‘เราคงต้องพึ่งตัวเองแล้ว’ หานเซิ่นมองไปรอบๆ เขาเห็นผลไม้ดาราลูกหนึ่งที่ดูค่อนข้างสวยงาม ดังนั้นเขาจึงบินไปหามัน ผลไม้ลูกนี้ดูจะอุมดสมบูรณ์มากๆ เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นสัญญาณของความสุข มันคงจะต้องให้กำเนิดซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอย่างแน่นอน
ผู้คนที่ศึกษาเกี่ยวกับโหงวเฮ้งจะเชื่อว่าพวกเขาสามารถตัดสินบุคลิกภาพของคนๆหนึ่งโดยการวิเคราะห์เพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก หานเซิ่นพยายามจะใช้หลักการเดียวกันกับผลไม้ดารา
“ฮ่าๆ! เจ้าพยายามจะอ่านโหงวเฮ้งของผลไม้อย่างนั้นหรอ?” เอ็กซ์ควิสิทอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา เผ่าเวรี่ไฮนั้นมีวิชาทำนายโดยการดูจากโหงวเฮ้งอยู่เช่นกัน แต่พวกเขาไม่เคยคิดเกี่ยวกับการใช้อะไรแบบนั้นกับผลไม้ดารามาก่อน
“คนเรามีหน้าตา ผลไม้เองก็มีหน้าตาเช่นกัน ถ้าเราดูโหงวเฮ้งของคนๆหนึ่งได้ แบบนั้นทำไมเราจะดูโหงวเฮ้งของผลไม้ไม่ได้?” หานเซิ่นตอบอย่างผ่าเผย
จริงๆแล้วเขาไม่ได้เข้าใจในโหงวเฮ้ง เขาเพียงแค่เคยเห็นมันจากการอ้างอิงในตำราของสำนักเสวียนเท่านั้น หานเซิ่นแทบจะไม่ได้เหลือบมองมันเลย เขาไม่ได้เป็นผู้ศึกษาขึ้นพื้นฐานด้วยซ้ำ เขาไม่สามารถอ่านใบหน้าของคนได้ ผลไม้ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ในตอนนี้เขาก็แค่จำเป็นต้องมีบางสิ่งมาเป็นหลักยึดว่าเขาไม่ได้ทำการเลือกอย่างมั่วๆ เขาหวังจะได้รับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอย่างแรงกล้า
แต่จนถึงตอนนี้หานเซิ่นก็ยังได้รับเพียงแค่ซีโน่เจเนอิคระดับราชันเท่านั้น เขาเลือกผลไม้อีกหลายลูก แต่ซีโน่เจเนอิคที่ปรากฏออกมาก็เป็นระดับราชันทั้งหมด เขาสามารถใช้พวกมันทำงานที่ไม่สำคัญเท่านั้น โดยรวมแล้วพวกมันไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนัก
หลังจากที่เลือกผลไม้ต่อไปเรื่อยๆ หานเซิ่นก็รู้สึกตัวว่าเลือกผลไม้ได้อีกแค่สองลูกเท่านั้น ด้วยความเสียใจกับผลลัพธ์ที่น่าผิดหวัง เขาจึงเลือกผลไม้ที่อยู่ใกล้ๆโดยไม่มัวคิดให้เสียเวลา
เปลือกของผลไม้ทั้งสองลูกสลายไปอย่างรวดเร็วและเผยให้เห็นซีโน่เจเนอิคที่อยู่ภายใน
หนึ่งในพวกมันเป็นหมาป่า หานเซิ่นรู้ในทันทีว่าพลังชีวิตของมันเป็นระดับราชัน แต่อีกตัวหนึ่งทำให้เขารู้สึกมีความสุข
มันเป็นยักษ์หินที่สูงสิบเมตรและร่างกายของมันก็ประกอบด้วยหินดำ มันดูแข็งแกร่งมากๆราวกับภูเขาลูกน้อย
“ซีเจเนอิคระดับเทพเจ้า มันซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าจริงๆ ในที่สุดฉันก็ได้รับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า” หานเซิ่นรู้สึกปลาบปลื้มเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตของยักษ์หิน
เอ็กซ์ควิสิทรู้สึกโล่งใจ ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าหนึ่งตัวจากผลไม้ห้าสิบลูกไม่ได้ถือว่าโชคดีหรือโชคร้ายจนเกินไป มันถือเป็นอะไรที่ปกติ ในขณะที่ยักษ์หินกำลังหลับใหลอยู่ หานเซิ่นก็รีบทำพันธสัญญากับมัน ภายในเอาท์เตอร์สกายนั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า ดังนั้นการมีนักสู้ระดับเทพเจ้าอยู่ข้างกายจะทำให้ชีวิตของหานเซิ่นง่ายขึ้นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเขาต้องฆ่าด้วงดาราในอนาคต การมีซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าอยู่จะช่วยบรรเทาปัญหาของเขา
หานเซิ่นนำกลุ่มซีโน่เจเนเนอิคไปหาชายแก่ ชายแก่ไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ในตอนที่สายตาของเขาเหลือบไปเห็นหมูน้อยรอบๆตัวเป่าเอ๋อ เขาก็ดูประหลาดใจ
“ท่านลุง รู้ไหมว่าหมูน้อยพวกนี้คืออะไร ทำไมมันถึงได้มีซีโน่เจเนอิคที่คล้ายคลึงกันออกมาจากผลไม้ได้?” เอ็กซ์ควิสิทถาม
“ต้นไม้ดาราเป็นพืชขั้นทรูก็อต” ชายแก่พูด
“มันมีพลังงานของจักรวาลอยู่ มันไม่ใช่บางสิ่งที่ข้าจะเข้าใจได้ แต่ว่ามันต้องมีเหตุผลอยู่”
หลังจากที่พูดแบบนั้น ชายแก่ก็นำสิ่งของอย่างหนึ่งออกมามอบให้กับหานเซิ่น
“นี่เป็นโทเค็นของข้า เจ้าจำเป็นต้องใช้มันในตอนที่มากำจัดด้วง ทุกสิบวันเจ้าต้องกลับมาที่นี่เพื่อคอยดูแลต้นไม้ดารา เมื่อไหร่ก็ตามที่ฝูงแมลงมาถึง เจ้าต้องกำจัดพวกมันโดยไม่ปล่อยให้ตัวไหนรอดชีวิตไปได้”
หานเซิ่นโค้งคำนับและรับสิ่งของนั้นมา มันเป็นแท่งไม้เล็กๆที่มีสีของน้ำทะเล และดูเหมือนกับว่ามันถูกทำขึ้นมาจากหยก
โทเค็นนี้มีออร่าที่ทรงพลัง มันดูเหมือนจะเป็นสมบัติระดับเทพเจ้า
หานเซิ่นไม่ได้คาดคิดว่าตัวเองจะได้รับสิ่งของที่ทรงพลัง เขารีบรับแท่งไม้หยกเอาไว้และโค้งคำนับชายแก่อีกครั้ง
“ลุงอย่าได้กังวล ข้าจะดูแลต้นไม้ดาราอย่างดีจนกระทั่งลุงกลับมา”
“ตอนนี้เจ้าไปได้แล้ว” ชายแก่พูด
เป่าเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทกลับไปพร้อมหานเซิ่น แต่เอ็กซ์ควิสิทไม่สามารถเทเลพอร์ตซีโน่เจเนอิคจำนวนมากไปพร้อมกับเธอได้ ถึงแม้เธอจะใช้ยานอวกาศของนาง มันก็ไม่มีที่ว่างพอจะขนซีโน่เจเนอิคทั้งหมดไปอยู่ดี
ดังนั้นหานเซิ่นจึงทิ้งพวกมันเอาไว้ที่นั่น เพราะยังไงซะเขาก็ต้องกลับมาที่ต้นไม้ในอีกสิบวันอยู่แล้ว
เหล่าหมูน้อยของเป่าเอ๋อมีขนาดพอๆกับกำปั้นเท่านั้น ดังนั้นการเคลื่อนย้ายพวกมันไม่ใช่เรื่องยากอะไร หานเซิ่นเอากระเป๋าออกมาใส่หมูน้อยทั้งหมด และเขาก็แบกพวกมันทั้งอย่างนั้น
“เจ้าควรปล่อยพวกมันออกมา ยังไงซะพวกมันก็ไม่ได้ใช้พื้นที่มากอยู่แล้ว” เอ็กซ์ควิสิทพูด เธอเห็นว่าพวกหมูน้อยนั้นดิ้นไปมาในกระเป๋าด้วยความไม่สบายตัว
หานเซิ่นคิดว่าเธอพูดถูก เขานำหมูน้อยออกจากกระเป๋าและปล่อยให้พวกมันทั้งหมดวิ่งไปหาเป่าเอ๋ออย่างมีความสุข หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทางไปโดยใช้ยานอวกาศของเอ็กซ์ควิสิท
“เจ้าอยากกลับไปที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์หรือไปล่าซีโน่เจเนอิค?” เอ็กซ์ควิสิทถามหานเซิ่นขณะที่พวกเขาทั้งคู่นั่งอยู่บนยานอวกาศ
“กลับไปที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ ข้าอยากจะฝึกก็อตส์วอนเดอร์ให้เชี่ยวชาญซะก่อนค่อยออกล่าซีโน่เจเนอิค” หานเซิ่นพูด
เอ็กซ์ควิสิทพยักหน้าและพาหานเซิ่นไปส่งที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์
นอกซะจากคนๆหนึ่งจะมีวิชาสเปชเทเลพอร์ตเทชั่น ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ต้องใช้ยานอวกาศเหมือนอย่างเอ็กซ์ควิสิทในการเดินทางไปรอบๆเอาท์เตอร์สกาย ยานอวกาศนั้นมีพลังพิเศษที่จะยับยั้งสิ่งมีชีวิตในเอาท์เตอร์สกาย ไม่อย่างนั้นแม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนในเอาท์เตอร์สกายโดยไม่เจอกับปัญหาได้ ซึ่งหานเซิ่นยังไม่ได้เป็นระดับเทพเจ้า
ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงอยากจะฝึกวิชาเทเลพอร์ตซะก่อนเพื่อที่เขาจะได้เดินทางไปรอบๆเอาท์เตอร์สกายอย่างสะดวกมากขึ้น เขายังไม่มีแผนที่จะล่าซีโน่เจเนอิคในตอนนี้
และแน่นอนว่าหานเซิ่นยังต้องการจะตกแผ่นกระดาษสีเหลือที่เหลือให้ครบ นั่นเป็นเหตุผลหลักที่เขาขอให้เธอพาเขามาที่ทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์แทนที่จะเป็นบ้านไม้
เอ็กซ์ควิสิทสัมผัสได้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิดและมันทำให้เธอหน้าแดง เธอคิดว่าหานเซิ่นอยากจะดูภาพบนกระดาษสีเหลืองพวกนั้น เธอไม่ได้รู้ว่าจริงๆแล้วกระดาษสีเหลืองพวกนั้นเป็นวิชาจีโนอย่างหนึ่ง
ไม่นานนักพวกเขาก็กลับมาถึงชายฝั่งของทะเลสาบอันเดอร์เวิลด์ แต่ครั้งนี้เอ็กซ์ควิสิทไม่ได้จากไปเหมือนกับครั้งก่อน เธออยู่ตกปลาข้างๆเขาแทน นั่นเป็นอะไรที่ค่อนข้างอึดอัด
เนื่องจากมีเอ็กซ์ควิสิทอยู่ด้วย หานเซิ่นก็จำเป็นต้องควบคุมความคิดของตัวเอง และนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
หานเซิ่นใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการฝึกวิชาจีโน และเอ็กซ์ควิสิทก็ได้ประสบการณ์ของทุกสิ่งที่เขาเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน ถึงแม้เอ็กซ์ควิสิทจะฝึกก็อตส์วอนเดอร์สำเร็จเรียบร้อยแล้ว แต่การมองดูหานเซิ่นฝึกก็ช่วยให้เธอได้รู้อะไรใหม่ๆบ้าง
แต่สิ่งที่เอ็กซ์ควิสิทประหลาดใจคือความสำเร็จในการตกปลาของหานเซิ่น ก่อนที่เธอจะตกอะไรอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ หานเซิ่นก็ตกบางสิ่งขึ้นมาได้หลายครั้งแล้ว
แต่หานเซิ่นดูเหมือนจะตกได้แค่กระดาษสีเหลืองอย่างเดียว เมื่อไหร่ก็ตามที่หานเซิ่นมองดูพวกมัน เธอก็จะสัมผัสมันได้ และทุกครั้งที่เขาทำอย่างนั้น เธอก็จะหน้าแดง
ตอนนี้เป่าเอ๋อดูสนิทสนมกับพวกหมูน้อยเรียบร้อยแล้ว เธอเล่นกับพวกมันอยู่ไม่ไกลจากจุดที่หานเซิ่นและเอ็กซ์ควิสิทตกปลา มันเป็นเรื่องดีที่เป่าเอ๋อมีพวกหมูน้อยคอยเล่นด้วย ไม่อย่างนั้นเธอก็คงจะรู้สึกเบื่อขึ้นมา หมูน้อยพวกนั้นยังคงดูเชื่องและไม่แสดงความดุร้ายเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ถึงพวกมันจะดูเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดี โดยรวมแล้วพวกมันเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์สำหรับหานเซิ่น หานเซิ่นรู้สึกผิดหวังทุกครั้งที่เขามองไปที่พวกมัน
หลังจากผ่านไปหลายวัน หานเซิ่นก็ไม่สามารถทนถูกจับตามองได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงบอกเอ็กซ์ควิสิทว่าอยากจะเข้าไปในคอร์แอเรีย
แต่เอ็กซ์ควิสิทบอกเขาว่าเอาท์เตอร์สกายอยู่ระหว่างโลกความเป็นจริงและโลกปฏิสสาร เนื่องจากบาเรียของอวกาศ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปในคอร์แอเรียได้
แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็พยายามลองดูอยู่ดี และเขาก็พบว่าไม่สามารถเข้าไปในคอร์แอเรียได้จริงๆ