“การล่วงเกินเทพสปิริตนั้นมีโทษตาย”
โมเม้นก็อตมองไปที่หานเซิ่นและเข็มในดวงตาข้างขวาของเขาก็เริ่มหมุนวนอย่างรวดเร็ว แต่มันแตกต่างไปจากเข็มที่อยู่ในดวงตาข้างซ้าย เข็มในดวงตาข้างขวานั้นกำลังหมุนทวนเข็มนาฬิกา
ในจังหวะที่เข็มในดวงตาข้างขวาของโมเม้นก็อตกำลังหมุน ในสายตาของทุกคนการเคลื่อนไหวของหานเซิ่นก็ดูเหมือนจะช้าลงไป มันเหมือนกับว่าเขากำลังเคลื่อนที่แบบสโลว์โมชั่น
ความเร็วของโมเม้นก็อตไม่ได้ลดลงเหมือนกับหานเซิ่น เขายังคงรวดเร็วมากๆ คนหนึ่งเร็ว คนหนึ่งช้า ความแตกต่างระหว่างความเร็วของทั้งคู่นั้นเห็นได้อย่างชัดเจน โมเม้นก็อตเทเลพอร์ตมาตรงหน้าหานเซิ่นและใช้เล็บมือที่แหลมคมแกว่งเข้าไปใส่ใบหน้าของหานเซิ่น เล็บมือของโมเม้นก็อตเป็นเหมือนกับปลายหอกที่กำลังจะแทงเข้าไปในดวงตาของหานเซิ่น
ใบหน้าของโมเม้นก็อตดูเหมือนกับว่าเขากำลังยิ้มเยาะอย่างชั่วร้าย แต่ทันใดนั้นร่างกายของหานเซิ่นก็หายไปต่อหน้าต่อตาของเขา
ในจังหวะต่อมา หานเซิ่นก็มาปรากฏที่ด้านหลังของโมเม้นก็อต พร้อมกับหอกสกายไวน์แรดิชก็อตที่แทงเข้าไปที่คอของคู่ต่อสู้
“นั่นเป็นวิชาเทเลพอร์ตที่ทรงพลังมาก แต่มันไม่มีประโยชน์กับข้า”
เข็มในดวงตาของโมเม้นก็อตหมุนไปคนละทิศทาง ความเร็วของหานเซิ่นถูกลดลง ขณะที่ความเร็วของโมเม้นก็อตเพิ่มสูงขึ้น
โมเม้นก็อตสร้างระยะห่างระหว่างพวกเขา ก่อนที่จะหันกลับมาและชกหมัดใส่ท้องของหานเซิ่น หานเซิ่นเป็นเหมือนกับคนแก่ที่มีปฏิกิริยาเชื่องช้า เขาเห็นหมัดของโมเม้นก็อต แต่เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวเพื่อหลบได้ เขาจำเป็นต้องใช้การเทเลพอร์ต
หมัดของโมเม้นก็อตยังคงช้าเกินไปต่อการเทเลพอร์ตของหานเซิ่น ร่างกายของหานเซิ่นไปปรากฏที่อีกด้านหนึ่งของลานกว้าง
ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือน พลังของโมเม้นก็อตที่สามารถควบคุมเวลาได้นั้นเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากๆ ความสามารถในการเทเลพอร์ตของหานเซิ่นก็น่าตกตะลึงเช่นกัน มันยังไม่มีฝ่ายไหนที่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้
“ดอลลาร์แข็งแกร่งจริงๆ เขาต่อสู้กับเทพสปิริตขั้นดิแซสเตอร์ได้อย่างสูสี”
“แต่เขาแค่ใช้วิชาเทเลพอร์ตเพื่อเคลื่อนที่ไปมา”
“อย่าพูดแบบนั้น โมเม้นก็อตเป็นเทพสปิริตธาตุกาลเวลา เขามีพลังที่จะชะลอกาลเวลาของดอลลาร์ลง นั่นไม่ได้ทำให้แค่ร่างกายของเขาช้าลงเท่านั้น แม้แต่การไหลเวียนของพลังก็ช้าลงไปด้วย ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็ ถึงแม้พวกเขาจะมีวิชาเทเลพอร์ต พวกเขาก็จะถูกฆ่าตายในทันทีโดยโมเม้นก็อต แต่วิชาเทเลพอร์ตของดอลลาร์นั้นฉับพลันราวกับว่ามันไม่ได้ถูกจำกัดโดยพลังการเวลาของโมเม้นก็อต ในจักรวาลนี้มีน้อยคนนักที่จะฝึกวิชาเทเลพอร์ตได้ถึงขั้นนี้ มันยอดเยี่ยมพอๆกับวิชาก็อตส์วอนเดอร์ของเวรี่ไฮ”
“ไม่สำคัญว่าวิชาเทเลพอร์ตของเขาจะทรงพลังขนาดไหน เขาก็เอาชนะโมเม้นก็อตไม่ได้อยู่ดี”
หานเซิ่นมีอาณาเขตกาลเวลาให้ใช้ แต่นั่นเป็นของอีกตัวตนหนึ่งของเขา เขาไม่สามารถใช้มันขณะที่เป็นดอลลาร์ได้
แถมอาณาเขตกาลเวลาของวิญญาณอสูรไทม์โกสต์ก็ด้อยกว่าพลังของโมเม้นก็อต ถึงแม้เขาจะใช้มัน มันก็ไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรมาก การใช้พลังธาตุกาลเวลาต่อหน้าเทพสปิริตธาตุกาลเวลานั้นก็เหมือนกับการใช้มีดสั้นต่อหน้ากวนอู หานเซิ่นไม่คิดจะทำแบบนั้น
เนื่องจากหานเซิ่นมีอาณาเขตกาลเวลาของตัวเอง เขาจึงรู้ว่ามันมีวิธีที่จะทำลายพลังกาลเวลาของโมเม้นก็อตอยู่สองวิธี วิธีหนึ่งจำเป็นต้องใช้ความเร็ว อีกวิธีจำเป็นต้องใช้พลังอันเด็ดขาด อีแร้งแก่นั้นเคยใช้ความเร็วในการก้าวข้ามอาณาเขตกาลเวลาของหานเซิ่น
แต่หานเซิ่นไม่มีความเร็วแบบนั้น ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือการใช้พลังที่เด็ดขาดทำลายพลังกาลเวลาของโมเม้นก็อต
“ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นกาลเวลาหรืออวกาศ พวกมันทั้งหมดอยู่ในกฎของจักรวาล พวกมันถูกควบคุมโดยฟันเฟืองจักรวาล ถ้าเราควบคุมฟันเฟืองของจักรวาลได้ แม้แต่พลังของเทพสปิริตก็ไม่ส่งผลกระทบกับเรา”
หานเซิ่นเทเลพอร์ตหลบการโจมตีของโมเม้นก็อตพร้อมกับใช้ศาสตร์ตงเสวียนอย่างเต็มกำลัง เขาใส่พลังทั้งหมดที่มีเข้าไปในอาณาเขตตงเสวียน เขาพยายามจะใช้พลังที่เด็ดขาดเพื่อควบคุมการหมุนของฟันเฟืองจักรวาล
“ในโหมดซีโน่เจเนอิค พลังของเราเหนือกว่าทรูก็อตทั่วๆไป ถึงอย่างนั้นเราก็ไม่รู้ว่ามันเพียงพอที่จะเอาชนะพลังของเทพสปิริตขั้นดิแซสเตอร์หรือเปล่า”
หานเซิ่นใช้อาณาเขตตงเสวียนเพื่อกดดันฟันเฟืองจักรวาลที่ได้รับผลกระทบจากพลังกาลเวลาของโมเม้นก็อต
ถึงฟังเฟืองจักรวาลเหล่านั้นจะไม่ได้ถูกหยุดโดยสมบูรณ์ แต่ความเร็วในการหมุนของมันก็ช้าลงไป ซึ่งทำให้ผลของมันที่มีต่อหานเซิ่นอ่อนลงไปด้วย
“พลังของโหมดซีโน่เจเนอิคยังด้อยกว่าพลังของเทพสปิริตขั้นดิแซสเตอร์หรอเนี่ย” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
ถึงอย่างนั้นแต่ด้วยพลังของอาณาเขตตงเสวียน ทั้งผลการชะลอความเร็วและการเร่งความเร็วของโมเม้นก็อตต่างก็ด้อยลงไป มันทำให้หานเซิ่นหันไปเป็นฝ่ายรุกบ้าง เขาไม่ได้พึ่งพาแค่วิชาเทเลพอร์ตเพื่อต่อสู้กับโมเม้นก็อตอีกต่อไป
หอกสกายไวน์แรกิชก็อตแทงถูกกรงเล็บของโมเม้นก็อตเป็นครั้งแรก พลังของโมเม้นก็อตและพลังของหอกปะทะกันจนเกิดเป็นแรงระเบิดที่น่ากลัว หานเซิ่นถูกส่งกระเด็นออกไปไกลหลายฟันไมล์ ขณะที่เท้าของโมเม้นก็อตจมลงไปในลานกว้างของวิหารพระเจ้าจนเกิดเป็นรอยลึก
‘พลังของเขาส่งผลกระทบต่อพลังกาลเวลาของเรา ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้ามาท้าสู้กับเรา!’
ดวงตาของโมเม้นก็อตเปล่งประกายขึ้นมา เข็มในดวงตาของเขายังคงหมุน พวกมันดูน่ากลัวและแปลกประหลาด เขาพูดขึ้นว่า
“ถ้าเจ้าคิดว่าเพียงแค่นั้นจะทำให้เจ้าต่อสู้กับข้าได้ล่ะก็ เจ้าก็คิดผิดแล้ว ข้าจะให้เจ้าได้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างสิ่งมีชีวิตของจักรวาลและเทพสปิริต”
หลังจากนั้นโมเม้นก็อตก็ใช้กรงเล็บควักลูกตาออกมา
เลือดทะลักออกมา ขณะที่กรงเล็บอันแหลมคมทั้งสองควักลูกตาออกมาจากเบ้าตก
นี่มันอยู่เหนือสิ่งที่หานเซิ่นคาดคิดเอาไว้ ภายในเบ้าตานั้นมีแสงแห่งเทพส่องสว่างออกมา ลูกตาที่ถูกควักออกมานั้นไม่ใช่ทั้งหมด มันยังมีลูกตาอีกหลายลูกเริ่มออกมาตามๆกัน พวกมันกลิ้งออกมาจากเบ้าตาทีละลูกๆ
ในตอนที่ลูกตาทั้งหมดถูกควักออกมา โมเม้นก็อตก็คำรามอย่างบ้าคลั่ง ลูกตาที่ถูกควักออกมานั้นมีทั้งหมดสิบสองลูก พวกมันเรียงกันอยู่เป็นเหมือนกับนาฬิกาข้อมือ และมันยังมีเลือดไหลออกมาจากดวงตาของเขา
หานเซิ่นมองไปที่สร้อยข้อมือลูกตา ลูกตาทั้งหมดเป็นเหมือนกับหน้าปัดของนาฬิกา เข็มของลูกตาแต่ละลูกนั้นชี้ไปยังเวลาที่แตกต่างกันออกไป เมื่อหานเซิ่นสังเกตดูดีๆ เขาก็ค้นพบว่าเข็มของลูกตาแต่ละลูกนั้นชี้เวลาต่างกันลูกละหนึ่งชั่วโมง
“สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำที่โง่เขลา เจ้ากล้าดียังไงมาล่วงเกินเทพสปิริต วันนี้ข้าจะลบเจ้าไปออกจากหน้าประวัติศาสตร์ ข้าจะทำให้สิ่งมีชีวิตชั้นต่ำทั้งหมดได้รู้ว่าพวกเขาไม่อาจจะล่วงละเมิดเทพสปิริตได้”
โมเม้นก็อตถือสร้อยข้อมือลูกตาเหมือนกับลูกประคำขณะที่ยังคงมีเลือดหยดออกมาจากเบ้าตาของเขา เขาเริ่มพูดพึมพำกับตัวเองเหมือนกับคนบ้า
หลังจากนั้นเขาก็ดีดลูกตาออกไปทีละลูกๆ สร้ายคอสว่างไสวขึ้นมา แสงของมันเข้าปกคลุมทั้งอวกาศ