Super God Gene – ตอนที่ 2966 ทำลายหรือไม่?

 

หานเซิ่นมองไปที่ปราสาทของพระเจ้าในอวกาศ ปราสาทของพระเจ้านั้นมีขนาดใหญ่มหึมา มันประกอบไปด้วยวิหารที่งดงามจำนวนมาก พื้นที่ของมันกว้างใหญ่เหมือนกับอวกาศในระบบจักรวาล

 

บางทีมันอาจจะเป็นเพราะแม็กแคกยักษ์เพิ่งจะถูกเทพสปิริตฆ่าไป มันจึงไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นที่ปรากฏตัวออกมาเพื่อต่อสู้กับเทพสปิริตอีก

 

ปราสาทของพระเจ้าจึงลอยอยู่ในอวกาศอย่างเงียบๆ มันดูเหมือนกับสิ่งที่อยู่ระหว่างความเป็นจริงและความฝัน ทั้งๆที่มันเป็นปราสาทที่มีขนาดใหญ่โตขนาดนั้น มันกลับไม่กินพื้นที่ของจักรวาลเลยแม้แต่นิดเดียว

 

นอกจากวิหารของพระเจ้าสายฟ้าที่ถูกเปิดออกก่อนหน้านี้แล้ว ประตูของวิหารพระเจ้าอื่นๆยังคงปิดสนิทเช่นเดียวกับประตูของจีโนฮอลล์ที่อยู่ด้านบนสุด

 

“มันยากที่จะหนีจากความโกลาหล ที่สุดแล้วบาเรียอวกาศก็ทำลายโดยผู้นำเซเคร็ด แต่ตอนนี้ผู้นำเซเคร็ดไม่ได้อยู่ที่นี่อีกแล้ว ถ้ามันเกิดการต่อสู้กับพระเจ้าขึ้นอีกครั้ง ใครจะหยุดเทพสปิริตจากการจุติลงมา?” ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาถอนหายใจ

 

หานเซิ่นมองไปที่ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาและถาม “นั่นมันหมายความว่ายังไง?”

 

ผู้อาวุโสหนึ่งพูด “เมื่อปราสาทของพระเจ้าอยู่ที่นี่ พวกเขาจะถูกจำกัดโดยกฎของจักรวาล ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงถูกขังอยู่ในวิหารพระเจ้าของตัวเอง พวกเขายังออกมาจากวิหารเพื่อไปฆ่าฟันสิ่งมีชีวิตในจักรวาลไม่ได้”

 

“นั่นเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรอ?” หานเซิ่นถาม

 

ผู้อาวุโสหนึ่งส่ายหัว “มันจะเป็นเรื่องดีถ้าพวกเขาออกมาไม่ได้จริงๆ แต่สิ่งมีชีวิตของจักรวาลนั้นต้องการจะกลายเป็นพระเจ้า พวกเขาต้องการเข้าไปแทนที่เทพสปิริตคนปัจจุบัน ในทางกลับกันเทพสปิริตก็จะเข้าสิงสิ่งมีชีวิตที่ไปยังวิหารของพวกเขา หลังจากนั้นพวกเขาก็จะเดินทางไปทั่วจักรวาลเพื่อทำการฆ่าฟัน ในตอนนี้วิหารของเทพสปิริตทั้งหมดนั้นปิดอยู่ แต่ถ้ามีสิ่งมีชีวิตพยายามจะท้าสู้กับพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆและเกิดถูกเข้าสิง มันก็จะเกิดความโกลาหลขึ้น”

 

“เมื่อก่อนเซเคร็ดได้บังคับให้ปราสาทของพระเจ้าเผยตัวเองออกมา ยอดฝีมือของยุคสมัยนั้นเข้าคิวกันเพื่อจะสังหารเทพสปิริต ซึ่งทำให้เทพสปิริตทำการโต้กลับ เทพสปิริตเข้าสิงผู้คนเพื่อจุติลงมา นั่นเป็นวิธีการที่พวกเขาทำลายเซเคร็ดจนกลายเป็นระบบจักรวาลร้างเหมือนอย่างทุกวันนี้ โชคดีที่เมื่อก่อนเซเคร็ดนั้นแข็งแกร่งมากๆ พวกเขาช่วยกันฆ่าเทพสปิริตที่เข้าสิงผู้คนและปกป้องจักรวาลเอาไว้ได้ แต่ตอนนี้ผู้นำเซเคร็ดไม่อยู่แล้ว ในจักรวาลนี้มันไม่มีฝ่ายไหนที่จะแข็งแกร่งเหมือนอย่างเซเคร็ดในอดีต ถ้าเทพสปิริตจุติลงมา ใครกันที่จะหยุดพวกเขา? จักรวาลนี้จะต้องล่มสลายเป็นแน่”

 

ปีศาจสาวพยุงตัวเองขึ้นมาจากพื้นและพูดอย่างไม่เห็นด้วย

“ที่เจ้าพูดมาทั้งหมดมันไร้สาระสิ้นดี เจ้าจะบอกว่าพวกเราไม่ควรทำลายบาเรียอวกาศเพื่อฆ่าเทพสปิริตอย่างนั้นหรอ? ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะหลุดพ้นจากกฎของจักรวาลนี้ได้ยังไง? มีเพียงแค่การฆ่าเทพสปิริตและเอาอาวุธประจำของพวกเขามาเท่านั้น พวกเราถึงจะมีอิสรภาพ พวกเราจะไม่ถูกผูกพันโดยประสงค์ของเทพสปิริต พวกเราแค่จำเป็นต้องแข็งแกร่งขึ้น พวกเราไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวเทพสปิริตพวกนั้น ผู้คนบอกว่าพวกเขากลัวเทพสปิริตที่จุติลงมาทำลายโลกใบนี้ แต่นั่นก็เป็นแค่ข้ออ้างของผู้คนที่หวาดกลัวและไร้ประโยชน์”

 

ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาโต้แย้ง “จักรวาลนี้มีกฎ กฎของจักรวาลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อที่ทุกคนจะได้มีชีวิตอยู่อย่างปกติ ถ้าพวกเจ้าไปทำลายกฎเหล่านั้น สมดุลของจักรวาลก็จะถูกทำลายไปด้วย หลังจากนั้นความโกลาหลก็จะตามมา”

 

“ถ้าพวกเราไม่ทำลายกฎ มันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” อีแร้งแก่พูด

“พวกเราจำเป็นต้องทำลายกฎเพื่อจะสร้างกฎของตัวเอง พวกเราควรจะควบคุมชะตากรรมของตัวเอง”

 

ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นที่ต่างกัน และไม่มีฝ่ายไหนที่โน้มน้ามอีกฝ่ายได้

 

ไนน์เทาซันด์คิงพาปลาทองทั้งสองเข้ามา เขาเข้ามาโค้งคำนับหานเซิ่นและพูด “นายท่าน”

 

หานเซิ่นชี้ไปที่ปีศาจสาว อีแร้งแก่ อสูรไร้ดวงตาและเรดโกสต์

“จับพวกเขามัดเอาไว้และพาตัวพวกเขาไป พวกเราจะแลกเปลี่ยนกับแมวเก้าชีวิตโดยใช้ชีวิตของพวกเขา”

 

“ไม่มีความจำเป็นที่นายท่านต้องลำบากทำอะไรแบบนั้น” ปีศาจสาวพูดด้วยรอยยิ้ม

“ถ้านายท่านถูกเลือกโดยท่านผู้นำ พวกเราก็ยินดีจะช่วยเหลือนายท่านอย่างเต็มความสามารถ พวกเราจะทำทุกอย่างเพื่อช่วยนายท่านทำลายเหล่าเทพสปิริต ตอนนี้ชีวิตของพวกเราเป็นของนายท่านแล้ว ถ้านายท่านอยากจะเห็นพวกเราตาย ทั้งหมดที่นายท่านต้องทำก็คือเอยปากออกมา”

 

หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ ปีศาจสาวก็พูดต่อ “ถึงแม้นายท่านจะไม่ต้องการพวกเรา แต่ข้าต้องขอบอกว่าการจับตัวพวกเราเป็นตัวประกันนั้นไร้ประโยชน์ เฒ่าแมวนั้นยินดีจะสละทุกอย่างเพื่อเสี่ยวฮวา เขาไม่มีทางยอมแลกนายน้อยเพื่อกับชีวิตของพวกเรา แต่นายท่านไม่จำเป็นต้องกังวล ด้วยคำพูดของผู้นำเซเคร็ด เฒ่าแมวนั้นจะมอบนายน้อยคืนให้กับนายท่าน”

 

ทันใดนั้นผู้อาวุโสหนึ่งก็พูดแทรกขึ้นมา “ถ้าเจ้าใช้วิชามีดใต้นภาได้ เจ้าก็คงจะมีความสัมพันธ์กับปราสาทนภา มันมีคำกล่าวว่าของพวกเราที่ข้าหวังว่าเจ้าจะลองคิดเกี่ยวกับมัน กฎของจักรวาลและปราสาทพระเจ้าไม่ควรถูกทำลาย ไม่อย่างนั้นจักรวาลจะตกอยู่ในความโกลาหล”

 

“นายท่านอย่าไปฟังที่เขาพูด” ปีศาจสาวรีบพูดขึ้นมา

“ในตอนที่นายท่านฆ่าเทพสปิริตทั้งหมดได้แล้ว นายท่านก็จะเป็นคนที่กำหนดกฎของจักรวาลนี้ ใครมันจะกล้าขัด?”

 

ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่หานเซิ่นยกมือขึ้นเพื่อหยุดเขาเอาไว้

“เนื่องจากผู้นำปราสาทนภานั้นดีกับข้า ข้าจะไม่ทำอะไรเจ้า สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตถือว่าไม่เคยเกิดขึ้น เจ้าไปจากที่นี่ซะ”

 

“ได้โปรดคิดดูดีๆ” ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาพูด แต่เขาสัมผัสได้ว่าหานเซิ่นจะไม่เปลี่ยนใจ สุดท้ายเขาก็ถอนหายใจและจากไป

 

“นายท่าน เขารู้ความลับเกี่ยวกับปราสาทศักดิ์สิทธิ์มากมาย เขาต้องเป็นสายลับที่เทพสปิริตส่งมาแน่ นายท่านไม่ควรไว้ชีวิตเขา” อีแร้งแก่พูดขึ้นมา

 

หานเซิ่นมองอีแร้งแก่อย่างเย็นชา “ผู้นำเซเคร็ดก็คือผู้นำเซเคร็ด ข้าก็คือข้า ข้าไม่ใช่เจ้านายของพวกเจ้า และข้าจะไม่ทำอะไรก็ตามที่เจ้านายของพวกเจ้าต้องการให้ข้าทำ ไนน์เทาซันด์คิง พาตัวพวกเขาไป”

 

ไนน์เทาซันด์คิงดูลังเล แต่เมื่อหานเซิ่นออกคำสั่ง เขาก็ไม่กล้าขัด ด้วยเหตุนั้นเขาจึงเข้าไปมัดตัวปีศาจสาวและคนอื่นๆเอาไว้

 

ปีศาจสาวและคนอื่นๆไม่ได้ขัดขืน พวกเขาดูเหมือนจะยอมรับมัน ไนน์เทาซันด์คิงจึงมัดตัวของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย

 

อสูรยักษ์ไร้ดวงตาพูด “ไม่ว่านายท่านต้องการให้พวกเราทำอะไร พวกเราก็จะทำ พวกเราจะทำทุกอย่าง”

 

หานเซิ่นยิ้มแห้งๆ เขารู้ว่าปีศาจสาวและคนอื่นๆไม่ได้จงรักภักดีต่อเขา พวกเขาแค่จงรักภักดีต่อฉินซิว

 

หานเซิ่นคิด ‘ไม่แปลกใจเลยที่ฉินซิวเป็นคนที่เก่งกาจที่สุดในยุคสมัยนั้น ถึงแม้เขาจะตายไปแล้ว สิ่งมีชีวิตระดับท็อปก็ยังยินดีจะตายเพื่อเขา อิทธิพลของเขานั้นยากจะหยั่งถึงได้’

 

หานเซิ่นมีแผนจะกลับไปที่สเปชการ์เด้นเพื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดนี้ ถึงตอนนี้เขาจะได้รู้อะไรมากขึ้น แต่เขาก็ยังคงไม่รู้ถึงต้นกำเนิดของเรื่องทั้งหมด มันยังมีเรื่องอีกมากที่เขาต้องหาคำตอบ เขาไม่ต้องการจะด่วนตัดสินใจในทันที

 

ด้วยพลังของฉินซิว การมีชีวิตอยู่อย่างยาวนานเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา ตราบใดที่เขาไม่ทำอะไรโง่ๆ เทพสปิริตนั้นจะไม่มายุ่งอะไรกับเขา

 

แต่ฉินซิวตัดสินใจจะต่อสู้กับเทพสปิริต มันต้องมีเหตุผลที่ทำให้เขาทำแบบนั้น ก่อนที่หานเซิ่นจะรู้ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา เขาจะไม่สุ่มสี่สุ่มห้าไปต่อสู้กับเทพสปิริต

 

“พระเจ้านั่นหมายความว่ายังไง…” หานเซิ่นนึกย้อนไปถึงพระเจ้าที่เคยสิงร่างของกู่หว่านเอ๋อ ขณะที่มองขึ้นไปยังจีโนฮอลล์ที่อยู่บนจุดสูงสุดของปราสาทของพระเจ้า

 

ทันใดนั้นดวงตาของหานเซิ่นก็เป็นประกายขึ้นมา ในลานกว้างของหนึ่งในวิหารพระเจ้า เขาเห็นรูปปั้นสีทองอยู่

 

ไม่ใช่ มันเป็นอะไรที่มากกว่ารูปปั้นสีทอง มันคือโกลเด้นโกรวเลอร์ที่เข้าไปในจีโนฮอลล์ก่อนหน้านี้

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset