หานเซิ่นจ้องมองไปยังบาดแผลที่ขนนกฟีนิกซ์สร้างขึ้นด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง จนถึงตอนนี้หานเซิ่นยังสร้างความเสียหายให้กับอีกฝ่ายไม่ได้เลย แม้แต่เปลวเพลิงฟีนิกซ์ก็ทำได้แค่เผาไหม้ผิวของสกายไวน์แรดิชในช่วงสั้นๆเท่านั้น แต่ตอนนี้ขนนกฟีนิกซ์สามารถตัดผ่านร่างกายพระเจ้าของสกายไวน์แรดิชเข้าไปได้
เปลวไฟสีขาวของฟีนิกซ์แผดเผาบาดแผลที่เกิดขึ้น แต่เมื่อเทียบกับขนาดร่างกายของสกายไวน์แรดิชแล้ว บาดแผลแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยและไม่ค่อยมีความสำคัญอะไร แต่สำหรับหานเซิ่นแล้วมันถือเป็นก้าวที่สำคัญมากๆที่จะโค้นล้มสกายไวน์แรดิช
หานเซิ่นเริ่มจะเปลี่ยนความคิดต่อเพลิงฟีนิกซ์ที่เขาได้รับมา ในตอนแรกเขาอยากจะกำจัดมันทิ้งไป เขาไม่ได้คาดคิดว่าการใช้เพลิงฟีนิกซ์คู่กับขนนกฟีนิกซ์จะปลดปล่อยพลังทำลายล้างที่สุดยอดแบบนั้น มันสามารถตัดร่างของพระเจ้าให้เปิดออกได้
แต่ในตอนนี้หานเซิ่นไม่มีเวลาที่จะมัวมาคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนั้น เขารีบใช้ขนนกฟีนิกซ์ฟันใส่ร่างของสกายไวน์แรดิชอย่างบ้าคลั่ง ดาบแสงบินไปทุกหนทุกแห่งและเฉือนร่างกายพระเจ้าของสกายไวน์แรดิช ขณะที่หานเซิ่นฟันใส่สกายไวน์แรดิชซ้ำแล้วซ้ำเล่า เลือดสีเขียวก็ไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
“หยุดเดี่ยวนี้ ไม่อย่างนั้นข้าจะฝังเจ้า!” สกายไวน์แรดิชคำรามอย่างเกรี้ยวโกรธ
แต่หานเซิ่นเมินเฉยต่อคำเตือนและฟันใส่ร่างกายของสกายไวน์แรดิชต่อไปอย่างไม่ลดละ
“นี่ถือเป็นการดูหมิ่นต่อพระเจ้า! ลูกหลาน ครอบครัวและเผ่าพันธุ์สกปรกของเจ้าจะต้องคำสาปตั้งแต่ตอนนี้ไปตลอดกาล! ภัยพิบัติครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นกับเจ้า!”
สกายไวน์แรดิชปลดปลดปล่อยเสียงคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้ ขณะที่หานเซิ่นยังคงฟันใส่ร่างกายพระเจ้าต่อไปราวกับคนบ้า
ถึงแม้การฟันแต่ละครั้งจะสร้างบาดแผลเล็กๆบนเนื้อหนังของพระเจ้า แต่หลังจากที่หานเซิ่นฟันใส่ศัตรูเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง เขาก็สามารถเปิดเนื้อหนังของสกายไวน์แรดิชจนเห็นกระดูก เลือดสีเขียวหลั่งไหลออกมา
ขณะที่สกายไวน์แรดิชตะโกนคำสาปแช่งและคำหยาบคายมาอย่างไม่หยุด หานเซิ่นก็ลืมไปแล้วว่าเขาฟันใส่พระเจ้าไปกี่ครั้ง สุดท้ายแล้วเขาก็สามารถตัดหัวของสกายไวน์แรดิชจนขาด
หัวหยกขนาดใหญ่ตกลงบนพื้นจนเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ ใบหน้าของหัวนั้นหันขึ้นไปสู่ท้องฟ้าและในที่สุดดวงตาที่เปิดสนิทอยู่ก็เปิดออก พวกมันจ้องมาที่หานเซิ่นก่อนที่จะตะโกนขึ้นว่า
“พระเจ้าไม่มีวันถูกฆ่าตาย! วันนี้เจ้าได้ทำลายร่างกายพระเจ้าของข้า แต่ข้าจะทำให้ลูกหลานและครอบครัวของเจ้าต้องชดใช้เป็นล้านเท่า ผู้หญิงทุกคนในเผ่าพันธุ์ของเจ้าจะกลายเป็นโสเภณีและผู้ชายทุกคนจะกลายเป็นทาส”
หานเซิ่นแทงขนนกฟีนิกซ์ใส่ดวงตาของพระเจ้า เลือดสีเขียวพุ่งออกมาราวกับน้ำพุและกระเด็นเต็มร่างกายของหานเซิ่น
หานเซิ่นไม่มีอะไรต้องกลัว เขารู้ว่าตระกูลของเขาต้องต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าพวกนี้ เขาจึงไม่หวาดกลัวต่อคำข่มขู่พวกนี้
หานเซิ่นได้เห็นสกายไวน์แรดิชปฏิบัติกับเผ่าฟลาวเวอร์ก็อตแล้ว ดังนั้นเขารู้ว่าพระเจ้าไม่เคยปฏิบัติกับผู้คนของจักรวาลในฐานะคนที่เท่าเทียมกัน พระเจ้านั้นคิดกับผู้คนในจักรวาลนี้ไม่ได้มากไปกว่าปศุสัตว์ พวกเขาจะฆ่าและกินผู้คนอย่างหานเซิ่นเป็นอาหาร
“ถ้าพระเจ้ากินผู้คน แบบนั้นทำไมผู้คนจะไม่กินพระเจ้า? วันนี้ฉันหานเซิ่นจะเป็นคนแรกที่กินเนื้อของพระเจ้า” หานเซิ่นเลียเลือดของพระเจ้าที่กระเด็นมารอบริมฝีปากของเขา มันรู้สึกร้อนเหมือนกับน้ำเดือด
‘ยีนระดับเทพเจ้า+1…’
‘เพียงแค่หยดเลือดของพระเจ้าก็เพิ่มยีนระดับเทพเจ้าหนึ่งพ้อยต์… ไม่แปลกใจเลยที่นายถูกคำนึงว่าเป็นพระเจ้า’
หานเซิ่นมองศัตรูด้วยความดูถูก หลังจากนั้นเขาก็กวัดแกว่งขนนกฟีนิกซ์เพื่อตัดร่างกายของสกายไวน์แรดิชซ้ำแล้วซ้ำเล่า
มันมีเหตุผลที่พระเจ้าเหล่านี้เป็นสิ่งมีชีวิตในตำนาน แม้แต่ร่างกายที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักก็ยังแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ ความแข็งแกร่งของมันเป็นอะไรที่ยากจะหยั่งถึง หานเซิ่นตัดหัวของมันจนขาดและแทงหัวใจของมันจนเป็นรูพรุน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่สามารถฆ่ามันได้
‘ฉันไม่เชื่อว่านายจะยังมีชีวิตอยู่ได้ ถ้าฉันสับร่างกายนายเป็นชิ้นๆ’
หานเซิ่นยังคงฟันใส่ร่างของสกายไวน์แรดิชต่อไป ขณะที่เขากินเลือดที่กระเด็นมาถูกตัวของเขาเข้าไป
มันเหมือนกับว่าเขากลืนลาวาเข้าไปในท้องของเขา หานเซิ่นรู้สึกว่าทั้งร่างกายลุกเป็นไฟ มันร้อนมากซะจนเขาต้องการจะถอดหนังของตัวเองออกเพื่อจะได้เย็นขึ้นมาหน่อย
“ยีนระดับเทพเจ้า +1… ยีนระดับเทพเจ้า +1…”
เสียงประกาศดังขึ้นเรื่อยๆ หนึ่งเลือดหยดของพระเจ้านั้นมอบหนึ่งยีนระดับเทพเจ้าให้กับเขา ร่างกายของพระเจ้านั้นเป็นอะไรที่มีค่าเหนือจินตนาการสำหรับคนอย่างหานเซิ่น
“ยีนระดับเทพเจ้าครบหนึ่งร้อย…สามารถวิวัฒนาการ…”
ในที่สุดหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงประกาศที่เขากำลังรอคอย แต่เขาไม่มีเวลาที่จะวิวัฒนาการในตอนนี้ เขามุ่งมั่นที่จะฆ่าสกายไวน์แรดิชให้ได้ เขาไม่สามารถปล่อยให้อีกฝ่ายมีโอกาสฟื้นคืนพลังและประกอบตัวเองอีกครั้งได้
หานเซิ่นตัดผ่านโครงกระดูกของสกายไวน์แรดิชไปเรื่อยๆจนกระทั่งขนนกฟีนิกซ์ฟันไปถึงกระดูกชิ้นหนึ่งที่เขาไม่สามารถตัดได้ กระดูกอื่นนั้นถูกขนนกฟีนิกซ์ตัดผ่านอย่างง่ายดาย แต่เขาไม่สามารถทิ้งร่องรอยใดๆเอาไว้บนกระดูกชิ้นนี้ได้
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจกับเรื่องนั้น และเขาก็เอนตัวเข้าไปดูกระดูกใกล้ๆ หานเซิ่นไม่เข้าใจถึงการทำงานของร่างกายพระเจ้า แต่มันเห็นได้ชัดว่ากระดูกนี้ไม่เหมือนกับกระดูกในโครงสร้างร่างกายของมนุษย์
กระดูกนี้เชื่อมต่อระหว่างหัวใจและปอดราวกับเถาวัลย์ที่คดเคี้ยว มันมีสีเขียวและมีความยาวเพียงแค่สองเมตร กระดูกแบบนั้นสำหรับร่างกายที่ใหญ่โตของสกายไวน์แรดิชแล้วมันถือว่าเล็กมากๆ แถมมันยังมีรูปร่างที่แตกต่างไปจากกระดูกส่วนอื่นอีกด้วย
ถึงแม้กระดูกส่วนอื่นจะดูเหมือนกับว่าพวกมันทำขึ้นมาจากหินสีเขียว กระดูกนี้ดูค่อนข้างโปร่งใส ภายในของกระดูกนั้นดูเหมือนว่ามีสัญลักษณ์ประหลาดลอยอยู่ กระดูกนี้ดูเหมือนกับบางสิ่งที่ออกมาจากความฝันที่มีอยู่ในจินตนาการของหานเซิ่นเท่านั้น
“พวกเรามาทำการตกลงกัน ถ้าเจ้าหยุดเพียงแค่นี้ ข้าจะช่วยเจ้ายึดครองจักรวาล…” เสียงของสกายไวน์แรดิชสั่นๆราวกับว่ามันกำลังหวาดกลัว
หานเซิ่นทำเหมือนกับว่าไม่ได้ยินที่สกายไวน์แรดิชพูด เขาฟันใส่กระดูกที่เชื่อมต่อระหว่างหัวใจและปอดขนาดยักษ์
“อ้า!” สกายไวน์แรดิชกรีดร้องราวกับว่าหัวใจถูกฉีกออกมา เขาไม่แม้แต่จะส่งเสียงร้องในตอนที่หัวของเขาถูกตัด แต่ตอนนี้เขากรีดร้องราวกับหมู
“นั่นคงจะต้องเป็นจุดอ่อนของเจ้า” หานเซิ่นยิ้มด้วยความดีใจ เขาใช้ขนนกฟีนิกซ์ฟันใส่กระดูกประหลาดนั่นอย่างรวดเร็วขึ้นอีก
สกายไวน์แรดิชกรีดร้องและสาปแช่งหานเซิ่น แต่หานเซิ่นยังคงไม่หยุด เขาอาจจะเชื่อฟังพระเจ้า แต่ไม่ใช่พระเจ้าแบบนี้
“เจ้าจะต้องตาย!” ทันใดนั้นสกายไวน์แรดิชก็ร้องตะโกนออกมา เมื่อเขาเห็นว่าหานเซิ่นกำลังจะตัดกระดูกประหลาดนั่นจนขาด ร่างกายพระเจ้าของเขาแว็บแสงสีเขียว และเนื้อหนังของเขาก็เริ่มจะเรืองแสงเหมือนกับเหล็กร้อน
“โอ้ไม่นะ!” หานเซิ่นเข้าใจในทันทีว่าสกายไวน์แรดิชต้องการจะทำอะไร เขารู้ว่าไม่มีโอกาสรอดไปจากหานเซิ่น ดังนั้นเขาจึงคิดจะระเบิดตัวเอง
หานเซิ่นไม่สามารถหยุดพระเจ้าจากการระเบิดตัวเองได้ ดังนั้นเขาจึงเร่งตัวเองให้ฟันเร็วขึ้นอีก เขาต้องการจะตัดกระดูกนั่นให้ได้ก่อนที่สกายไวน์แรดิชจะระเบิดตัวเอง
แต่ร่างกายของสกายไวน์แรดิชระเบิดตัวเองเร็วเกินไป และหานเซิ่นไม่มีเวลาพอที่จะตัดกระดูกประหลาดนั่นให้ขาด พลังที่น่ากลัวระเบิดขึ้นจากภายในร่างกายของสกายไวน์แรดิช มันเป็นเหมือนกับระเบิดนิวเคลียร์
ตูม!
ที่ด้านบนของสเปชการ์เด้น แสงสีเขียวพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าราวกับภูเขาไฟปะทุ เมื่อมันขึ้นไปสู่ท้องฟ้าแล้ว มันก็แพร่กระจายออกและเริ่มตกลงราวสายฝน ฝนแสงตกลงมาบนทุ่งดอกไม้และพืชซีโน่เจเนอิคที่สัมผัสกับแสงนั่นก็เริ่มจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งสเปชการ์เด้นเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน มันเหมือนกับว่าท้องฟ้าและผืนดินถูกพลิกกลับ
หานเซิ่นออกจากโหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอด หลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงประกาศดังขึ้นในหัว
“เทพสปิริตถูกฆ่า คุณได้รับเทพสปิริต ยีนเทพสปิริตถูกค้นพบ”