Super God Gene – ตอนที่ 2759

ร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิคของหานเซิ่นปกคลุมด้วยเปลวเพลิงสีดำ เขาดูเหมือนกับปีศาจที่เพิ่งจะคลานออกมาจากขุมนรก เขาจ้องไปที่ปีศาจสีแดงที่กำลังถือมีดอยู่ในมือ พวกเขาทั้งคู่ดูเหมือนกับลอร์ดของนรกที่เตรียมตัวจะทำการต่อสู้กัน

 

“ถอยออกไป! นี่เป็นสนามรบของลูกผู้ชาย เจ้าไม่ควรเข้ามาเกี่ยวข้อง”

หานเซิ่นพูดขณะที่สายตาของเขายังจ้องไปที่ปีศาจสีแดง

 

หลังจากที่หานเซิ่นรวมวิชาจีโนทั้งสี่ พลังอาณาเขตของตงเสวียนก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก หานเซิ่นค้นพบว่ามีดเทพนี้ไม่ใช่มีดจริงๆ มันคือซีโน่เจเนอิค ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งมีชีวิต แต่ร่างกายและจิตวิญญาณของมันเหมือนกับมีด

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าระดับพลังของซีโน่เจเนอิคตัวนี้คืออะไร พลังของมันอยู่เหนือกว่าที่หานเซิ่นจะประเมินได้อย่างถูกต้อง

 

เงาของปีศาจสีเลือดจ้องมองมาที่หานเซิ่น มีดในมือของมันเรืองแสงสีเลือดและมิติรอบๆมีดก็บิดเบี้ยว สิ่งเดียวที่มองเห็นได้ผ่านมิติที่บิดเบี้ยวคือมีดแสงที่เรืองแสงออกมาจากมือของเงานั่นเท่านั้น

 

วินาทีต่อมา เงาปีศาจก็เริ่มเคลื่อนไหว มันเคลื่อนที่ราวกับหมอกสีแดงภายใต้พระอาทิตย์ มันตรงเข้ามาหาหานเซิ่น

 

พลังภายในร่างกายของหานเซิ่นระเบิด เขาเทเลพอร์ตไปด้านหลังของเงาและส่งหมัดเข้าใส่ปีศาจสีเลือด

 

แต่ปีศาจสีเลือดทำเหมือนกับว่ามันไม่รู้ว่าหานเซิ่นเทเลพอร์ตมาเรียบร้อยแล้ว มีดของมันยังคงตรงไปในตำแหน่งที่หานเซิ่นอยู่ก่อนหน้านี้

 

หานเซิ่นประหลาดใจที่คู่ต่อสู้หลงกลลูกไม้ง่ายๆแบบนั้น แต่เขายังคงโจมตีต่อไป สำหรับเขาแล้วนี่ถือเป็นโอกาสดี เขาไม่คิดจะหยุดโจมตีเพราะเรื่องนี้

 

แต่ก่อนที่หมัดของหานเซิ่นจะไปถึงปีศาจสีเลือด อกของเขาก็ถูกตัดเปิดออกมา เนื้อส่วนซี่โครงของเขาถูกตัดจนขาด และอวัยวะภายในกับเลือดที่ตกผนึกก็เผยออกมาให้เห็น

 

“เกิดอะไรขึ้น…? ทำไมเราถึงถูกฟันได้?” ใบหน้าของหานเซิ่นบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เขาไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายโจมตีถูกตัวเขาได้ยังไง

 

เงาของปีศาจสีเลือดนั้นไม่ได้หันกลับมาหรือแม้แต่แกว่งมีดเข้าใส่หานเซิ่น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงได้รับบาดเจ็บ นี่เป็นแปลกมากๆ

 

หานเซิ่นรีบเรียกอิมมอร์ทัลดราก้อนออกมาและปลดปล่อยพลังของโซ่สสารใส่หานเซิ่นเพื่อรักษาบาดแผลบริเวณอกของเขาอย่างรวดเร็ว

 

ปีศาจสีเลือดเคลื่อนที่มาข้างหน้าและแกว่งมีดของมันเข้าใส่หานเซิ่นอย่างบ้าคลั่ง

 

หานเซิ่นเข้าใจว่าพลังของร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิคยังคงด้อยกว่าพลังของอีกฝ่าย แต่เขาอยากรู้ว่าตัวเองถูกโจมตีได้ยังไง ดังนั้นแทนที่จะพยายามป้องกัน เขาใช้การเทเลพอร์ตอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เทเลพอร์ตไปด้านหลังของปีศาจสีเลือด เขาเทเลพอร์ตออกไปเพื่อสร้างระยะห่างแทน

 

มันมีที่ว่างหนึ่งร้อยไมล์ระหว่างหานเซิ่นกับปีศาจสีเลือด และมีดแสงก็ไม่ได้ฟันมาในทิศทางของหานเซิ่น แต่ถึงอย่างนั้นใบมีดที่มองไม่เห็นก็ตัดหัวของหานเซิ่นเปิดออก หัวกะโหลกของเขาเผยช่องว่างที่กว้างพอจะแสดงสมองสีชมพูออกมาให้เห็น ความเจ็บปวดของการโจมตีเป็นอะไรที่แสนสาหัส และใบหน้าของหานเซิ่นก็เปลี่ยนเป็นสีขาว

 

“แบบนี้นี่เอง…” ถึงแม้มันจะเป็นการโจมตีที่เจ็บปวด แต่หานเซิ่นก็ได้เรียนรู้บางสิ่ง ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าตัวเองถูกฟันได้ยังไง

 

มีดแสงสีเลือดเดินทางไปในตำแหน่งที่หานเซิ่นเคยอยู่ก่อนหน้านี้ ตรงนั้นมีเงาเลือดรางๆปรากฏขึ้นมา เงาเลือดเงานั้นดูเหมือนกับหานเซิ่น เมื่อมีดแสงฟันถูกเงาเลือดนั้น ร่างกายของหานเซิ่นก็จะได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี

 

“นี่มันพลังธาตุเวลาหรือธาตุอวกาศ? หรือบางทีมันอาจจะเป็นทั้งสองธาตุ?” บาดแผลที่หานเซิ่นได้รับถูกรักษาด้วยพลังของอิมมอร์ทัลดราก้อน ตอนนี้แม้แต่อาการบาดเจ็บสาหัสก็ไม่อาจฆ่าเขาได้

 

แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าปีศาจสีเลือดเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวกว่าที่เขาคิดเอาไว้ หานเซิ่นใช้พลังของอีเทอร์นิตี้กับตัวเองเรียบร้อยแล้ว ภายใต้พลังเสริมของอีเทอร์นิตี้ แม้แต่เทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่นก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายต่อร่างต่อสู้ซีโน่เจเนอิคของเขาได้

 

แถมเขายังมีเกล็ดมังกรที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งทางร่างกายอีก เขาควรจะอยู่ยงคงกระพัน

 

มีดแสงสีเลือดนั้นไม่ได้ฟันถูกร่างของเขาโดยตรง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ตัดผ่านชุดเกราะ เกล็ดและกระดูกของเขา นั่นเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ

 

ปีศาจสีเลือดดูเหมือนจะไม่ได้ใช้ความคิดอะไรมาก ใบหน้าของมันดูกระหายเลือดขณะที่มันเข้ามาหาเขาโดยไม่ลังเล ที่ไหนก็ตามที่มีดแสงเคลื่อนไป มิติบริเวณใกล้เคียงก็จะบิดเบี้ยว มันเหมือนกับว่ามีแสงสีเลือดมากมายที่บิดงอเต้นระบำรอบมีดแสง

 

ครั้งนี้หานเซิ่นไม่ได้พยายามจะเทเลพอร์ตหนีไป เขาเรียกโล่เมดูซ่าส์เกสออกมาแทน เขาคิดจะป้องกันมีดของอีกฝ่ายตรงๆ

 

พลังของปีศาจสีเลือดเป็นอะไรที่แปลกประหลาด และการพยายามหลบมันดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ หานเซิ่นจำเป็นต้องป้องกันมัน

 

แต่วินาทีต่อมา อกของหานเซิ่นก็มีเลือดทะลักออกมา ร่างกายของเขาถูกส่งกระเด็นออกไปหลายไมล์ ก่อนที่จะร่วงลงมากระแทกกับทุ่งหญ้าราวกับดาวตก

 

หานเซิ่นรู้สึกตัวอีกครั้งในหลุมขนาดใหญ่ ชุดเกราะบริเวณอกของเขาถูกตัดเปิดออกและเผยให้เห็นเนื้อข้างใน เกล็ด กระดูกและซี่โครงของเขาถูกตัดจนขาดครึ่ง

 

โล่ของหานเซิ่นยังคงอยู่ดี ถึงแม้โล่จะหยุดการโจมตีทางกายภาพได้ทุกอย่าง แต่ดูเหมือนมันจะไม่สามารถป้องกันมีดแสงของปีศาจสีเลือดตัวนี้ได้

 

มีดแสงประหลาดนั่นทะลุผ่านโล่ราวกับผีและถูกอกของหานเซิ่นโดยที่ไม่ถูกขังขวาง

 

ปีศาจสีเลือดพุ่งเข้ามาจู่โจมอีกครั้ง และมันทำการโจมตีอย่างไม่มีหยุด ไม่สำคัญว่าหานเซิ่นจะหลบหลีกหรือป้องกันยังไง เขาก็ไม่สามารถรอดไปจากมีดแสงของเจ้าปีศาจได้ การฟันทุกครั้งของมันถูกร่างกายของเขาและทำให้เขาได้รับบาดแผลซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

ถ้าไม่มีอิมมอร์ทัลดราก้อนคอยช่วยรักษา หานเซิ่นก็คงจะถูกสับเป็นชิ้นๆไปนานแล้ว

 

ถึงอย่างนั้นมันก็มีขีดจำกัดถึงความเร็วที่อิมมอร์ทัลดราก้อนจะรักษาให้กับเขา ก่อนที่บาดแผลของหานเซิ่นจะถูกรักษาจนเสร็จสิ้น เขาก็จะได้รับบาดแผลใหม่มาเพิ่มอีก

 

“แข็งแกร่ง แข็งแกร่งเกินไปแล้ว มันแข็งแกร่งซะจนการต่อสู้กับมันจะทำให้คนๆนั้นรู้สึกหมดหวัง”

 

“หนีไป! เจ้าจะถูกมันฆ่าตาย!” กู่หว่านเอ๋อตะโกนขึ้นมา คลื่นกระแทกนับไม่ถ้วนถูกปลดปล่อยจากการต่อสู้ของหานเซิ่นกับปีศาจสีเลือด แต่บริเวณรถม้านั้นไม่ได้รับความเสียหายอะไร ดูเหมือนว่ามันจะมีพลังบางอย่างที่คอยปกป้องพาหนะนี้เอาไว้ เมื่อไหร่ก็ตามที่คลื่นกระแทกซัดมาถึงรถม้า มันก็จะสลายไป

 

หานเซิ่นเองก็อยากจะหนีไปเช่นกัน แต่เขาไม่สามารถทำได้ แม้แต่การเทเลพอร์ตหนีก็เป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ เขายังคงได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของเจ้าปีศาจ และมันยังมีพลังที่ปิดกั้นดาวดวงนี้เอาไว้อีก การเข้ามาเป็นเรื่องง่าย แต่การจะออกไปจำเป็นต้องฝ่าระบบป้องกันไป แม้แต่ความสามารถในการเทเลพอร์ตก็ไม่สามารถหนีออกไปได้

 

พลังของมีดปีศาจสีเลือดเป็นอะไรที่แปลกประหลาด ไม่ว่าหานเซิ่นจะทำอะไร สุดท้ายแล้วเขาก็จะถูกฟันอยู่ดี

 

เรื่องดีอย่างเดียวของสถานการณ์นี้คือการที่พลังของปีศาจสีเลือดไม่สามารถฆ่าเขาในการโจมตีเพียงครั้งเดียว ถ้ามันแข็งแกร่งมากกว่านี้อีกสักนิด เขาก็คงจะถูกฆ่าตายก่อนที่เขาจะมีโอกาสได้ทำอะไร

 

ร่างกายของหานเซิ่นถูกฟันอีกครั้ง และเขาไม่เห็นด้วยซ้ำว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บได้ยังไง การฟันนั้นเกือบจะตัดแขนออกจากไหล่ของเขา

 

ทันใดนั้นร่างกายของหานเซิ่นก็เริ่มเรืองแสงเลือด เกล็ดสีดำงอกขึ้นบนผิวของเขาอย่างบ้าคลั่งและพยายามงอกผ่านชุดเกราะของเขาออกมา ไม่กี่วินาทีต่อมาเกล็ดก็ห่อหุ้มรอบๆร่างกายของเขาผ่านชุดเกราะ

 

ก่อนที่หานเซิ่นจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็รู้สึกได้ถึงการสั่นไหวของพื้น แสงสีเลือดพุ่งลงมาจากอวกาศ และตอนนี้มันมาเรืองแสงอยู่ตรงหน้าของหานเซิ่น มันคือปะการังโลหิตประหลาดที่ดูเหมือนกับมังกร

 

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset