Super God Gene – ตอนที่ 2755

ลุงเก้านำตัวหานเซิ่นไปขังเอาไว้ที่ปราสาท และผู้นำของเวรี่ไฮก็เริ่มรวบรวมกองกำลังเพื่อไปที่ทะเลฝังมังกร พวกเขามีแผนที่จะยังยั้งปะการังโลหิตและอะไรก็ตามที่อยู่ใต้พวกมัน

 

หานเซิ่นไม่รู้ว่าพวกเขาจะยับยั้งปะการังโลหิตและสิ่งที่อยู่ใต้มันยังไง แต่สี่วันหลังจากนั้น เหล่ายอดฝีมือก็เริ่มมารวมตัวกันในปราสาท ในตอนที่คนสุดท้ายมาถึง มันก็มียอดฝีมือขั้นทรูก็อตถึงสี่คนและขั้นบันเตอร์ฟลายอีกเป็นสิบคน มันเป็นทีมที่ทรงพลังมากๆ

 

พวกเขาตรวจสอบเกล็ดของหานเซิ่นก่อนที่จะจากไป น่าเศร้าที่ความพยายามทุกอย่างนั้นล้มเหลว พวกเขาพยายามแม้กระทั่งลอกมันออกจากผิวของหานเซิ่น แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผล

 

เนื้อหนังของหานเซิ่นสามารถถูกตัดออกไปได้ แต่ในตอนที่เนื้อหนังของเขาฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ เกล็ดก็จะงอกออกมาด้วยเช่นเดียวกัน

 

ยอดฝีมือของเวรี่ไฮไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับการกลายพันธุ์ของหานเซิ่นได้ สถานการณ์ดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ

 

หานเซิ่นเกลียดที่ต้องถูกกักขัง แต่เขารู้ว่านี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเผ่าเวรี่ไฮ ยังไงซะมันก็ไม่มีใครอยากให้หานเซิ่นกลายเป็นสัตว์ประหลาด ถึงแม้เผ่าเวรี่ไฮจะขึ้นชื่อเรื่องความเด็ดขาด แต่พวกเขาก็ไม่ได้ฆ่าหานเซิ่นในทันที หานเซิ่นค่อนข้างโล่งใจที่พบว่าทางเผ่าเวรี่ไฮไม่มีแผนที่จะปลิดชีวิตของเขา

 

พวกเขาปล่อยให้หานเซิ่นอยู่ในปราสาทที่ห้อมล้อมไปด้วยเมฆหมอก หานเซิ่นเอนตัวลงบนบันไดที่นำไปสู่ประตูหน้าของปราสาทและมองออกไปสู่ก้อนเมฆด้านนอก

 

ความจริงแล้วถึงแม้ปราสาทนี้จะดูเหมือนกับสิ่งก่อสร้างธรรมดาๆ แต่ปราสาททั้งหลังอยู่ภายในสมบัติขั้นทรูก็อตของเผ่าเวรี่ไฮ หานเซิ่นมีโอกาสได้เห็นสมบัติขั้นทรูก็อตนั่น ซึ่งมันดูเหมือนกับขวดหยก แต่เขาไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับมันมากนัก เขาถูกพาตัวมายืนตรงหน้ารูปปั้นอัลฟ่าของเวรี่ไฮ หลังจากนั้นเขาก็ถูกส่งเข้าไปในขวด

 

ถึงแม้ก้อนเมฆที่ห้อมล้อมปราสาทจะดูสวยงาม แต่สถานที่แห่งนี้ยังคงเป็นแค่คุก นอกจากนั้นคุกนี้ยังใช้เพื่อกักขังเขาเพียงคนเดียว

 

ทุกอย่างนอกจากตัวปราสาทเป็นอะไรที่เบลอๆ หานเซิ่นไม่สามารถสัมผัสถึงพลังชีวิตอะไรได้เลย สถานที่ที่เขาอยู่นั้นดูเหมือนจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ความจริงแล้วหานเซิ่นไม่สามารถแม้แต่จะฝึกวิชา

 

“ถ้าทางเวรี่ไฮไม่มีหาหนทางที่จะกำจัดเกล็ดจริงๆ นั่นหมายความว่าเราจะถูกกักขังภายในนี้ไปตลอดการอย่างนั้นหรอ?” ใบหน้าของหานเซิ่นดูกระวนกระวายขึ้นทุกวินาทีที่ผ่านไป

