Super God Gene – ตอนที่ 2887 สู้กับเผ่าบุดด้าตามลำพัง

เครื่องหมายเผ่าพันธุ์บนหน้าผากของบุดด้าทุกคนเริ่มเรืองแสงออกมา ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ในส่วนที่ไกลแสนไกลของอวกาศ เครื่องหมายนั่นก็นำพวกเขามาอยู่ที่หน้าจีโนฮอลล์ เพื่อที่พวกเขาจะได้ปกป้องตะเกียงเผ่าพันธุ์ของตัวเอง

เสียงร้องคำรามด้วยความโกรธนั้นดังก้องไปทั่วจักรวาล ขณะที่บุดด้าเดินทางผ่านอวกาศมาปรากฏตัวอยู่หน้าจีโนฮอลล์ แม้แต่บุดด้าธรรมดาที่ไม่มีพลังพอที่จะบินขึ้นฟ้าก็ยังใช้เครื่องหมายเผ่าพันธุ์ของตัวเองเพื่อมาร่วมต่อสู้

บุดด้านับไม่ถ้วนมารวมตัวกันอยู่หน้าตะเกียงเผ่าพันธุ์ ร่างกายของพวกเขาลุกโชนด้วยแสงบุดด้า ทุกคนมอบพลังของตัวเองให้กับตะเกียง ซึ่งทำให้ดวงไฟในตะเกียงของเผ่าบุดด้านั้นลุกโชติช่วงยิ่งกว่าเดิม มันเหมือนกับแสงออโรร่าที่ทอดยาวออกไปจนข้ามจักรวาล มันปลดปล่อยพลังที่น่ากลัวเหนือจินตนาการออกมา

“หานเซิ่น! เจ้าจะต่อสู้กับบุดด้าจนตัวตายจริงๆอย่างนั้นหรอ?”
เบิร์นนิ่งแลมป์ดูสงบนิ่ง แต่ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะฆ่าอีกฝ่าย

“ข้าแค่จะทำลายเผ่าบุดด้า มันไม่ได้เป็นเรื่องยากอะไร” หานเซิ่นพูดอย่างเย็นชา

หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหานเซิ่น ทุกคนในจักรวาลก็มีสีหน้าแปลกๆ

ถึงความแข็งแกร่งของบุดด้าจะไม่ได้ถือว่าดีเด่นอะไรในหมู่เผ่าพันธุ์ชั้นสูง แต่อัลฟ่าของเผ่าบุดด้าเบิร์นนิ่งแลมป์นั้นเป็นข้อยกเว้น เขาไปถึงขั้นบัตเตอร์ฟลายได้อย่างน่าประหลาดใจ และในระหว่างการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน เขาก็เอาชนะนกยูงพลูโตที่เป็นถึงซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตได้สำเร็จ แม้แต่คนของเผ่าพันธุ์ชั้นสูงก็ยังต้องคิดให้ดีถ้าจะท้าสู้กับเผ่าบุดด้า

แถมเผ่าบุดด้าก็ได้รับการสนับสนุนจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิง เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงจะไม่มีทางนิ่งเฉยและปล่อยให้เผ่าบุดด้าถูกโจมตี เพราะถ้าพวกเขาทำแบบนั้น มันก็จะไม่มีเผ่าพันธุ์ไหนเชื่อใจเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงอีกต่อไป

“ก็อดฟาเธอร์หานอวดดีเกินไปแล้ว ถึงแม้ในสเปชการ์เด้นจะมีระดับเทพเจ้าหลายคนอยู่ แต่พวกเขาก็เป็นแค่ขั้นพริมิทีฟเท่านั้น แบบนั้นพวกเขาจะเทียบกับเบิร์นนิ่งแลมป์ที่ติดร้อยอันดับแรกในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนได้ยังไง?”

“แต่ไม่เห็นระดับเทพเจ้าของสเปชการ์เด้นจะปรากฏตัวออกมาสักคนเลย นี่ดูก็อดฟาเธอร์หานจะท้าสู้กับเผ่าบุดด้าตามลำพังอย่างนั้นหรอ?”

ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุยกันนั้น อี๋ซาก็มีสีหน้าแปลกๆ
“เขาตั้งใจจะท้าสู้กับเผ่าบุดด้าตามลำพัง?”

ผู้นำปราสาทนภาหัวเราะและพูด “ระดับของหานเซิ่นในตอนนี้ไม่ได้ต่ำจนเกินไป เขาอาจจะทำได้สำเร็จ แต่ว่า…”

“แต่อะไร?” อี๋ซาถาม

“เมื่อก่อนคริสตัลไลเซอร์เคยล้มเหลวมาแล้วครั้งหนึ่ง และมันก็เป็นเพราะว่ามีคนนอกเข้ามาแทรกแซง เผ่าพันธุ์ชั้นสูงที่ปรากฏตัวเมื่อตอนนั้นอาจจะแสดงตัวออกมาเพื่อหยุดคริสตัลไลเซอร์อีกครั้งหนึ่ง ถึงแม้พวกเขาจะไม่แสดงตัวออกมา เผ่าเวรี่ไฮก็อาจจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือไป นี่ยังคงเป็นอะไรที่ยากมากๆ” ผู้นำปราสาทนภาส่ายหัว

“เมื่อก่อนใครกันที่เข้ามาแทรกแซงและหยุดคริสตัลไลเซอร์จากการกลายเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูง?” อี๋ซาถามพร้อมกับขมวดคิ้ว

“มันเป็นเรื่องที่ผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว สิ่งมีชีวิตที่ได้เห็นการต่อสู้ในวันนั้น ปานนี้ก็คงจะตายไปกันหมดแล้ว ถึงแม้มันจะมีสิ่งมีชีวิตจากโบราณกาลที่ยังคงมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็จะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับมัน”
ผู้นำปราสาทนภาหัวเราะและพูด “ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ผู้คนที่หยุดคริสตัลไลเซอร์เองก็อาจจะตายไปแล้วเช่นกัน พวกเขาอาจจะไม่ปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง ที่หานเซิ่นจำเป็นต้องรับมือในตอนนี้ก็คือเบิร์นนิ่งแลมป์กับคนของเวรี่ไฮ”

ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน ทางเผ่าบุดด้าก็โกรธจัดหลังจากที่ได้ยินคำพูดของหานเซิ่น

“ท่านอัลฟ่า พวกเรารีบฆ่าเจ้านี่เถอะ”

“ถึงพวกเราจะฉีกเขาเป็นชิ้นๆ มันก็ยังไม่พอที่จะให้เขาชดใช้ความผิดของตัวเอง”

“ท่านอัลฟ่าได้โปรดมอบคำสั่งกับพวกเรา ข้าสาบานว่าจะฆ่าชายคนนี้”

เบิร์นนิ่งแลมป์ยังคงสงบนิ่ง แต่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
“อมิตาพุทธ! ถ้าเจ้ายืนกรานจะทำแบบนี้ แบบนั้นเจ้าก็จะมาโทษว่าเผ่าบุดด้าหยาบคายต่อปราสาทนภาไม่ได้”

ประโยคนั้นเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้พูดกับหานเซิ่น เขากำลังพูดกับผู้นำปราสาทนภาและอี๋ซา

หลังจากพูดจบ เบิร์นนิ่งแลมป์ก็ลุกโชนด้วยแสงบุดด้า เขาสะบัดมือและปล่อยแสงบุดด้าประหลาดออกมา มันเป็นวิชาที่เคยเปลี่ยนหานเซิ่นให้กลายเป็นมด

ตอนนี้เบิร์นนิ่งแลมป์เป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายแล้ว เขาจึงแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก นั่นทำให้วิชานี้ของเขาแข็งแกร่งขึ้นตามไปด้วย ภายใต้ฝ่ามือของเขามันเหมือนกับว่าเขาสามารถคว้าทั้งอวกาศมาไว้ในกำมือ

เหล่าบุดด้าเห็นว่าหานเซิ่นไม่มีปฏิกิริยาใด ในตอนที่เขาถูกแสงบุดด้าเข้าไป เขากลับดูดีใจขึ้นมา

แสงบุดด้าที่พุ่งไปถูกตัวหานเซิ่นนั้นเป็นเหมือนกับสายลมอ่อนๆที่พัดมาถูกใบหน้าของเขา หานเซิ่นยังคงยืนนิ่งอยู่ในอวกาศโดยที่ไม่ได้ขยับแม้แต่แขนเสื้อ

บุดด้าทุกคนรวมถึงเบิร์นนิ่งแลมป์นั้นตกตะลึง ในการประลองรอบแรกของเบิร์นนิ่งแลมป์ เขาได้ใช้วิชานี้เพื่อเปลี่ยนคู่ต่อสู้ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟคนหนึ่งให้กลายเป็นคางคก

แต่หานเซิ่นนั้นแค่ยืนอยู่เฉยๆ เขาไม่ได้ทำอะไรกับบุดด้าแสงเปลี่ยนร่างของเบิร์นนิ่งแลมป์เลยแม้แต่นิดเดียว ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ นั่นแสดงให้เห็นว่าความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขานั้นเหนือกว่าระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ

วิชากายหยกของหานเซิ่นนั้นกลายเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายเรียบร้อยแล้ว มันยากที่จะจินตนาการได้ว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นมากขนาดไหน มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนแปลงร่างกายและยีนของเขา

มันไม่ใช่แค่วิชาเปลี่ยนร่างของเบิร์นนิ่งแลมป์เท่านั้นที่ไม่ได้ผล ถึงแม้ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะอยู่ที่นี่และใช้วิชาเพื่อเปลี่ยนท้องฟ้าและพลิกผืนดิน เขาก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงยีนของหานเซิ่นได้

“นั่นเป็นร่างกายที่แข็งแกร่งมากๆ” ผู้นำปราสาทนภาเอยชม
“ดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะกลายเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายแล้ว”

อี๋ซายังคงขมวดคิ้ว เธอดีใจที่หานเซิ่นกลายเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายได้อย่างรวดเร็ว แต่หนทางข้างหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยอันตราย การเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายนั้นอาจจะยังไม่เพียงพอ

หานเซิ่นยืนอยู่ในอวกาศและมองไปที่เบิร์นนิ่งแลมป์พร้อมกับพูดอย่างเย็นชา
“เจ้าควรจะยอมมอบมีดเหตุและผล รวมทั้งอาวุธขั้นทรูก็อตมาดีๆ การใช้วิธีสกปรกแบบนี้มีแต่จะทำให้ผู้คนหัวเราะเยาะ”

ในตอนนี้เหล่าบุดด้าไม่ได้ดูอวดดีเหมือนกับก่อนหน้านี้ การที่หานเซิ่นรับการโจมตีของเบิร์นนิ่งแลมป์ไปโดยที่ไม่เป็นอะไรเลยนั้นทำให้พวกเขาเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมา

“อมิตาพุทธ!” เบิร์นนิ่งแลมป์นำเอามีดเหตุและผลของเขาออกมา

เมื่อมีดนั่นมาอยู่ในมือของเขา ออร่าของเบิร์นนิ่งแลมป์ก็เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน มันเหมือนกับว่ามีเทพสปิริตเข้ามาสิงร่างกายของเขา แสงบุดด้านั้นสว่างไสวยิ่งกว่าเดิมและแผ่พลังที่น่ากลัวออกมาทางหานเซิ่นราวกับคลื่น

แต่ไม่สำคัญว่าเบิร์นนิ่งแลมป์จะเพิ่มพลังขึ้นสักแค่ไหน หานเซิ่นก็ไม่ได้เหลียวไปมองเขาแม้แต่น้อย หานเซิ่นแค่จ้องมองไปที่มีดเหตุแลผล ก่อนที่จะหัวเราะออกมา
“เบิร์นนิ่งแลมป์! เบิร์นนิ่งแลมป์! เจ้าเป็นคนที่ใช้ได้ ทำได้ดีมากจริงๆ เจ้าเปลี่ยนมีดเปล่าของข้าให้กลายเป็นอาวุธที่สุดยอด ความจริงแล้วข้าควรจะขอบใจเจ้า”

เบิร์นนิ่งแลมป์ขึ้นเสียง “นี่คืออาวุธเผ่าพันธุ์ของบุดด้า! เจ้าอย่าได้มาพูดจาไร้สาระ!”

เขาไม่ปล่อยให้หานเซิ่นได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น เขาฟันออกไปในทางหานเซิ่น มีดแสงบุดด้าถูกปล่อยออกไปจากมีด

หานเซิ่นไม่แม้แต่จะหลบ เขาใช้ฝ่ามือของตัวเองแทนมีดและฟันออกไปข้างหน้าด้วยวิชามีดเขี้ยวดาบ

มีดแสงสีม่วงพุ่งออกไปจากฝ่ามือของหานเซิ่น มันไปปะทะกับมีดแสงบุดด้าของเบิร์นนิ่งแลมป์แบบตรงๆ มีดแสงบุดด้านั้นดูแข็งแกร่ง แต่มีดแสงสีม่วงของหานเซิ่นก็สามารถตัดผ่านมันไปได้ และมันยังพุ่งต่อไปหาเบิร์นนิ่งแลมป์

เบิร์นนิ่งแลมป์ตกใจ เขารีบโยกตัวหลบ มันเกือบจะสายเกินไป ชุดของเขานั้นถูกตัดไปเล็กน้อย

ผู้คนในจักรวาลตกตะลึง เบิร์นนิ่งแลมป์ติดท็อปร้อยในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโน ถึงพลังของเขาจะไม่ได้ดีเด่นอะไร แต่เขาก็ยังเป็นถึงขั้นบัตเตอร์ฟลาย นอกจากนั้นเขายังมีอาวุธขั้นทรูก็อตอยู่ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่สามารถเอาชนะหานเซิ่นได้

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset