ผู้คนของฟลาวเวอร์ก็อตนั้นถูกควบคุมโดยสกายไวน์แรดิช แต่จิตใจของพวกเขาไม่ได้ถูกกลืนกิน หลังจากที่เปลวเพลิงของฟีนิกซ์ลบล้างพลังของสกายไวน์แรดิชไปแล้ว พวกเขาก็กลับมาเป็นปกติพร้อมกับความทรงจำของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด
พวกเขารู้ว่าถ้าเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตไม่สามารถลบล้างคำสาปของสกายไวน์แรดิชได้ พวกเขาก็คงจะต้องเป็นซอมบี้ที่ไร้จิตใจไปตลอดการ นอกจากนั้นตอนนี้สเปชการ์เด้นประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั่วทั้งสเปชการ์เด้นนั้นเต็มไปด้วยพืชซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่น่ากลัว ลำพังแค่พลังของพวกเขานั้นไม่สามารถจัดการกับพวกมันได้ ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากหานเซิ่น
อันดับแรกหานเซิ่นเป็นคนเดียวที่ลบล้างคำสาปของเหล่าฟลาวเวอร์ก็อตได้ อันดับที่สองเซี่ยชิงและหานเซิ่นไม่ได้มีภูมิหลังที่โดดเด่นอะไร ด้วยความช่วยเหลือของพวกเขา เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตก็อาจจะเจริญรุ่งเรืองในอนาคต
“คำพูดไม่มีประโยชน์อะไร” หานเซิ่นมองไปที่ผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตและถามต่อไป
“เจ้าจะทำยังไงให้พวกเราเชื่อว่าฟลาวเวอร์ก็อตคนอื่นที่เหลือจะยอมติดตามพวกเราจริงๆ?”
“พวกท่านทั้งสองได้โปรดตามข้ามา ข้ามีบางสิ่งจะมอบให้กับพวกท่าน หลังจากที่ได้รับมัน พวกท่านจะควบคุมสเปชการ์เด้นได้โดยสมบูรณ์” ผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตไม่ลังเลที่จะบอกแบบนั้นกับพวกเขา
เซี่ยชิงและหานเซิ่นมองหน้ากัน เซี่ยชิงพยักหน้าและพูด
“ตกลง ถ้าเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตต้องการจะรับใช้พวกเราจริงๆ พวกเราก็จะพยายามช่วยเหลือฟลาวเวอร์ก็อตคนอื่นที่เหลือ”
ในตอนที่พวกเขากำลังจะเดินตามผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตไปนั้น ไป๋ว่านเจี้ยก้าวออกมาข้างหน้าด้วยรอยยิ้มและพูด
“อาจารย์เซี่ย ไหนๆพวกเราก็ถูกขังอยู่ที่นี่และออกไปไม่ได้ พวกเราอยากจะช่วยด้วยอีกแรง”
“ถ้าองค์ชายต้องการจะช่วยเหลือ ได้โปรดรออยู่ที่นี่ ถ้ามันมีบางสิ่งที่พวกเราต้องการ พวกเราจะมาหาองค์ชาย”
เซี่ยชิงไม่ได้โง่ เขาไม่คิดจะปล่อยให้ไป๋ว่านเจี้ยและคนอื่นได้เห็นความลับของสเปชการ์เด้น
“ถ้าอย่างนั้น พวกเราจะรอฟังข่าวจากอาจารย์เซี่ยอยู่ที่นี่”
ไป๋ว่านเจี้ยไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น เขาปล่อยให้เซี่ยชิงและหานเซิ่นตามผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตไป
หลังจากที่หานเซิ่นและคนอื่นไปแล้ว เด็กสาวก็ถามไป๋ว่านเจี้ย
“หลานชาย ทำไมเจ้าถึงไม่ฆ่าพวกเขา?”
“เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตและเซี่ยชิงนั้นไม่น่ากลัวอะไร แต่ซานมู่คนนั้นเป็นคนที่ลึกลับ”
ไป๋ว่านเจี้ยตอบ “พลังของเขาเหมือนกับเพลิงฟีนิกซ์ในตำนาน ถ้ามันคือเพลิงฟีนิกซ์จริงๆ เขาต้องมีฟีนิกซ์ขั้นทรูก็อตคอยสนับสนุนเขาอยู่ นั่นคือหนึ่งในสี่อสูรของเซเคร็ด มันไม่ใช่บางสิ่งที่พวกเราจะท้าทายได้”
“ไม่ว่าจะมองดูยังไง เขาก็ดูไม่เหมือนกับฟีนิกซ์” เด็กสาวพูด
“ข้าคิดว่าสี่อสูรของเซเคร็ดถูกฆ่าตายในสงครามของพระเจ้าแล้วซะอีก”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้มันเป็นอะไรที่น่ากลัว” ไป๋ว่านเจี้ยพูด
“ตำนานบอกว่าสี่อสูรและสิบขุนพลของเซเคร็ดนั้นถูกฆ่าตายไปหมดแล้ว แต่ในยุคสมัยนี้ดูเหมือนพวกเขาจะกลับมาปรากฏตัวอีกครั้ง เมื่อครู่นี้เทพสปิริตคนหนึ่งก็เพิ่งจะถูกฆ่าตายไป พวกเราควรจะระมัดระวังเอาไว้ พวกเราไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องที่ใหญ่โตและน่าสะพรึงกลัวขนาดนี้”
“เจ้าพูดมากเกินไปแล้ว ข้าเชื่อว่าเจ้าแค่หวาดกลัวต่อซานมู่มากกว่า” เด็กสาวพูดด้วยรอยยิ้ม
“คงจะเป็นแบบนั้น ยังไงซะเขาก็เป็นชายที่น่ากลัว ถ้าเขามีเพลิงฟีนิกซ์ในตำนานจริงๆ ข้าก็ไม่คิดว่าตัวเองจะต่อสู้กับเขาได้” ไป๋ว่านเจี้ยตอบไปตามตรง
สเปชการ์เด้นนั้นใหญ่กว่าที่พวกเขาเชื่อในตอนแรกเป็นสิบเท่า ถึงแม้ภูมิประเทศนั้นจะไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมมาก แต่มันก็มีความเปลี่ยนแปลงมากมายในรายละเอียด สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือความจริงที่พืชซีโน่เจเนอิคธรรมดาในทุ่งดอกไม้ทั้งหมดต่างเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ตอนนี้พวกมันบางส่วนกลายเป็นระดับเทพเจ้า
ขณะที่พวกเขาเดินทางผ่านทุ่งดอกไม้ พวกเขาก็เห็นซีโน่เจเนอิคที่มีร่างกายท่อนบนเป็นแม่มดและท่อนล่างเป็นดอกไม้
“พืชซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า” หานเซิ่นมองไปที่ดอกไม้แม่มดประหลาดนั่น เขาเห็นโซ่สสารออกมาจากตัวเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า
“ดอกไม้ราชินีวิวัฒนาการมากถึงขนาดนั้นเลย? สเปชการ์เด้นมีพืชซีโน่เจเนอิคที่อยู่ในระดับเดียวกันกับดอกไม้ราชินีมากมาย ถ้าพวกมันทั้งหมดถูกเร่งการเจริญเติบโตเหมือนกับดอกไม้ราชินีนี้ สเปชการ์เด้นก็คงจะกลายเป็นสถานที่ที่อันตรายมากๆ” ผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตพูดด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
หลังจากที่เขาพูด ดอกไม้ราชินีก็ลืมตาขึ้นมา เธอจ้องมาที่หานเซิ่นและคนอื่นๆ ดวงตาสีม่วงของเธอกำลังเรืองแสงออกมา ชุดดอกไม้สีม่วงแดงของเธอปลิวไสวไปกับสายลม เธอยกมือหยกขึ้น และทันใดนั้นก็มีเถาวัลย์หนามจำนวนมากพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน พวกมันเป็นเหมือนกับมังกรปีศาจที่ตรงเข้าไปหาหานเซิ่นและคนอื่นๆ
หานเซิ่นรวบรวมเพลิงฟีนิกซ์และชกหมัดออกไปข้างหน้า เปลวเพลิงสีขาวพุ่งไปปะทะกับเถาวัลย์ที่กำลังเข้ามา แต่ปรากฏว่าเปลวไฟของหานเซิ่นไม่สามารถทำอะไรเถาวัลย์ของดอกไม้ราชินีได้
“โอ้ไม่นะ! นี่เพลิงฟีนิกซ์ได้ผลเฉพาะกับแค่สกายไวน์แรดิชอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เถาวัลย์หนามพุ่งผ่านเปลวเพลิงสีขาวของหานเซิ่นมาและเข้าปกคลุมทั้งท้องฟ้าและผืนดิน
ใบหน้าของผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตและคนอื่นๆเปลี่ยนไป พวกเขาไม่เชื่อว่าหานเซิ่นจะต่อสู้กับดอกไม้ราชินีระดับเทพเจ้าได้
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็หันไปใช้อาณาเขตตงเสวียนแทน และทำให้เถาวัลย์ทั้งหมดที่กำลังพุ่งเข้ามาหยุดชะงักไป ราชินีดอกไม้พยายามจะควบคุมเถาวัลย์ของเธอ แต่ไม่ว่าเธอจะทำอะไร เถาวัลย์ทั้งหมดก็ไม่เคลื่อนไหว
หานเซิ่นไม่ได้ใช้เพลิงฟีนิกซ์อีก เขาเทเลพอร์ตไปตรงหน้าดอกไม้ราชินีและชกใส่ร่างของดอกไม้ราชินีประหลาดจนระเบิดในหมัดเดียว
ผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตและคนอื่นๆตกตะลึง
‘ข้าไม่รู้ว่าคนๆนี้เป็นใคร ข้าบอกไม่ได้จริงๆว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน ข้าไม่รู้ว่าการที่เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตรับใช้เขาจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย’
แต่สำหรับตอนนี้เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตไม่มีตัวเลือกอื่น นอกจากหานเซิ่นแล้ว มันไม่มีใครที่จะช่วยเหล่าฟลาวเวอร์ก็อตที่ถูกควบคุมได้
“ซีโน่เจเนอิคดอกไม้ราชินีระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
หานเซิ่นไม่ได้รับวิญญาณอสูร ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกเสียดาย แต่สเปชการ์เด้นนั้นประสบกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มันมีพืชซีโน่เจเนอิคอีกมายมายในสเปชการ์เด้นที่ถูกเร่งการเจริญเติบโตเหมือนกับดอกไม้ราชินี ซึ่งสำหรับหานเซิ่นแล้วนั่นถือเป็นเรื่องดี
หานเซิ่นฆ่าพืชซีโน่เจเนอิคกลายพันธุ์ระหว่างทางอีกมากมาย แต่เขาไม่ได้เผชิญหน้ากับพืชซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอีก และภายใต้การนำทางของผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อต พวกเขาก็มาถึงเมืองที่ทำขึ้นจากเถาวัลย์
ครั้งหนึ่งเถาวัลย์ที่ใช้สร้างเมืองขึ้นมาเป็นวัตถุที่ไม่มีชีวิต แต่ตอนนี้พวกมันเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตที่สมบูรณ์ พวกมันงอกใบสีเขียวและดอกไม้ต่างๆออกมา เมืองเถาวัลย์เสมือนได้รับการตกแต่งใหม่ทั้งหมด เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตดูประหลาดใจกับเมืองที่เปลี่ยนไปอย่างมาก
“ข้าชอบเมืองสวนดอกไม้ที่สวยงามนี้ ข้าจะอาศัยอยู่ที่นี่” เซี่ยชิงประกาศความรักของเขาที่มีต่อเมืองที่เหมือนกับสวนดอกไม้แห่งนี้
ปัง!
ทันใดนั้นมีการต่อสู้เกิดขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง ใบหน้าของผู้นำเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตเปลี่ยนไปเมื่อรู้สึกตัวถึงเรื่องนั้น
“มีใครบางคนบุกรุกเข้าไปในเมืองของพวกเรา สมบัติของฟลาวเวอร์ก็อตอยู่ภายในนั้น พวกเราจำเป็นต้องใช้มันเพื่อควบคุมสเปชการ์เด้น”
หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขารีบเร่งฝีเท้าไปยังจุดที่มีการต่อสู้เกิดขึ้น