อาณาเขตตงเสวียนไม่สามารถเปิดเผยสิ่งที่อยู่ภายในป่าปะการังได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงลังเลขึ้นมาว่าจะไล่ตามปลาไหลไฟฟ้าเข้าไปในนั้นดีไหม แต่เขาก็ไม่อยากจะปล่อยมันไปเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะลงไปในป่าปะการัง
‘ถ้าปลาไหลฟ้าฟ้าเข้าไปภายในนั้นได้ แบบนั้นทำไมเราจะเข้าไปไม่ได้?’ หานเซิ่นคิด เขาตั้งใจจะฆ่าเจ้าปลาไหลไฟฟ้านั่นให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม
หลังจากที่เตรียมตัวพร้อมแล้ว หานเซิ่นก็เข้าไปในป่าปะการัง ซึ่งหลังจากที่เข้าไปข้างใน ประสิทธิภาพของอาณาเขตตงเสวียนของเขาก็ลดลงอย่างมาก เขาไม่สามารถสัมผัสถึงอะไรได้นอกจากปะการังโลหิตรอบๆตัว
ปะการังโลหิตเป็นเหมือนกับเครื่องรบกวนสัญญา มันหยุดพลังของหานเซิ่นจากสัมผัสรอบๆตัว
หานเซิ่นเดินหน้าต่อไปขณะที่สังเกตปะการังโลหิตรอบๆอย่างระมัดระวัง ปะการังโลหิตนั้นดูเหมือนกับปะการังทั่วไป แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง พลังอาณาเขตตงเสวียนของหานเซิ่นไม่สามารถเข้าใกล้มันได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ดูไม่เหมือนว่าปะการังโลหิตพวกนั้นจะเป็นสิ่งมีชีวิต
ถ้าพวกมันเป็นแค่ปะการังธรรมดาๆ แบบนั้นฝูงของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กก็ควรจะมาสร้างบ้านภายในนั้น แต่น่าแปลกที่หานเซิ่นยังไม่พบสิ่งมีชีวิตอะไรเลย ทั้งๆที่เขาเข้ามาในป่าปะการังโลหิตนี้ได้สักพักหนึ่งแล้ว
“ที่นี่แปลกจริงๆ เราหาซีโน่เจเนอิคไม่เจอแม้แต่ตัวเดียว ที่นี่เป็นรังของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นสงสัยกับตัวเอง
ป่าปะการังโลหิตมีความกว้างราวหมื่นไมล์ ดังนั้นมันไม่ได้ใหญ่จนเกินไป หานเซิ่นเดินทางเพียงไม่นานเขาก็สำรวจมันได้กว่าครึ่ง แต่เขายังคงหาเจ้าปลาไหลไฟฟ้าไม่เจอ จริงๆแล้วเขาไม่พบอะไรเลยสักอย่าง ป่าปะการังแห่งนี้เป็นเหมือนกับเขตมรณะที่เงียบสงบและไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต
ขณะที่หานเซิ่นกำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทันใดนั้นเขาก็เห็นแสงส่องออกมาจากภายในป่าปะการังโลหิต มันดูเหมือนกับพระอาทิตย์ที่เพิ่งจะขึ้นจากขอบฟ้าในรุ่งเช้า มันเป็นสีแดงแต่มันไม่ได้ส่องสว่างอะไรนัก มันแค่เรืองแสงเล็กน้อยราวกับโลหะร้อนๆ
“นั่นมันอะไร?” หานเซิ่นเห็นแสงนั่น แต่เนื่องจากปะการังโลหิต เขาไม่สามารถบอกได้ว่าแสงนั่นเกิดขึ้นจากอะไรกันแน่
ในเมื่อหานเซิ่นเพิ่งจะเข้ามาในป่าปะการังโลหิต และเขายังคงหาเจ้าปลาไหลไฟฟ้าไม่เจอ เขาจึงยังไม่สามารถเดินทางกลับได้ เขาจำเป็นต้องทำการสำรวจต่อไป
ขณะที่หานเซิ่นค่อยๆเข้าไปใกล้แสงที่ส่องมา แสงนั่นก็เริ่มจะดูสว่างขึ้นเรื่อยๆ และในที่สุดหานเซิ่นก็ค้นพบถึงแหล่งที่มาของแสงสว่างนั่น
มันเป็นชิ้นของปะการังโลหิตที่ปลดปล่อยแสงสีแดงออกมา แต่ทว่าปะการังโลหิตนี้ดูแตกต่างจากปะการังโลหิตอื่น
มันมีขนาดเล็กกว่าปะการังอื่นๆมาก โดยมีความสูงแค่สามถึงสี่เมตรเท่านั้น เมื่อเทียบกับปะการังโลหิตอื่นที่สูงถึงสิบเมตรแล้ว ปะการังโลหิตนี่ดูกระจิริดไปเลย
สีของมันยังเข้มยิ่งกว่าปะการังโลหิตอื่นอีกด้วย สีของมันดูเร้นลับและปลดปล่อยแสงสีแดงออกมา ชิ้นของปะการังทั้งชิ้นนี้ดูเหมือนจะเรืองแสง
นอกจากนั้นปะการังโลหิตนี่ยังมีรูปร่างที่แปลกประหลาด แทนที่จะมีกิ่งก้านมากมายเหมือนกับปะการังอื่นๆ ปะการังโลหิตนี่มีแค่กิ่งก้านเล็กๆไม่กี่กิ่ง และก้านหลักของมันก็ยังบิดเบี้ยวอีกด้วย
“ปะการังโลหิตนี่ ทำไมมันถึงได้ดูเหมือนกับ…เหมือนกับมังกร…”
หานเซิ่นมองไปที่ปะการังโลหิตขณะที่ความคิดนั้นแว็บเข้ามาในหัวของเขา
รูปร่างของปะการังนั้นคดเคี้ยวคล้ายงู มันดูเหมือนกับมังกรจีนที่บินอยู่ในหมู่เมฆ รูปร่างของมันบ่งบอกว่ามันต้องการจะทะยานไปให้สูงยิ่งกว่านี้ แต่มันเป็นเพียงแค่ชิ้นปะการัง ถึงอย่างนั้นมันก็ให้ความารู้สึกที่ประหลาดราวกับว่ามันกำลังจะเป็นอิสระจากผืนดินและบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้า
‘แปลกจริงๆ ปะการังสีแดงประหลาดนี้คืออะไรกัน? มันดูมหัศจรรย์มากๆ แต่ดูไม่เหมือนว่ามันจะมีชีวิต…’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
หานเซิ่นอยู่ห่างจากไปจากปะการังประหลาดนั้นพอสมควรและพยายามจะตัดสินใจว่าควรเข้าไปใกล้มันดีหรือไม่ แต่ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงประหลาด
วา-ลา-ลา! วา-ลา-ลา!
หานเซิ่นหันมองไปทางที่เสียงดังขึ้นมา และเขาก็เห็นป่าปะการังโลหิตสั่นไหวอย่างบ้าคลั่ง ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็เห็นปลาไหลไฟฟ้าโผล่ออกมาจากปะการัง
เนื่องจากร่างกายของมันใหญ่โตเกินไป ในตอนที่มันเคลื่อนที่ระหว่างปะการังโลหิต ร่างกายของมันจึงไปถูกับปะการัง
แต่ปะการังโลหิตไม่ได้ล้มหรือหัก เนื่องจากการเคลื่อนที่ของปลาไหลไฟฟ้า ความจริงแล้วขอบที่แหลมคมของปะการังเฉือนเข้าไปในผิวของเจ้าปลาไหล ทำให้เกิดเป็นบาดแผลเล็กๆมากมาย
แต่เจ้าปลาไหลไฟฟ้าดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรเกี่ยวกับบาดแผลที่มันได้รับ มันยังคงฝ่าดงปะการังเข้ามาอย่างรวดเร็ว ไม่กี่วินาทีต่อมามันก็มาถึงตรงหน้าปะการังประหลาดที่ดูเหมือนกับมังกร
ในตอนที่มันอยู่ห่างจากปะการังประหลาดนั่นไปเพียงแค่สิบเมตร เจ้าปลาไหลก็หยุดเคลื่อนที่ ดวงตาของมันจ้องไปที่ปะการังโลหิตตรงหน้าอย่างขะมักเขม้น มันไม่เคลื่อนไหวเป็นเวลาสักพัก
“ดูเหมือนว่าพลังในการสัมผัสสิ่งรอบๆตัวของเจ้าปลาไหลไฟฟ้าจะถูกลดลงไปด้วยเช่นเดียวกัน ไม่อย่างนั้นมันก็คงจะรู้สึกตัวว่าเราอยู่ใกล้มัน”
หานเซิ่นซ่อนตัวอยู่ด้านหลังปะการังขนาดใหญ่โดยที่เอนตัวออกมาด้านข้างเพื่อดูว่าเจ้าปลาไหลกำลังจะทำอะไร
ปลาไหลไฟฟ้ามองไปที่ปะการังโลหิตประหลาดอยู่สักพัก ที่สุดแล้วมันก็ค่อยๆเคลื่อนที่เข้าไปหาปะการัง มันอ้าปากกว้างและกลืนปะการังโลหิตประหลาดเข้าไป
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนหานเซิ่นไม่มีเวลาตอบสนองได้ทัน ในตอนที่เขาเห็นปลาไหลไฟฟ้ากินปะการังโลหิตนั่นเข้าไป เขาก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาในทันที
“ดูเหมือนว่าชิ้นปะการังโลหิตนั่นจะเป็นของดี ถ้ารู้แบบนั้น เราก็คงจะเอามันไปตั้งแต่แรก” ทันใดนั้นอีกความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัวของหานเซิ่น
“นี่คือทะเลฝังมังกร ตำนานบอกว่ามังกรระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อตตัวหนึ่งได้มาตายที่นี่ ปะการังโลหิตนั้นคงจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับมังกรขั้นทรูก็อตตัวนั้นหรอกใช่ไหม? ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เราก็พลาดบางสิ่งที่ล้ำค่ามากๆไป”
ขณะที่หานเซิ่นกำลังเสียใจกับการตัดสินใจของตัวเอง เขาก็เห็นปลาไหลไฟฟ้าเริ่มจะชักกระตุกและดิ้นไปดิ้นมา
ร่างกายของมันปะทุด้วยสายฟ้า แต่ในตอนที่สายฟ้าสัมผัสกับปะการังโลหิตที่อยู่ใกล้เคียง พวกมันก็ดับไป พวกมันไม่แม้แต่จะทิ้งรอยไหม้เอาไว้บนปะการังโลหิต
“ปะการังพวกนี้ทรงพลังจริงๆ! แม้แต่พลังสายฟ้าของเจ้าปลาไหลนั่นก็สร้างความเสียหายกับพวกมันไม่ได้หรอเนี่ย? ปะการังโลหิตพวกนี้ดูเหมือนจะแข็งแรงยิ่งกว่าสมบัติระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟซะอีก… และป่านี่มีปะการังอยู่เป็นจำนวนมาก ถ้าเรานำพวกมันทั้งหมดกลับไปและใช้พวกมันเพื่อสร้างปราสาทขึ้นมา มันก็จะเป็นปราสาทที่ป้องกันได้แม้แต่การบุกรุกของยอดฝีมือระดับเทพเจ้า”
หานเซิ่นเริ่มจะน้ำลายไหลขณะที่เขาคิดแบบนั้น เขามองไปที่ปะการังโลหิตด้วยตัณหา เขาเริ่มจะคิดแผนการที่จะเอาปะการังโลหิตพวกนี้กลับไป ในตอนที่เขามีซีโน่เจเนอิคสเปชเป็นของตัวเอง เขาก็จะใช้พวกมันเพื่อสร้างปราการขึ้นมา
ขณะเดียวกันปลาไหลไฟฟ้าดูเหมือนจะกำลังอยู่ในความเจ็บปวด ร่างกายของมันบิดเบี้ยวไปมา ขณะที่หางของมันฟาดใส่พื้นทรายซ้ำๆจนเกินเป็นหลุมขนาดใหญ่ เกล็ดที่เหมือนกับเพชรของมันเริ่มจะกลายเป็นสีแดง ดูเหมือนกับว่าเส้นเลือดทั้งหมดของเจ้าปลาไหลกำลังจะแตกและเลือดก็ย้อมผิวของมัน
“นี่มันอะไรกัน?” หานเซิ่นไม่ได้เสียเวลามองดูปลาไหลไฟฟ้าดิ้นไปมาด้วยความเจ็บปวด การดิ้นรนของมันได้เปิดรูบริเวณที่ปะการังโลหิตประหลาดนั่นเคยอยู่ และในรูนั่นดูเหมือนจะไร้ซึ่งเม็ดทราย แต่ทว่ามันมีบางสิ่งกำลังเรืองแสงสีแดงออกมา