Super God Gene – ตอนที่ 3003 มนุษย์ที่แท้จริง

หานเซิ่นกางแขนออกโดยจิตใต้สำนึก เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าและคำรามออกมา ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีฟ้าและส่องประกายด้วยแสงที่น่ากลัว

 

สมองของหานเซิ่นยังคงปลอดโปร่ง แต่ร่างกายของเขาหิวกระหายอย่างมาก มันเหมือนกับว่าเขาเป็นคนขี้ยา หานเซิ่นรู้ว่าสิ่งนี่ไม่ควรจะดำเนินต่อไป แต่ปฏิกิริยาทางร่างกายของเขาทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้

 

แสงสีฟ้ากระพริบและร่างกายของหานเซิ่นก็ฝ่ามิติของอวกาศ จู่ๆเขาไปปรากฏตัวตรงหน้าพระเจ้าชั่วพริบตา เขายื่นมือออกไปจับที่คอของเธอและยกตัวเธอขึ้น

 

พระเจ้าชั่วพริบตานั้นติดอยู่ในไทม์ลูป ดังนั้นเธอไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้ เธอทำได้แต่มองดู

 

หานเซิ่นรู้สึกเหมือนกับว่ามันมีอสูรที่ต้องการจะฆ่าฟันทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายในตัวของเขา เขาจับพระเจ้าชั่วพริบตาที่คอและออกแรงบีบด้วยพลังที่น่ากลัว

 

มากกว่าครึ่งนั้นเป็นพลังของเลือดสีฟ้า มีเพียงแค่ส่วนน้อยที่เป็นพลังของตัวหานเซิ่นเอง วิชาจีโนแต่ละวิชาของเขาสูญเสียประสิทธิภาพของพวกมันไป นอกจากวิชาโลหิตชีพจรแล้ว วิชาอื่นๆนั้นไม่สามารถใช้งานได้

 

ภายใต้การชักนำของเลือดสีฟ้า การทำงานของวิชาโลหิตชีพจรก็แสดงความเปลี่ยนแปลงประหลาด แต่หานเซิ่นคุ้ยเคยกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น ก่อนหน้านี้จักรพรรดิมนุษย์เคยมอบส่วนที่เหลือของวิชาโลหิตชีพจรให้กับเขา และความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นก็คือส่วนที่เหลือนั้น

 

คอของพระเจ้าชั่วพริบตาถูกหานเซิ่นบีบจนมีรอยสีฟ้าเกิดขึ้น แม้แต่ไทม์ลูปก็ไม่สามารถลบรอยบาดแผลสีฟ้าได้ แต่บาดแผลเพียงแค่นั้นยังไม่เพียงพอที่จะฆ่าพระเจ้าชั่วพริบตา

 

หานเซิ่นกวัดแกว่งฝ่ามือเหมือนกับมีด เขาฟันใส่พระเจ้าชั่วพริบตาที่ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ บาดแผลบนเนื้อหนังและกระดูกของเธอนั้นเปลี่ยนเป็นสีฟ้า

 

หลังจากที่ได้รับพลังจากเลือดสีฟ้า หานเซิ่นก็สามารถใช้มือเปล่าเพื่อสร้างบาดแผลกับร่างกายของพระเจ้าชั่วพริบตาได้อย่างคาดไม่ถึง ก่อนหน้านี้ถึงหานเซิ่นจะใช้ไลท์ซิสเซอร์ เขาก็ไม่สามารถสร้างบาดแผลบนผิวหนังของเธอได้

 

ทั้งจักรวาลตกอยู่ในความเงียบ พวกเขาจ้องมองไปยังหานเซิ่นที่กำลังฉีกพระเจ้าชั่วพริบตาเป็นชิ้นๆ ไม่นานหนังจากนั้นเขาก็บดขยี้สมองของเธอ ในจังหวะที่สมองของพระเจ้าชั่วพริบตาถูกทำลาย พลังชั่วพริบตาไร้สิ้นสุดก็แตกสลายและจางหายไป

 

“เทพสปิริตพระเจ้าชั่วพริบตาขั้นแอนิฮิเลชั่นถูกฆ่า คุณได้รับเทพสปิริต”

 

วินาทีต่อมา หานเซิ่นเห็นซากศพของพระเจ้าชั่วพริบตากลายเป็นผุยผงในท้องฟ้า ผุยผงนั้นมารวมตัวกันเป็นเข็มเล่มหนึ่ง หานเซิ่นหยิบเข็มขึ้นมาและได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นในหัวอีกครั้ง

 

“คุณได้รับอาวุธประจำตัวพระเจ้าขั้นแอนนิฮิเลชั่น: เข็มชั่วพริบตา”

 

พลังชั่วพริบตาไร้สิ้นสุดนั้นจบลงแล้ว และมิติอวกาศของวิหารก็กลับเป็นปกติ ไม่นานเป่าเอ๋อ ราชาไป๋และคนอื่นเป็นอิสระจากไทม์ลูป

 

หานเซิ่นจ้องไปทางเป่าเอ๋อที่ตอนนี้อยู่ในร่างของดอลลาร์ สมองของเขารู้ถึงเรื่องนั้น แต่ร่างกายของเขารู้สึกราวกับว่าต้องการจะฆ่าเป่าเอ๋อ

 

“เกิดอะไรขึ้น?” หานเซิ่นตกใจ แต่เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้ เขายกมือขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ นิ้วมือทั้งห้าของเขากำลังสั่นอย่างรุนแรง

 

หานเซิ่นไม่มีเวลาคิด เขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะควบคุมร่างกายตัวเองเพื่อออกไปจากวิหารพระเจ้า เขากลัวว่าถ้ายังอยู่ต่ออีกแม้แต่วินาทีเดียว เขาจะสูญเสียการควบคุมตัวเองและพยายามฆ่าเป่าเอ๋อ

 

หานเซิ่นบังคับร่างกายตัวเองให้รีบออกไปจากวิหารพระเจ้าชั่วพริบตา ในการทำแบบนั้นร่างกายของหานเซิ่นก็สั่นไม่ยอมหยุด เขารู้สึกว่าราวกับว่าเขาต้องการจะหันกลับไปและฆ่าเป่าเอ๋อ

 

หานเซิ่นต้องการจะใช้กาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่น แต่เขาสังเกตว่าเขาไม่สามารถใช้วิชาก็อตส์วอนเดอร์ได้ พลังเลือดสีฟ้านั้นหยุดพลังอย่างอื่นทุกอย่างในร่างกายของเขา

 

แต่ถึงกาแล็กซี่เทเลพอร์ตเทชั่นจะใช้งานไม่ได้ ร่างกายของเขาก็ยังบังคับมิติของอวกาศให้เปิดออกเพื่อเทเลพอร์ตไปที่อื่น นั่นเป็นพลังที่มาจากเลือดสีฟ้า

 

ปัง!

หานเซิ่นไม่รู้ว่าตัวเองเทเลพอร์ตไปที่ไหน เขาเห็นดาวเคราะห์น้อยจำนวนมากรอบตัว ร่างกายของเขาชนเข้ากับดวงดาวอย่างรุนแรง เขาเป็นเหมือนกับอุกกาบาตที่พุ่งเข้ามาชนดวงดาวจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ พื้นดินเป็นเหมือนกับคลื่นทะเลที่กระจายออกรอบทิศทางเป็นระยะกว่าพันไมล์

 

หานเซิ่นคุกเข่าอยู่ที่ใจกลางหลุม ร่างกายของเขากำลังสั่นรัว ถึงแม้เขาจะออกห่างจากเป่าเอ๋อ แต่เขาก็ยังคงมีความต้องการจะฆ่าเธออยู่

 

“เลือดสีฟ้า… เลือดสีฟ้ามันมีปัญหา…” หานเซิ่นมีเหงื่อท่วมตัว ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการที่เขาพยายามต่อต้านร่างกายตัวเอง

 

จิตใจของเขาไม่สามารถรวมเป็นหนึ่งกับร่างกายได้ มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกแย่มากๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงพูดดังขึ้นมาไม่ไกลไปจากหานเซิ่น

“อย่าพยายามต่อต้านมัน นั่นคือพลังที่แท้จริงของเจ้า นั่นคือสิ่งที่เจ้าเป็น ปล่อยให้เลือดสีฟ้าเติมเต็มทุกซอกทุกมุมในร่างกายของเจ้า ให้มันกระตุ้นร่างกายของเจ้า และเจ้าจะเปิดใช้พลังที่แท้จริงของตัวเองได้”

 

หานเซิ่นพยายามเงยหน้าขึ้นมามองอย่างยากลำบาก เขาเห็นผู้หญิงในชุดสีแดงกำลังยืนถือร่มอยู่ในมือ และไม่ไกลไปจากเธอมีชายคนหนึ่งกำลังมองมาที่เขาจากใต้ร่มคันนั้น

 

หานเซิ่นกัดฟันและถาม “เจ้าทำอะไรกับข้า?” แม้แต่เสียงของเขาก็ยังสั่น

 

“ไม่ ไม่ ข้าไม่ได้ทำอะไรกับเจ้า” ชายคนนั้นพูดด้วยรอยยิ้ม

“สิ่งที่เจ้าควรจะถามคือตอนนี้เจ้าต้องการทำอะไร? เจ้ายังไม่รู้จักตัวเอง เจ้ายังไม่รู้ถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการ เจ้าไม่รู้ว่าจริงๆแล้วตัวเจ้านั้นต้องการอะไรกันแน่”

 

“ข้ารู้ว่าตัวเองเป็นใคร และข้ารู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ข้ารู้ว่าข้าไม่ได้ต้องการเลือดสีฟ้า” ร่างกายของหานเซิ่นสั่นไม่ยอมหยุด เหงื่อไหลลงมาบนใบหน้าของเขา

 

พลังของเลือดสีฟ้านั้นแข็งแกร่งเกินไป เพียงแค่เขาจะควบคุมร่างกายตัวเองก็เป็นอะไรที่ยากอย่างที่สุดแล้ว

 

“เจ้ารู้จริงๆหรือว่าเจ้าเป็นใคร?” ชายคนนั้นออกมาจากใต้ร่มสีแดงและย่อตัวลงข้างๆหานเซิ่น เขายื่นมือออกไปจับคางของหานเซิ่นและมองมาด้วยรอยยิ้ม

 

“จักรพรรดิมนุษย์… เป็นเจ้าจริงๆด้วย…”

ในที่สุดหานเซิ่นก็ได้เห็นใบหน้าของอีกฝ่าย มันเป็นใบหน้าที่หล่อเหลาและมีออร่าพิเศษที่ผู้คนปกติไม่มี มันเหมือนกับว่าเขาสูงส่งเหนือผู้อื่น

 

จักรพรรดิมนุษย์ยกคางของหานเซิ่นขึ้น เขาหัวเราะและพูด

“ลูกหลานของข้า เจ้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร เจ้าแตกต่างไปจากคนที่เจ้าคิดว่าตัวเองเป็น”

 

“ข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร เอาเลือดสีฟ้าของเจ้าออกไปจากร่างกายของข้า” หานเซิ่นต้องการจะหันหน้าหนีออกจากมือของจักรพรรดิมนุษย์ แต่ร่างกายของเขานั้นไม่ยอมเชื่อฟัง

 

“ลูกหลานของข้า เจ้าคือทายาทของข้า ร่างกายของเจ้ามีสายเลือดของข้าไหลเวียนอยู่ และตอนนี้เจ้าก็มีเลือดของข้า จากนี้เป็นต้นไปเจ้าคือมนุษย์ที่แท้จริง”

จักรพรรดิมนุษย์ลูบแก้มของหานเซิ่น เขายิ้มและพูดต่อ “อีกไม่นานเจ้าจะเข้าใจถึงความภาคภูมิและความสูงส่งของการเป็นมนุษย์ เจ้าจะเพลิดเพลินกับมัน”

 

“ข้าไม่ได้ต้องการเป็นมนุษย์ที่แท้จริงอะไรนั่น ข้าคือตัวข้าเอง ข้าคือหานเซิ่น” หานเซิ่นกัดฟันขณะที่พูดออกมา

 

“นั่นไม่เป็นไปได้ลูกหลานของข้า เพลิดเพลินกับการเป็นมนุษย์ที่แท้จริง ในเวลาเพียงไม่นานเจ้าะขอบคุณข้าและกลับมาหาข้า”

จักรพรรดิมนุษย์ใช้นิ้วเช็ดเหงื่อบนแก้มของหานเซิ่น หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและเดินจากไป

 

หานเซิ่นพยายามพยุงร่างกายตัวเองด้วยสองมือและเงยหน้าขึ้นมาอย่างยากลำบาก เขาเห็นผู้หญิงชุดแดงที่กำลังถือร่มเดินจากไปพร้อมกับจักรพรรดิ และในชั่วพริบตาพวกเขาก็หายตัวไป

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset