ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์รู้ว่ามีผู้คนมากมายมาจับตาดูพวกเขา แต่พวกเขาไม่ได้สนใจอะไร
การฆ่าขุนพลเกราะทองถือเป็นเป้าหมายที่ทะเยอทะยานอย่างมาก และมันจำเป็นต้องใช้การเตรียมการอย่างรัดกุม การจะเก็บเรื่องทั้งหมดเป็นความลับนั้นเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่เสียเวลาที่จะปกปิดมัน
“ดอลลาร์ ตามแผนที่ได้วางเอาไว้ พวกเราจะเป็นคนรับมือขุนพลเกราะทอง ทั้งหมดที่เจ้าต้องทำก็คือหาโอกาสเพื่อทำการโจมตี เจ้าจะทำพลาดไม่ได้ เพราะมันไม่มีโอกาสหนที่ 2” ดราก้อนวันเตือนหานเซิ่น
ดราก้อนวันไม่ได้พยายามจะทำให้หานเซิ่นรำคาญ แต่นี่ถือเป็นงานใหญ่ เผ่าดราก้อนได้จ่ายทรัพยากรจำนวนมากเพื่อภารกิจในครั้งนี้ และยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งพันยีนที่เขาตกลงจะมอบให้กับหานเซิ่นนั้นไม่ใช่น้อยๆ พวกเขาไม่สามารถสูญเสียทรัพยากรทั้งหมดไปเปล่าๆได้
“ข้าเข้าใจ” หานเซิ่นพยักหน้า
หานเซิ่นไม่ใช่คนที่จะยอมเป็นลูกจ้างใครคนไหน แต่ดราก้อนวันจ่ายยีนซีโน่เจเนอิคให้กับเขาเป็นจำนวนมาก มันไม่ใช่เรื่อกยากอะไรที่จะมอบการยืนยันทางปากให้กับดราก้อนวัน เขาจำเป็นต้องตอบสนองต่อความกังวลดราก้อนวัน
…
“องค์ชาย ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์เริ่มออกเดินทางกันแล้ว” อัศวินไนท์แมร์พูดขณะที่เขาโค้งคำนับไป๋ว่านเจีย
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ออกเดินทาง มาดูกันสิว่าพวกเขาจะประสบความสำเร็จสักแค่ไหน”
ไป๋ว่านเจียเริ่มนำสมาชิกของรอยัลไนท์มุ่งหน้าไปยังดินแดนของขุนพลเกราะทอง
…
“ท่านหญิง ที่นี่ดูจะได้รับความนิยมมากๆ มันมีโฉมหน้าที่คุ้นเคยมากมายเดินทางมา”
บนยานอวกาศเล็กๆที่จอดอยู่บนดาวเคราะห์น้อย สาวใช้ผีเสื้อน้อยมองออกไปในกาแล็กซี่และพูดขึ้นมา
“การฆ่าขุนพลเกราะทองถือเป็นเป้าหมายที่ใหญ่โต มันถือเป็นอะไรที่เข้าใจได้ที่เหล่าราชันและครึ่งเทพจากเผ่าพันธุ์ต่างๆจะแห่กันมาดู ใครจะไม่อยากมาอยู่ที่นี่เผื่อในกรณีที่พวกเขาอาจจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ได้?” ผู้หญิงชุดเหลืองพูดอย่างไร้โทนเสียง
“ท่านหญิงกำลังจะบอกว่าพวกเขามาเพื่อขโมยขุนพลเกราะทองจากดราก้อนวันอย่างนั้นหรอ?” ผีเสื้อน้อยช็อค
“ก็ไม่เชิง แต่คนส่วนใหญ่ที่มาคงจะมีความคิดแบบนั้นอยู่ในใจ”
ผู้หญิงชุดเหลืองพูด ดวงตาของเธอสดใสขึ้นมาเมื่อเห็นดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์เข้ามาในระบบ
ผู้หญิงชุดเหลืองมองไปที่ดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ หลังจากนั้นสายตาของเธอก็ไปหยุดอยู่ที่บุคคลที่สวมชุดเกราะสีดำสนิท ใบหน้าของเขาถูกปกปิดเอาไว้
“นั่นคือดอลลาร์อย่างนั้นหรอ?” ผู้หญิงชุดเหลืองถามตัวเองขณะที่จ้องไปที่เขา
ขณะที่ผู้หญิงชุดเหลืองมองไปที่เขา จู่ๆชายคนนั้นก็หันมาและดูเหมือนจะมองกลับมาที่เธอ ผู้หญิงคนนั้นอึ้งไป ชายในชุดเกราะสีดำหันมาในทิศทางของเธอ แต่เขาไม่ได้หยุดชะงัก และเขาก็บินต่อไปข้างหน้าพร้อมกับคนอื่นๆ
“นี่เขารู้ว่าข้ากำลังมองเขาอยู่อย่างนั้นหรอ หรือว่านั่นเป็นแค่เรื่องบังเอิญ?” ผู้หญิงชุดเหลืองขมวดคิ้ว
เธอมองหานเซิ่นด้วยตาเปล่า เธอไม่ได้ใช้พลังพิเศษอะไร ดังนั้นแม้แต่สิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าก็ไม่ควรจะบอกได้ว่าเธอกำลังมองเขาอยู่
แต่ดูเหมือนกับว่าบุคคลในชุดเกราะสีดำหันมาสบสายตากับเธอ ไม่ว่าจะเจตนาหรือเป็นแค่เรื่องบังเอิญ เธอก็ไม่อาจจะรู้ได้
“บางทีเราอาจจะคิดมากเกินไป” ผู้หญิงชุดเหลืองส่ายหัว ร่างกายและวิชาจีโนของเธอเป็นอะไรที่พิเศษ การสังเกตได้ถึงสายตาของเธอควรจะเป็นไปไม่ได้
ในตอนที่หานเซิ่นบินต่อไปข้างหน้าพร้อมกับคนอื่น เขาก็รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังถูกมอง ถึงแม้มันจะมีผู้คนมากมายจับตามองพวกเขา แต่สายตานี้ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นหันไปมอง
เมื่อเขาหันไปมอง แต่ทั้งหมดที่เขาเห็นก็มีเพียงแค่แถบดาวเคราะห์น้อยเท่านั้น เขารู้ว่าคนที่มองเขาอยู่ที่ไหนสักแห่งในหมู่ดาวเคราะห์น้อยพวกนั้น แต่เขาก็ยังรู้อีกว่าสายตานั้นไม่ได้มีประสงค์ร้ายอะไร เนื่องจากเขาไม่ได้รู้สึกถึงภัยอันตรายอะไร ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้ใช้เวลามองหามากนัก
ผู้หญิงชุดเหลืองมองไปที่หานเซิ่นอยู่สักพักและขมวดคิ้ว แม้จะด้วยสายตาของเธอ เธอก็บอกถึงความแข็งแกร่งของหานเซิ่นไม่ได้ นี่ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจ
“ดอลลาร์คนนี้ดูน่าสนใจ ข้าแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นขีดจำกัดพลังของเขา” ผู้หญิงชุดเหลืองพึมพำกับตัวเองด้วยความสนใจ
หลังจากที่ดราก้อนวันและคนอื่นเข้าไปในระบบ พวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่ลูกอุกกาบาตลูกหนึ่ง ขุนพลเกราะทองมักจะอาศัยอยู่ใกล้ๆดาวเคราะห์น้อย มันเป็นซีโน่เจเนอิคอวกาศ ดังนั้นมันไม่สนใจที่จะใช้ชีวิตอยู่บนดวงดาว
หานเซิ่นถูกสั่งให้รออยู่ใกล้ๆขอบด้านนอกของดาวเคราะห์น้อย ส่วนดราก้อนวันและเดียร็อบเบอร์ตรงเข้าไปในแถบที่มีดาวเคราะห์น้อยจับกลุ่มกันหน้าแน่นที่สุด มันมีหินอยู่มากเกินกว่าที่หานเซิ่นจะนับได้อย่างแม่นยำ แต่ไม่นานหลังจากนั้นดาบแสงสีทองก็แว็บผ่านดาวเคราะห์น้อยมา
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เห็นดราก้อนวันและคนอื่นถอยห่างออกมาจากแถบดาวเคราะห์น้อย ที่ติดตามพวกเขามาคือร่างกายสีทองที่สูง 3 เมตร
ร่างกายสีทองนั้นไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก แต่มันทรงพลังอย่างน่าตกใจ ชุดเกราะสีทองทำให้สิ่งมีชีวิตนั้นดูเหมือนกับหุ่นยนต์ มันดูหนักหน่วงและทรงพลัง มันมีท่อและฟันเฟืองสีทองอยู่บนผิวเป็นจำนวนมาก มันเหมือนกับหุ่นยนต์นักรบสีทอง
บนหลังของมันมีผ้าคลุมสีแดงที่ดูเหมือนจะถูกทำขึ้นมาจากเลือด มือของมันถือดาบใหญ่สีทองอยู่ และใบมีดของดาบก็สูงยิ่งกว่าร่างกายของมันซะอีก
ดาบใหญ่นั้นแตกต่างไปจากดาบใหญ่ธรรมดาอีกด้วย แทนที่จะเป็นชิ้นโลหะเพียงชิ้นเดียว ส่วนในของใบมีดกลับเต็มไปด้วยฟันเฟืองสีแดงแทน ขอบนอกของใบมีดนั้นเป็นหยักๆเหมือนกับฟันปลา
เมื่อฟันเฟืองสีทองภายในใบมีดหมุน ฟันที่อยู่ที่ขอบก็เริ่มจะขยับ มันกลายเป็นเหมือนกับเลื่อนสีทองขนาดใหญ่
ในศูนย์กลางของดาบนั้นมีคริสตัลสีเหลืองอยู่ ดูเหมือนกับว่ามันกุมแก่นแท้ของสายฟ้าเอาไว้ มันเป็นชนิดสายฟ้าที่จะฝ่าลงมาตอนที่สิ่งต่างๆกำเนิดขึ้นมา
การมองไปที่ขุนพลเกราะทองเป็นประสบการณ์ที่ประหลาด มันทั้งดูมีชีวิตและดูไร้จิตวิญญาณเหมือนกับหุ่นยนต์ มันยากที่จะบอกได้ว่านี่เป็นสิ่งมีชีวิตหรือหุ่นยนต์กันแน่
นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นได้เห็นซีโน่เจเนอิคที่พิเศษขนาดนี้ เขาเคยได้เจอกับซีโน่เจเนอิคที่เป็นโลหะมามาก แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นซีโน่เจเนอิคที่เป็นครึ่งชีวภาพครึ่งหุ่นยนต์แบบนี้
เมื่อได้เห็นผ้าคลุมเลือดและดาบใหญ่ที่เหมือนกับเลื่อย เขาก็รู้ว่านี่เป็นศัตรูที่เป็นเอกลักษ์มากๆ
ดวงตาของขุนพลเกราะทองเรืองแสงสีทองออกมา แต่เนื่องจากมันมีหมวกอยู่ หานเซิ่นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าศัตรูมีปากหรือเปล่า มันไม่ได้ทำเสียงอะไร ขณะที่มันกวัดแกว่งดาบใส่ดราก้อนวัน
หานเซิ่นเห็นได้อย่างชัดเจนว่าดาบใหญ่ของศัตรูเหมือนกับเลื่อย ดาบแสงที่มันปลดปล่อยออกมานั้นหมุนอย่างบ้าคลั่ง ดูเหมือนกับว่าพวกมันสามารถตัดผ่านช่องว่างของอวกาศได้ ที่ไหนก็ตามที่ดาบแสงพุ่งออกไป รอยร้าวก็จะก่อตัวขึ้นมาในอวกาศบริเวณนั้น
แต่เมื่อมันฟันลง รอยร้าวก็แพร่กระจายผ่านอวกาศอย่างรวดเร็วจนกระทั่งพวกมันดูเหมือนกาแล็กซี่ในท้องฟ้า
ดาบแสงพุ่งไปหาดราก้อนวัน ด้วยความเร็วระดับนั้น ดราก้อนวันและพวกพ้องไม่สามารถหลบหลีกดาบแสงแบบนั้นได้
ขณะที่หานเซิ่นสงสัยว่าดราก้อนวันจะป้องกันดาบแสงที่น่ากลัวนั้นยังไง เดสทรอยเยอร์ระดับครึ่งเทพคนหนึ่งก็ปลดปล่อยอาณาเขตของเขาออกมา มันห่อหุ้มดราก้อนวันและคนอื่นเอาไว้ก่อนที่จะหายไป วินาทีต่อไป ดราก้อนวันและคนอื่นก็ไปปรากฏตัวอีกครั้งด้านข้างของขุนพลเกราะทอง
“อาณาเขตสำหรับเทเลพอร์ตเป็นกลุ่ม” หานเซิ่นรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่รู้เลยว่าเดสทรอยเยอร์มีอัจฉริยะแบบนั้นอยู่ด้วย