เนื่องจากหนิงเยวี่ยไม่ยอมปล่อยมือจากเขา หานเซิ่นจึงต้องพาเธอติดไปด้วย กู่ชิงเฉิง จันทราสวรรค์ เป่าเอ๋อและนกแดงน้อยก็ไปด้วยเช่นเดียวกัน ฟางชิงอวี่ตัดสินใจที่จะรออยู่เบื้องหลัง
ยิ่งพวกเขาเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ สายลมก็น่ากลัวมากขึ้นเท่าไหร่ ในตอนนี้เมื่อไหร่ก็ตามที่ลมพัดมา แม้แต่กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ก็ไม่สามารถรักษาสมดุลของตัวเองได้ พวกเขาไม่รู้ว่าทำไมสายลมถึงได้รุนแรงขึ้นเมื่อพวกเขาเดินทางลึกเข้าไป
การที่มีลมพัดมาได้ อีกด้านหนึ่งก็ต้องมีทางออกอยู่ แต่เมื่อเขามองลงไป เขาก็ไม่เห็นอะไรที่ลมจะผ่านเข้ามาได้
หนิงเยวี่ยดูหวาดกลัว แต่เธอไม่ได้รับผลกระทบอะไร ดาบเขียวน้อยนั้นป้องกันเธอจากสายลมที่น่ากลัว
‘ดาบเขียวน้อยนั่นคืออะไรกันแน่? ความสามารถของมันเป็นอะไรที่น่ากลัวเกินไป’ หานเซิ่นถอนหายใจออกมา
ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น จู่ๆเสือขาวก็หายตัวไป มันเหมือนกับว่าเจ้าเสือขาวสลายกลายเป็นอากาศธาตุ
“ทำไมเจ้าเสือขาวถึงหายตัวไป?” หนิงเยวี่ยพูดขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว
ก่อนที่หานเซิ่นจะตอบอะไร เจ้าเสือขาวก็ปรากฏตัวออกมาอีกครั้ง มันส่งเสียงใส่หานเซิ่นและหายตัวไปอีกครั้ง
หานเซิ่นและคนอื่นเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างระมัดระวัง พวกเขาพบรูอยู่บนพื้น มันเป็นรูที่เกือบจะตรงดิ่งลงไปด้านล่าง ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้าเสือขาวดูเหมือนหายตัวไป และด้วยเหตุนั้นพวกหานเซิ่นจึงไม่สังเกตเห็นรูจนกระทั่งพวกเขาเข้ามาใกล้มัน
พวกเขาตามเสือขาวลงไป และสิ่งที่เจอด้านล่างก็ทำให้หานเซิ่นต้องประหลาดใจ
มันเป็นถ้ำรูปโถ พวกเขาเข้ามาจากด้านข้างและมันไม่มีทางอื่นอยู่อีก สถานที่แห่งนี้เป็นทางตัน
แต่ความจริงที่ถ้ำแห่งนี้เป็นทางตันไม่ใช่สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากที่สุด เนื่องจากมันมีบางสิ่งอยู่ในถ้ำแห่งนี้
หานเซิ่นไม่รู้ว่ามันคืออะไร เนื่องจากมันออกมาให้เห็นแค่หนึ่งฟุตเท่านั้น ของสิ่งนั้นมีสีม่วงและมีสัญลักษณ์ประหลาดสลักอยู่บนผิวของมัน มันดูเหมือนกับด้ามจับของบางสิ่ง แต่มันไม่ได้เหมือนกับด้ามจับของมีดหรือดาบ นั่นก็เพราะด้ามจับนี้หนาแค่ไม่กี่นิ้วมือ และจากส่วนที่ยื่นออกมาให้เห็น พวกเขาก็รู้ว่ามันยาวเกินกว่าที่จะเป็นด้ามจับปกติ
ตูม!
ขณะที่หานเซิ่นและคนอื่นๆมองไปที่วัตถุทองแดงสีม่วงที่ถูกฝังอยู่ในหิน สัญลักษณ์ประหลาดก็เรืองแสงสีม่วงออกมา หลังจากนั้นพายุที่น่ากลัวก็ถูกปลดปล่อยจากวัตถุสีม่วงนั้น
ทุกคนถูกสายลมพัดกระเด็นออกไป พวกเขาถูกเด้งไปเด้งมารอบๆถ้ำราวกับเป็นลูกบอลยางจนกระทั่งลมนำพวกเขาออกไปยังรูที่พวกเขาใช้เข้ามา หลังจากพวกเขาก็กลับมาทรงตัวได้
หานเซิ่นและนกแดงน้อยอยู่ในสภาพกระเซอะกระเซิง สายลมนั้นรุนแรงยิ่งกว่าที่พวกเขาเคยประสบมาก่อน
สายลมนั้นเบาลงไปมากเมื่อเข้าไปในอุโมงค์ ภายในถ้ำแห่งนั้นพวกเขาต้องรับพลังอย่างเต็มที่ของสายลมนั่น
“นี่มันคืออะไรกัน? ทำไมมันถึงได้ทรงพลังขนาดนี้?” หานเซิ่นมองไปที่วัตถุทองแดงสีม่วงด้วยความตกใจ
“เหมียว” เสือขาวเดินไปข้างๆวัตถุทองแดงสีม่วงและใช้อุ้งเท้าของมันชี้ไปที่ของสิ่งนั้น หลังจากนั้นมันก็ส่งเสียงเรียกหานเซิ่น
“เจ้าต้องการให้ข้าเอามันออกมาอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม
“เหมียว” เสือขาวส่งเสียงร้องพร้อมกับพยักหน้า
กู่ชิงเฉิงจ้องมองไปที่วัตถุทองแดงสีม่วงอยู่ชั่วครู่และพูด
“บางทีสิ่งนี้อาจจะยับยั้งเจ้ามอนสเตอร์ที่อยู่ภายนอกได้”
“เหมียว” เสือขาวรีบพยักหน้าในทันทีหลังจากที่ได้ยินที่กู่ชิงเฉิงพูด
‘เป็นไปได้ด้วยอย่างนั้นหรอ’ หานเซิ่นคิดและรู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องนั้น เขาพยายามคิดหาหนทางที่จะจัดการกับมอนสเตอร์ที่ขึ้นมาบนเกาะ แต่เขายังคงคิดอะไรไม่ออก ถ้าอาวุธนี้สามารถใช้กับเจ้ามอนสเตอร์ได้ อย่างนั้นวิกฤตของพวกเขาก็จะถูกแก้ไข และหานเซิ่นก็ยังจะได้รับสมบัติอย่างหนึ่งไปด้วย นี่ถือเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
หานเซิ่นไม่พูดอะไร เขาเดินตรงไปหาวัตถุทองแดงสีม่วง เขาใช้วิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วงเพื่อตรวจสอบมัน
ดวงตาของหานเซิ่นแยกออกเป็น 4 แฉกและเริ่มหมุนวน ด้วยวิญญาณอสูรผีเสื้อเนตรม่วง ประวัติศาสตร์ของวัตถุทองแดงสีม่วงก็เริ่มเล่นย้อนกลับเหมือนกับภาพวิดีโอ
หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ ขณะที่วิญญาณอสูรผีเสื้อย้อนเวลากลับไป เขาก็ได้เห็นว่ามันคืออะไร มันก็คือเปียนหรือแส้เหล็กของจีน
แส้เหล็กถือเป็นอาวุธที่หาได้ยากมากๆ มันดูเหมือนกับดาบ แต่ใบมีดของมันเป็นสี่เหลี่ยม และแทนที่จะเน้นความคมเหมือนกับดาบ อาวุธนี้กลับมุ่งเน้นไปที่ความแข็งแรงเพียงอย่างเดียว
โดยปกติแล้วแส้เหล็กจะถูกใช้เป็นคู่ ดังนั้นแส้เหล็กเดี่ยวๆจึงถือว่าหาได้ยาก
ด้วยเหตุผลบางอย่างแส้เหล็กถูกทิ้งเอาไว้เบื้องหลังในทะเลสีดำ ชั้นตะกอนที่สะสมจากทะเลสีดำค่อยๆก่อตัวเป็นเกาะที่พวกเขายืนอยู่ข้างในตอนนี้ ดูจากความลึกของถ้ำ หานเซิ่นก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยว่ามันเป็นเพราะอาวุธนี้หรือเปล่าที่ดึงตะกอนของทะเลสีดำมารวมกันจนเกิดเป็นเกาะแห่งนี้ขึ้นมา
แต่สัญลักษณ์ประหลาดของแส้เหล็กนั้นปลดปล่อยสายลมที่รุนแรงออกมาเรื่อยๆ ซึ่งมันขยับหินที่เกาะอยู่ออกไป นอกจากนั้นมันยังขุดจนเกิดเป็นถ้ำนี้ขึ้นมา เมื่อดูการที่มันถูกซ่อนเป็นอย่างดีแล้ว หานเซิ่นก็ไม่รู้เลยว่าเจ้าเสือขาวหามันพบได้ยังไง
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เกิดความคิดแปลกๆอย่างหนึ่งขึ้นมา
‘นั่นหมายความว่าเกาะแห่งนี้คือหินที่อยู่ภายในกระเพาะของแมงมุมหลุมดำ เจ้าแมงมุมควรจะขับสสารย่อยไม่ได้ออกไป แต่เนื่องจากแส้เหล็กทองแดงสีม่วงนี้ สสารเหล่านั้นจึงถูกสะสมกันจนเป็นก้อน และหลังจากผ่านไปเป็นพันๆล้านปี เกาะแห่งนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมา’
“ให้ข้าเป็นคนลองดู” จันทราสวรรค์พูด ขณะที่หานเซิ่นยังคงมองดูมัน จันทราสวรรค์ก็เดินเข้าไปหาเแส้เหล็กทองแดงสีม่วง เธอรวบรวมพลังและยื่นมือไปจับส่วนที่ยื่นออกมาจากหิน
ปัง!
ก่อนที่จันทราสวรรค์จะดึงมันออกมาได้ สายลมที่รุนแรงก็พัดร่างกายของเธอกระเด็นออกไป หานเซิ่นและคนอื่นๆก็ถูกพัดออกไปเช่นกัน
พวกเขาไม่รู้ว่าแส้เหล็กทองแดงสีม่วงนี้คืออะไรกันแน่ แต่ความจริงที่มันสามารถปลดปล่อยพลังมหาศาลออกมาโดยที่ไม่มีใครใช้นั้นถือเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากๆ แม้แต่นกแดงน้อยก็ยังไม่สามารถทนต่อสายลมที่มันปล่อยออกมาได้ นี่ต้องไม่ใช่อาวุธธรรมดาๆอย่างแน่นอน
“ดูเหมือนมันจะเป็นอาวุธระดับเทพเจ้าธาตุลม ในพวกเรามีใครที่เชี่ยวชาญธาตุลมไหม?” กู่ชิงเฉิงพูด
ทุกคนแลกเปลี่ยนสายตากันและกัน แต่ในหมู่พวกเขาไม่มีใครที่ใช้พลังธาตุลม
“พวกเราควรจะลองดูก่อน บางทีพวกเราอาจจะไม่จำเป็นต้องมีธาตุลม ถ้าพวกเราดึงมันออกมาไม่ได้ พวกเราก็ควรจะกำจัดหินที่อยู่รอบๆมันออกไปก่อน” หานเซิ่นพูด
จันทราสวรรค์พยักหน้าและนำเอาร่มกระดาษออกมา เธอใช้มันเหมือนกับดาบและฟันใส่ไปที่ก้อนหินเหนือแส้เหล็ก ปลายของร่มนั้นปลดปล่อยดาบแสงออกไป
การโจมตีนั้นรุนแรงพอที่จะเจาะดวงดาวทั้งดวงจนเป็นรู แต่เมื่อแสงจางหายไป ก้อนหินกลับไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน พวกเขาทุกคนจ้องมองไปที่ก้อนหินอย่างตกตะลึง