เมื่อทุกคนเห็นหานเซิ่นแทงมือไปข้างหน้า ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลก็ดูเหมือนจะปลดปล่อยมีดแสงออกมา พวกมันทั้งหมดทำตามประสงค์ของหานเซิ่น มีดแสงนับไม่ถ้วนปกคลุมท้องฟ้าและผืนดิน พวกมันพุ่งตรงเข้าไปหาเชลที่ดูเหมือนกับสิงโตปีศาจ
แม้แต่ยอดฝีมืออย่างเชลก็ไม่สามารถป้องกันมีดแสงที่ถูกปล่อยออกมาจากทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลได้ เขาห่อหุ้มตัวเองด้วยโซ่สสารขณะที่พุ่งเข้าไปหาหานเซิ่น
“เป็นไปไม่ได้… เชลจะไม่แพ้การต่อสู้นี้…. ไม่ ไม่ ไม่!”
หลี่อวี้เจินและหลี่เสวี่ยเฉิงร้องตะโกน หลังจากนั้นพวกเขาก็อ้าปากค้าง พวกเขาอึ้งกับภาพที่เห็นเกินกว่าจะส่งเสียงอะไรออกมาได้อีก แต่ทว่าในหัวใจของพวกเขา น้ำตาแห่งความโศกเศร้ากำลังไหลออกมา
เชลพยายามจะพุ่งผ่านมีดแสงไป แต่มีดแสงนั้นยังคงปรากฏออกมาจากทั้งท้องฟ้าและผืนดินอย่างไม่หยุดยั้ง ที่สุดแล้วพลังของเชลก็ทนต่อไปไม่ไหว ในจังหวะที่โซ่สสารรอบร่างกายของเชลเริ่มจะแตกกระจาย มีดแสงก็เริ่มเฉือนร่างกายของเขา
มีดแสงเหล่านั้นเป็นเพียงแค่ระดับครึ่งเทพ การฟันหนึ่งครั้ง สิบครั้งหรือแม้แต่ร้อยครั้งก็ไม่เพียงพอจะสร้างความเสียหายกับเชลที่เป็นระดับเทพเจ้า
แต่มีดแสงเหล่านั้นมีจำนวนมากเกินกว่าจะนับได้ แม้แต่ร่างกายของเชลที่เป็นระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถทนได้ แน่นอนว่าทั้งหมดนี่เป็นเพราะร่างกายระดับเทพเจ้าของเชลไม่แข็งแกร่งพอ ถ้าเขาอยู่ยงคงกระพันอย่างแท้จริง มันก็ไม่สำคัญว่าจะมีมีดแสงพุ่งมาใส่เขามากสักแค่ไหน น่าเสียดายที่ร่างกายของเชลยังไม่แข็งแกร่งถึงขั้นนั้น
เมื่อได้เห็นร่างกายของเชลถูกกระหน่ำโจมตีจนมีเลือดกระเด็นออกไปทุกทิศทุกทาง หลี่อวี้เจินและหลี่เสวี่ยเฉิงก็แทบจะเป็นลม ขณะที่ทางด้านของผู้อาวุโสโอเพ่นสกายและคนอื่นกำลังมีความสุขเหมือนได้อยู่บนสวรรค์
เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อเองก็มีความสุขเช่นกัน พวกเธอสัมผัสจิตแห่งมีดของหานเซิ่น โดยการมองดูการต่อสู้นี้ พวกเธอก็สามารถเรียนรู้วิชาใต้นภาของเขา
ที่สุดแล้วมีดแสงมากมายนับไม่ถ้วนก็ไม่ได้มาจากท้องฟ้าหรือผืนดินโดยตรง ความจริงแล้วพวกมันทั้งหมดเป็นมีดแสงที่หานเซิ่นเคยปล่อยออกไป หลังจากที่มันถูกทำลาย พวกมันก็ละลายไปในท้องฟ้า ผืนดินและทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ เขาได้ใช้พลังของท้องฟ้าและผืนดินเพื่อจะใช้พลังงานเหล่านั้นสร้างมีดแสงขึ้นมาใหม่
นี่คล้ายคลึงกับมีดเส้นไหมแต่เป็นอะไรที่ดียิ่งกว่า ท้องฟ้าและผืนดินนั้นได้กลายเป็นผู้ถือมีดแสงเหล่านั้น หลังจากที่มีดแสงถูกสร้างขึ้นมา พวกมันก็ปรากฏในทุกธาตุที่สามารถจินตนาการได้ พวกมันกลายเป็นอะไรที่น่ากลัวยิ่งกว่ามีดเส้นไหม
มีดแสงที่ถูกทำลายและลงไปในน้ำ หลังจากที่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาเป็นมีดแสงอีกครั้ง พวกมันก็จะบรรจุธาตุน้ำเอาไว้ข้างใน ในตอนที่มีดแสงละลายเข้าไปในดินของภูเขา หลังจากที่พวกมันถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง พวกมันก็จะบรรจุธาตุของภูเขา
แต่ถึงอย่างนั้นมีดแสงทั้งหมดก็ยังคงพึ่งพาพลังของหานเซิ่น หานเซิ่นต้องใช้เวลาในการสะสมพลังเอาไว้ในสภาพแวดล้อมรอบๆตัวเพื่อจะทำการโจมตีแบบนี้ ยิ่งหานเซิ่นใช้มีดแสงในระหว่างการต่อสู้มากเท่าไหร่ มีดแสงที่จะหลั่งไหลออกมาในตอนสุดท้ายก็จะน่าสะพรึงกลัวขึ้นมากเท่านั้น
นั่นหมายความว่าท่านี้ใช้เวลานานในการจัดเตรียม ไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่สามารถปลดปล่อยมีดแสงที่มากมายขนาดนี้ได้
“วิชาใต้นภานี่ไม่เลวเลย ด้วยวิชานี้หานเซิ่นจะต่อสู้กับคนอื่นที่อยู่ระดับเดียวกันหรือสูงกว่าได้ ถ้าเขาทำแบบนี้เมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ เขาจะเป็นนักสู้ที่ไร้เทียมทาน ถ้าเขารอดชีวิตได้นานพอ ในตอนที่เขาใช้มัน คนอื่นที่อยู่ระดับเดียวกันก็จะไม่มีทางป้องกันสายธารของมีดแสงที่เข้ามาจากทุกทิศทุกทางได้ เชลนั้นโชคร้ายที่ต้องมาสู้กับหานเซิ่น”
หลี่เคอเอ๋อสรุปพร้อมกับถอนหายใจออกมา ในตอนนี้ร่างกายของเชลอยู่เหนือการควบคุม คลื่นของมีดแสงที่ไร้ที่สิ้นสุดกำลังซัดร่างกายของเขาไปราวกับซากเรืออับปางบนมหาสมุทร
“เพื่อจะเอาชนะหานเซิ่น คนนั้นจะต้องเอาชนะเขาอย่างรวดเร็ว ศัตรูของหานเซิ่นต้องสยบเขาให้ได้ในเวลาอันสั้น ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็จะเป็นฝ่ายที่พ่ายแพ้ซะเอง” เอ็กซ์ควิสิทพูด
“การใช้วิชาใต้นภาของเขายอดเยี่ยม มันทำให้เขาเอาชนะเชลได้ในท้ายที่สุด ดูเหมือนว่าเราจำเป็นต้องฝึกเชลเพื่อรับมือกับพลังนี้ ในตอนที่พวกเขาต่อสู้กันอีกครั้ง หานเซิ่นจะใช้พลังนี้ของวิชามีดใต้นภาไม่ได้อีกต่อไป” หลี่ชุนชิวพูด เขาวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่เชลเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และหาวิธีการที่จะทำให้เชลกลายเป็นนักสู้ที่สมบูรณ์แบบ
เมื่อเห็นว่าร่างกายของเชลไม่สามารถทนมีดแสงมากมายนับไม่ถ้วนได้ หานเซิ่นก็ยกมือขึ้นเพื่อทำให้มีดแสงที่อยู่ทุกหนทุกแห่งหายไป เขาไม่คิดจะปล่อยให้มีดแสงฉีกร่างกายของเชลจนเป็นชิ้นๆ หลังจากนั้นหุบเขาก็กลับสู่ความเงียบสงัดอีกครั้งหนึ่ง
“เจ้าเป็นฝ่ายชนะ” เชลพูดหลังจากที่ลุกขึ้นมาได้ เขายังสามารถต่อสู้ต่อได้ แต่ตอนนี้เขายอมแพ้ต่อหานเซิ่นและเทเลพอร์ตออกไปจากหุบเขาด้วยตัวเอง
เชลรู้ว่าหานเซิ่นหยุดการโจมตีกลางคัน และเขาก็รู้ว่าถ้าต้องรับมีดแสงทั้งหมด ร่างกายของเขาก็คงจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ดังนั้นเขาจึงยอมรับความพ่ายแพ้ของตัวเอง
หลี่เสวี่ยเฉิงและหลี่อวี้เจินคุกเข่าลงไปกับพื้น พวกเขาจ้องตาค้างไปที่หน้าจออย่างไม่อยากจะเชื่อกับผลลัพธ์ พวกเขาไม่สามารถยอมรับมันได้
“พวกเราจะทำยังไงดี? พวกเราจะต้องจ่ายหนี้ครั้งใหญ่ และยังอัญมณีโอเพ่นสกาย…” จิตใจของทั้งคู่ยุ่งเหยิงจนทำอะไรไม่ถูก
“แค่วิชามีดเดียวก็เพียงพอจะจำลองสกายแอนด์บีอิ้งคอมบิเนชั่นขึ้นมา หานเซิ่นคนนี้ยอดเยี่ยมจริงๆ น่าเสียดายที่เขาเป็นเพียงแค่ตัวไหมและไม่ใช่ทายาทของเผ่าเวรี่ไฮ” ผู้อาวุโสโอเพ่นสกายดีใจที่ชนะการเดิมพัน แต่เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดายกับฐานะที่ต่ำของหานเซิ่น
หลังจากที่ต่อสู้กับเชล มันก็ไม่มีตัวไหมคนอื่นกล้ามาท้าสู้กับหานเซิ่นอีก พวกเขาต่อสู้กันเองก่อนที่จะออกจากหุบเขาไป ที่สุดแล้วหานเซิ่นก็เป็นเพียงคนเดียวที่ยังอยู่ในหุบเขา ในตอนที่คนอื่นๆออกกันไปหมดแล้ว บาร์เรียของหุบเขาก็หายไป
ในขณะเดียวกันกล่องสมบัติทองแดงสี่เหลี่ยมก็ปรากฏออกมา มันร่วงลงมาจากท้องฟ้าอย่างช้าๆ มันลงมาตรงหน้าของหานเซิ่น
หานเซิ่นเปิดกล่องสมบัติทองแดงนั้นและเห็นว่าภายในมีสมบัติซีโน่เจเนอิคเจ็ดชิ้นที่ประกอบเป็นเซ็ตอะพอลโล
หานเซิ่นไม่คิดจะมัวแสแสร้งว่าตัวเองเป็นคนที่สมถะ เขารีบสวมใส่เซ็ตอะพอลโลในทันที สมบัติทั้งเจ็ดชิ้นประกอบไปด้วยส่วนหมวกหนึ่งชิ้น ส่วนลำตัวท่อนบนหนึ่งชิ้น ส่วนลำตัวท่อนล่างหนึ่งชิ้นและส่วนถุงมือกับรองเท้าอีกอย่างละสองชิ้น ตอนนี้สมบัติระดับเทพเจ้าทั้งเจ็ดห่อหุ้มตัวของเขา ชุดเกราะโครเมียมนี้ทำให้หานเซิ่นดูเหมือนกับมนุษย์กระจก
ในตอนที่หานเซิ่นสวมใส่ชุดเกราะชิ้นสุดท้าย ปีกเงินขนาดใหญ่ก็ปรากฏบนหลังของเขา พวกมันทำให้เขาดูเหมือนกับอะพอลโลที่เฉิดฉายในท้องฟ้า
ตัวไหมหลายคนมองหานเซิ่นด้วยความอิจฉา แต่หานเซิ่นยังกล้าดีพอที่จะบ่น
“เช็ตอะพอลโลนี่มันอะไรกัน? มันเหมือนกับว่าฉันกำลังสวมใส่หลอดไฟ ฉันจะสว่างยิ่งกว่าดวงอาทิตย์เสียอีก ศัตรูจะสังเกตเห็นฉันเข้ามาตั้งแต่ระยะไกลเป็นหมื่นไมล์ และฉันก็คงจะซ่อนตัวในพุ่มไม้ไม่ได้เมื่อสวมเจ้าสิ่งนี้ ฉันจะเหมือนกับเป้าหมายติดไฟนีออนที่สว่างไสว”
ถึงแม้หานเซิ่นจะบ่น แต่เซ็ตอะพอลโลก็ปลดปล่อยออร่าที่ทรงพลังออกมา นั่นทำให้หานเซิ่นรู้สึกดีใจมากๆ
พลังระดับครึ่งเทพของเขาไม่เพียงพอจะใช้พลังเต็มที่ของเซ็ตอะพอลโลได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังเป็นอะไรที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีกอะพอลโลที่ปรากฏจากด้านหลังของเขา พวกมันจะมอบความเร็วที่เทียบได้กับระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟให้กับหานเซิ่น เขาอาจจะรวดเร็วยิ่งกว่าเชลขณะที่เขามีมันอยู่
หานเซิ่นกางปีกอะพอลโล หลังจากนั้นเขาก็เทเลพอร์ตไปหาหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิท ความเร็วของเขาเหนือกว่าก่อนหน้านี้
“ชุดเกราะนี่มอบพลังที่ใกล้เคียงกับตอนที่เราสวมเสื้อคลุมวิญญาณราชานกยูง ปีกอะพอลโลนั้นไม่ได้มอบความเร็วที่มากไปกว่าเสื้อคลุมวิญญาณ แต่พลังเต็มที่ของเซ็ตอะพอลโลยังคงไม่ได้แสดงออกมา เมื่อเราใช้พลังที่แท้จริงของมันได้เมื่อไหร่ เราก็อาจจะต่อสู้กับยอดฝีมืออย่างเหมิงเลี่ยได้” หานเซิ่นหลงรักเซ็ตอะพอลโลของเขา