หานเซิ่นต้องการจะฟังส่วนสุดท้ายของก็อตส์วอนเดอร์ ดังนั้นเขาจึงเดินทางกับหลี่เคอเอ๋อต่อ แต่เขาไม่ได้พูดอะไรกับเธอมากนัก ในตอนที่พวกเขาพูดคุยกัน หลี่เคอเอ๋อก็จะบอกเขาเกี่ยวกับก็อตส์วอนเดอร์หรือไม่ก็ตอบคำถามเกี่ยวกับตัวเธอเอง
“คนๆนี้เป็นพวกบ้าการต่อสู้เหมือนกับไผ่เดียวดาย”
หลี่เคอเอ๋อรู้สึกหดหู่เล็กน้อยขณะที่เดินทางร่วมกับหานเซิ่น เธอมีแผนที่จะรับหานเซิ่นเป็นตัวไหมของเธอ แต่หลังจากที่ได้ใช้เวลาร่วมกับเขา เธอก็รู้สึกตัวว่าไม่มีอะไรที่หานเซิ่นต้องการจากเธอ เธอไม่สามารถแม้แต่จะบอกเขาว่าเธอเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ
หลี่เคอเอ๋อเสียใจในเรื่องนี้ ถ้าเธอรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอก็คงจะบอกเขาไปตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันว่าเธอเป็นหนึ่งในเวรี่ไฮ อย่างน้อยแบบนั้นพวกเขาก็จะได้พูดคุยกันอย่างจริงจังมากขึ้น ถ้าเธอเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงออกไปในตอนนี้ หลี่เคอเอ๋อไม่คิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้
แต่หลังจากที่หลี่เคอเอ๋อสอนก็อตส์วอนเดอร์ให้กับหานเซิ่นเสร็จแล้ว เธอก็ยังหาโอกาสที่จะเผยตัวตนที่แท้จริงและโน้มน้าวให้เขาไปกับเธอไม่ได้
“ข้ายังมีธุระที่จะต้องไปจัดการ พวกเราจะพบกันอีกครั้งถ้าโชคชะตากำหนดให้เส้นทางของพวกเรามาบรรจบกัน” หานเซิ่นรีบบอกลาหลี่เคอเอ๋อและออกไปจากคอร์แอเรีย เขากลับไปที่วาฬขาว
หลี่เคอเอ๋อรู้สึกเสียใจ เธอดูเศร้าสร้อยขณะที่เธอกลับไปที่ยาน
“ท่านหญิง เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรอ? นี่ท่านหญิงบอกดอลลาร์ไปหรือยัง? เขายอมตกลงจะเป็นตัวไหมของท่านหญิงหรือเปล่า?” ผีเสื้อน้อยถามขณะที่มองไปที่หลี่เคอเอ๋อด้วยความสับสน
หลี่เคอเอ๋อถอนหายใจออกมา แต่ไม่ได้พูดอะไร เธอไม่อยากจะยอมรับออกไปว่าเธอพลาดโอกาสที่จะเปิดเผยว่าตัวเองเป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ
“ท่านหญิง เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นหรอ? ทำไมมันถึงได้มีข่าวลือที่บอกว่าดอลลาร์เป็นหนึ่งในเผ่าเวรี่ไฮ?” ผีเสื้อน้อยถามอีกครั้ง
“ไม่มีอะไร ข้าจะเอาตัวเขามาให้ได้” หลี่เคอเอ๋อรู้สึกรำคาญ และเธอก็สะบัดมือเพื่อบอกว่าไม่ต้องถามอีก
“ดอลลาร์ เจ้าต้องมาเป็นตัวไหมของข้า” หลี่เคอเอ๋อกัดริมฝีปากของเธอด้วยความโกรธ
หานเซิ่นกลับไปที่วาฬขาว และเขาก็ตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่เขาไม่อยู่
ฟางชิงอวี่และเหล่าโจรสลัดกำลังซ่อนตัวอยู่มุมหนึ่ง และหนิงเยวี่ยกำลังหลบหลังเป่าเอ๋อ เธอดูหวาดกลัวมากๆ แต่เป่าเอ๋อกำลังถือโสมที่ดูเหมือนกับแครอทขนาดใหญ่อยู่ในมือ เธอกัดกินมันอย่างสบายใจขณะที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าคนอื่นๆ
ภายในห้องควบคุม กู่ชิงเฉิงกำลังต่อสู้กับจันทราสวรรค์ แต่สิ่งที่ทำให้หานเซิ่นประหลาดใจคือเรื่องนี้พวกเธอกำลังใช้พลังอาณาเขตแห่งราชัน
“ทำไมพวกเธอถึงได้เพิ่มระดับขึ้นเร็วนัก?” หานเซิ่นสงสัย
“พวกเธอกลายเป็นระดับราชันแล้ว”
ถึงแม้เขาจะมอบยีนซีโน่เจเนอิคส่วนหนึ่งให้กับกู่ชิงเฉิง แต่เธอและจันทราสวรรค์ก็ยังกลายเป็นระดับราชันได้เร็วเกินไป แถมพวกเธอกำลังใช้พลังอาณาเขตแห่งราชัน นั่นเป็นอะไรที่มากเกินไปหน่อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งจันทราสวรรค์ เธอเพิ่งจะเข้ามาในจักรวาลจีโนได้ไม่นาน ดังนั้นมันไม่มีทางที่เธอจะเพิ่มระดับขึ้นได้อย่างรวดเร็วแบบนี้
ห้องควบคุมของวาฬขาวกลายเป็นสนามต่อสู้ของพวกเธอทั้งคู่ กู่ชิงเฉิงมีดาบจำนวนมากออกมาจากตัวเธอ ดาบทั้งหมดบินตรงเข้าไปหาจันทราสวรรค์ราวกับสายน้ำ
จันทราสวรรค์กางร่มที่ทำขึ้นมาจากกระดาษ ดาบบินเข้ามาถูกร่มและถูกดูดเข้าไปในภาพวาดบนผิวร่ม ดาบปรากฏบนภาพวาดมากขึ้นเรื่อยๆ
จันทราสวรรค์หมุนร่มกระดาษสีขาว และทำให้ดาบที่อยู่นำร่มกลับมามีตัวตนอีกครั้ง ตอนนี้ดาบที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของจันทราสวรรค์บินกลับไปหากู่ชิงเฉิง
กู่ชิงเฉิงขมวดคิ้ว อาณาเขตของเธอเริ่มทำงานอีกครั้ง และเธอก็ชิงการควบคุมของดาบกลับคืนมาและส่งพวกมันกลับไปหาจันทราสวรรค์
ผู้หญิงผู้งดงามทั้ง 2 ยืนเผชิญหน้ากันและกัน คนหนึ่งถือดาบอยู่ในมือ ส่วนอีกคนกำลังถือร่ม พายุดาบบินกลับไปกลับมาระหว่างพวกเธอและมันดูจะไม่จบลงในเร็วๆนี้เป็นแน่
“นี่พวกเธอกำลังทำอะไร? ทำไมพวกเธอถึงต่อสู้กัน?” หานเซิ่นถาม
ทุกคนนอกจากเป่าเอ๋อส่ายหัว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไมกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ถึงได้ต่อสู้กันเช่นนี้ พวกเขาเองก็ตกใจถึงความเร็วในการเลื่อนระดับของกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์
เป่าเอ๋อที่กำลังถือโสมสีม่วงอยู่ในมือพูด “พวกเธอกำลังต่อสู้กันเพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นใหญ่และใครเป็นรอง”
“เป็นใหญ่และเป็นรอง? นั่นหมายความว่ายังไง?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน
“หนูไม่รู้ หนูได้ยินพวกเธอถกเถียงกัน กู่ชิงเฉิง เธอต้องการเป็นใหญ่ แต่จันทราสวรรค์ไม่ยอม เธอบอกว่ากู่ชิงเฉิงต้องเป็นรอง และเธอจะเป็นใหญ่เอง” เป่าเอ๋ออธิบาย เธอเองก็ดูเหมือนจะไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น
เมื่อได้ยินอย่างนั้น สีหน้าที่เหมือนรู้ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเหล่าโจรสลัด
“ข้ารู้แล้ว พวกนางจะต้องตกหลุมรักชายคนเดียวกัน และพวกนางก็ต้องการจะอยู่ร่วมกับชายคนนั้น พวกนางกำลังต่อสู้กันก็เพื่อตัดสินว่าใครจะเป็นเมียหลวงและใครจะเป็นเมียน้อย”
“ใช่แล้ว มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ข้าอยากรู้จักเลยว่าผู้ชายคนไหนกันที่โชคดีแบบนี้”
“ชายคนนั้นคงจะต้องเก็บสะสมโชคมาหลายภพชาติ ข้าจินตนาการไม่ออกเลยว่าชาติก่อนเขาทำอะไรถึงได้รับอะไรแบบนี้ บางทีเขาอาจจะช่วยจักรวาลเอาไว้หรืออะไรทำนองนั้น”
“การช่วยจักรวาลครั้งหนึ่งนั้นไม่เพียงพอ เขาคงจะต้องช่วยจักรวาลถึง 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย”
“ข้าไม่คิดแบบนั้น ชายคนนั้นคงจะต้องเป็นโสดมากว่าสิบชาติและนั่นเป็นเหตุผลที่เขาได้รับผู้หญิงถึง 2 คนแบบนี้”
“ถ้าข้าได้แต่งงานกับพวกนางทั้งคู่ ข้าก็พอใจแล้วที่จะได้ใช้เวลากับพวกนางในฐานะภรรยาสักวันก่อนที่จะต้องตาย”
ตอนนี้เหล่าโจรสลัดเริ่มถกเถียงกันเอง พวกเขาทุกคนอยากจะเป็นชายที่กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ชอบ
กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ดูคล้ายคลึงกันมากๆ พวกเธอทั้งคู่งดงามในระดับที่เกือบที่จะก่อให้เกิดภัยพิบัติ เหล่าโจรสลัดหลงรักพวกเธอ ถ้ากู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ไม่ได้เป็นเพื่อนของหานเซิ่น เหล่าโจรสลัดก็คงจะพยายามจีบพวกเธอทั้งกลางวันกลางคืน
เมื่อกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ได้ยินสิ่งที่เหล่าโจรสลัดพูด พวกเธอก็โกรธยิ่งกว่าเดิม กู่ชิงเฉิงหันไปจ้องคนพวกนั้น ทันใดนั้นดาบของเหล่าโจรสลัดก็บินออกมาจากฝัก และภายใต้การควบคุมของกู่ชิงเฉิง พวกมันก็บินเข้าไปหาเจ้าของของพวกมัน
“กู่ชิงเฉิง! จันทราสวรรค์! หยุด!” หานเซิ่นยื่นมือออกมาจับดาบทั้งหมดเอาไว้ ดาบทั้งหมดพยายามดิ้นไปมาราวกับงู แต่พวกมันไม่สามารถหนีจากกำมือของหานเซิ่นได้
เมื่อได้ยินเสียงของหานเซิ่น กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ก็หยุดมือ พวกเธอทั้งคู่จ้องมองไปที่เหล่าโจรสลัดด้วยสายตาที่ทำให้พวกเขารู้สึกหนาวจนถึงกระดูก
“พวกเธอทั้งคู่มากับฉัน” หานเซิ่นพาจันทราสวรรค์กับกู่ชิงเฉิงไปที่ห้องทำงานของเขา
“บอกฉันมาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกเธอถึงได้ต่อสู้กัน?” หานเซิ่นนั่งลงบนเก้าอี้และมองไปที่กู่ชิงเฉิงกับจันทราสวรรค์
“พวกเรากำลังจะตาย” กู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์มองหน้ากันและพูด