 

ถึงแม้ปะการังโลหิตประหลาดนั้นจะถูกเผ่าเวรี่ไฮนำเอาไปไว้ที่อื่นแล้ว แต่เกล็ดก็ยังคงงอกออกมาเรื่อยๆ ในตอนนี้ร่างกายส่วนใหญ่ของหานเซิ่นถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ด นอกจากส่วนหัวที่ไม่มีเขางอกออกมาแล้ว หานเซิ่นดูเหมือนกับมังกรร่างมนุษย์อย่างมาก

 

ภายในปราสาทมีอาหารและน้ำพุที่บริสุทธิ์ แต่มันก็แค่ตอบสนองความหิวกระหายและทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้เท่านั้น มันไม่ได้ทำอะไรเพื่อส่งเสริมยีนของเขา

 

ในตอนแรกยอดฝีมือของเวรี่ไฮจะมาเยี่ยมเขาเป็นครั้งคราวเพื่อลองใช้วิธีใหม่ๆในการกำจัดเกล็ดของเขา แต่พวกเขาล้มเหลวทุกครั้ง และยิ่งเวลาผ่านไปพวกเขาก็มาเยี่ยมน้อยครั้งลงเรื่อยๆ

 

ในตอนนี้เผ่าเวรี่ไฮไม่ได้ช่วยหานเซิ่น พวกเขากลายเป็นผู้กดขี่หานเซิ่นแทน พวกเขาไม่สามารถยืนยันได้ว่าหานเซิ่นนั้นคือยอดฝีมือของเซเคร็ดหรือเปล่า แต่ถึงอย่างนั้นเผ่าเวรี่ไฮก็เลือกที่จะกักขังเขาเอาไว้ ตราบใดที่มีความเป็นไปได้แม้จะเล็กน้อยสักแค่ไหน พวกเขาก็จะไม่ปล่อยหานเซิ่นออกไป

 

“ทางเผ่าเวรี่ไฮให้สัญญากับเราว่าพวกเขาจะส่งตัวเป่าเอ๋อไปที่ปราสาทนภา ตอนนี้มันก็ขึ้นอยู่กับเราแล้ว เราจำเป็นต้องคิดหาทางหนีออกไป”
หานเซิ่นลองพยายามอยู่หลายวิธี แต่พวกมันทั้งหมดดูจะไร้ประโยชน์ ปราสาทนั้นตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสมบูรณ์ แม้แต่จะกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ก็ยังทำไม่ได้

 

เขาไม่สามารถเข้าไปในก็อตแอเรียหรืออะไรทำนองนั้นได้เช่นกัน สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนกับคุกขนาดใหญ่ เขาไม่ได้กำลังมีชีวิตหรือกำลังตาย เขาแค่ถูกขังอยู่ตรงนั้น

 

“เราจะโชคร้ายขนาดนี้ได้ยังไงกัน?” หานเซิ่นถอนหายใจ แต่ทันใดนั้นความคิดหนึ่งก็แว็บเข้ามาในหัวของเขา
“จริงด้วย บางทีเราควรจะลองวิธีนั้นดู!”

 

หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขาวิ่งไปที่หน้าปราสาทและปิดประตู

 

หานเซิ่นอยู่ที่นี่มาสักพักหนึ่งแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าขวดนี้ทำงานยังไง เนื่องจากโลกภายในขวดถูกตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเห็นข้างในหรือข้างนอก นอกซะจากทางเผ่าเวรี่ไฮจะมาเยือนด้วยตัวเอง พวกเขาก็ไม่สามารถบอกว่าหานเซิ่นกำลังทำอะไรอยู่ ก่อนหน้านี้หานเซิ่นได้ลองทดสอบดูแล้ว ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่ามันเป็นแบบนั้น

 

เมื่อหานเซิ่นขังตัวเองภายในปราสาทแล้ว เขาก็เรียกบางสิ่งออกมาจากหอคอยแห่งโชคชะตา มันเป็นวัตถุทองแดงที่มีความสูงหลายเมตร หัวแกะประดับอยู่ทั้งสี่มุมของวัตถุทองแดงนั้น และมันดูค่อนข้างชั่วร้าย

 

“หนึ่งในหัวแกะจะส่งเราไปยังโลกที่ขังอัลฟ่าของเบรกสกายเอาไว้ ถ้าหัวแกะอีกสามหัวทำแบบเดียวกัน แบบนั้นมันจะพาเราไปจากที่นี่ไหมนะ? ก่อนหน้านี้เจ้าสิ่งนี้เทเลพอร์ตเราออกไปจากเอาท์เตอร์สกาย แบบนั้นบางทีมันอาจจะได้ผลในที่แห่งนี้” หานเซิ่นกัดฟันและเอื้อมมือออกไปจับหนึ่งในหัวแกะบนลูกบาศก์สี่แกะ พร้อมกับสวดภาวณาในใจ

 

หัวของแกะถูกกดลงภายใต้แรงจากมือของหานเซิ่น ปลาสีขาวและดำภายในลูกบาศก์เริ่มว่ายอย่างรวดเร็ว ความเร็วของพวกมันก่อให้เกิดวังวนภายในน้ำ

 

หานเซิ่นรู้สึกได้ถึงแรงดูดที่พยายามจะดึงร่างของเขาเข้าไปในวังวน เขาประหลาดใจที่เห็นว่ามันได้ผล เขาไม่รู้ว่าลูกบาศก์สี่แกะจะพาเขาไปที่ไหน แต่ไม่ว่ามันจะไปที่ไหน มันก็เป็นโอกาสที่จะเขาได้รับอิสรภาพคืน เขาไม่อยากจะอยู่ภายในปราสาทนี้ไปตลอดกาล

 

วา-ลา!

ในตอนที่หานเซิ่นออกมาจากน้ำ เขาก็รู้ในทันทีว่าตัวเองไม่ได้อยู่ภายในปราสาทนั้นอีกต่อไป

 

หานเซิ่นกลัวว่าคนอื่นจะเห็นเกล็ดบนผิว ดังนั้นเขาจึงเรียกชุดเกราะตงเสวียนออกมาสวมใส่ทันที ถึงแม้จะมีคนจดจำชุดเกราะตงเสวียนได้ แต่พวกเขาก็จะคิดไปว่าเขาคือดอลลาร์ มันไม่มีใครที่รู้ว่าหานเซิ่นหนีออกมาจากสมบัติขั้นทรูก็อตของเวรี่ไฮ

 

“ที่นี่มันที่ไหนกัน?” หานเซิ่นมองไปรอบๆ หลังจากนั้นเขาก็รีบร้อนกลับไปหาลูกบาศก์สี่แกะอย่างรวดเร็ว มือของเขาทุบลงไปหัวของแกะ

 

หานเซิ่นยืนอยู่บนแท่นหินยักษ์ที่ล้อมไปด้วยซีโน่เจเนอิคที่ดูน่ากลัว ทางทิศตะวันออกมีซีโน่เจเนอิคที่มีผมสีขาวหน้าสีดำ ซึ่งดูเหมือนกับวานรยักษ์อยู่ ทางทิศใต้มีมอนสเตอร์ร่างมนุษย์ที่มีหัวของวัว ทางทิศเหนือมีอสูรที่ดูเหมือนกับกิเลน ทางทิศตะวันตกมีงูประหลาดที่มีเก้าหัว

 

ซีโน่เจเนอิคทั้งสี่ปลดปล่อยออร่าที่น่าสะพรึงกลัวออกมา เพียงแค่สัมผัสพวกมันก็ทำให้หานเซิ่นหนาวไปถึงกระดูก ซีโน่เจเนอิคพวกนั้นล้อมแท่นหินเอาไว้ราวกับว่าแท่นหินนั้นเป็นโต๊ะอาหารค่ำ และหานเซิ่นเป็นไส้กรอกที่วางอยู่ตรงกลาง

 

ปัง!

หานเซิ่นเห็นวานรยักษ์ยื่นมือออกมาหาเขา แต่เขาถูกดูดเข้าไปในลูกบาศก์สี่แกะเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นการมองเห็นของเขาก็เริ่มหมุน ในตอนที่เขาออกมาจากน้ำ เขาก็กลับมาอยู่ภายในขวดของเวรี่ไฮอีกครั้ง

 

“โชคดีที่เราปฏิกิริยารวดเร็ว ถ้าเราช้ากว่านี้ เราก็คงจะกลายเป็นอาหารของซีโน่เจเนอิคที่น่ากลัวพวกนั้น” หานเซิ่นพูดกับตัวเองด้วยเสียงสั่นๆ

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset