Super God Gene – ตอนที่ 2914 ล่องลอยไปตามทาง

ในตอนที่ฝุ่นหลุดออกไปจนหมด ตุ๊กตาก็ดูค่อนข้างสะอาด อัญมณีที่สร้อยคอก็ดูสว่างไสวยิ่งกว่าเดิม

 

หานเซิ่นได้ยินตุ๊กตาทำเสียงประหลาด มันเหมือนกับเสียงนาฬิกา อัญมณีบนสร้อยคอหยุดริบหรี่และส่องสว่างอย่างเต็มที่

 

“กำลังสแกน…กำลังสแกน…” จู่ๆตุ๊กตาก็พูดขึ้นมา มันพูดคำเดิมซ้ำๆ

 

“ตุ๊กตานี่เป็นเครื่องจักรหรอเนี่ย? ว่าแต่มันกำลังสแกนอะไรอยู่”

หานเซิ่นและเป่าเอ๋อรู้สึกอยากรู้อยากเห็น ตาของทั้งคู่จ้องมองไปที่ตุ๊กตา

 

“สแกนเสร็จสมบูรณ์… ฐานข้อมูลเสียหาย… ไม่สามารถระบุตัวตนได้… ไม่สามารถเปิดระบบข้อมูล… ระบบขาดพลังงาน… เข้าสู่สลีปโหมด… นับถอยหลังสู่สลีปโหมด… สิบ… เก้า…” ตุ๊กตาพูดออกมา

 

ในตอนที่การนับถอยหลังสิ้นสุด สร้อยคอของตุ๊กตาก็หยุดริบหรี่และตุ๊กตาก็หยุดพูดไป

 

“ตุ๊กตานี่น่าสนใจ” เป่าเอ๋อมองไปที่ตุ๊กตาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

หานเซิ่นตรวจเช็คมันอีกสักพัก แต่เขาไม่พบอาวุธหรือเครื่องมืออะไรบนตุ๊กตา เมื่อเห็นว่ามันปลอดภัย เขาก็ส่งตุ๊กตาไปให้กับเป่าเอ๋อ

 

เป่าเอ๋อรับตุ๊กตาไปด้วยความดีใจและเริ่มเล่นกับมัน หานเซิ่นเดินไปรอบๆซากของยานอวกาศเพื่อค้นหาว่ามันยังมีอะไรอย่างอื่นอีกไหม

 

สิ่งที่อยู่ภายในระบบจักรวาลร้างนั้นมีโอกาสจะเกี่ยวข้องกับเซเคร็ด ดังนั้นหานเซิ่นจึงต้องการจะค้นหาทุกซอกทุกมุม

 

โชคร้ายที่ยานอวกาศนั้นถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี แต่เมื่อดูจากเครื่องจักรและเครื่องมือที่ถูกทำลายไป มันก็มีโอกาสสูงที่ที่แห่งนี้จะเคยเป็นห้องทดลองมาก่อน

 

หานเซิ่นไม่พบตัวทดลองไหนบนยานอวกาศ และเขาก็ไม่พบร่างกายของผู้เสียชีวิตเช่นกัน บางทีเรื่องร้ายอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้สิ่งมีชีวิตภายในยานละทิ้งยานลำนี้และหนีออกไปจนหมด

 

“ตอนนี้เสี่ยวฮวาไปอยู่ที่ไหนกัน” หลังจากที่ออกมาจากยานรบ หานเซิ่นก็มองไปรอบๆ เขาไม่รู้ว่าควรจะไปทางไหนดี เขาเลือกบินลึกเข้าไปในระบบจักรวาลร้าง

 

ขณะที่เขากำลังบินไปข้างหน้า มันก็มีซีโน่เจเนอิคกระโดดออกมาจากซากปรักหักพัง หานเซิ่นไม่สามารถสัมผัสถึงตัวตนของมันได้จนกระทั่งเขาได้เห็นมัน

 

ถึงอย่างนั้นปฏิกิริยาของหานเซิ่นก็ยังรวดเร็วพอ เขาเทเลพอร์ตหลบก่อนที่ซีโน่เจเนอิคจะเข้ามาถึงตัว เขาไปปรากฏตัวในอวกาศที่ไม่ไกลออกไปและมองมาที่เจ้าซีโน่เจเนอิค

 

ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นดูเหมือนกับเสือ แต่ร่างกายของมันใหญ่กว่าเสือปกติหลายเท่า ร่างกายของมันมีโลหะและฟันเฟืองอยู่บางส่วน มันดูแปลกประหลาดมากๆ

 

เสือนั้นไม่ได้พูดอะไร ดวงตาของมันเรืองแสงสีแดงออกมา มันกระโดดเข้าใส่หานเซิ่นอีกครั้ง กรงเล็บของมันเป็นเหมือนกับเหล็กคริสตัล พวกมันกึ่งโปร่งใส ขณะที่มันกระโดดเข้ามาหา หานเซิ่นเห็นว่ากรงเล็บของมันห่อหุ้มด้วยแสงแห่งเทพที่น่ากลัว

 

หานเซิ่นยกโล่เมดูซ่าส์เกซขึ้นมาป้องกันการโจมตีของเจ้าเสือ และเขาก็ใช้มืออีกข้างเป็นเหมือนกับมีดเพื่อฟันใส่หัวของมัน เขาตัดหัวของเสือขาดไปครึ่งหนึ่ง

 

เจ้าเสือยังคงไม่ตาย สมองของมันเต็มไปด้วยคริสตัลและโลหะ พวกมันกระพริบอย่างแปลกประหลาด เจ้าเสือพยายามแกว่งกรงเล็บของมันใส่หานเซิ่นอีกครั้ง

 

หานเซิ่นแกว่งฝ่ามืออีกไม่กี่ครั้งเพื่อจะตัดร่างของเสือให้เป็นขาดชิ้นๆ หลังจากนั้นเสือก็หยุดเคลื่อนไหวไป

 

“ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”

 

“เจ้าตัวนี้เป็นซีโน่เจเนอิคหรอเนี่ย คิดว่าเป็นแค่เครื่องจักรซะอีก” หานเซิ่นมองร่างกายของเสือด้วยความแปลกใจ

 

เมื่อดูจากพลังของเจ้าเสือ อย่างมากมันก็เป็นแค่ขั้นทรานส์มิวเทชั่นหรือไม่ก็ขั้นลาร์วา มันไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับหานเซิ่น

 

หานเซิ่นโยนร่างของมันเข้าไปไว้ในหอคอยแห่งโชคชะตา เขาจะนำมันกลับไปที่สเปชการ์เด้น เขายังมีสัตว์เลี้ยงอีกมากที่ต้องเลี้ยงดู ดังนั้นเขาจำเป็นต้องเก็บสะสมทรัพยากรให้มากที่สุด

 

“ซีโน่เจเนอิคทุกตัวในที่แห่งนี่ดูเหมือนจะเป็นระดับเทพเจ้าทั้งหมด ถ้าคนที่เข้ามาที่นี่ไม่ได้เป็นระดับเทพเจ้า มันก็จะเป็นการรนหาที่ตาย”

หานเซิ่นดีใจกับความจริงที่ว่าเขาสามารถเข้าออกจากก็อตแซงชัวรี่ได้ตามใจชอบ ถ้าเขาต้องออกมาจากจักรวาลจีโนโดยการผ่านระบบจักรวาลร้าง เขาก็คงจะไม่รอด

 

ในอดีตมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมากมายเดินทางออกจากก็อตแซงชัวรี่ไปสู่ระบบจักรวาลร้าง ซึ่งพวกเขาคงจะตายภายในระบบจักรวาลร้างนี่ มันไม่มีทางที่พวกเขาจะมีชีวิตรอดในที่แห่งนี้ได้

 

ในอดีตหานเซิ่นได้เห็นสุสานแห่งหนึ่งในก็อตแซงชัวรี่ มันมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมากมายที่ตายและทิ้งอาวุธจีโนเอาไว้เบื้องหลัง เนื่องจากความคล้ายคลึงทางสายเลือด โกลเด้นโกรวเลอร์กับนางฟ้าจึงได้รับอาวุธจีโนของพวกเขามาจากที่นั่น

 

หานเซิ่นคิดว่าสิ่งมีชีวิตที่นั่นทั้งหมดอาจจะตายจากการพยายามออกมาจากก็อตแซงชัวรี่

 

แต่หลังจากที่มาคิดดูดีๆ หานเซิ่นไม่คิดว่านั่นถูกต้อง ถ้าสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นออกมาจาก็อตแซงชัวรี่และมาเจอกับซีโน่เจเนอิคของระบบจักรวาลร้าง แบบนั้นพวกเขาจะกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ได้ยังไง?

 

“ถึงแม้พวกเขาจะหนีไปได้จริงๆ พวกเขาก็สร้างอาวุธจีโนของตัวเองขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่าพวกเขาจะถูกเตะออกไปจากก็อตแซงชัวรี่” หานเซิ่นรู้สึกสับสน

 

ขณะที่หานเซิ่นบินต่อไปเรื่อยๆ ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมา

“ออกนอกเส้นทาง ออกนอกเส้นทาง”

 

มันดังมาจากตุ๊กตาที่เป่าเอ๋อกำลังถืออยู่ สร้อยคอของมันกำลังกระพริบแสงสีส้ม แสงสีส้มนั้นอ่อนลงไปเรื่อยๆราวกับตุ๊กตาไฟฟ้าที่แบตเตอรี่กำลังจะหมด

 

หานเซิ่นแปลกใจ เขารีบเอาตุ๊กตามาจากเป่าเอ๋อและพยายามเปลี่ยนเส้นทางไปทางอื่น

 

ตุ๊กตาผ้าส่งเสียงเตือนว่าหานเซิ่นกำลังบินออกนอกเส้นทางซ้ำๆ แต่เสียงของมันเบาลงไปเรื่อยๆ และแสงสีส้มจากสร้อยคอก็อ่อนลงไปเช่นกัน ดูเหมือนกับว่าพลังงานของมันพร้อมจะหมดลงได้ทุกเมื่อ

 

หานเซิ่นพยายามเปลี่ยนเส้นทางหลายครั้ง และในที่สุดตุ๊กตาก็หยุดส่งเสียงไป แสงสีส้มบนสร้อยคอก็ดับไปเช่นกัน

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่านั่นเป็นเพราะเขากำลังบินไปในทิศทางที่ถูกต้อง หรือเป็นเพราะว่าพลังงานของตุ๊กตาหมดลงแล้ว หลังจากที่คิดได้แบบนั้น หานเซิ่นก็ลองเปลี่ยนเส้นทางดู แต่ตุ๊กตานั้นไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ดูเหมือนว่าพลังงานของมันจะหมดแล้วจริงๆ

 

“ไม่รู้ว่าตุ๊กตานี่มีต้นกำเนิดจากไหนและไม่รู้ว่าเส้นทางที่มันพาไปจะนำไปสู่ที่ไหนกันแน่? แต่ในเมื่อเราไม่มีเส้นทางอื่นให้ไป เราก็ควรลองเสี่ยงดวงกับมันดู”

หานเซิ่นส่งตุ๊กตาคืนให้กับเป่าเอ๋อ หลังจากนั้นเขาก็เทเลพอร์ตไปในทิศทางที่เสียงของตุ๊กตาหยุดไป

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าเส้นทางที่เขาเลือกนั้นถูกต้องหรือเปล่า เขาบินต่อไปเป็นเวลานาน และเขาก็ไม่พบกับซีโน่เจเนอิคเลยสักตัว ซึ่งเรื่องนี้ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเขากำลังอยู่ในระบบจักรวาลร้าง

 

หานเซิ่นไม่ได้เทเลพอร์ตต่อไปเรื่อยๆ เขาเปลี่ยนไปบินอย่างช้าเพื่อจะมองไปรอบๆ ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เห็นร่องรอยจากการต่อสู้

 

ถึงแม้ออร่าจะถูกลบออกไป แต่สิ่งที่ถูกทำลายและฝุ่นควันที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้ก็ยังคงไม่กลับเข้าที่

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset