หานเซิ่นได้รับรายชื่อคนที่จะเข้าไปในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ เขาพบว่ามีชื่อของไป๋เวยอยู่ในรายชื่อนั้นด้วย และนอกจากไป๋เวยแล้ว มันยังมีองค์ชายและองค์หญิงอีกหลายคนที่เขารู้จักอย่างไป๋ว่านเจี้ย ไป๋อู๋ฉาง ไป๋หลิงซวง ไป๋ชิงเสีย ไป๋ชางลังและไป๋เจี้ยนซิง
หานเซิ่นคิดกับตัวเองว่า ‘ตอนนี้มันมีองค์ชายและองค์หญิงเป็นระดับเทพเจ้าเยอะขนาดนี้เชียว นี่มันจะต้องใช้ทรัพยากรเยอะขนาดไหนกันนะ? ตอนนี้ทรัพยากรของเอ็กซ์ตรีมคิงถูกใช้ไปจนหมดแล้วหรือยัง?’
หลังจากที่อ่านรายชื่อ หานเซิ่นก็ทำการจดจำองค์ชายและองค์หญิงทุกคนที่จะร่วมเดินทางไปด้วย ราชาไป๋พูดเหมือนกับว่าถึงองค์ชายและองค์หญิงจะตายไป มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่หานเซิ่นคิดว่ามันจะไม่เป็นแบบนั้น ถ้าองค์ชายและองค์หญิงเกิดตายขึ้นมาจริงๆ มันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าราชาไป๋จะต้องโกรธมากๆ และช่วงเวลาที่แสนสุขสบายของหานเซิ่นภายในเอ็กซ์ตรีมคิงก็อาจจะต้องจบลง
หานเซิ่นยังไม่อยากจะออกไปจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงในตอนนี้ ดังนั้นเขามีแผนที่จะทำงานนี้ให้สำเร็จ อีกอย่างเขาก็รู้สึกสนใจเกี่ยวกับสตาร์ทเตอร์คิงส์เลนด์
ราชาไป๋บอกแค่ว่าเขาจะต้องไปที่ไหน แต่ราชาไป๋ไม่ได้บอกว่ามันเป็นสถานที่แบบไหนกันแน่ เขาไม่ได้บรรยายว่าที่เป็นยังไง
ในตอนที่หานเซิ่นกลับไปที่สวน เป่าอิงก็กำลังรอคอยเขาอยู่ที่นั่น เขาบอกเธอว่าเขาจะต้องไปที่สตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ แบบนั้นเธอก็จะได้ไม่ต้องมาที่สวนอีก
เมื่อได้ยินว่าหานเซิ่นจะไปที่สตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ เป่าอิงก็ดูไม่อยากจะเชื่อ
“การไปที่สตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ มันมีปัญหาอะไรอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัย
เป่าอิงส่ายหัว “ฝ่าบาทคงจะต้องรักมิสเตอร์โฮลี่เบบี้มากๆ ในอดีตมีแค่องค์ชายและองค์หญิงเท่านั้นที่ได้เข้าไปในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ ข้าไม่เคยคาดคิดว่าฝ่าบาทจะอนุญาตให้ท่านเข้าไปในนั้นด้วย”
“เจ้ารู้ไหมว่าสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์นั้นเป็นสถานที่แบบไหน?” หานเซิ่นต้องการจะรู้เกี่ยวกับสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ให้มากขึ้น
เป่าอิงส่ายหัว “มีเพียงแค่องค์ชายและองค์หญิงเท่านั้นที่เข้าไปได้ อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นภายในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ไม่เคยถูกพูดถึงในตอนที่พวกเขากลับออกมา ข้าไม่ได้รู้อะไรมาก ข้ารู้แค่ว่าสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์เป็นสถานที่ลับที่ถูกทิ้งไว้โดยเอ็กซ์ตรีมคิงอัลฟ่า มันเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับทดสอบความกล้าขององค์ชายและองค์หญิงเพื่อเลือกคนที่จะขึ้นครองบัลลังก์ โดยปกติแล้วคนที่ทำผลงานภายในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ได้ดีมีโอกาสสูงที่จะได้ขึ้นครองบัลลังก์ แต่มิสเตอร์โฮลี่เบบี้ไม่ใช่สายเลือดของฝ่าบาท ข้าจึงคิดว่ามันไม่ได้สำคัญว่ามิสเตอร์โฮลี่เบบี้จะทำผลงานได้ดีสักแค่ไหน มิสเตอร์โฮลี่เบบี้ก็จะไม่ได้อะไรจากมัน”
หลังจากนั้นเป่าอิงก็พยายามเตือนหานเซิ่นว่าอย่าได้ไปล่วงละเมิดองค์ชายและองค์หญิง
“นี่ดูจะเป็นอะไรที่น่าสนใจ” หานเซิ่นลูบคางอย่างครุ่นคิด
‘ทำไมราชาไป๋ถึงให้เราเข้าไปในสถานที่แบบนั้นกัน? นี่เขาวางแผนอะไรบางอย่างเอาไว้อย่างนั้นหรอ?’
แต่ไม่ว่ามันจะเป็นยังไงก็ตาม หานเซิ่นก็จำเป็นต้องไปที่นั่น ตอนนี้เขารู้สึกสงสัยเกี่ยวกับสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์มากกว่าเดิม
เอ็กซ์ตรีมคิงอัลฟ่านั้นคือคนรับใช้ของผู้นำเซเคร็ด สิ่งที่เขาทิ้งเอาไว้อาจจะเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ
เมื่อถึงเวลานัดพบ ในตอนที่หานเซิ่นไปที่ทางเข้าของสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ เหล่าองค์ชายและองค์หญิงก็ได้มารวมตัวกันพร้อมแล้ว ในตอนที่พวกเขาเห็นหานเซิ่นปรากฏตัว พวกเขาก็ดูสับสน
“เอาล่ะ ทุกคนมาพร้อมกันแล้ว” ไป๋ปู้อีพูด
“สตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์กำลังจะเปิดออก พวกเจ้าต้องจำเอาไว้ให้ดีว่าสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์เป็นสถานที่ที่อันตรายมากๆ ทุกครั้งที่กลุ่มองค์ชายและองค์หญิงเดินทางเข้าไป มันมักจะมีคนตายบ่อยครั้ง สตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์จะเปิดเพียงแค่ช่วงสั้นๆเท่านั้น มันจะปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว พวกเจ้าต้องรอเป็นเวลาหนึ่งเดือนก่อนที่พวกเจ้าจะออกมาได้ ในช่วงเวลานั้นแม้แต่ยอดฝีมือขั้นทรูก็อตก็เข้าไปข้างในไม่ได้ ดังนั้นพวกเจ้าต้องระมัดระวังให้มากและช่วยเหลือกันและกัน ถ้าพวกเจ้าไม่ร่วมมือกัน มันก็ไม่มีใครจะช่วยพวกเจ้าได้”
องค์ชายดาบดารามองไปที่หานเซิ่นและพูด “ลุงสอง โฮลี่เบบี้ไม่ใช่สายเลือดของท่านพ่อ ทำไมเขาถึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์?”
เหล่าองค์ชายและองค์หญิงหันไปมองที่หานเซิ่น พวกเขาเองก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน พวกเขาคิดว่าการให้ซีโน่เจเนอิคเข้าไปในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์นั้นถือว่าเป็นอะไรที่บ้ามากๆ
“นี่คือพระบัญชาของฝ่าบาท” ไป๋ปู้อีพูด
“ถ้าพวกเจ้ามีคำถามอะไร พวกเจ้าก็ควรไปถามกับฝ่าบาทเอง”
เมื่อได้ยินแบบนั้น องค์ชายดาบดาราก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาแค่จ้องไปที่หานเซิ่นด้วยความโกรธ
หานเซิ่นยักไหล่โดยที่ไม่พูดอะไร เขาแค่มาคอยปกป้องชีวิตของเหล่าองค์ชายและองค์หญิง หานเซิ่นไม่สนใจว่าพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ ถ้าพวกเขาโง่พอที่จะมาหาเรื่องหานเซิ่น หานเซิ่นก็ไม่รังเกียจที่จะสั่งสอนบทเรียนพวกเขา ตราบใดที่หานเซิ่นไม่ได้ฆ่าพวกเขา ทุกอย่างก็จะไม่เป็นอะไร
แน่นอนว่าหานเซิ่นยังรับหน้าที่บันทึกผลงานของพวกเขาภายในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ ถึงแม้หานเซิ่นไม่ได้มีแผนที่จะบันทึกอะไรที่ไม่จำเป็น แต่ถ้าพวกเขารนหาที่จริงๆ หานเซิ่นก็ไม่รังเกียจที่จะไปบรรยายให้ราชาไป๋ฟังว่าพวกเขานั้นโง่เง่าและไม่ได้เรื่องแค่ไหน มันจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของราชาไป๋ว่าใครที่ควรจะได้ขึ้นครองบัลลังก์
“ได้เวลาแล้ว! ตอนนี้พวกเจ้าทุกคนต้องเข้าไปในสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์” ไป๋ปู้อีพูด เขาเดินไปที่ด้านหน้าปราสาทและเปิดประตู
เหล่าองค์ชายและองค์หญิงมองเข้าไปข้างใน พวกเขาแค่เคยได้ยินเกี่ยวกับสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์ แต่พวกเขาไม่เคยเข้าไปข้างในมาก่อน ดังนั้นพวกเขาเองก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็น
ภายในปราสาท หานเซิ่นเห็นเครื่องมือมากมายที่เขาคุ้นเคย
“นี่มัน…คงไม่ได้เป็นเครื่องจักรของคริสตัลไลเซอร์หรอกใช่ไหม”
หานเซิ่นแปลกใจ เขามองเข้าไปในปราสาทและเห็นเครื่องจักรนับไม่ถ้วนที่ถูกสร้างขึ้นมาจากคริสตัล พวกมันส่องแสงระยิบระยับอย่างแปลกประหลาด มันดูเหมือนกับห้องควบคุมของคริสตัลไลเซอร์ที่ครั้งหนึ่งหานเซิ่นเคยเข้าไป
ไป๋ปู้อีนำกลุ่มองค์ชายและองค์หญิงเข้าไปในปราสาท เขาชี้ไปยังเครื่องจักรที่เป็นภาชนะคริสตัลและพูด “พวกเจ้าเข้าไปยืนในนั้น”
กลุ่มขององค์ชายและองค์หญิงเดินเข้าไปในภาชนะคริสตัล ภาชนะคริสตัลนั้นมีความยาวหกสิบฟุต ดังนั้นองค์ชายและองค์หญิงยี่สิบคนสามารถเข้าไปยืนอยู่ข้างในโดยไม่รู้สึกว่าคับแคบ
หานเซิ่นมองเครื่องจักรคริสตัลที่ดูเหมือนกับเครื่องจักรของคริสตัลไลเซอร์และคิดกับตัวเอง
‘ของพวกนี้เป็นเครื่องจักรของคริสตัลไลเซอร์ที่เอ็กซ์ตรีมคิงอัลฟ่าได้มาอย่างนั้นหรอ? เดิมทีแล้วพวกมันเป็นของเซเคร็ด?’
ขณะที่หานเซิ่นกำลังคิด ไป๋ปู้อีก็ไปยืนอยู่หน้ากำแพงคริสตัลที่ดูเหมือนกับแผงควบคุม ทุกครั้งที่เขาสัมผัสกับกำแพงคริสตัล มันจะมีแสงแว็บขึ้นมา
ขณะที่ไป๋ปู้อีทำแบบนั้น หานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่าภาชนะคริสตัลเริ่มจะหมุน ที่ฐานก็กำลังหมุนในทิศทางตรงกันข้ามกับภาชนะคริสตัล โปรแกรมแบบนี้ทำให้หานเซิ่นคิดไปถึงเครื่องจักรสำหรับเทเลพอร์ตที่ใช้กันในสหพันธ์
แต่เครื่องเทเลพอร์ตของสหพันธ์นั้นไม่ได้เป็นเทคโนโลยีของคริสตัลไลเซอร์ พวกมันมีข้อจำกัดอยู่มากมาย และมันก็ไม่สามารถเทเลพอร์ตคนหลายคนพร้อมกันได้
“สิ่งนี้คืออะไรกันแน่?” หานเซิ่นอยากรู้มากๆ เขาอยากรู้ว่าสถานที่ที่เรียกว่าสตาร์ทเตอร์คิงส์แลนด์คืออะไร
ตูม!
หานเซิ่นรู้สึกว่าสภาพแวดล้อมของเขาเริ่มบิดเบี้ยว มันเป็นความรู้สึกเดียวกันตอนที่เขาใช้เครื่องเทเลพอร์ตในสหพันธ์ ในตอนที่สายตาของเขาหยุดหมุน เขาก็สังเกตได้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ภายในภาชนะคริสตัลอีกแล้ว