน แต่มิสเตอร์หยางรีบเข้ามาหยุดเขาเอาไว้

“นายท่านอย่าทำแบบนั้น! ไข่ยีนที่ยังไม่ฝักตัวนั้นบอบบางมากๆ นายท่านจะใช้แรงมากเกินไปไม่ได้ ถ้าไข่แตกขึ้นมา ยีนเรซที่อยู่ภายในก็จะไร้ประโยชน์”

 

หานเซิ่นดึงหมัดกลับ เขามองไปที่มิสเตอร์หยางและถาม “ข้าจะขุดไข่ยีนขึ้นมาได้ยังไง?”

 

มิสเตอร์หยางพูด “นายท่านได้โปรดรออยู่ตรงนี้สักครู่ ข้าจะไปขุดไข่ยีนขึ้นมาเดี๋ยวนี้”

 

มิสเตอร์หยางรู้สึกแย่มากๆ ถึงเขาจะเป็นแค่มิสเตอร์ที่ไม่มียีนเรซเป็นของตัวเอง โดยปกติแล้วในตอนที่ผู้คนมาจ้างให้เขาช่วยหาชีพจรพระเจ้า พวกเขาจะไม่ได้ใช้ให้มิสเตอร์หยางทำงานที่ใช้กำลัง

 

แต่มิสเตอร์หยางไม่มีทางเลือกอื่น ในตอนนี้หานเซิ่นเป็นเจ้านายของเขา เขาไม่สามารถปล่อยให้หานเซิ่นทำงานใช้กำลังได้ เขาจำเป็นต้องทำมันด้วยตัวเอง

 

มิสเตอร์หยางรู้สึกดีใจที่เลือกจะไม่พาหานเซิ่นไปที่ภูเขาแอนเชี่ยนท์บิ๊กก็อต ที่แห่งนั้นเต็มไปด้วยก้อนหินที่แข็งมากๆ ถ้าเป็นที่นั่น เขาก็คงจะเหนื่อยตายซะก่อนที่จะหาไข่ยีนเจอ

 

เมื่อเทียบกันแล้วที่นี่มีแค่ดินและหญ้า การขุดที่นี่จึงเป็นอะไรที่ง่ายกว่ามาก

 

มิสเตอร์หยางเดินวนอยู่หลายรอบก่อนที่จะนำเอาพลั่วขนาดเล็กออกมาและเริ่มขุดดินเพื่อตรวจสอบ เขาใช้ทั้งจมูกดมและลิ้นเลีย มันทำให้หานเซิ่นอึ้งไป

 

ที่สุดแล้วมิสเตอร์หยางเลือกตำแหน่งที่เขาคิดว่าน่าจะใช่และใช้พลั่วขนาดเล็กขุดลึกลงไป เนื่องจากมิสเตอร์หยางเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนแอ การขุดของเขาจึงเป็นไปอย่างช้าๆ แถมพลั่วของเขาก็ยังมีขนาดเล็ก

 

หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็ยังขุดลงพื้นไปได้แค่สองฟุตเท่านั้น ใบหน้าของเขาซีดเผือก เขานั่งลงไปกับพื้นและพยายามหายใจทางปาก

 

หานเซิ่นยิ้มและถาม “มิสเตอร์หยาง มิสเตอร์ทุกคนเป็นเหมือนกับเจ้าอย่างนั้นหรอ?”

 

เมื่อมิสเตอร์หยางได้ยินคำถามของหานเซิ่น เขาหายใจเข้าลึกก่อนที่จะตอบว่า

“ไม่ว่าใครก็เรียนรู้วิธีการมองหาชีพจรพระเจ้าได้ โดยปกติแล้วขุนนางที่ใช้ยีนเรซได้นั้นจะเรียนรู้ได้ง่ายกว่า ข้าเป็นแค่มิสเตอร์ที่ไม่มีโลหิตชีพจรเทพสปิริต จึงเรียนรู้การมองหาชีพจรพระเจ้าเพื่อความอยู่รอด”

 

“ข้าขุดให้เอาไหม?” หานเซิ่นเห็นว่ามิสเตอร์หยางนั้นเหนื่อยล้ามากแค่ไหน เขาแทบจะลุกกลับขึ้นมาไม่ได้ หน้าผากของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะเสนอขึ้นมา

 

“นายท่านแค่นั่งรออยู่เฉยๆก็พอ” มิสเตอร์หยางพูดพร้อมกับส่ายหัว

“ชีพจรพระเจ้าของที่นี่อ่อนมากๆ มันคงจะฝังอยู่ไม่ลึกนัก อีกไม่นานข้าก็คงจะขุดมันขึ้นมาได้สำเร็จ นายท่านแค่ต้องรออีกนิดหนึ่ง”

 

หานเซิ่นเห็นว่ามิสเตอร์หยางยืนกรานที่จะทำแบบนี้ เขาจึงไม่ได้พูดอะไรอีก เขาแค่มองดูมิสเตอร์หยางขุดด้วยความสนใจ

 

Katcha!

หลังจากที่มิสเตอร์หยางขุดไปเรื่อยๆ จู่ๆเขาก็ได้ยินเสียงที่เหมือนการแตกของแก้ว ใบหน้าของมิสเตอร์หยางเปลี่ยนไปทันที

“นี่ข้าทำไข่ยีนแตกอย่างนั้นหรอ? ไม่มีทาง! จากการคาดเดาของข้า มันควรจะต้องขุดลึกลงไปอีกครึ่งฟุต ข้าไม่มีทางมองผิดไปได้”

 

ขณะที่มิสเตอร์หยางคิดแบบนั้น เขาก็ดึงพลั่วกลับขึ้นมา ในจังหวะที่เขาดึงพลั่วขึ้นจากพื้น มีน้ำพุพุ่งขึ้นมาจากรอยแยก

 

น้ำพุนั้นดูค่อนข้างแปลก มันมีสีม่วงเข้ม น้ำที่พุ่งออกมานั้นพุ่งสูงขึ้นไปกว่าหนึ่งเมตร หลังจากที่มันตกลงมา มันเริ่มเติมเต็มหลุมที่มิสเตอร์หยางขุด

 

ขณะที่น้ำสีม่วงพุ่งขึ้นมาจากพื้นมากขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าของมิสเตอร์หยางก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เขามองของเหลวสีม่วงที่พุ่งขึ้นมาเหมือนกับน้ำพุและร้องตะโกนด้วยความตกใจ

“น้ำพุอีวิลสปิริต! มันมีน้ำพุอีวิลสปิริตอยู่ที่นี่ได้ยังไง…”

 

หานเซิ่นเห็นความหวาดกลัวบนใบหน้าของมิสเตอร์หยาง เขาโยนพลั่วในมือทิ้งขณะที่รีบถอยออกมาจนล้มลงไปกับพื้น หานเซิ่นยื่นมือไปช่วยพยุงขึ้นมาและถาม

“น้ำพุอีวิลสปิริตคืออะไร? เจ้าบอกว่าที่นี่มีไข่ยีนอยู่ไม่ใช่หรอ?”

 

ใบหน้าของมิสเตอร์หยางดูซีดเผือก เขาพูดอย่างตื่นตระหนกว่า

“รีบหนีไปจากที่นี่ พวกเราจะขุดต่อไปไม่ได้ ถ้าพวกเราขุดต่อ พวกเราทั้งคู่จะต้องตาย”

 

“เจ้าต้องบอกข้ามาก่อนว่าทำไม ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะเป็นอะไร ทำไมตอนนี้เจ้าถึงบอกว่าพวกเราขุดต่อไปไม่ได้?” หานเซิ่นไม่ร้อนรน เขายังคงพูดด้วยรอยยิ้ม

 

มิสเตอร์หยางต้องการจะหนีไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แต่หานเซิ่นไม่ต้องการจะทำแบบนั้น ดังนั้นเขาจึงรีบพูดขึ้นว่า

“ข้าคงจะมองผิดไป ข้าคิดว่าที่นี่เป็นแค่เนินเขาที่มีชีพจรเทพเจ้าอ่อนๆ แต่ที่นี่กลับมีน้ำพุอีวิลสปิริตอยู่ ถ้าพวกเราไม่รีบหนีไป หายนะจะเกิดขึ้นกับพวกเรา”

 

“น้ำพุอีวิลสปิริตมันมีปัญหาอะไร?” หานเซิ่นยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องหนีไปจากที่นี่ เขาจับแขนมิสเตอร์หยางเอาไว้ ขณะที่มองน้ำพุสีม่วงที่ยังคงพุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ

 

มิสเตอร์หยางอยากจะหยิบพลั่วขึ้นมาและใช้มันตีหัวของหานเซิ่นให้สลบเพื่อลากเขาหนีไปยังที่ที่ปลอดภัย

 

แต่มิสเตอร์หยางรู้ว่าตัวเองไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำอะไรแบบนั้น ตราบใดที่หานเซิ่นจับมือของเขาเอาไว้ เขาก็หนีไปไหนไม่ได้ เขารีบตอบว่า “นายท่านจำที่ข้าบอกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีพระเจ้าอยู่ได้ไหม? ไข่ยีนเกิดจากการรวมกันของพระเจ้า”

 

“ข้าจำได้” หานเซิ่นพูดพร้อมกับพยักหน้า

 

