“นั่นไม่แปลกไปหน่อยหรอ?” หานเซิ่นมองไปที่เอ็กซ์ควิสิทด้วยความแปลกใจ
“มีอะไรแปลก? ไหนๆเจ้าก็ถูกจับตามองโดยคนๆหนึ่งแล้ว การถูกจับตามองเพิ่มอีกคนจะเป็นอะไรไป เจ้าแค่จำเป็นต้องแบ่งปันประสบการณ์ของเจ้าให้กับคนอื่นเพิ่มอีกคน มันไม่ได้เป็นผลเสียอะไรกับเจ้าแม้แต่น้อย และเจ้ายังจะได้รับผลประโยชน์มากขึ้นอีก เจ้าจะได้รับทรัพยากรจากทั้งข้าและน้องสาวของข้า นั่นไม่ใช่เรื่องดีหรอกหรอ?” เอ็กซ์ควิสิทพูดกับหานเซิ่นด้วยรอยยิ้ม
“ที่เจ้าพูดมันก็ถูก แต่ข้าคิดว่ามันอาจจะยังมีปัญหาบางอย่างกับแผนการนี้” หานเซิ่นพูดเบาๆ
“มันจะมีปัญหาอะไรได้? เจ้าไม่ดีใจหรือยังไงที่จะได้รับทรัพยากรเพิ่มเป็นสองเท่าน่ะ?”
เอ็กซ์ควิสิทคิดเกี่ยวกับมันอีกสักครู่ หลังจากนั้นเธอก็พูดต่อไปว่า “ถ้าเจ้ากลายเป็นตัวไหมของหลี่เคอเอ๋อ เจ้าก็จะได้รับผลไม้ดาราเพิ่มอีก”
“แต่ผู้อาวุโสไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ข้าคิดว่าจะหยุดการมอบผลไม้” หานเซิ่นพูด
“ข้าแค่ยกตัวอย่าง มันยังมีทรัพยากรอีกมากที่เหมือนกับต้นไม้ดารา และเจ้าจะได้รับพวกมันเพิ่มเป็นสองเท่า”
เอ็กซ์ควิสิทพูด หลังจากนั้นเธอก็วางมือลงบนไหล่ของหานเซิ่นและเทเลพอร์ตเขาไป พวกเขาไปปรากฏตัวตรงหน้าแท่นบูชาที่หานเซิ่นทำพันธสัญญากับเอ็กซ์ควิสิท
หานเซิ่นทำพันธสัญญาอีกครั้งหนึ่งและกลายเป็นตัวไหมของหลี่เคอเอ๋อด้วยอีกคน
และเนื่องจากเอ็กซ์ควิสิทอยู่ที่นั่นด้วย หานเซิ่นต้องทำจิตใจให้ว่างเปล่าอยู่ตลอดเวลา เขารอจนกระทั่งอยู่ตามลำพังและออกจากระยะการเชื่อมต่อของเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อ ก่อนที่เขาจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้เพิ่มเติม เขากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย
“รูปปั้นหยกของผู้นำปราสาทนภาจะดูดซับเครื่องหมายของพันธสัญญาอันที่สองได้ไหมนะ ถ้ามันทำไม่ได้ เราก็จะถูกเปิดโปง”
หานเซิ่นรีบนำเอารูปปั้นหยกออกมาและกดมันลงไปบนตราประทับของหลี่เคอเอ๋อ
โชคดีที่ความกังวลของหานเซิ่นไม่เป็นจริง เครื่องหมายนั้นถูกดูดกลืนโดยรูปปั้นหยกได้สำเร็จ
“ในเมื่อรูปปั้นหยกยังคงดูดซับเครื่องหมายพันธสัญญาได้ สถานการณ์ของเราก็ยังเป็นไปด้วยดีอยู่ มันไม่ได้มีความแตกต่างอะไรมาก ไม่ว่าเราจะถูกจับตามองโดยหนึ่งคนหรือสองคน และถ้ามันหมายความว่าเราจะได้รับทรัพยากรเป็นสองเท่า นั่นหมายความว่านี่ถือเป็นเรื่องดีอย่างนั้นสินะ?”
แต่หานเซิ่นยังไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องดีจริงๆ เขารู้สึกว่ามันมีบางสิ่งที่อันตรายเกี่ยวกับสถานการณ์นี้ แต่เขาไม่สามารถระบุได้ว่ามันคืออะไร
‘เอ็กซ์ควิสิทพูดเกี่ยวกับรางวัลที่เราจะได้รับ แต่พวกมันคืออะไร? หวังว่ามันจะเป็นยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ขณะเดียวกันเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อกำลังยืนอยู่ในห้องโถงแห่งหนึ่งเพื่อเซ็นชื่อของหานเซิ่นสำหรับการประลองระหว่างตัวไหม นั่นคือรางวัลที่เอ็กซ์ควิสิทกำลังพูดถึง
การประลองระหว่างตัวไหมจะมอบทรัพยากรจำนวนมากให้กับผู้ชนะ แต่ตัวไหมจะต้องต่อสู้เพื่อพวกมัน ยิ่งพวกเขาได้อันดับสูงมากเท่าไหร่ ทรัพยากรที่พวกเขาจะได้รับก็มากขึ้นเท่านั้น
ในรุ่นนี้มีเผ่าเวรี่ไฮอยู่ทั้งหมดสิบสามคนและตัวไหมทั้งหมดสิบสองคน ซึ่งถ้าใครไม่ติดอันดับหนึ่งในสิบ พวกเขาก็แทบจะไม่ได้รับรางวัลอะไร
ติดในอันดับที่ห้าถึงสิบก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันมากนัก รางวัลที่พวกเขาจะได้รับยังคงเล็กน้อย แต่รางวัลจะดีขึ้นอย่างมากสำหรับคนที่ติดห้าอันดับแรก ตั้งแต่ระดับห้าขึ้นไปทุกระดับจะได้รางวัลเป็นสองเท่าของอันดับก่อนหน้านี้ ซึ่งการที่รางวัลถูกแบ่งแบบนั้นก็เพื่อทำให้ตัวไหมทุกคนพยายามอย่างเต็มที่ในการประลอง
มันเป็นอะไรที่สำคัญสำหรับคนหนุ่มสาวของเผ่าเวรี่ไฮที่ได้จะรู้สึกถึงการต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายของตัวไหม พวกเขาจำเป็นต้องสัมผัสว่าในการต่อสู้แบบนั้นจะต้องดึงเอาความรู้สึกแบบไหนออกมา แบบนั้นพวกเขาก็จะมีประสบการณ์การต่อสู้ที่ตัดสินความเป็นความตายโดยไม่ต้องนำตัวเองไปตกอยู่ในอันตราย มีเพียงแค่เผ่าเวรี่ไฮเท่านั้นที่จะช่วยให้ลูกหลานของพวกเขาทำอะไรแบบนั้น
ทุกคนในเผ่าเวรี่ไฮประหลาดใจเมื่อรู้ว่าเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อมีตัวไหมคนเดียวกัน มันเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่มันถือเป็นเหตุการณ์ที่หาได้ยาก
คนของเผ่าเวรี่ไฮที่ฝึกเวรี่ไฮเซ้นส์ไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรกับเรื่องนี้ แต่คนของเวรี่ไฮอย่างหลี่อวี้เจินนั้นต่างออกไป
“หลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทเลือกตัวไหมคนเดียวกัน หานเซิ่นนั้นโชคดีจริงๆ เขาจะได้ประโยชน์จากพวกเราอีกแล้ว” หลี่อวี้เจินพูดอย่างเย็นชา
หลี่เสวี่ยเฉิงหัวเราะและพูด “การเป็นตัวไหมของเวรี่ไฮสองคนไม่ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเขา เพราะถึงเขาจะได้รับทรัพยากรเป็นสองเท่า แต่ความรับผิดชอบของเขาก็จะเพิ่มเป็นสองเท่าด้วยเช่นกัน”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ หลี่เสวี่ยเฉิงก็พูดต่อ “แถมในตอนที่เขาทำให้คนมากมายต้องสูญเสียทรัพย์สินไปกับการเดิมพัน มันก็จะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะได้รับทรัพยากรอยู่ดี”
“เจ้าเก็บเงินเดิมพันมาแล้วหรือยัง?” หลี่อวี้เจินถาม
“ข้าเก็บพวกมันทั้งหมดตั้งแต่ก่อนที่จะมีประกาศห้ามใช้สมบัติในการประลองแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยให้ใครถอนตัวในตอนนี้”
หลี่เสวี่ยเฉิงพูดต่อ “หานเซิ่นแค่ต้องไม่ได้อันดับที่หนึ่งในการประลอง หลังจากนั้นพวกเราก็จะร่ำรวย ทรัพยากรที่พวกเราได้รับมากพอที่จะทำให้พวกเรากลายเป็นระดับเทพเจ้า มันจะช่วยให้พวกเราไปถึงขั้นลาร์วาเป็นอย่างน้อย และบางทีสมบัติที่นำมาเดิมพันอาจจะเป็นอะไรที่หายาก แต่ถ้าพวกเราแพ้พนัน มันก็ไม่มีทางที่พวกเราจะจ่ายคืนได้ทั้งหมด”
“พวกเราจะแพ้ได้ยังไง?” หลี่อวี้เจินพูดพร้อมกับหัวเราะ
“ตัวไหมทุกคนเป็นระดับครึ่งเทพเป็นอย่างน้อย พวกเขาอยู่ระดับสูงกว่าหานเซิ่นกันทั้งนั้น แถมมันยังมีตัวไหมที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิดอยู่อีก แบบนั้นไม่ว่าหานเซิ่นจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน เขาก็ได้ไม่เกินอันดับที่สองอยู่ดี”
“เจ้าพูดถูก ไม่ว่าระดับราชันขั้นที่เก้าคนหนึ่งจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน พวกเขาก็เอาชนะระดับเทพเจ้าไม่ได้ แถมตัวไหมที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิดยังมีพรสวรรค์ที่สูงมากๆ เขาไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเผ่าเวรี่เลย เขาเทียบได้กับสมาชิกของพวกเราที่อยู่ในระดับเดียวกัน การจะเอาชนะระดับราชันคนหนึ่งนั้นเป็นเรื่องง่ายๆสำหรับเขา” หลี่เสวี่ยเฉิงพูด เขามั่นใจว่าจะชนะการเดิมพันครั้งนี้
ในตอนที่เอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋ออธิบายเกี่ยวกับรางวัลที่สัญญา หานเซิ่นก็ส่ายหัวและพูด
“นี่น่ะหรอของดีที่พวกเจ้าพูดถึง? ข้าจำเป็นต้องสู้เพื่อจะได้มันมา และข้าก็เข้าร่วมในฐานะคนๆเดียว แบบนั้นข้าจะได้ผลประโยชน์เป็นสองเท่ายังไงกัน?”
“เจ้าจะได้รับการสนับสนุนจากพวกเราทั้งสองคน นั่นไม่ถือเป็นผลประโยชน์สองเท่าหรือยังไง?” เอ็กซ์ควิสิทพูด
หานเซิ่นและหลี่เคอเอ๋อมองเอ็กซ์ควิสิทอย่างพูดอะไรไม่ออก หานเซิ่นไม่รู้ว่านี่เอ็กซ์ควิสิทกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า แต่หลี่เคอเอ๋อดูจะประหลาดใจอย่างมากที่เห็นเอ็กซ์ควิสิทพูดอะไรแบบนั้น เธอไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นเอ็กซ์ควิสิทคนเดียวกับที่เติบโตมาพร้อมกับเธอ
“ทำไมเจ้าถึงมองข้าแบบนั้น? ถ้าเจ้ามีเวลาว่าง เจ้าควรอ่านหนังสือเกี่ยวกับคู่ต่อสู้และจำเอาไว้ว่ายิ่งเจ้าได้อันดับสูงมากเท่าไหร่ เจ้าก็จะได้รับทรัพยากรมากเท่านั้น ถ้าเจ้าได้รับอันดับที่สอง เจ้าจะได้รับสมบัติระดับเทพเจ้าและยังทรัพยากรอื่นๆอีกมากมาย” เอ็กซ์ควิสิทพูดอย่างสงบนิ่ง
“แล้วอันดับที่หนึ่งล่ะ?” หานเซิ่นมองดูข้อมูลที่ได้รับขณะที่ถามขึ้นมา
“มันมีคนที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำหนดเข้าร่วมการประลองครั้งนี้ด้วย ซึ่งเขาคงจะได้รับอันดับที่หนึ่ง เจ้าแค่จำเป็นต้องพยายามอย่างเต็มที่ที่จะได้รับอันดับที่สอง” เอ็กซ์ควิสิทพูดพร้อมกับยักไหล่เล็กน้อย
“คนที่เป็นระดับเทพเจ้าตั้งแต่กำเนิดเข้าร่วมด้วย? และข้ายังใช้สมบัติไม่ได้อีก? ถ้าอย่างนั้นข้าก็คงจะได้แค่อันดับที่สองจริงๆ”
หานเซิ่นพูดพร้อมกับพยักหน้า ถ้าเขาไม่สามารถใช้เสื้อคลุมวิญญาณราชานกยูงและธนูเทพงูหกครอ์ได้ เขาก็ไม่คิดว่าจะสามารถเอาชนะยอดฝีมือระดับเทพเจ้าได้ ถึงแม้ระดับเทพเจ้าคนนั้นจะเป็นแค่ขั้นพริมีทีฟก็ตาม