ถึงไป๋ว่านเจี้ยจะรู้สึกแย่ แต่เรื่องนี้เขาก็ทำให้เขาเชื่อว่าโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์นั้นลักพาตัวมาถูกคนแล้ว ถ้านี่ไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคที่พิเศษ แบบนั้นมันจะควบคุมสถานที่ที่แปลกประหลาดอย่างสเปชการเด้นได้ยังไง?
‘แต่ถึงเราจะรู้ว่าเขาคือเด็กในชุดคลุมสีแดงคนนั้น มันก็เป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ ถ้าเราควบคุมเขาไม่ได้ แม้แต่มิสเตอร์หยินก็ควบคุมเขาไม่ได้ นั่นหมายความว่าเราคงจะต้องไปขอให้ราชครูช่วย แต่ราชครูเพิ่งจะเดินทางไปที่ระบบจักรวาลร้าง ดังนั้นเขาคงจะไม่กลับมาในเร็วๆนี้’ ไป๋ว่านเจี้ยถอนหายใจ เขารีบคิดเกี่ยวกับคนอื่น
‘ถ้าอย่างนั้นเราคงต้องขอความช่วยเหลือจากมิสเตอร์ไวท์ของวินเทอร์การ์เด้นแทน’
ไป๋ว่านเจี้ยเรียกคนใช้มาและมอบบัตรผ่านทางให้อีกฝ่าย เขากำชับคนใช้ของเขาว่า “มีมารยาทกับมิสเตอร์ไวท์ อย่าได้ล่วงละเมิดเขาเป็นอันขาด”
คนใช้รับบัตรผ่านทางไปและรีบออกเดินทางทันที ไป๋ว่านเจี้ยคิดกับตัวเองว่า
‘มิสเตอร์ไวท์เป็นคนที่รอบรู้ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า เขาก็ทำสิ่งที่น่าตกใจสำเร็จหลายอย่าง และหลังจากที่กลายเป็นระดับเทพเจ้า เขาก็ดียิ่งขึ้นไปอีก ด้วยความสามารถของเขา เขาอาจจะพอทำอะไรกับซีโน่เจเนอิคนี่ได้บ้าง’
“คารวะองค์ชาย” มิสเตอร์ไวท์เดินทางมาที่คฤหาสน์และโค้งคำนับต่อไป๋ว่านเจี้ย
“ไม่มีความจำเป็นที่มิสเตอร์ไวท์ต้องมีมารยาทขนาดนั้น”
ไป๋ว่านเจี้ยบอกให้มิสเตอร์ไวท์เงยหน้าขึ้นมา และเขาก็พูดต่อ “วันนี้ข้าขอให้มิสเตอร์ไวท์มาที่นี่ก็เพราะมันมีเรื่องที่ข้าหวังจะให้มิสเตอร์ไวท์ช่วย”
“ได้โปรดองค์ชายบอกข้ามา” มิสเตอร์ไวท์พูดอย่างอ่อนโยน
“ถ้าข้าช่วยเหลือองค์ชายได้ ข้าก็ยินดีจะทำ”
ไป๋ว่านเจี้ยบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องที่มิสเตอร์หยินใช้โกสต์เฮดฟอลกับหานเซิ่นและถูกฆ่าตายไป แต่ไป๋ว่านเจี้ยไม่ได้บอกเกี่ยวกับเรื่องราวของหานเซิ่น
หลังจากที่ได้ยินเรื่องราว มิสเตอร์ไวท์ก็คิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะพูดขึ้นมา
“ข้าจำเป็นต้องไปดูซีโน่เจเนอิคนั่นซะก่อน ข้าถึงจะตอบได้ว่าข้าจะช่วยองค์ชายได้หรือไม่”
“เชิญมิสเตอร์ไวท์ทางนี้” ไป๋ว่านเจี้ยพามิสเตอร์ไวท์ไปที่ห้องแรงโน้มถ่วงสูงที่ขังหานเซิ่นเอาไว้
หานเซิ่นเห็นไป๋ว่านเจี้ยพามิสเตอร์ไวท์มาดูเขา และในตอนที่เห็นแบบนั้น เขาก็รู้สึกดีใจขึ้นมา แต่เขาไม่กล้าจะแสดงความรู้สึกดีใจออกมา เขายังคงมองไปที่ไป๋ว่านเจี้ยด้วยใบหน้าเย้ยหยัน
“นั่นคือซีโน่เจเนอิคที่ข้าพูดถึง” ไป๋ว่านเจี้ยไม่สนใจการเย้ยหยันของหานเซิ่นและหันไปพูดกับมิสเตอร์ไวท์
มิสเตอร์ไวท์เดินมาตรงหน้าหานเซิ่นและตรวจเช็คเขา เขายื่นมือออกมาจับตัวหานเซิ่น ขณะที่มืออีกข้างกำลังนับนิ้วราวกับว่าเขากำลังคำนวณบางสิ่งบางอย่าง
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว แต่ใบหน้าของเขายังคงเต็มไปด้วยความดูถูก เขาไม่อยากให้ไป๋ว่านเจี้ยจับผิดอะไรได้
ถึงแม้ไป๋ว่านเจี้ยจะไม่ได้สังเกตถึงมัน มันก็มีกล้องวงจรปิดอยู่ที่นี่ ถ้าไป๋ว่านเจี้ยย้อนกลับไปดูภาพในกล้องวงจรปิด นั่นก็อาจจะนำภัยมาสู่มิสเตอร์ไวท์ได้
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง ‘ด้วยพลังของมิสเตอร์ไวท์ เขาจะต้องจดจำเราได้แน่นอน’
มิสเตอร์ไวท์ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรที่บ่งบอกว่าเขารับรู้ถึงเรื่องนั้น ใบหน้าของเขาไม่มีความเปลี่ยนแปลง และเขาก็ทำเหมือนกับว่าหานเซิ่นเป็นคนแปลกหน้าคนหนึ่ง เขาสัมผัสทุกซอกทุกมุมของร่างกายหานเซิ่น ก่อนที่จะกลับไปหาไป๋ว่านเจี้ย
ตลอดเวลาที่เขาทำอย่างนั้น แม้แต่หานเซิ่นเองก็ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆในดวงตาของมิสเตอร์ไวท์
‘นี่มิสเตอร์ไวท์จำเราไม่ได้อย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นรู้สึกเศร้าเกี่ยวกับเรื่องนั้น แต่เขาไม่สามารถแสดงมันออกมาได้
“มิสเตอร์ไวท์พบอะไรไหม?” ไป๋ว่านเจี้ยถาม
มิสเตอร์ไวท์หันไปมองหานเซิ่น ก่อนที่จะตอบกลับไป๋ว่านเจี้ยไปว่า
“พวกเราควรจะพูดเกี่ยวกับมันในตอนที่พวกเราออกไปจากที่นี่แล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หานเซิ่นก็รู้สึกหนาวขึ้นมา ‘นี่มิสเตอร์ไวท์จำเราได้อย่างนั้นหรอ?’
ไป๋ว่านเจี้ยเข้าใจและเชิญมิสเตอร์ไวท์ออกจากห้องแรงโน้มถ่วงไปด้วยกัน
เขาพามิสเตอร์ไวท์ไปที่ห้องรับรอง หลังจากที่พวกเขานั่งลง ไป๋ว่านเจี้ยก็พูดขึ้นว่า “พวกเราพูดกันที่นี่ได้ มิสเตอร์ไวท์บอกข้าได้ทุกอย่าง”
มิสเตอร์ไวท์ไม่ได้ตอบกลับในทันที ดูเหมือนว่าเขากำลังเรียบเรียงสิ่งที่จะพูด หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็พูดขึ้นว่า
“จากที่ข้าพอจะบอกได้ มิสเตอร์หยินไม่ควรใช้โกสต์เฮดฟอลกับเขา มิสเตอร์หยินเพิ่งจะกลายเป็นขั้นทรานส์มิวเทชั่น ถึงแม้เขาจะเป็นขั้นลาร์วาหรือขั้นบัตเตอร์ฟลาย การใช้โกตส์เฮดฟอลก็จะจบลงด้วยความตายของเขา”
ไป๋ว่านเจี้ยประหลาดใจ เขาถามขึ้นว่า “ทำไมถึงเป็นแบบนั้น?”
“ถ้าข้าคาดเดาได้ถูกต้อง ซีโน่เจเนอิคนั่นมาจากสเปชการ์เด้น”
มิสเตอร์ไวท์ค่อยๆพูด “นี่ข้าพูดถูกใช่ไหม?”
“รู้ได้ยังไงว่ามันมาจากที่ไหน?” ไป๋ว่านเจี้ยแปลกใจ เขาไม่ได้บอกมิสเตอร์ไวท์เกี่ยวกับที่มาของหานเซิ่น แต่มิสเตอร์ไวท์ก็สามารถคาดเดามันได้ นั่นเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ
มิสเตอร์ไวท์พูด “ข้าถนัดเรื่องการคาดเดา และมันไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่จะดูว่ามันมาจากที่ไหน”
“ยอดเยี่ยม แต่นั่นหมายความว่ายังไง?” ตอนนี้ไป๋ว่านเจี้ยเริ่มเชื่อมิสเตอร์ไวท์แล้ว
“จากที่ข้ารู้ สเปชการ์เด้นคือซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อต”
มิสเตอร์ไวท์ตอบ “พลังของมันเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ ถึงแม้ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่นจะพยายาม พวกเขาก็ไม่อาจจะเข้าไปในสเปชการ์เด้นได้”
มิสเตอร์ไวท์บอกได้ถึงความลับของที่นั่น ด้วยเหตุนั้นเขาจึงรู้สึกเชื่อมิสเตอร์ไวท์ยิ่งกว่าเดิม
ความลับที่ว่าสเปชการ์เด้นเป็นซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตนั้นมีน้อยคนที่จะรู้ ไป๋ว่านเจี้ยรู้ถึงเรื่องนี้ก็เพราะว่าเขาเคยได้ยินมาจากราชาไป๋
ส่วนมิสเตอร์ไวท์นั้นมาจากเผ่าพันธุ์เล็กๆเท่านั้น แต่เขากลับรู้ถึงความลับของสเปชการ์เด้น นั่นทำให้ไป๋ว่านเจี้ยเชื่อมิสเตอร์ไวท์ยิ่งกว่าเดิม
“เมื่อครู่นี้ข้าคำนวณถึงตัวตนของซีโน่เจเนอิคนั่น ถ้าให้ข้าคาดเดา เขาคือลูกของสเปชการ์เด้น นั่นทำให้เขามีความพิเศษที่สืบทอดมาจากมัน เขาเป็นเด็กพิเศษที่จะยึดครองจักรวาลได้เลย”
มิสเตอร์ไวท์หยุดไปชั่วคราวและพูดต่อ “ข้าเชื่อว่ามีบางสิ่งเกิดขึ้นในสเปชการ์เด้น ทำให้สิ่งมีชีวิตมากมายต้องตายไป นั่นจะต้องเกิดขึ้นในตอนที่เขากำเนิดขึ้นมา ซึ่งในตอนที่เด็กคนนี้ถือกำเนิด พลังชีวิตและยีนของเขาน่ากลัวยิ่งกว่าซีโน่เจเนอิคที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่เกิด เขาเกือบจะเป็นอมตะ ผู้คนอาจจะฆ่าเขาได้ แต่การจะครอบงำจิตใจของเขาเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้”
“ถ้านั่นเป็นความจริง ข้าจะควบคุมเขาได้ยังไง?” ไป๋ว่านเจี้ยรู้ว่ามิสเตอร์ไวท์ไม่ได้ไปที่สเปชการ์เด้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พูดราวกับว่าตัวเองอยู่ที่นั่น ซึ่งทำให้ไป๋ว่านเจี้ยรู้สึกสับสนอย่างมาก
“ด้วยพลังของข้า ข้าไม่คิดว่าจะช่วยเหลือองค์ชายได้” มิสเตอร์ไวท์พูด
“ทำไมองค์ชายไม่ไปขอความช่วยเหลือจากราชครู? ด้วยพลังของเขา ข้าเชื่อว่าองค์ชายจะควบคุมมันได้”
“ราชครูออกไปทำธุระ และข้ากลัวว่าเขาจะไม่กลัวมาในเร็วๆนี้”
ไป๋ว่านเจี้ยคิดว่ามิสเตอร์ไวท์ยังมีเรื่องที่จะพูดอีก ดังนั้นเขาจึงถามขึ้นว่า “มิสเตอร์ไวท์ มันไม่มีหนทางอื่นเลยอย่างนั้นหรอ?”
“มันก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหนทางอยู่เลย แต่มันจะเป็นอะไรที่น่ารำคาญมากๆ” มิสเตอร์ไวท์พูด
“มิสเตอร์ไวท์ได้โปรดบอกข้ามา” ไป๋ว่านเจี้ยพูด
“ถ้าองค์ชายต้องการควบคุมเด็กคนนี้ บางทีองค์ชายควรจะไปใช้โอเวอร์แบริ่งอาย” มิสเตอร์ไวท์พูดอย่างช้าๆ