“พูดง่ายๆก็คือพระเจ้าคือสปิริต ทุกอย่างมีสปิริตอยู่ ในตอนที่สปิริตเหล่านั้นมารวมตัวกัน ไข่ยีนก็จะก่อตัวขึ้นมา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นทั้งสิ่งดีและสิ่งร้าย ดังนั้นสปิริตที่มารวมตัวกันก็เป็นทั้งสิ่งดีและสิ่งร้ายเช่นเดียวกัน โดยปกติแล้วถ้านายท่านเห็นลมปราณสีม่วงในชีพจรพระเจ้า นั่นก็หมายความว่ามันมีอีวิลสปิริตอยู่ ชีพจรของสนามรบสมัยโบราณที่เคยมีผู้คนเสียชีวิตมากมายนั้นมักจะเป็นชีพจรอีวิลสปิริต”

 

หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ มิสเตอร์หยางพูดต่อไปว่า “ข้าไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าที่แห่งนี้เคยเป็นสนามรบสมัยโบราณ ข้าจึงไม่คาดคิดว่ามันจะมีลมปราณของอีวิลสปิริตอยู่ นอกจากนั้นอีวิลสปิริตยังก่อให้เกิดน้ำพุขึ้นมา นั่นหมายความว่ามันต้องมีบางสิ่งที่ชั่วร้ายอยู่ใต้ดินแดนแห่งนี้ ถ้าพวกเราไม่รีบหนีไป พวกเราจะได้รับผลกระทบจากน้ำพุอีวิลสปิริต มันจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับพวกเรา พวกเราควรรีบหนีไปจากที่นี่”

 

หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น หานเซิ่นก็มองไปที่มิสเตอร์หยางและถาม

“จากสิ่งที่เจ้าบอกกับข้า ถ้ามันมีน้ำพุอีวิลสปิริตอยู่ที่นี่ นั่นหมายความว่าชีพจรพระเจ้าของที่นี่จะต้องรุนแรงมากๆไม่ใช่หรอ? ถ้าเป็นแบบนั้น ไข่ยีนที่อยู่ที่นี่ก็ต้องเป็นไข่ยีนระดับสูงถูกไหม?”

 

“นายท่านพูดถูกแล้ว แต่ถ้านายท่านถูกนำพุอีวิลสปิริตเข้า นายท่านจะประสบกับหายนะ นอกจากนั้นไข่ยีนที่มาจากชีพจรอีวิลสปิริตจะเป็นบางสิ่งที่ชั่วร้าย โลหิตชีพจรเทพสปิริตธรรมดาไม่มีทางสยบมันได้ ถ้านายท่านฝืนที่จะรวมกับมัน มันก็อาจจะเข้าครอบงำนายท่าน ยิ่งไข่ยีนทรงพลังมากเท่าไหร่ มันก็เป็นภัยต่อเจ้านายมากเท่านั้น ข้าจึงขอแนะนำว่าอย่าแตะต้องมัน”

มิสเตอร์หยางเห็นว่ารูที่เขาขุดเอาไว้เต็มไปด้วยของเหลวสี ตอนนี้เขาต้องการจะหนีไปจากที่นี่เหนือสิ่งอื่นใด

 

“ข้าเข้าใจแล้ว ตอนนี้เจ้ากลับบ้านไปได้” หานเซิ่นปล่อยมือจากมิสเตอร์หยางและเริ่มจะเดินเข้าไปหาน้ำพุ

 

มิสเตอร์หยางต้องการจะวิ่งหนีไป แต่เมื่อเขาเห็นหานเซิ่นเดินเข้าไปหาน้ำพุอีวิลสปิริต เขาก็รีบตะโกนขึ้นว่า “นายท่านต้องการจะทำอะไร?”

 

“ตอนนี้เจ้ากลับไปก่อน ข้าจะไปหาเจ้าทีหลัง”

หลังจากที่พูด หานเซิ่นก็หยิบพลั่วขนาดเล็กที่มิสเตอร์หยางโยนทิ้งไปขึ้นมา เขาย่อตัวลงข้างหลุมและเริ่มทำการขุด

 

“นายท่านได้โปรดอย่าทำแบบนั้น! จากที่ข้ารู้แค่สัมผัสกับน้ำพุอีวิลสปิริตก็จะนำเรื่องร้ายมาสู่คนๆนั้น เจ้าเมืองแอนเชี่ยนท์ก็อตคนก่อนเคยขุดน้ำพุอีวิลสปิริตและสัมผัสกับมัน เขาถูกเปลี่ยนเป็นสัตว์ประหลาดตาสีม่วงที่ฆ่าทุกคนที่เห็น เขาไม่ได้ขุดไข่ยีนขึ้นมาด้วยซ้ำ!” มิสเตอร์หยางพยายามโน้มน้าวหานเซิ่น

 

“ข้าจะระวังตัว เจ้ากลับไปได้แล้ว” หานเซิ่นเมินเฉยต่อคำโน้มน้ามของมิสเตอร์หยางและใช้พลั่วขุดรูต่อไป

 

แม้แต่เทพสปิริตเขายังไม่กลัว แบบนั้นอีวิลสปิริตจะทำให้เขากลัวได้ยังไง

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset