บุดด้านั้นมีปัญหาทางด้านทรัพยากรและยีนของพวกเขา มีเพียงแค่เบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าเท่านั้นที่เป็นระดับเทพเจ้า แต่อายุขัยของเขาใกล้จะหมดแล้ว ดังนั้นการจะเลื่อนระดับขึ้นไปอีกจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้
การที่คนแบบนั้นติดอันดับหนึ่งในร้อยได้นั้นทำให้หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจ
น่าเสียดายที่หานเซิ่นไม่ได้ดูการต่อสู้ของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนทั้งหมด เขาดูแค่การต่อสู้ที่เกี่ยวข้องกับเขาเท่านั้น เขาไม่ได้เห็นว่าเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่านั้นขึ้นมาอยู่ในร้อยอันดับแรกได้ยังไง
พระเจ้ามองอันดับของหานเซิ่นและหัวเราะ “อันดับที่หนึ่งร้อยนั้นถือว่าไม่เลวร้ายอะไร ถึงแม้จุดเริ่มต้นจะเป็นอันดับที่ต่ำที่สุด แต่การต่อสู้เพื่อแย้งอันดับที่สูงกว่าจะเป็นอะไรที่สนุก”
หานเซิ่นชี้ไปที่อันดับแปดสิบสี่ของเบิร์นนิ่งแลมป์และถาม
“เห็นการประลองของหมอนี่ไหม? เขาขึ้นมาติดในร้อยอันดับแรกได้ยังไง? เท่าที่ข้ารู้เขาเป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นลาร์วาเท่านั้น”
“เขาไม่ใช่ขั้นลาร์วา เขาเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายเหมือนกับเจ้า”
พระเจ้าหยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อไปว่าเบิร์นนิ่งแลมป์คนนี้ค่อนข้างน่าสน พลังของเขาดี แต่อายุขัยของเขาใกล้จะหมดแล้ว เขาต้องพึ่งพาสมบัติเพื่อมาถึงจุดนี้ การที่เขาติดอันดับหนึ่งในร้อยได้ก็เป็นเพราะสมบัตินั่น”
“สมบัติอะไรกัน?” หานเซิ่นถามด้วยความอยากรู้
“มันเป็นมีดที่มีพลังเหตุ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสมบัติขั้นทรูก็อต แต่มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลก มันดูเหมือนกับอาวุธเผ่าพันธุ์ แต่มันไม่ใช่อาวุธเผ่าพันธุ์” พระเจ้าพูด
“บุดด้ามีสมบัติขั้นทรูก็อตด้วยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นไม่เชื่อในเรื่องนั้น
“ถ้าเขาต่อสู้ เจ้าก็จะมีโอกาสได้เห็นมัน” พระเจ้าพูดพร้อมกับยักไหล่
หานเซิ่นไม่ได้พูดอะไรอีก แต่เขาได้ทำการตัดสินใจว่าในตอนที่การประลองจบลง เขาจะไปเยือนเผ่าบุดด้า หานเซิ่นจะไปเอามีดเปล่ากลับคืนมา นอกจากนั้นเขายังจะชิงมีดขั้นทรูก็อตที่เบิร์นนิ่งแลมป์ใช้ในการประลองมาด้วย
‘ในตอนที่คนๆหนึ่งจะล้างแค้น เขาจะเอาคืนเป็นสามเท่าของสิ่งที่ถูกช่วงชิงไป เขาขโมยมีดเปล่าของเราไป… เดี๋ยวก่อนนะ… มีดเปล่านั่น… นี่มีดขั้นทรูก็อตที่เบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่ากำลังใช้อยู่อาจเกี่ยวข้องกับมีดเปล่าของเรา’ จู่ๆหานเซิ่นก็คิดขึ้นมาได้
เหตุผลที่หานเซิ่นไม่คิดแบบนั้นในตอนแรก นั่นเป็นเพราะเขาไม่เชื่อว่ามีดเปล่าจะถูกนำไปทำเป็นอาวุธขั้นทรูก็อตได้ แต่เมื่อมันคิดเกี่ยวกับมันดูดีๆแล้ว การที่จู่ๆเผ่าบุดด้ามีมีดขั้นทรูก็อตก็ดูเป็นอะไรที่บังเอิญเกินไป
หานเซิ่นเกิดอยากจะเห็นมีดของเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าที่พระเจ้าพูดถึงขึ้นมา แต่อันดับของเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่านั้นต่ำเกินไป มันไม่มีใครท้าเขาสู้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่มีโอกาสจะได้เห็นมัน
“นี่มันกฎบ้าบออะไรเนี่ย? เบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าแก่ๆคนนั้นได้อันดับที่แปดสิบสี่เนี่ยนะ ไม่มีทาง!” หานเซิ่นไม่พอใจกับกฎที่พระเจ้าตั้งขึ้นมา
ถ้าหานเซิ่นจะท้าเบิร์นนิ่งแลมป์อัลฟ่าด้วยตัวเอง อันดับที่แปดสิบสี่ก็เป็นอะไรที่ต่ำเกินไป มันไม่คุ้มค่าที่จะทำแบบนั้น
“ยังไงซะมันก็เหลือเวลาอีกสิบวัน เราควรรอไปก่อน” หานเซิ่นนั่งลงข้างๆพระเจ้าและมองดูการต่อสู้
การประลองรอบแรกนั้นคือการท้าชิงอันดับที่หนึ่งของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ หานเซิ่นคิดว่ามันคงจะเป็นเพราะผู้นำเผ่าเวรี่ไฮกดแย่งอันดับที่หนึ่งไม่ทันโกลเด้นโกรวเลอร์ เขาถึงต้องมาท้าชิงแบบนี้
“ระหว่างผู้นำเผ่าเวรี่ไฮและโกลเด้นโกรวเลอร์ เจ้าคิดว่าฝ่ายไหนแข็งแกร่งกว่ากัน?” หานเซิ่นถามพระเจ้า
“พวกเขาทั้งคู่ต่างเป็นที่สุดของระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อต มันบอกได้ยากว่าฝ่ายไหนจะชนะ แต่ถ้าให้ข้าเดิมพัน ข้าขอเดิมพันข้างโกลเด้นโกรวเลอร์” พระเจ้าพูด
“ทำไมกัน?” เมื่อได้ยินว่าพระเจ้าเดิมพันข้างโกลเด้นโกรวเลอร์ หานเซิ่นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย
“สายเลือดของมันดีที่สุดในจักรวาลนี้ มันเป็นหนึ่งในสายเลือดเก่าแก่ที่แข็งแกร่งที่สุดที่เคยมีมา ถึงแม้เลือดของโกลเด้นโกรวเลอร์จะไม่บริสุทธิ์ แต่พลังยีนของมันก็เกือบจะดีเท่ากับโกรวเลอร์ที่เลือดบริสุทธิ์เลย ส่วนสายเลือดของเวรี่ไฮถึงจะไม่เลว แต่มันก็ไม่ได้ดีเท่ากับของโกรวเลอร์ ดังนั้นเมื่อดูจากสายเลือดแล้ว โกลเด้นโกรวเลอร์เป็นฝ่ายที่ได้เปรียบ แต่สายเลือดนั้นไม่ใช่ตัวตัดสินทุกอย่าง มันยังขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและความสามารถด้วย พวกเขาทั้งคู่ต่างอยู่ในจุดสูงสุด ดังนั้นใครจะเป็นฝ่ายชนะก็ยากจะบอกได้” พระเจ้าพูด
ขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน โกลเด้นโกรวเลอร์และผู้นำเผ่าเวรี่ไฮก็เข้าไปในสนามประลองเรียบร้อยแล้ว
“เริ่มด้วยคู่โกลเด้นโกรวเลอร์และผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเลยหรือเนี่ย? นี่เป็นอะไรที่น่าตื้นเต้นที่สุด!”
“เจ้าคิดว่าฝ่ายไหนจะชนะ? ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮหรือโกลเด้นโกรวเลอร์?”
“แน่นอนอยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นโกลเด้นโกรวเลอร์ มันกลืนแอนเชี่ยนท์ธันเดอร์ก็อตเข้าไปอย่างง่ายดาย มันไร้เทียมทาน”
“ข้าคิดว่าผู้นำเผ่าเวรี่ไฮจะเป็นฝ่ายชนะ เพราะยังไงซะเขาก็เป็นผู้นำของเผ่าพันธุ์สูงสุดในจักรวาล สิ่งมีชีวิตธรรมดานั้นไม่อาจเทียบกับเขาได้”
ทุกคนต่างก็พูดคุยกันเกี่ยวกับการต่อสู้ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น อสูรขนสีเขียวดูเป็นกังวลและพูดขึ้นว่า
“ผู้นำเมาท์เทนน้อยอวดดีเกินไปที่เลือกอันดับหนึ่งตั้งแต่แรก เขาควรจะเลือกอันดับที่ต่ำกว่าแล้วค่อยท้าชิงอันดับทีหลัง”
ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆไม่เห็นด้วย เธอส่ายหัวและพูด
“นั่นจะทำให้คนอื่นคิดว่าเขาอ่อนแอ ถ้าเขาจะชนะ เขาต้องต่อสู้เหมือนกับแชมป์เปี้ยนที่ไร้เทียมทาน นั่นถึงจะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าเขาแข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลนี้”
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮปรากฏตัวในสนามประลองอวกาศด้วยชุดเขียวที่ดูเหมือนกับแฟรี่ แต่ทว่าใบหน้าของเขาดูเย็นชาอย่างมาก มันเหมือนกับว่าเขาตัดขาดจากทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล ดวงตาของเขาไม่แสดงถึงอารมณ์ใดๆ เขาดูเหมือนกับเครื่องจักรที่ไร้ความรู้สึก
โกลเด้นโกรวเลอร์นั้นเข้ามาในสนามประลองเหมือนอย่างทุกครั้ง ร่างกายของมันเต็มไปด้วยขนสีทองอร่ามเหมือนกับว่ามันถูกทำขึ้นมาจากไหมสีทอง
“ข้าได้ยินมาว่าเผ่าพันธุ์ของเจ้ากลืนกินได้ทุกอย่าง เจ้ากินแอนเชี่ยนท์ก็อตและกลืนนกฟีนิกซ์ ตั้งแต่สมัยโบราณพวกเจ้าก็อยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร มันเป็นอะไรที่ยากมากๆที่จะหาตัวที่ยังมีชีวิตอยู่”
ผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่ได้พูดล้อเล่น ยิ่งสิ่งมีชีวิตหนึ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ มันก็มีโอกาสสูงเท่านั้นที่พวกเขาจะทำลายตัวเอง มันมักจะเป็นแบบนั้นเสมอ เผ่าพันธุ์ที่ไร้เทียมทานในสมัยโบราณกาลนั้นหาได้ยากมากๆที่จะยังคงสืบสายเลือดมาจนถึงปัจจุบัน
มันมีเผ่าพันธุ์ที่ยิ่งใหญ่มากมายที่ถูกลบหายไปจากประวัติศาสตร์ แม้แต่มังกรและฟินิกซ์ที่มีสายเลือดที่ไม่บริสุทธิ์ก็ถือว่าหาได้ยากในยุคสมัยนี้
ความโอหังทำให้สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดล้มตาย การชนะมากๆจะนำไปสู่ความล้มเหลว มันเป็นสมดุลธรรมชาติของจักรวาล
โกลเด้นโกรวเลอร์ไม่มีอารมณ์จะมาพูดคุยเกี่ยวกับการเกิดและการล่มสลายของอารยธรรม มันเปิดปากขึ้นเหมือนกับสิงโตที่จะกลืนท้องฟ้า มันพยายามจะกลืนกินผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเข้าไป
ทันใดนั้นทั้งอวกาศก็ปกคลุมด้วยปากขนาดใหญ่ของโกลเด้นโกรวเลอร์ ปากของมันสร้างวังวนที่มีพลังดูดที่น่ากลัวมากๆขึ้นมา แม้แต่สิ่งมีชีวิตขั้นทรูก็อตก็ไม่สามารถต่อต้านแรงดูดนั้นได้
แอนเชี่ยนท์ธันเดอร์ก็อตเคยถูกกลืนเข้าไปด้วยวิธีนี้ ในตอนนี้โกลเด้นโกรวเลอร์พยายามจะใช้วิธีเดิม มันกำลังจะกลืนผู้นำเผ่าเวรี่ไฮเข้าไปเช่นกัน
สีหน้าของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮไม่เปลี่ยนแปลง แต่ออร่าของเขาดูเปลี่ยนไป มันเหมือนกับว่าเขารวมเข้ากับอวกาศอันกว้างใหญ่ของจักรวาล เขายกมือขึ้นมาอย่างช้าๆ
ทันใดนั้นมันก็เหมือนกับว่าทั้งจักรวาลถูกพลิกเอาด้านบนลงล่างและเอาด้านล่างขึ้นบน จู่ๆโกลเด้นโกรวเลอร์ที่อ้าปากขึ้นราวกับจะกลืนกินทั้งท้องฟ้าก็ไปอยู่บนฝ่ามือของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮ
มันไม่ใช่แค่โกลเด้นโกรวเลอร์เท่านั้น แม้แต่อวกาศทั้งหมดก็ไปอยู่ในมือของผู้นำเผ่าเวรี่ไฮด้วย โกลเด้นโกรวเลอร์นั้นเป็นแค่ส่วนหนึ่งของมัน