Super God Gene – ตอนที่ 2612

“เจ้าจะรับผลประโยชน์โดยไม่ต้องทำอะไร เจ้าคิดว่าจะได้ทรัพยากรทั้งหมดในจักรวาลแห่งนี้มาอย่างฟรีๆอย่างนั้นสินะ” เอ็กซ์ควิสิทพูดอย่างไม่เห็นอกเห็นใจ

 

หานเซิ่นยักไหล่และหัวเราะ “ถ้าข้าไปที่เผ่าเวรี่ไฮ เจ้าคิดว่าข้าจะไปเอาทรัพยากรและหนีไปหรือยังไง?”

 

“ข้าไม่กลัวเรื่องนั้น แต่ไอเดียของเจ้าขัดกับกฎของพวกเรา เจ้าจะใช้น้ำพุก็ได้ แต่เจ้าต้องยอมเชื่อฟังข้าซะก่อน” เอ็กซ์ควิสิทพูด

 

“ถ้าอย่างนั้นก็ช่างเถอะ ข้าจะใช้เวลารักษาตัวเองอย่างช้าๆ เจ้าไม่รังเกียจที่จะรอทั้งปีถูกไหม?” หานเซิ่นพูด

 

“ข้ามีเวลาเหลือเฟือ ข้าให้เวลาเจ้ารักษาตัวหนึ่งปีครึ่ง หลังจากนั้นพวกเรามาประลองกันอีกครั้ง ถ้าเจ้าเป็นฝ่ายแพ้ มันก็ไม่มีข้ออ้างอะไรอีก แม้แต่ปราสาทนภาก็ปกป้องเจ้าไม่ได้” เอ็กซ์ควิสิทพูด

 

“ข้า หานเซิ่นเป็นผู้ชายที่เชื่อถือได้” หานเซิ่นทำสีหน้าให้ดูเป็นผู้ดีมากที่สุด แต่เขายังคงคิดว่าผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นอะไรที่น่าเสียดายหน่อยๆ การจะใช้ประโยชน์จากเผ่าเวรี่ดูเหมือนจะไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิด แต่นั่นก็หมายความว่าหานเซิ่นไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปอีกหนึ่งปี หานเซิ่นประหลาดใจที่เอ็กซ์ควิสิทยอมรอเขา เขาคิดว่าเธอคงจะไม่รอนานขนาดนั้น แต่เธอกลับยินดีตอบตกลง

 

“เมื่อร่างกายหายดีแล้ว อย่างน้อยเราก็มีความมั่นใจมากขึ้นภายในเผ่าเวรี่ไฮ” หลังจากที่หานเซิ่นและเอ็กซ์ควิสิททำการตกลงกัน พวกเขาก็ออกมาจากบ้านนภาวารี

 

2 วันต่อมา ปี้ซีพาอวี้ซ่านซินเดินทางออกจากปราสาทนภาไป ส่วนเอ็กซ์ควิสิทยังคงอยู่ต่อ เธอคิดจะอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลาหนึ่งปีครึ่งเพื่อรอให้หานเซิ่นหายดี

 

หานเซิ่นไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเอ็กซ์ควิสิทมากนัก เขายังคงพักผ่อนอยู่บนเกาะหยกทุกวันเพื่อที่ร่างกายของเขาจะได้ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วที่สุด

 

ปราสาทนภาทำการเจรจากับทางเอ็กซ์ตรีมคิง และที่สุดแล้วไป๋อู๋ฉางกับเหล่าอัศวินของเอ็กซ์ตรีมคิงก็ถูกนำไปแลกเปลี่ยนกับทรัพยากร พวกมันทั้งหมดถูกมอบให้กับหานเซิ่น

 

เอ็กซ์ตรีมคิงไม่คิดจะปล่อยวางความแค้นง่ายๆ แต่ตอนนี้เมื่อหานเซิ่นอยู่ภายในปราสาทนภา พวกเขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้

 

ในระหว่างเวลาที่หานเซิ่นฝึกอยู่ภายในสถานหยกขาว เขาก็กินอาหารของเอ็กซ์ตรีมคิง

 

หานเซิ่นเคยฝึกในสถานหยกขาวมาก่อน มันมีทั้งหมด 12 หอคอยและ 5 เมือง หนึ่งในหอคอยเหล่านั้นแฟรี่จะบินออกมาจากภาพวาดเพื่อเสริมพลังของผู้ฝึก

 

หานเซิ่นเข้าไปที่หอคอยหยกขาวที่ 7 จากหอคอยทั้ง 12

 

มันนั้นไม่มีหอคอยไหนดีไปกว่าหอคอยอื่น พวกมันทั้งหมดนั้นแตกต่างกัน หอคอยที่หานเซิ่นเข้าไปถูกเรียกว่าหอคอยวิชาลี้ลับ กำแพงหยกของหอคอยเต็มไปด้วยวิชาต่างๆ มันมีความรู้มากมายให้ได้เรียนรู้

 

ในตอนที่ลมปราณหยกถูกปลดปล่อยออกมาในแต่ละวันนั้น กำแพงหยกจะแสดงตำราของวิชาหนึ่ง วิชาที่ถูกแสดงจะเปลี่ยนไปทุกๆวันของปี มันจะวนเวียนอย่างไม่มีที่สิ้นสุดปีแล้วปีเล่า

 

เมื่อวิชาปรากฏขึ้นบนกำแพงหยก เพียงแค่มองดูมันก็ทำให้หานเซิ่นเข้าใจถึงพลังลี้ลับที่ซ่อนอยู่ภายใน แต่ถ้าเขาคัดลอกมันออกไปอ่านข้างนอก มันจะเหมือนเป็นอะไรที่อ่านไม่ได้ใจความ

 

ตำนานเล่าว่าในตอนที่อัลฟ่าของเผ่านภาคิดค้นตำราไร้อักษรขึ้นมา เขาได้ใช้เวรี่ไฮเซ้นส์และตำราวิชาจากหอคอยนี้เป็นต้นแบบ ซึ่งไม่ว่ามันจะเป็นความจริงหรือเปล่า แต่เพียงแค่ความเชื่อนั้นก็เป็นข้อพิสูจน์ที่มากพอจะบอกถึงความพิเศษของพวกมัน

 

ร่างกายของหานเซิ่นยังคงไม่ฟื้นตัว เขาไม่สามารถรับพลังจากภายนอกได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้เข้าไปในหอคอยอื่นเพื่อดูดซับลมปราณหยก และเขาก็ไม่สามารถรับวิญญาณหยกได้เช่นกัน ด้วยเหตุนั้นเขาจึงมาอ่านตำราในหอคอยนี้แทน

 

“หานเซิ่น ข้าได้ยินว่าเจ้าแนะนำน้องสาวของเจ้าให้ถูกรับเป็นศิษย์ของปราสาทนภา นางเป็นน้องสาวของเจ้าจริงๆอย่างนั้นหรอ?” ยวิ๋นซู่อีถามด้วยความอยากรู้เมื่อตำราบนกำแพงหยกหายไป

 

“ใช่ นางเป็นน้องสาวจริงๆของข้า” หานเซิ่นพยักหน้า

 

“นางคงจะต้องมีพรสวรรค์มากๆ ถ้าเป็นไปได้ ข้าอยากให้นางมาศึกษากับพ่อของข้า” ยวิ๋นซู่อีพูด

 

หานเซิ่นแปลกใจ เขามองไปที่ยวิ๋นซู่อีและถาม “นั่นเป็นไอเดียของเธอหรือของผู้อาวุโสยวิ๋น?”

 

“ของทั้งคู่ เจ้าคิดยังไง?” ยวิ๋นซู่อีหัวเราะ

 

“ถ้าผู้อาวุโสยวิ๋นยินดี มันก็ถือเป็นโชคดีของหานเหยียน ข้าจะรู้สึกขอบคุณอย่างมาก” หานเซิ่นพูด

 

หานเหยียนเป็นเหมือนกับเขา พวกเขาทั้งคู่มาที่ปราสาทนภาโดยการแนะนำของคนนอก พวกเขาทั้งคู่ไม่ใช่คนท้องถิ่นของที่นี่ โดยปกติแล้วศิษย์ที่ถูกรับเข้ามาจะไม่ถูกรับตัวไปโดยผู้อาวุโสของปราสาทนภา ถ้ายวิ๋นฉางคงยินดีจะรับเธอไป มันก็ถือเป็นประโยชน์ต่อเธออย่างมาก การมีผู้อาวุโสของปราสาทนภาคอยหนุนหลังนั้นดีกว่าการที่ถูกรับเข้ามาธรรมดาๆ

 

“แต่ปราสาทนภายังคงมีกฎอยู่ น้องสาวของเจ้ายังต้องเดินข้ามถนนนภาเพื่อเข้าสู่ปราสาทนภา” ยวิ๋นซู่อีพูด

 

“แน่นอนอยู่แล้ว” หานเซิ่นพยักหน้า หานเหยียนควรจะข้ามถนนนภาและขึ้นบันไดไปสู่ปราสาทนภาได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร

 

“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไม่ควรชักช้า พวกเราควรไปรับน้องสาวของเจ้ามา พ่อของข้าได้เตรียมการลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถ้าน้องสาวของเจ้าเดินข้ามถนนนภา นางก็จะกลายเป็นลูกศิษย์ของพ่อข้าอย่างเป็นทางการ” ยวิ๋นซู่อีพูด

 

“ซู่อี ขอบคุณเจ้ามาก” หานเซิ่นโค้งคำนับยวิ๋นซู่อีด้วยความจริงใจ การที่คนนอกได้รับการสอนจากหนึ่งในสิบผู้อาวุโสนั้นถือเป็นเกียรติสูงสุด ยวิ๋นซู่อีคงจะต้องพยายามอย่างหนักเพื่อทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

 

“หานเซิ่น นี่เจ้ากำลังทำอะไร? ข้าไม่ได้ช่วยอะไรมาก” ยวิ๋นซู่อีรีบหยุดหานเซิ่นจากการโค้งคำนับ

 

พวกเขาเดินทางออกจากหอคอยหยกขาว หานเซิ่นยังคงขี่นกกระเรียนไร้ขาตัวเก่า พวกเขาทั้งคู่เดินทางออกไปจากซีโน่เจเนอิคสเปชและมุ่งหน้าไปยังแนร์โรว์มูนเพื่อรับตัวหานเหยียน

 

กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์กำลังฝึกฝนอยู่ภายนอก พวกเธอไม่ใช่คนที่จะใช้เวลาว่างไปกับการผ่อนคลายไปวันๆ

 

ด้วยพลังของพวกเธอ พวกเธอสามารถรอดจากการโจมตีของสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าขั้นต่ำได้ มันไม่มีความจำเป็นที่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเธอ

 

น้องสาวของหานเซิ่นสมัครเข้าร่วมกับปราสาทนภา เรื่องนี้เป็นที่พูดถึงอยู่สักพัก หลังจากที่พวกเขามาถึงปราสาทด้วยการช่วยเหลือของหานเซิ่นและอาวุโสยวิ๋น การลงทะเบียนของหานเหยียนก็เสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว

 

โดยปกติแล้วมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนนอกจะเข้าเป็นศิษย์ของปราสาทนภา แถมหานเหยียนยังได้ผู้อาวุโสสิบเป็นอาจารย์ นั่นถือเป็นอะไรที่พิเศษมากเมื่อคำนึงถึงเรื่องที่เธอไม่ใช่คนเผ่านภา ยวิ๋นฉางคงได้พยายามอย่างหนักเพื่อทำให้แน่ใจว่าเรื่องนี้ผ่านการอนุมัติ

 

แน่นอนว่าความสำคัญของหานเซิ่นต่อปราสาทนภาก็มีส่วนช่วยด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้นมันก็คงจะเป็นไปไม่ได้ที่คนนอกจะถูกรับตัวไปโดยผู้อาวุโสของปราสาทนภา

 

หานเหยียนรู้สึกตื่นเต้น เธอเริ่มจะเบื่อดาวอุปราคา และตอนนี้การมาที่ปราสาทนภาก็เป็นสิ่งที่เธอโหยหา

 

ยวิ๋นซู่อีช่วยอธิบายสิ่งที่เธอจำเป็นต้องระวังภายในปราสาทนภา เธอปฏิบัติกับหานเหยียนเหมือนกับน้องสาวจริงๆ เมื่อหานเซิ่นเห็นแบบนั้น เขาก็รู้สึกซาบซึ้ง

 

เป่าเอ๋อนั่งอยู่บนคลาวด์บีสต์สีแดงและบินวนรอบๆตัวหานเซิ่น หานเซิ่นพาเป่าเอ๋อมาด้วยก็เพื่อในตอนที่หานเหยียนเดินข้ามถนนนภา เขาก็จะขอให้เป่าเอ๋อไปกับเธอด้วย เพราะเป่าเอ๋ออาจจะช่วยเธอได้

 

ลมปราณศักดิ์สิทธิ์ของน้ำเต้านั้นเป็นของดี และมันก็มีโอกาสที่หานเหยียนจะได้รับพวกมันเหมือนกับเขา

 

หลังจากที่หานเซิ่นพาหานเหยียนมาที่ปราสาทนภา ผู้คนในปราสาทนภามากมายก็หันความสนใจมาที่เธอ

 

ผู้คนส่วนใหญ่อยากจะรู้ว่าพรสวรรค์ของเธอเป็นยังไงเมื่อเทียบกับหานเซิ่น บางทีหานเซิ่นอาจจะเป็นคริสตัลไลเซอร์ที่พิเศษเหนือคนอื่น หรือบางทียีนของคริสตัลไลเซอร์ทุกคนจะดีแบบนั้นในยุคสมัยนี้

Super God Gene

Super God Gene

ในยุคสมัยที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของมนุษย์ถูกพัฒนาจนถึงระดับสูง ในที่สุดมนุษยชาติก็ได้ค้นพบวิธีการเทเลพอร์ต แต่เมื่อพวกเขาทดลองเทเลพอร์ต กลับพบว่าพวกเขาไม่ได้ถูกส่งไปในอนาคต อดีตหรือสถานที่อื่นๆที่มนุษย์รู้จัก แต่มันคือโลกที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง สถานที่ลึกลับนี่ถูกเรียกว่า ‘ก็อด เเซงชัวรี่’ ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตประหลาดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมนุษย์ลองกินสิ่งมีชีวิตประหลาดเข้าไป ร่างกายของพวกเขาพัฒนาขึ้นและยังเพิ่มอายุขัยขึ้นด้วย มันคือก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ชาติในการวิวัฒนาการเพื่อสร้างยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ “ด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ถูกฆ่า คุณได้รับวิญญาณอสูรด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกินเนื้อของด้วงทมิฬเลือดศักดิ์สิทธิ์ คุณมีโอกาสได้รับ 0 ถึง 10 Geno Point โดยการสุ่ม” The future unfolded on a magnificent scale into the Interstellar Age. Humanity finally solved the space warp technology, but when humanity transported themselves into the other end, they discovered that place neither had a past nor future, nor was there any land under the starry skies…… The mysterious sanctuary was actually a world filled with countless tyrannical unusual organisms. Humanity faced their great leap in evolution, starting the most glorious and resplendant new era under the starry skies. “Slaughtered the God Blood organism ‘Black Beetle’. Received the God Blood Black Beetle’s Beast Soul. Used the God Blood Black Beetle’s flesh. Randomly obtaining 0 to 10 points of God Gene(s).”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset