ร่างกายของไทเกอร์ก็อตอีเกิลร่วงลงไปบนกงล้อคริสตัล ทุกคนจึงมองไปที่กงล้อคริสตัลที่ดูเหมือนกับหินเจียรข้างล่าง
ในตอนที่กงล้อคริสตัลเริ่มหมุน แสงสว่างก็ถูกปล่อยมาใส่ร่างของไทเกอร์ก็อตอีเกิล มันทำให้เนื้อหนังและขนของไทเกอร์ก็อตอีเกิลเหมือนถูกเคลือบด้วยคริสตัล ราวกับเครื่องถ้วยเปลือกไข่
ภายในคริสตัลที่เคลือบอยู่นั้นร่างกายของไทเกอร์ก็อตอีเกิลก็เริ่มจะละลายกลายของเหลวที่โปร่งใส มันไหลตามกงล้อคริสตัลและเริ่มจมลงไป
ในจังหวะต่อมาร่างขนาดใหญ่ของไทเกอร์ก็อตอีเกิลก็ถูกย่อยสลายจนไม่เหลือแม้แต่ขนสักเส้น เมื่อกงล้อคริสตัลหยุดหมุน ภูเขาก็กลับมาเงียบสงบอีกครั้ง แสงที่ส่องออกมานั้นดับไป ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไป๋ว่านเจี้ยและคนอื่นๆรู้สึกตกใจ ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงไม่มีใครได้เห็นร่างขององค์ชายและองค์หญิงที่ตายไป
หานเซิ่นมองไปที่กงล้อคริสตัลด้านล่าง ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความคิดหลายอย่าง
“แปลกจริงๆ ถึงแม้จะไม่มีใครรู้ว่ามันมีกับดักอะไรซ่อนอยู่ในภูเขาลูกนี้ แต่พวกเขาก็ต้องรู้ว่าสถานที่แห่งนี้อันตรายมากๆ ถึงอย่างนั้นกษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ยังส่งองค์ชายและองค์หญิงมาที่นี่โดยที่ไม่เตือนถึงอันตรายที่อาจจะต้องเจอ พวกเขาแค่บอกให้เหล่าองค์ชายและองค์หญิงมาที่นี่เพื่อฝึกฝน นั่นมันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด”
หานเซิ่นคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี่แปลกประหลาดเกินไป คนแบบไหนกันที่จะไม่เป็นห่วงความปลอดภัยของลูกๆตัวเอง? มันไม่สำคัญว่าพ่อคนหนึ่งจะต้องการให้ลูกได้ฝึกฝนตัวเองยังไง พวกเขาก็ไม่ควรจะให้ลูกของตัวเองมาเผชิญกับชะตากรรมที่โหดร้ายแบบนี้
“นอกซะจากกษัตริย์ของเอ็กซ์ตรีมคิงจะส่งพวกเขามาที่นี่ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่ามันต้องมีการสังเวยชีวิต…”
หานเซิ่นมองไปที่ไป๋ว่านเจี้ยและคนอื่นๆ พวกเขาดูหม่นหมอง แต่มันบอกได้ยากว่าในตอนนี้พวกเขากำลังคิดอะไรอยู่
หานเซิ่นรู้ว่าคนอื่นๆคงจะไม่ได้กำลังคิดแบบเดียวกับที่เขาคิด มันไม่ใช่ว่าหานเซิ่นฉลาดกว่าพวกเขา แต่แค่พวกเขาเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับการทดสอบในครั้งนี้ ขณะที่หานเซิ่นเป็นแค่คนที่คอยจับตาดู
พวกเขากำลังคิดว่าการทดสอบนี้คือกุญแจที่จะทำให้พวกเขาได้ขึ้นครองบัลลังก์ พวกเขาคิดว่าการต้องเผชิญหน้ากับอันตรายนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่มีทางจะบอกได้ว่าระหว่างพวกเขาใครที่ฉลาดกว่า แข็งแกร่งกว่าหรือคู่ควรจะเป็นกษัตริย์คนต่อไปมากกว่า ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงไม่ได้แบบหานเซิ่น
ไป๋ว่านเจี้ยมองไปที่กงล้อคริสตัลและไข่ยักษ์ก่อนที่จะพูดว่า
“ในตอนนี้พวกเรายังไม่รู้ว่าการทำลายไข่ใบนี้จะใช่การทดสอบสุดท้ายหรือเปล่า หรือมันยังมีอะไรอย่างอื่นที่พวกเราต้องทำให้สำเร็จ”
“ข้าไม่คิดว่าการทดสอบสุดท้ายจะเป็นการทำลายไข่ ไม่อย่างนั้นด้วยการที่มันเคยมีองค์ชายและองค์มาที่นี่ก่อนหน้าพวกเรา ไข่ใบนี้ก็ควรจะถูกทำลายไปเรียบร้อยแล้ว” ไป๋อู๋ฉางพูด
“บางทีอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้น” ไป๋หลิงซวงพูด
“บางทีไข่ใบนี้อาจจะมีพลังในการประกอบตัวเองขึ้นมาใหม่เหมือนกับเหล่าอันเดดก่อนหน้านี้ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นมันไม่สำคัญว่าไข่ใบนี้จะแตกไปสักกี่ครั้ง มันก็ฟื้นตัวขึ้นใหม่ได้”
ไป๋เวยพยักหน้าและพูด “จากที่พวกเราเห็นในตอนนี้ บททดสอบสุดท้ายนั้นดูจะเกี่ยวข้องกับไข่ใบนี้”
ไป๋ว่านเจี้ยเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นมา “น้องเวย เจ้าไปฝึกฝนกับเผ่าเวรี่ไฮเป็นเวลานาน เจ้าคงจะได้รู้อะไรมากกว่าพวกเรา เจ้ารู้ไหมว่าภายในไข่ใบนี้มีอะไรอยู่?”
ไป๋เวยส่ายหัว “ภายในเอาท์เตอร์สกายมีซีโน่เจเนอิคมากมาย และข้าก็เคยได้เห็นไข่ของซีโน่เจเนอิคจำนวนมาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นไข่แบบนี้”
ไป๋หลิงซวงคิดอยู่ชั่วครู่และพูดขึ้นว่า “ในอดีตมีองค์ชายและองค์หญิงที่ผ่านบททดสอบ เพราะฉะนั้นมันต้องมีหนทางอยู่ พวกเราแค่ยังไม่ค้นพบมันเท่านั้น”
“น้องหลิงซวงพูดถูก ก่อนหน้านี้ข้าโยนกรงขังนกและไทเกอร์ก็อตอีเกิลลงไป แต่กรงขังนกนั้นกลับมาหาข้าได้ ขณะที่ไทเกอร์ก็อตอีเกิลติดอยู่กับไข่ ดูเหมือนว่าไข่ไปนี้จะดึงดูดเฉพาะสิ่งที่มีชีวิตเท่านั้น” ไป๋ว่านเจี้ยพูด
ดวงตาของทุกคนดูเป็นประกายขึ้นมา ถ้าพลังของไข่ยักษ์มีผลเฉพาะกับสิ่งมีชีวิตเท่านั้น นั่นก็หมายความว่าพวกเขาสามารถใช้สมบัติเพื่อโจมตีไข่ได้
“ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็ให้ข้าได้ลองก่อนเป็นคนแรก”
ไป๋อู๋ฉางพูด เขาเอามีดหยกเล่มหนึ่งที่มีความยาวครึ่งฟุตออกมา มันเป็นมีดที่ดูเหมือนว่าจะทำขึ้นมาจากหยกคริสตัล ใบมีดนั้นมีออร่าที่น่ากลัว
ไป๋อู๋ฉางถือมีดหยกเอาไว้ขณะที่จ้องไปที่ไข่ยักษ์ หลังจากนั้นเขาก็ขว้างมีดหยกออกไปเหมือนกับแสงสีเขียว
ในตอนที่มีดหยกชนเข้ากับเปลือกไข่ยักษ์ มันก็ก่อให้เกิดเสียงราวกับว่ามันชนเข้ากับก้อนหิน โซ่สสารสีเขียวมากมายถูกปล่อยออกไป พวกมันพุ่งเข้าใส่เปลือกของไข่และแตกสลายไป
หลังจากที่ไข่ถูกโจมตีอย่างรุนแรง มันก็เป็นเหมือนกับหลอดไฟที่ถูกเปิด ซึ่งทำให้มันปลดปล่อยแสงสว่างออกมา
ด้วยแสงสว่างจากไข่ยักษ์ เครื่องมือคริสตัลภายในภูเขาก็เริ่มทำงานขึ้นมา ไข่เป็นเหมือนกับหอคอยที่ส่องแสงออกไปรอบทิศทางและทำให้ทั้งภูเขานั้นสว่างไสว
เมื่อเห็นว่าการโจมตีล้มเหลว ไป๋อู๋ฉางก็เรียกมีดหยกของตัวเองกลับมา แต่มีดหยกนั้นไม่เชื่อฟังคำสั่งของเขา มันร่วงลงไปที่กงล้อคริสตัล
ในตอนที่กงล้อคริสตัลเริ่มหมุน สมบัติระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟก็ถูกย่อยสลายจนไม่เหลืออะไรเช่นเดียวกับร่างของไทเกอร์ก็อตอีเกิล
ไป๋ว่านเจี้ยและคนอื่นอึ้งไป พวกเขารู้สึกหนาวขึ้นมา กงล้อคริสตัลนั้นสามารถย่อยสลายได้ทั้งร่างกายและสมบัติ
หานเซิ่นไม่ได้ประหลาดใจ นั่นเป็นเพราะว่าวัสดุหลักของสมบัติก็คือยีนของซีโน่เจเนอิค ร่างกายของไทเกอร์ก็อตอีเกิลก็คือยีนซีโน่เจเนอิคเช่นกัน มันไม่ได้มีความแตกต่างระหว่างพวกมัน มันจึงเป็นเรื่องปกติที่มีดหยกจะถูกย่อยสลายไป
สิ่งที่ทำให้หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจคือในตอนที่มีดหยกถูกขว้างไปถูกเปลือกไข่ เด็กผู้หญิงที่อยู่ภายในไข่นั้นมีปฏิกิริยาตอบสนอง เหมือนกับว่ามีบางคนรบกวนการหลับของเธอ เธอขมวดคิ้ว แต่ดวงตาของเธอยังคงไม่เปิดขึ้นมา
หลังจากผ่านไปสักพัก แสงของไข่ก็เริ่มจะมัวไปและเครื่องมือคริสติลภายในภูเขาก็หยุดทำงาน
ไป๋ว่านเจี้ยหันไปมองไป๋อู๋ฉางขณะที่ถามขึ้นว่า “อู๋ฉาง มันเกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรอ?”
ด้วยพลังของไป๋อู๋ฉาง การควบคุมสมบัติซีโน่เจเนอิคให้กลับมาหานั่นควรจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่มีดหยกกลับร่วงลงไปแบบนั้น
ไป๋อู๋ฉางเงียบอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะตอบว่า “หลังจากที่มีดถูกผิวของไข่นั่น การเชื่อมต่อของข้ากับมีดก็ถูกตัดขาดโดยพลังบางอย่าง ข้าพยายามจะนำมันกลับมา แต่มันไม่ได้ผล”
“นี่ดูจะเป็นปัญหา ถ้าสิ่งมีชีวิตไปสัมผัสกับไข่ สิ่งมีชีวิตก็จะถูกดูดพลังจนตาย และถ้าสมบัติสัมผัสกับไข่ พวกมันก็จะถูกแยกตัวออกไป มันคงจะเป็นเรื่องยากที่จะทำลายไข่ใบนี้” ไป๋อู๋ฉางพูด
“ถ้ามันเป็นเรื่องที่ง่าย มันก็คงจะไม่ได้เป็นบททดสอบที่ถูกทิ้งเอาไว้โดยท่านอัลฟ่า” ไป๋ว่านเจี้ยพูด
ขณะที่ทุกคนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ๆพวกเขาก็เห็นไป๋ว่านเจี้ยนำสร้อยคอเส้นหนึ่งออกมา สร้อยคอนั้นประกอบด้วยลูกประคำหนึ่งร้อยแปดเม็ด แต่ละเม็ดมีขนาดพอๆกับลูกเชอร์รี่ และดูเหมือนกับว่ามีดวงดาวกำลังหมุนอยู่ภายในพวกมัน
ไป๋ว่านเจี้ยปลดสร้อยคอและนำเอาลูกประคำหนึ่งเม็ดออกมาเพื่อขว้างออกไปใส่ไข่ยักษ์ หลังจากนั้นพวกเขาก็เห็นไข่ระเบิดแสงสว่างออกไปทุกหนทุกแห่ง เครื่องมือคริสตัลเริ่มทำงานอีกครั้ง
ไป๋ว่านเจี้ยขว้างลูกประคำใส่ไข่ทีละเม็ดๆ ไข่ยักษ์นั้นส่องสว่างขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้พวกเขาเห็นว่ามันเป็นไข่สีดำ แต่ในตอนที่แสงสีขาวของไข่เพิ่มความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ มันก็เริ่มจะดูโปร่งใส
“ดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งอยู่ภายใน”
เมื่อเปลือกไข่เริ่มจะโปร่งใส ไป๋อู๋ฉางก็เห็นเด็กผู้หญิงผมทองอยู่ภายใน แต่เขาเห็นแค่รางๆเท่านั้น มันไม่ได้ชัดเจน