ตอนที่ 2827 ต่อสู้กับมีดเทพอีกครั้ง
“เจ้าเป็นใครกัน? เจ้ารู้ชื่อข้าได้ยังไง?” กูหว่านเอ๋อมองหานเซิ่นด้วยความแปลกใจ ใบหน้าของหานเซิ่นดูแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งนั่นทำให้เธอจำเขาไม่ได้ แต่ก่อนที่หานเซิ่นจะได้ตอบกลับไป มีดเทพก็ปลดปล่อยเพลิงสีเลือดที่น่ากลัวออกมา มันพุ่งออกจากมือของกูหว่านเอ๋อและตรงเข้าหาหานเซิ่น เปลวเพลิงสีม่วงนั้นก่อตัวเป็นเงาปีศาจสีเลือดที่จับมีดเทพขณะที่พุ่งเข้าฟันใส่หานเซิ่น
“มันคือซุปเปอร์สเปชสแลซที่รวมพลังธาตุกาลเวลาและอวกาศเข้าด้วยกัน มันจะตัดสิ่งที่อยู่ในอดีต ซึ่งทำให้มันเป็นการโจมตีที่ไม่มีใครป้องกันได้ เราจะป้องกันมันได้ไหม? เราจะคาดเดาวิถีของมีดหนึ่งวินาทีก่อนหน้าได้ไหมนะ?” หานเซิ่นไม่แน่ใจ แต่เขาจำเป็นต้องลองดู
โล่เมดูซ่าส์เกซปรากฏขึ้นในมือของหานเซิ่น ส่วนมืออีกข้างของเขาถือดาบโคลด์ไลท์อยู่
ในตอนแรกหานเซิ่นมีแผนที่จะใช้ปืนของมนตรา แต่มนตราเป็นส่วนหนึ่งของเขาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้เธอไม่สามารถกลายเป็นปืนได้ แถมตอนนี้พลังของดาบโคลด์ไลท์ก็เหนือกว่าปืนของมนตรา ดังนั้นหานเซิ่นจึงใช้ดาบโคลด์ไลท์แทน
หานเซิ่นคำนวณวิถีของดาบโคลด์ไลท์และตำแหน่งป้องกันของโล่เมดูซ่าส์เกซเพื่อบังคับให้มีดเทพฟันไปในตำแหน่งที่เขาต้องการ
การจะคาดเดาหนึ่งวินาทีล่วงหน้าให้ถูกต้องนั้นเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้ แต่หานเซิ่นสามารถคาดเดาและบังคับให้มีดเทพไปทางที่เขาคิดเอาไว้ได้ นั่นทำให้มีดเทพไม่สามารถโจมตีใส่เขาในอดีตหนึ่งวินาทีก่อนหน้าได้
การใช้สติปัญญาเพื่อต่อสู้กับมีดที่สามารถเดินทางผ่านกาลเวลาได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ แต่นี่เป็นโอกาสเดียวของหานเซิ่นที่จะต่อสู้กับมีดเทพ
มีดเทพฟันถูกแผ่นหลังของหานเซิ่นและตัดผิวหนังของเขาจนเปิดออก เลือดที่ตกผลึกเหมือนกับคริสตัลและกล้ามเนื้อที่เหมือนกับหยกเผยออกมาให้เห็น
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง “มีดเทพนั่นทรงพลังมากๆ ถึงร่างซีโน่เจเนอิคของเราจะเป็นแค่ขั้นลาร์วา แต่ความแข็งแกร่งของมันควรจะเทียบได้กับขั้นบัตเตอร์ฟลาย แต่มันก็ยังตัดร่างกายเราได้ พลังของมีดเทพนั้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ มันอาจจะถึงขั้นทรูก็อตเรียบร้อยแล้ว”
การโจมตีนั้นอยู่ภายในการคาดเดาของหานเซิ่น ดังนั้นหานเซิ่นไม่ได้ตื่นตะหนกอะไร เขาปรับเปลี่ยนตำแหน่งของโล่เมดูซ่าส์เกซและดาบโคลด์ไลท์
“มันจะฆ่าเจ้า รีบหนีไปจากที่นี่!” ถึงกู่หว่านเอ๋อจะจำหานเซิ่นไม่ได้ แต่เธอก็ยังเตือนเขาด้วยความหวังดี
แต่หานเซิ่นไม่ได้สนใจที่เธอพูด กู่หว่านเอ๋อนั้นเป็นปมของความโศกเศร้าทั้งหมดของไผ่เดียวดาย ถ้าเขาช่วยกู่หว่านเอ๋อได้ ไผ่เดียวดายก็จะไม่ต้องเป็นทุกข์อีกต่อไป ในเมื่อเขามีโอกาสที่จะทำแบบนั้นได้ แน่นอนว่าเขาจะลองเสี่ยงดู
ร่างกายของหานเซิ่นถูกฟันอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่ตำแหน่งที่เป็นอันตรายอะไร
“ดูเหมือนว่าการคาดเดาและการคำนวณของเรายังคงไม่ดีพอ เราจำเป็นต้องปรับปรุงในการต่อสู้จริง”
หานเซิ่นไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร จริงๆแล้วเขารู้สึกดีใจ ถึงแม้เขาจะถูกฟัน แต่มันไม่ใช่จุดที่เป็นอันตรายอะไร นั่นหมายความว่าวิธีการของเขาได้ผล
หานเซิ่นทำการต่อสู้กับมีดเทพต่อไปและได้รับบาดแผลมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าลองมองดูดีๆจะเห็นว่าบาดแผลที่เขาได้รับนั้นมีขนาดเล็กลง
เคร๊ง!
มีดเทพฟันถูกโล่เมดูซ่าส์เกซ ซึ่งทำให้ร่างกายของหานเซิ่นไม่ได้รับความเสียหายใดๆ เขารู้สึกดีใจจนเขาเกือบจะร้องตะโกนด้วยความสุข ในที่สุดเขาก็สามารถป้องกันการโจมตีของมีดเทพก่อนล่วงหน้าหนึ่งวินาทีได้สำเร็จ พลังซุปเปอร์สเปชสแลซนั้นเป็นเหมือนกับการขี้โกง แต่เขาสามารถป้องกันมันได้
ขณะที่หานเซิ่นกำลังตื่นเต้น เขาก็ถูกฟันใส่อีกครั้ง ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เขากลับมามีสมาธิอีกครั้ง เขารู้ตัวว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมามัวดีใจ เขายังคงไม่สามารถป้องกันซุปเปอร์สเปชสแลซได้อย่างสมบูรณ์แบบ
แต่เมื่อเทียบกับตอนแรกที่เพิ่งจะเริ่มต่อสู้ การเคลื่อนไหวของหานเซิ่นในตอนนี้ดูไหลเลื่อนกว่ามาก เขาสามารถป้องกันการโจมตีของมีดเทพได้บ่อยครั้งขึ้นเรื่อยๆ
กู่หว่านเอ๋อตั้งใจจะเตือนหานเซิ่นให้รีบหนีไปอีกครั้ง แต่เธอสังเกตเห็นว่าหานเซิ่นเริ่มจะป้องกันการโจมตีของมีดเทพได้ เธอดูตกตะลึงกับเรื่องนั้น
เธอไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตไหนที่ต่อสู้กับมีดเทพได้แบบนี้มาก่อน สิ่งมีชีวิตอื่นในฟาร์มพระเจ้านั้นจะแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นมีดเทพ
แต่คนแปลกหน้าคนนี้กลับสามารถต่อสู้กับมันได้ เขาป้องกันการโจมตีของมีดเทพได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ
ในเวลาแบบนี้หานเซิ่นรู้สึกตื่นเต้นทั้งร่างกายและจิตใจ มันเหมือนกับความตื่นเต้นในตอนที่เขาสามารถแก้ปัญหาเดิมที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้จนสำเร็จ
ในตอนแรกหานเซิ่นคิดว่ามีดเทพนั้นทรงพลังและซุปเปอร์สเปชสแลซของมันก็เป็นอะไรที่น่ากลัวอย่างที่สุด แต่ในตอนที่เขาป้องกันมันได้เป็นครั้งแรก มันเหมือนว่าภูเขาถูกยกออกจากอกของเขา เขารู้สึกผ่อนคลายขึ้นเรื่อยๆเมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไป
ก่อนหน้านี้หานเซิ่นจะรู้สึกได้ถึงแรงกดดันเมื่อต้องเผชิญหน้ากับมีดเทพ แต่ตอนนี้ความกดดันนั้นหายไปแล้ว เขาสามารถป้องกันซุปเปอร์สเปชสแลซได้ง่ายขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป
หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าเขาสามารถควบคุมจักรวาลและกฎทั้งหมดของมันได้ มันเหมือนกับว่าเขาสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการ
ทันใดนั้นจู่ๆหานเซิ่นก็เก็บโล่เมดูซ่าส์เกซไปและใช้เพียงแค่ดาบโคลด์ไลท์เพื่อต่อสู้กับมีดเทพ ในตอนนี้นั่นคือทั้งหมดที่เขาจำเป็นต้องใช้ เขาไม่จำเป็นต้องเอาแต่ป้องกันอีกต่อไป เขาเริ่มจะเป็นฝ่ายโจมตีบ้าง
เคร๊ง! เคร๊ง! เคร๊ง
มีดและดาบปะทะกันในอากาศ คลื่นกระแทกที่เกิดขึ้นนั้นสร้างรอยร้าวของมิติในอากาศ หานเซิ่นใช้เพียงแค่ดาบเพื่อต่อสู้กับมีดเทพ มันไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เขาเอาแต่ป้องกันและหลบหลีก
“เจ้าฟันย้อนไปถูกข้าหนึ่งวินาทีก่อนหน้าแล้วจะยังไง? ข้าจะป้องกันการโจมตีของแกล่วงหน้าก่อนหนึ่งวินาที”
ในตอนนี้หานเซิ่นรู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก ดาบโคลด์ไลท์ของเขาดูเหมือนกับว่าถูกกวัดแกว่งอย่างลวกๆเพื่อต่อสู้กับมีดเทพ
กู่หว่านเอ๋ออ้าปากค้าง ขณะที่เธอมองดูหานเซิ่นต่อสู้กับมีดเทพ เธอไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตไหนต่อสู้กับมีดเทพแบบนั้นมาก่อน ในตอนนี้มันเหมือนกับว่ามีดเทพกำลังเป็นฝ่ายที่ถูกไล่ต้อน
เคร๊ง!
ทันใดนั้นมีดเทพก็ถูกดาบแสงฟันกระเด็นออกไปด้านหลัง
“มีดเทพกำลังถูกไล่ต้อนจริงๆ!” ตอนนี้กู่หว่อนเอ๋อเชื่อแล้วว่ามีดเทพกำลังถูกไล่ต้อนโดยคนแปลกหน้าคนนี้
ในจังหวะต่อมา กู่หว่านเอ๋อก็เห็นมีดเทพบินหนีขึ้นไปสู่ท้องฟ้า แต่ดาบแสงของหานเซิ่นพุ่งออกไปฟันใส่มันจนร่วงกลับลงมา
“มีดเทพ… พยายามจะหนีไป…” กู่หว่านเอ๋อไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้เห็น มีดเทพกำลังพยายามหนีไปจากชายแปลกหน้าคนนี้ เธอไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นจริงๆ
หานเซิ่นฟันใส่มีดเทพซ้ำๆและทำให้มันต้องถอยหนีไปเรื่อยๆ แต่สิ่งที่ทำให้หานเซิ่นขมวดคิ้วคือความจริงที่เขาไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนต่อมีดเทพได้ เขาไม่รู้ว่ามันทำขึ้นมาจากอะไรกันแน่ แต่ดาบโคลด์ไลท์ของเขาไม่สามารถสร้างความเสียหายกับมันได้
“ถึงแม้เราจะก้าวข้ามซุบเปอร์สเปชสแลซไปได้ แต่เราก็ยังทำลายมีดเทพเล่มนี้ไม่ได้อยู่ดี ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปที่สุดแล้วเราจะแพ้” หานเซิ่นขมวดคิ้วขณะที่พยายามคิดหาทางทำลายมีดเทพเล่มนี้