ความอยากชนะที่ลุกโชนในหัวใจของเชลมากมายเหลือคณานับ เขาชกออกไปใส่หานเซิ่นราวกับพายุลูกเห็บ
หานเซิ่นยิงปืนอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อตอบโต้แต่ละพลังหมัดของเชล ไม่ว่าหมัดของเชลจะทรงพลังสักแค่ไหน พวกมันก็ไม่สามารถเข้ามาใกล้ตัวหานเซิ่นได้
หลี่ชุนชิวสามารถบอกได้ว่าถึงเชลจะใช้วิชาระเบิดดารา เขาก็แค่ทัดเทียมกับหานเซิ่นเท่านั้น สีหน้าของหลี่ชุนชิวดูตรึงเครียดและเขาก็คิดกับตัวเอง ‘ถ้านี่คือพลังพื้นฐานของหานเซิ่น แบบนั้นมันก็น่ากลัวเกินไปแล้ว’
หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทตกตะลึงยิ่งกว่า เพราะพวกเธอรู้ว่าหานเซิ่นแค่ใช้พลังพื้นฐานเท่านั้น เขาไม่ได้ใช้วิชาจีโนเสริมพลังเหมือนกับเชล
แค่พลังพื้นฐานของเขาก็มากพอจะต่อสู้กับเชลที่ใช้วิชาระเบิดดารา นั่นเกือบจะเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ
ความจริงแล้วหานเซิ่นคิดว่านี่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่น่าแปลกใจอะไร เพราะยังไงซะวิชาจีโนทั้งสี่ของเขาก็เลื่อนไปสู่ระดับเทพเจ้าทั้งหมดแล้ว ซึ่งแต่ละวิชาจีโนจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของเขา
ขณะที่เวลาผ่านไป เชลก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของเขาเรืองแสงสว่างสไวยิ่งกว่าเดิม แต่หมัดของเขาก็ยังคงถูกหยุดเอาไว้โดยกระสุนของหานเซิ่น เวลาสิบนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว และผิวของเชลก็เริ่มจะแตกร้าวและมีเลือดไหลออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะทนได้อีกไม่นานนัก
“หานเซิ่น รับหมัดสุดท้ายของข้า!” เชลคำราม เขาชกไปใส่หานเซิ่นราวกับคนที่คลุ้มคลั่ง
วินาทีต่อมา หานเซิ่นก็เห็นว่าภายในหุบเขาตรงหน้าเต็มไปด้วยดวงอาทิตย์จำนวนนับไม่ถ้วน พลังหมัดนั่นเป็นเหมือนกับกลุ่มดาวที่กำลังจะระเบิด
‘คืนสู่สายธารภายใต้การใช้ระเบิดดารา แม้แต่ระดับเทพเจ้าขั้นลาร์วาก็ต้องกลัวการโจมตีนั้น’ หลี่ชุนชิวคิดกับตัวเอง
ความสามารถของเชลยอดเยี่ยมยิ่งกว่าที่เขาคิด ขณะที่ใช้วิชาระเบิดดารา เขายังสามารถใช้วิชาคืนสู่สายธารได้อย่างสมบูรณ์แบบ พลังและพรสวรรค์ของเชลนั้นเป็นอะไรที่สุดยอดอย่างแท้จริง
หานเซิ่นเห็นพลังหมัดซัดเข้ามาราวกับแม่น้ำ แต่เขาไม่มีแผนจะถอยออกไป เขารวมปืนคู่เข้าด้วยกันและเปลี่ยนเป็นปืนอาร์พีจี
หานเซิ่นเล็งปืนไปยังพลังหมัดที่เหมือนกับแม่น้ำดวงดาว จรวดพุ่งตรงไปที่ใจกลางการโจมตีของเชล
‘ไม่ว่าจรวดนั่นจะทรงพลังแค่ไหน มันก็ต่อต้านวิชาคืนสู่สายธารที่ถูกเสริมพลังด้วยวิชาระเบิดดาราไม่ได้’ หลี่ชุนชิวคิดกับตัวเอง แต่วินาทีต่อมาเขาก็ต้องอึ้งไป
จรวดชนเข้าไปที่จุดศูนย์กลางของสายธารพลังหมัด หลังจากนั้นมันก็ระเบิดออกราวกับอาวุธนิวเคลียร์ แรงระเบิดนั้นดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ
ตูม!
แรงระเบิดนั้นดูเหมือนกับว่าจะทำลายทั้งจักรวาล ภายในแรงระเบิดนั้นมีแสงสว่างมากเกินไปจนผู้ชมมองไม่มองเห็นอะไร
เมื่อแสงจากแรงระเบิดเบาบางลงไปแล้ว หลี่ชุนชิวก็เห็นหานเซิ่นและเชลอยู่ยืนในหุบเขาอย่างครบสามสิบสอง แต่มีหลุมขนาดใหญ่มหึมาถูกสร้างขึ้นบนพื้นหินระหว่างพวกเขาทั้งคู่
หานเซิ่นไม่ได้ทำการโจมตีต่อ เชลเองก็เช่นกัน แต่ทุกคนรู้ว่าเชลเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เรียบร้อยแล้ว เวลาของวิชาระเบิดดาราหมดลงแล้ว เชลไม่เหลือพลังจะใช้ต่อสู้กับหานเซิ่นอีกต่อไป
“ข้าเป็นฝ่ายแพ้” เชลยอมรับอย่างตรงไปตรงมา แต่หานเซิ่นสามารถบอกได้ว่าแชลยังคงต้องการจะต่อสู้ เขาไม่คิดจะยอมแพ้เพราะความล้มเหลวแค่ครั้งสองครั้ง
หลี่ชุนชิวไม่ได้พูดอะไร หานเซิ่นเป็นฝ่ายชนะจริงๆ ไม่ว่าใครก็บอกได้ว่าหานเซิ่นนั้นแข็งแกร่งกว่าเชล และมันไม่ใช่การเอาชนะแบบฉิวเฉียด
แต่หลี่ชุนชิวยังคงมั่นใจว่าถ้าเขาช่วยเชลฝึกจนถึงจุดสูงสุด เชลก็มีโอกาสที่จะเอาชนะหานเซิ่นได้
หลี่ชุนชิวต้องยอมรับว่าในตอนนี้หานเซิ่นแข็งแกร่งกว่า ความจริงแล้วคริสตัลไลเซอร์คนนี้แข็งแกร่งกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มาก เขาคิดว่าหานเซิ่นนั้นด้อยกว่าเชลและอวี้ซ่านซิน แต่ตอนนี้มันเห็นได้ชัดว่าหานเซิ่นไม่ได้อ่อนแอไปกว่าทั้งคู่เลย เขาคงจะแข็งแกร่งกว่าทั้งคู่ด้วยซ้ำ
“พลังในการต่อสู้ไม่ได้เป็นทุกอย่าง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสามารถที่จะกลายเป็นระดับเทพเจ้าขั้นทรูก็อต เชลเป็นคนที่มีพรสวรรค์ระดับสิบเอ็ดเปลือกเทียม มันมีโอกาสสูงที่เขาจะไปถึงขั้นทรูก็อต นั่นจะเป็นชัยชนะที่แท้จริง” หลี่ชุนชิวจ้องไปที่หานเซิ่นอยู่สักพัก หลังจากนั้นเขาจากไปพร้อมกับเชล
“เจ้ากลายเป็นระดับเทพเจ้าโดยที่ไม่บอกพวกเรา เจ้าจะชดใช้ในเรื่องนี้ยังไง?” หลี่เคอเอ๋อยิ้มให้กับหานเซิ่นขณะที่พูด
“ข้าจะทำทุกอย่างที่พวกเจ้าต้องการ” หานเซิ่นพูดขณะที่แบมือทั้งสองข้าง
“ข้าต้องการให้เจ้าไปยืนเอาหน้าเข้าหากำแพง” หลี่เคอเอ๋อพูดขณะที่ทำท่าทางโกรธ
“ข้าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ข้าไม่ใช่เด็กสามขวบ ลงโทษข้าด้วยวิธีอื่น”
หานเซิ่นยิ้มแห้งๆ มีเพียงแค่เด็กเท่านั้นที่ถูกลงโทษโดยการให้ยืนเอาหน้าเข้าหากำแพง
“ไม่ เจ้าต้องไปยืนเอาหน้าเข้าหากำแพง เจ้าต้องไปยืนเอาหน้าเข้าหากำแพงเป็นเวลาหนึ่งเดือน” หลี่เคอเอ๋อพูดด้วยรอยยิ้ม
หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เอ็กซ์ควิสิทพูดขัดขึ้นมาก่อน
“หยุดเถียงกันได้แล้ว ที่หลี่เคอเอ๋อบอกว่าเจ้าต้องไปยืนเอาหน้าเข้าหากำแพงนั้นเป็นเพราะว่าหลังจากที่ตัวไหมกลายเป็นระดับเทพเจ้า พวกเขาจะต้องไปที่กำแพงโบราณ นั่นเป็นเรื่องดีสำหรับพวกเราทุกคน”
“แบบนี้นี่เอง” หานเซิ่นเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าหลี่เคอเอ๋อไม่ได้โมโห เธอแค่หยอกล้อเขาเล่น
“แต่เจ้าเพิ่งจะกลายเป็นระดับเทพเจ้า ตอนนี้เจ้าควรไปหาเป่าเอ๋อและใช้เวลากับนางซะก่อน เจ้าจะไม่ได้เห็นนางเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มๆขณะที่เจ้าอยู่ที่กำแพงโบราณ” เอ็กซ์ควิสิทพูด
หานเซิ่นพยักหน้า หลังจากนั้นเอ็กซ์ควิสิทก็พาเขากลับไปที่ต้นไม้ดารา เนื่องจากเรื่องที่เกิดขึ้นหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทก็ไม่กล้าจะออกห่างจากหานเซิ่นอีก หนึ่งในพวกเธอจะอยู่ข้างกายหานเซิ่นเสมอเพื่อในกรณีที่มีเรื่องใหญ่โตอะไรเกิดขึ้นอีก นั่นทำให้เขารู้สึกหดหู่อย่างมาก เขาไม่มีเวลาอิสระอีกแล้ว
‘เราทำตัวให้ดูพิเศษเกินไปไม่ได้จริงๆ ไม่อย่างนั้นเราก็จะไม่มีอิสระเลยสักนิดเดียว’ หานเซิ่นคิดขณะที่นั่งดื่มชาอยู่ใต้ต้นไม้
เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เขากำลังคิด แต่เธอไม่ได้สนใจอะไรเขาและยังคงอ่านหนังสือต่อไป
“เจ้ากำลังอ่านอะไร?” หานเซิ่นถามขณะที่ยื่นหัวเข้ามาข้างๆเธอ
“ไม่มีอะไร” เอ็กซ์ควิสิทรีบปิดหนังสือก่อนที่หานเซิ่นจะเห็นว่ามันคืออะไร และเธอก็เก็บมันเข้ากระเป๋าไป
“กำแพงโบราณคือสถานที่แบบไหนกัน?” ถึงแม้หานเซิ่นจะอยากรู้ว่าเอ็กซ์ควิสิทกำลังอ่านอะไรอยู่ แต่ถ้าเธอไม่อยากจะบอกเขา แบบนั้นเขาก็จะไม่ถามต่อ
เอ็กซ์ควิสิทพูด “กำแพงโบราณคือสถานที่ที่บรรพบุรุษเคยไปวาด”
“วาด?” หานเซิ่นประหลาดใจ
เมื่อเห็นความประหลาดใจของหานเซิ่น เอ็กซ์ควิสิทก็ยิ้มและอธิบาย
“มันไม่ใช่การวาดธรรมดาๆ เขาเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงของเผ่าพันธุ์ ถึงแม้เขาจะไม่เคยได้ขึ้นเป็นผู้นำ แต่เขาก็ศึกษาเวรี่ไฮเซ้นส์จนเทียบชั้นได้กับอัลฟ่า”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ เอ็กซ์ควิสิทก็มองไปที่ผลไม้ดาราและพูด
“ก่อนที่เขาจะเข้าไปในจีโนฮอลล์ เขาได้นั่งอยู่ตรงหน้ากำแพงโบราณเป็นเวลาสองปี สองปีต่อมาในตอนที่เขาลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เขาทำก็คือวาดรูปลงบนกำแพง หลังจากที่เขาวาดมัน เขาก็บินไปที่จีโนฮอลล์ ภาพวาดอยู่ที่นั่นตั้งแต่นั้นมา มันเป็นตำนานและจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเข้าใจว่าภาพวาดของเขา”