Super God Gene – ตอนที่ 2861 อบิสไนท์

“ไม่อยากเชื่อเลยว่าดราก้อนวันจะถูกฆ่าตายแบบนั้น…” เสียงของผู้หญิงคนนั้นฟังดูแปลกมากๆ

ผู้นำปราสาทนภาถอนหายใจและพูด “ข้าหวังว่าเผ่าดราก้อนจะก้าวข้ามการสูญเสีญครั้งนี้ไปได้”

“เผ่าดราก้อนใช้ทรัพยากรทั้งหมดเพื่อสร้างคนที่จะกลายเป็นผู้นำคนใหม่ของเผ่าดราก้อนขึ้นมา แต่เขาถูกฆ่าตายไปแบบนั้น เผ่าดราก้อนกำลังตกอยู่ในอันตราย…”
ผู้หญิงส่ายหัวและยิ้มแห้งออกมา “ว่าแต่เดม่อนอัลฟ่าคนนั้นเป็นใครกัน? นางมีพลังที่น่ากลัว ด้วยทรัพยากรของเผ่าเดม่อนแล้ว มันไม่มีทางที่พวกเขาจะสร้างคนแบบนั้นขึ้นมาได้”

“นี่คือยุคสมัยของความโกลาหล” ผู้นำปราสาทนภาไม่ตอบ เขามองไปสู่อวกาศที่อยู่ไกลออกไป

“น่าสนใจ… น่าสนใจมาก… ถึงแม้ข้าจะไม่ได้เห็นดราก้อนหนึ่งร้อยคนรวมร่างกัน แต่มันก็ยังเป็นอะไรที่น่าอัศจรรย์อยู่ดี” พระเจ้าดูพึงพอใจอย่างมาก

“เจ้ารู้จักเดม่อนอัลฟ่าคนนี้ไหม? เขามีพลังที่น่ากลัวแบบนั้นได้ยังไงกัน?” หานเซิ่นถาม

พระเจ้าส่ายหัวา “ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่าพระเจ้าไม่ได้รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง? ข้าเป็นเหมือนกับเจ้า ข้าแค่รู้ในสิ่งที่ข้าเห็นเท่านั้น ข้าไม่เคยเห็นเดม่อนอัลฟ่ามาก่อน ดังนั้นข้าไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับนาง แต่มันมีอย่างหนึ่งที่ข้ารู้แน่ๆ”

“มันคืออะไร?” หานเซิ่นถาม

“ในมือของนาง มีดกระดูกนั่นคืออาวุธประจำตัวพระเจ้า” พระเจ้าพูดด้วยความมั่นใจ

เมื่อหานเซิ่นได้ยินแบบนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป เขาคิดกับตัวเอง
“ถ้าเดม่อนอัลฟ่าคืออาชูร่าจริงๆ แบบนั้นเมื่อก่อนจอมมารและอาชูร่าก็อัญเชิญพระเจ้ามาจริงๆอย่างนั้นสินะ ด้วยพลังของพวกเขาในตอนนั้น พวกเขาฆ่าเทพสปิริตได้ยังไงกัน? ถึงแม้เทพสปิริตจะบาดเจ็บหนัก มันก็ควรจะเป็นไปไม่ได้อยู่ดี ความแตกต่างระหว่างพลังเป็นอะไรที่มากเกินไป มันไม่มีโอกาสที่พวกเขาจะทำแบบนั้นได้ ถึงแม้พระเจ้าจะไม่ตอบโต้และปล่อยให้พวกเขาฆ่า? พวกเขาก็ไม่มีพลังพอที่จะฆ่าเทพสปิริตอยู่ดี… นั่นหมายความว่าอาชูร่าฆ่าเทพสปิริตและได้อาวุธประจำตัวพระเจ้ามา หลังจากที่มาถึงจักรวาลจีโนอย่างนั้นหรอ?”

หานเซิ่นไม่สามารถคาดเดาความจริงได้ แต่ที่เขารู้สึกคาใจที่สุดก็คือเรื่องที่เดม่อนอัลฟ่านั้นดูเหมือนกับซีโร่ไม่มีผิด
‘ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องหาโอกาสพูดกับจอมมารเกี่ยวกับอาชูร่าอีกครั้ง’

“นั่นคืออาวุธประจำตัวพระเจ้าของเทพสปิริตคนไหน?” หานเซิ่นถาม

“มันมีพระเจ้าอยู่มากเกินไป ข้าจำพวกเขาไม่ได้ทั้งหมด” พระเจ้าพูด

“มันมีพระเจ้ามากมายขนาดนั้นเลยหรือ?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน

“พระเจ้าที่แท้จริงนั้นมีไม่มาก” พระเจ้าพูดและก็ไม่พูดอะไรเพิ่มอีก

การต่อสู้ของเดม่อนอัลฟ่าเป็นที่ตกตะลึงไปทั้งจักรวาล เดม่อนกลายเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีชื่อเสียงในหมู่เผ่าพันธุ์ชั้นสูงในชั่วพริบตา ตอนนี้พวกเขาแทบจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในจักรวาล ทุกคนต่างเชื่อว่าเผ่าเดม่อนจะเลื่อนอันดับขึ้นในเร็วๆนี้ มันขึ้นอยู่กับว่าเดม่อนอัลฟ่าจะเริ่มการต่อสู้ชิงตะเกียงของจีโนฮอลล์เมื่อไหร่

ด้วยพลังของเดม่อนอัลฟ่า เผ่าเดม่อนคงจะเข้ามาติดสิบอันดับเผ่าพันธุ์สูงสุดได้โดยไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนเผ่าพันธุ์ที่เคยทัดเทียมกับเผ่าเดม่อนต่างก็รู้สึกว่าพวกเขากำลังเผชิญกับวิกฤต พวกเขาคิดว่าเดม่อนอัลฟ่านั้นอาจจะมาทำลายเผ่าพันธุ์ของพวกเขาเพื่อชิงดินแดนกับซีโน่เจเนอิคสเปชไปได้ทุกเมื่อ หลายเผ่าพันธุ์ได้ทำการส่งทูตไปขอเป็นพันธมิตรกับเผ่าเดม่อนเรียบร้อยแล้ว

แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับหานเซิ่น หลังจากที่เขากลายเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลายเรียบร้อยแล้ว มันจึงไม่มีทรัพยากรมากพอที่จะสนับสนุนเขาไปถึงขั้นทรูก็อต ดังนั้นเขาจึงมองดูการต่อสู้ของคนอื่นร่วมกับพระเจ้า

แต่นอกจากการต่อสู้ระหว่างเดม่อนอัลฟ่าและดราก้อนวันแล้ว มันก็ไม่มีการต่อสู้ที่น่าสนใจมากนัก ยอดฝีมือทั้งหมดแค่ต่อสู้จนถึงจุดที่ผู้ชนะถูกตัดสิน มีน้อยคนนักที่จะเสียชีวิตในการประลอง

สิ่งที่เกิดขึ้นกับดราก้อนวันทำให้ยอดฝีมือทุกคนระมัดระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม พวกเขาจะไม่ประมาทคู่ต่อสู้คนไหนๆที่พวกเขาพบ

โกลเด้นโกรวเลอร์ยังคงไร้เทียมทานและพลังที่น่ากลัวของมันก็ถูกผู้คนส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่ามันแข็งแกร่งที่สุด คนส่วนใหญ่เชื่อว่าโกลเด้นโกรวเลอร์จะเป็นผู้ชนะในการประลองครั้งนี้ พวกเขาคิดว่ามันมีโอกาสชนะมากกว่าเดม่อนอัลฟ่าซะอีก

ส่วนผู้นำปราสาทนภาและผู้นำเผ่าเวรี่ไฮนั้นไม่จำเป็นต้องบรรยาย คู่ต่อสู้ของพวกเขายอมแพ้ไป ผู้ชมจึงไม่สามารถบอกได้ว่าจริงๆแล้วพวกเขาแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่

แต่คนที่หานเซิ่นรู้สึกสนใจมากที่สุดคือชายที่มีชื่อว่าโหลวเลี่ย คนๆนี้สามารถเอาชนะซีโน่เจเนอิคขั้นบัตเตอร์ฟลายได้อย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหานเซิ่นพบบางสิ่งที่คุ้นเคยเกี่ยวกับคนๆนั้น

“นี่เขาเป็นสมาชิกของพยุหะโลหิตอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัย

“โหลวเลี่ยคนนี้น่าสนใจ” พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม

“ทำไมเขาถึงน่าสนใจ?” หานเซิ่นถาม

“เขาไม่เหมือนเจ้าที่เป็นตัวปลอม เขาเป็นมนุษย์จริงๆ” พระเจ้าตอบ

“เขาเป็นมนุษย์? ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะทำอะไร?”
หานเซิ่นพยายายทำให้คำถามของเขาฟังดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่เขาอยากจะรู้จริงๆว่าพระเจ้าจะทำอะไรถ้าเขาพบมนุษย์คนหนึ่งเข้า

“ข้ายังไม่มีแผนจะทำอะไร ข้าจะดูการประลองต่อไปและตั้งตารอการต่อสู้ของคนที่น่าสนใจ” คำตอบของพระเจ้าทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ

หานเซิ่นคิดว่ามนุษย์นั้นเป็นสิ่งต้องห้ามของจักรวาลนี้ เมื่อพระเจ้าพบว่าโหลวเลี่ยเป็นมนุษย์คนหนึ่ง หานเซิ่นก็เดิมพันว่าเขาจะทำอะไรบางอย่าง

“อย่ามองข้าแบบนั้น ข้าเป็นพระเจ้าไม่ใช่หมาบ้า เจ้าคิดว่าข้าจะฆ่าใครก็ตามที่ข้าเห็นอย่างนั้นหรอ?” พระเจ้าหัวเราะ

หานเซิ่นมองไปที่พระเจ้าและพูด “ข้าคิดว่าเจ้าจะปฏิบัติกับมนุษย์แตกต่างออกไปซะอีก”

“ข้าจะปฏิบัติกับพวกเขาต่างออกไป แต่การประลองบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนดำเนินตามกฎที่ข้าตั้งเอาไว้ ถ้าข้าเป็นคนที่แหกกฎซะเอง มันก็เป็นอะไรที่ไม่เข้าท่าเอาซะเลย”
หลังจากนั้นเขาก็หันมาหานเซิ่นด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่เหมือนรอยยิ้ม “แล้วเจ้าล่ะ? เจ้าปฏิบัติกับมนุษย์แตกต่างออกไปเหมือนกันใช่ไหม ทำไมเจ้าถึงได้เสแสร้งปลอมตัวเป็นมนุษย์?”

“ข้าบอกเจ้าแล้วยังไงว่าข้าเป็นมนุษย์ มันไม่ได้เสแสร้ง” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยักไหล่

หลังจากนั้นพวกเขาทั้งคู่ก็หยุดพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้และหันไปดูการประลองกันต่อ

มันมียอดฝีมือที่น่ากลัวอยู่มากมายในจักรวาล ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่าการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนนั้นจะเต็มไปด้วยคนของสามเผ่าพันธุ์สูงสุด แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น มันมียอดฝีมือหลายคนที่มาจากสามเผ่าพันธุ์สูงสุดก็จริง แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าส่วนใหญ่นั้นไม่ได้มาจากเผ่าพันธุ์สูงสุดทั้งสาม มันมีเผ่าพันธุ์มากมายที่หานเซิ่นไม่เคยได้ยินมาก่อน

“ดูเหมือนว่าในจักรวาลนี้จะมีสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวซ่อนตัวอยู่มากมาย เราต้องระมัดระวังเอาไว้”
หานเซิ่นมองดูคู่ต่อสู้คนต่อไปและพบว่ามันคืออบิสไนท์ขั้นบัตเตอร์ฟลาย มันค่อนข้างแข็งแกร่ง มันบดขยี้ซีโน่เจเนอิคระดับเดียวกันที่เป็นคู่ต่อสู้ในรอบนี้ได้อย่างง่ายดาย

หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ถึงแม้มันจะแข็งแกร่ง แต่มันก็ไม่น่าจะต่อกรกับเราได้’

“การต่อสู้นัดต่อไปเป็นอะไรที่น่าเบื่อ เจ้าอยากจะเปลี่ยนมาเล่นหมากล้อมหน่อยไหม?” พระเจ้ายืดเส้นยืดสายขณะที่พูดกับหานเซิ่น

“เอาสิ” หานเซิ่นไม่ปฏิเสธ เขาต้องการเล่นหมากล้อมกับพระเจ้า

ถึงแม้หานเซิ่นจะแพ้ตลอด แต่ฝีมือการเล่นหมากล้อมของเขาก็พัฒนาขึ้นเพราะการพ่ายแพ้เหล่านั้น

เกมส์หมากล้อมก็เหมือนกับเกมส์การต่อสู้ ยิ่งเขาพัฒนาฝีมือการเล่นหมากล้อมมากเท่าไหร่ เขาก็จะได้ไอเดียใหม่ที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการต่อสู้จริง นั่นทำให้เขาอยากจะเล่นหมากล้อมกับพระเจ้า

ด้วยลักษณะนิสัยของหานเซิ่น ถ้าเขาไม่ชนะสักครั้ง เขาก็จะไม่เลิกลาเด็ดขาด

แต่หลังจากพ่ายแพ้เกมส์หมากล้อมติดต่อกันหลายสิบครั้ง ในที่สุดการต่อสู้รอบต่อไปของหานเซิ่นก็มาถึง

หานเซิ่นลุกขึ้นและพูด “ปล่อยกระดาษไว้แบบนี้ พวกเราจะเดินกันต่อในตอนที่ข้ากลับมา”
หมากกระดานนี้ยังเดินไปได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น และมันดูเหมือนว่าเขากำลังจะเป็นฝ่ายชนะ ดังนั้นหานเซิ่นต้องการจะจบการต่อสู้กับอบิสไนท์ให้เร็วที่สุดเพื่อที่เขาจะได้มาเดินหมากกับพระเจ้าต่อ

“โอเค” พระเจ้าพูดด้วยรอยยิ้ม

หานเซิ่นรับคำเชิญของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนและเข้าไปในสนามประลอง

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset